關於 dividend yield ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

Vanguard高股息ETF，英文全名 Vanguard High Dividend Yield ETF，美股代號VYM，成立於2006年十一月10日。

VYM以複製法追蹤FTSE High Dividend Yield Index。

該指數從美國股市中選出現金配息率高於平均的公司，然後以市值進行加權。以市值加權，大型股會成為主要的持股。具有提高整體投資組合穩定性的作用。

這個高股息指數不是以配息率進行加權。以配息率進行加權的話，可以達到較高的整體投資組合配息率。但可能會讓某些配息率較高的中小型類股成為主要持股，可能反而加重風險。

VYM的內扣總開銷是0.06%。由0.05%的經理費與0.01%的其它費用組成。

根據2021九月底資料，VYM前十大持股分別是:

JPMorgan Chase
Johnson & Johnson
Home Depot
Procter & Gamble
Bank of America
Comcast
Pfizer
Cisco
Exxon
Verizon Communications

前十大持股佔總資產23.5%。

VYM指數追蹤狀況良好。但在去年(2020)，單純投資整體美國股市的Vanguard Total Stock Market ETF (VTI)，有近21%的單年報酬。VYM卻只有1.14%的獲利。這個近20%的報酬差距，可能是許多以為退休就要買高配息標的投資人，心中的痛。

退休時，同時以資本利得跟配息來支應退休生活，應是比較穩健的做法。

สรุปประเด็นจากห้อง Clubhouse ทำไมคนไทยไม่ควรพลาด ในการลงทุนหุ้นเทคโนโลยี ?
BBLAM x ลงทุนแมน
หลังจาก ลงทุนแมน ได้ชวนผู้เชี่ยวชาญหุ้นเทคโนโลยีจากกองทุนบัวหลวง
มาร่วมพูดคุยในเรื่องหุ้นเทคโนโลยีกันแบบเจาะลึก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

โดยมี 2 Speakers มากประสบการณ์จากกองทุนบัวหลวง ได้เปิดเผยข้อมูลน่าสนใจมากมาย
- คุณเศรณี นาคธน AVP, Portfolio Management กองทุนบัวหลวง
- คุณมทินา วัชรวราทร CFA®, AVP, Portfolio Management กองทุนบัวหลวง

สถานการณ์ความท้าทาย, โอกาสในอนาคต รวมทั้งแนวทางการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้จะเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง

คำถามที่ 1 : หุ้นเทคโนโลยีจะกลับมาอีกครั้งหรือยัง ?

สังเกตไหมว่าในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเทคโนโลยีให้ผลตอบแทนได้ดีมาโดยตลอด
โดยในปีนี้ ดัชนีที่รวบรวมบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Nasdaq ก็ให้ผลตอบแทน 12%
ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่านักลงทุนเริ่มกลับมาให้ความสนใจหุ้นเทคอีกครั้ง

อย่างในช่วงโควิดที่ผ่านมา เราก็คงได้มีโอกาสใช้บริการแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Grab, Lazada, Shopee หรือ Netflix

แต่ถ้าถามว่ามุมมองต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในอนาคตจะเป็นอย่างไร ?

แน่นอนว่า สิ่งที่จะทำให้โลกขับเคลื่อนต่อไปได้ก็คือเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้าหรือบริการ ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการพัฒนา ให้ถูกขึ้น ดีขึ้น และเร็วขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

รวมไปถึงเรื่องของสังคมผู้สูงวัยทั่วโลก ส่งผลให้แรงงานมีจำนวนน้อยลง จึงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอย่าง หุ่นยนต์ หรือ AI เพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่แนวโน้มการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมกับการแพทย์อื่น ๆ เช่น การหาหมอออนไลน์, การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ, 3D printing ฯลฯ

ซึ่งถ้าถามว่าถึงเวลาของหุ้นเทคโนโลยีหรือยัง ก็จะเห็นได้ว่า ตลาดเริ่มส่งสัญญาณบวกแล้ว เพราะแม้จะมีความชัดเจนในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่หุ้นเทคในช่วงที่ผ่านมาก็ยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งคุณเอมได้เสริมว่า ทุกวันนี้ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเทคโนโลยียังไม่เปลี่ยนแปลง และกำไรยังเติบโต อีกด้วย จากเหตุผลที่ว่ามานี้หุ้นเทคโนโลยีจึงเป็น Theme ลงทุนหลักของโลกในระยะต่อไปแน่นอน

คำถามที่ 2 : “เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย” ส่งผลต่อหุ้นเทคโนโลยีอย่างไร ?

ปกติแล้ว การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) จะส่งผลต่อหุ้นเทคโนโลยี 2 เรื่องสำคัญ นั่นคือ

- ต้นทุนในการกู้ยืมเงินของบริษัท เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ต้นทุนในการกู้ยืมเงินก็จะสูงตามไปด้วย
- การประเมินมูลค่าหุ้นแบบ Dividend Discount Model (DDM) เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น อัตราคิดลดก็จะเพิ่มขึ้น เมื่อคิดเป็นมูลค่าหุ้นกลับมา จึงทำให้มูลค่าหุ้นเทคโนโลยีลดลง

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหุ้นเทคโนโลยีค่อนข้างอ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ย นั่นเอง

ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว หลายประเทศเริ่มเปิดเมืองและมีการเร่งฉีดวัคซีน
จึงเป็นไปได้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น นักลงทุนจึงคาดว่า Bond Yield ต้องปรับตัวขึ้นