ใครจะได้ประโยชน์ ในโลกยุค Sustainability
ประเด็นเรื่องความยั่งยืนของโลก ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ได้รับการถูกกล่าวถึงมายาวนาน
แต่ทำไมผู้คนจึงพูดถึงเรื่องนี้กันมากขึ้น ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา
นั่นก็เพราะผลกระทบจากปัญหาเหล่านี้ กำลังเป็นเรื่องใหญ่ที่ยากจะมานั่งใจเย็นได้
อย่างเช่นปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
หากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังถูกปล่อยในอัตราเดิม จนถึงปี 2100
เศรษฐกิจโลกจะเกิดความเสียหายสูงกว่า 550 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
นานาประเทศจึงได้ร่วมกันตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์
หรือที่เรียกว่า Net-Zero Greenhouse Gas Emission
อาทิ
- ระดับโลก ภายใต้ Paris Climate Agreement
- ฝั่งเอเชีย อย่างจีน ที่ตั้งเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2060
- ฝั่งสหรัฐอเมริกา ภายใต้รัฐบาลโจ ไบเดน ตั้งงบลงทุน 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้ Climate and Environmental Justice Proposal
“ความยั่งยืน” ไม่เพียงเป็นนโยบายระดับประเทศ
แต่ยังเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ในโลกธุรกิจ
เมื่อผู้บริโภคตื่นตัวกันมากขึ้น ทั้งในเรื่องสิ่งแวดล้อม และความเท่าเทียมทางสังคม
และพร้อมที่จะเลิกสนับสนุนธุรกิจที่ไม่มีความรับผิดชอบ
เช่น การแบนสินค้าที่มีกระบวนการผลิตละเมิดสิทธิมนุษยชน
โจทย์สำคัญในยุคนี้ของโลกธุรกิจ..
ก็คือ ทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโต โดยไม่ส่งผลทำลายโลกและสังคม เพื่อสร้างความยั่งยืนในอนาคต
ความท้าทายนี้ สำคัญต่อการอยู่รอด หรือการเป็นผู้ชนะ ของโลกธุรกิจเลยทีเดียว
แล้วเรื่องนี้สำคัญต่อการลงทุนของเราอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
ผลจากการตระหนักถึงความสำคัญของความยั่งยืน กำลังก่อให้เกิดแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ ๆ
ที่เป็นมิตรต่อโลกและสังคม เรียกว่า CLIC Economy
Lombard Odier องค์กรไพรเวทแบงกิ้งระดับโลก
คาดการณ์ว่า CLIC Economy จะส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรม
และจะเกิดเม็ดเงินลงทุนหมุนเวียนกว่า 5.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปีเลยทีเดียว
โดย CLIC Economy ที่ว่านี้ จะประกอบไปด้วย
C (Circular) คือ การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
L (Lean) คือ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
I (Inclusive) คือ การสร้างความเท่าเทียมด้านเศรษฐกิจและสังคม
C (Clean) คือ การดำเนินการที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
พูดง่าย ๆ ว่าแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ว่านี้
กำลังผลักดันธุรกิจให้กลายเป็น “ธุรกิจแห่งความยั่งยืน” นั่นเอง
หลายคนอาจสงสัยว่า..
แล้วธุรกิจเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด
จะปรับตัวมาเป็น “ธุรกิจแห่งความยั่งยืน” ได้อย่างไร ?
รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ Apple คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล 100%
รวมทั้งการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตทั้งหมด ภายในปี 2030
เช่นเดียวกัน TSMC ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก ที่มีเป้าหมาย Positive Impact ต่อโลกให้มากที่สุด เช่น ลดของเสียในกระบวนการผลิตและลดมลพิษทางอากาศ
สะท้อนได้ว่า “เทรนด์ Sustainability” ไม่ใช่แค่เรื่อง CSR
แต่กำลังเป็น “หนึ่งเป้าหมายหลัก” ในโลกธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ธุรกิจที่ปรับตัวก่อน ย่อมอยู่รอด และก้าวขึ้นไปสู่ชัยชนะในโลกธุรกิจ
ส่วนธุรกิจที่มองข้ามความสำคัญนี้ อาจไม่ได้รับการยอมรับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งภาครัฐ พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และนักลงทุน จนต้องล้มหายตายจากไปในอนาคต
ทีนี้น่าจะมองออกแล้วว่า..
ธุรกิจที่กำลังเติบโต และกำลังสร้างความยั่งยืน ด้วยการเป็น “ธุรกิจแห่งความยั่งยืน”
ก็คือโอกาสสำคัญในการลงทุน ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว หรือที่เรียกว่า Long Term Growth นั่นเอง
จึงไม่แปลกใจ หากปัจจุบันนี้จะมีรูปแบบการลงทุน Sustainable Investing เกิดขึ้นมากมาย
คำถามคือ แล้วเราจะเลือกลงทุนในธีม Sustainability อย่างไรดี ?
หนึ่งในผู้นำด้าน Sustainable Investing
ก็คือ KBank Private Banking ซึ่งเป็นไพรเวทแบงก์รายแรกในประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง
และยังมีพันธมิตรเป็นผู้ให้บริการไพรเวทแบงกิ้งระดับโลก
อย่าง Lombard Odier ผู้มีประสบการณ์กว่า 225 ปี
มองว่า จุดเด่นของ Sustainable Investing
คือ การลงทุนระยะยาว ที่จะสร้างความมั่งคั่งแบบ Smooth และ Sustainable
ไปพร้อมกับความยั่งยืนของโลก
ธีมการลงทุนนี้ จึงอาจจะไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนลักษณะ Momentum Play
ที่เน้นเล่นรอบระยะสั้น แบบจับจังหวะราคาขึ้นลง
ภายใต้ตัวเลือก Sustainable Investing ที่มีอยู่มากมาย
สิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณา คือ การพยายามมองหากองทุนหลักต่างประเทศที่มีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และลงมือทำจริง
โดยเข้าไปพิจารณาถึงเนื้อในของการทำงานกองทุนนั้น ๆ
ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่จะทำหน้าที่แนะนำการลงทุน ทั้งในเรื่องการดำเนินการของธุรกิจตามเป้าหมายและระดับราคาที่เหมาะสม จึงกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นนั่นเอง
ตัวอย่างกองทุนรวมประเภท Feeder Fund ที่ KBank Private Banking แนะนำแก่ลูกค้า
ในธีมการลงทุน Sustainable Investment ที่น่าสนใจ
คือ กองทุน K-CLIMATE และ กองทุน K-CHANGE
แล้วกองทุน K-CLIMATE น่าสนใจอย่างไร ?
กองทุน K-CLIMATE มีจุดเด่นที่น่าสนใจ
คือ การลงทุนในธุรกิจที่สามารถเติบโต มีศักยภาพในการแข่งขันระยะยาว
พร้อมมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
รวมทั้งธุรกิจที่ปรับตัวเพื่อรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
ธุรกิจกลุ่มนี้ ถือเป็นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจาก Paris Agreement
ตัวอย่างธุรกิจที่เข้าไปลงทุน เช่น
-Vetas Wind System ผู้นำด้านการพัฒนากังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าที่สามารถผลิตได้สูงถึง 130 กิกะวัตต์ ใน 82 ประเทศทั่วโลก มีส่วนแบ่งตลาด 20% และมีบริการยาวนานถึง 19 ปี
-Delta Airlines บริษัทสายการบินใหญ่ที่สุดในโลกที่พยายามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยแผนการลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในอีก 10 ปี ข้างหน้า
โดยปัจจุบัน กองทุน K-CLIMATE มีผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนต่อปี 17.99% ใกล้เคียงดัชนีอ้างอิงที่ 19.25% ต่อปี (ณ 1 เมษายน 2564)
แล้วกองทุน K-CHANGE น่าสนใจอย่างไร ?
กองทุน K-CHANGE มีจุดเด่นที่น่าสนใจ
คือ การลงทุนในบริษัทที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงพร้อมทั้งสร้างผลกระทบเชิงบวก และช่วยให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ โอกาสทางสังคมและการศึกษา การดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิต ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
โดยมีเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกบริษัทที่จะลงทุน
ที่สามารถวัดผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นรูปธรรม
เช่น ทุกการลงทุน 15 ล้านบาทในปี 2019
- จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ 124 ตัน
- จะช่วยประหยัดน้ำดื่มได้ 2.9 แสนลิตร
ตัวอย่างธุรกิจที่เข้าไปลงทุน เช่น
- ธุรกิจเทคโนโลยีที่มีกระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อโลก เช่น Tesla และ TSMC
- ธุรกิจส่งเสริมคุณภาพชีวิตและการวิจัยด้านยารักษาโรค เช่น Moderna และ M3
ที่น่าสนใจคือ K-CHANGE ลงทุนใน Moderna ตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19
เพราะเป็นธุรกิจเทคโนโลยีสุขภาพในเมกะเทรนด์ ที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้แก่โลกได้
โดยกองทุน K-CHANGE มีผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนต่อปีที่ 47.46%
ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าดัชนีอ้างอิงต่อปีที่ 17.29% (ณ 7 เมษายน 2564)
พูดง่าย ๆ ว่ากองทุน K-CLIMATE และ กองทุน K-CHANGE
เป็นหนึ่งช่องทางสร้าง Long Term Capital Growth
หรือผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้นั่นเอง
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า..
เทรนด์ “Sustainability” ไม่ใช่แค่เรื่องของนโยบายระดับประเทศ
แต่ยังเป็นโอกาสสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับโลกธุรกิจ
แม้วันนี้.. หลาย ๆ อย่างจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
แต่การมีเป้าหมายที่ชัดเจน แม้จะใช้ระยะเวลานาน ก็มั่นใจได้ว่า การเดินทางครั้งนี้ จะไม่หลงทาง
เช่นเดียวกับการเลือกลงทุนกับองค์กรมืออาชีพที่ช่วยดูแลการลงทุน ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนด้วย “ธุรกิจแห่งความยั่งยืน”
และยังเป็นเทรนด์การลงทุนที่จะสร้าง “ผลตอบแทนระยะยาว” ให้แก่นักลงทุน และ “ความยั่งยืน” ให้แก่โลกไปพร้อมกันนั่นเอง..
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในธีม Sustainability สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.kasikornbank.com/th/personal/private-banking/vdo-covid/Pages/KPB-Perspective-EP2.aspx และ https://www.kasikornbank.com/th/personal/private-banking/vdo-covid/Pages/KPB-Perspective-EP3.aspx
ข้อมูลสำคัญสำหรับการลงทุน
- K-CLIMATE ระดับความเสี่ยงกองทุน : ระดับ 6 / ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน : การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจ
- K-CHANGE ระดับความเสี่ยงกองทุน : ระดับ 6 / ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน : การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน
- โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า/เงื่อนไขผลตอบแทน/ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
References
-https://joebiden.com/climate-plan/
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-03-05/china-s-new-green-target-still-means-pumping-too-much-pollution
-https://ec.europa.eu/info/strategy/priorities-2019-2024/european-green-deal_en#timeline
-https://greennews.agency/?p=22111
-https://www.lombardodier.com/clic
-https://www.apple.com/environment/
-https://csr.tsmc.com/csr/en/CSR/valueCreation.html
-https://kasikornasset.com/th/mutual-fund/fund-template/Pages/K-CHANGE-A(A).aspx
-https://www.kasikornasset.com/th/mutual-fund/fund-template/Pages/K-CLIMATE.aspx
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「inclusive green economy」的推薦目錄:
- 關於inclusive green economy 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於inclusive green economy 在 Dr Mohd Daud Bakar - Shariah Minds - Minda Syariah Facebook 的最佳解答
- 關於inclusive green economy 在 InnoVEX Facebook 的最讚貼文
- 關於inclusive green economy 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最讚貼文
- 關於inclusive green economy 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於inclusive green economy 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於inclusive green economy 在 Building Inclusive Green Economies - YouTube 的評價
inclusive green economy 在 Dr Mohd Daud Bakar - Shariah Minds - Minda Syariah Facebook 的最佳解答
Striving for Inclusive Development - From Pangkor To A Modern Malaysian State...by HRH Sultan Nazrin Shah
I have a great invitation to attend the special book launching this morning. The book has more than 500 pages and it was authored by HRH Sultan Nazrin Shah. HRH mentioned that the book took more than 2 decades to be accomplished. It is certainly a worth reading material for many thinkers, intelligentsia, policy makers, analysts and the public alike.The book is published by the Oxford Press.
The key word of this book is Inclusiveness. HRH Tuanku mentioned about this theme a few times in his Royal speech. Malaysian economy has been developed by all races and ranks in Malaysia for the last few centuries. The form and sustanstance of economic activities and revenues may have changed but inclusiveness remains relevant and ever green.
I am overwhelmingly touched by the great validity of, and emphasis on, inclusiveness. The moment we tend to be exclusive, the whole infrastructure of humanity (and religiosity) will collapse. The jurisprudence of inclusiveness ought to be a new discpline and frontier of knowledge to be articulated and be brought to the centre stage of academia and institutions of life accross all walks of life. Inclusiveness in itself must be inclusive.
Menjunjung Kasih Tuanku
MDB
inclusive green economy 在 InnoVEX Facebook 的最讚貼文
With global resource supplies continuing to decline; humans will need to swap the extract, make, use, dispose model for something else. Perhaps it is possible to take inspiration from the terrarium and scale it up to achieve true self-sustainability.
Innovative solutions to solve this issue does not need to be all-inclusive either. Numerous solutions that solves one problem each, when combined can solve multiple problems. For example, using Space Apes' solution to solve water shortage and #TWOIOT's to handle waste management
To learn more about Green Tech, join us in the next InnoVEX Saloon: Green Energy for a Greener Economy on December 19 (Event will be in Chinese). Sign up here:
https://www.accupass.com/event/1812031032251977979880
inclusive green economy 在 Building Inclusive Green Economies - YouTube 的美食出口停車場
... <看更多>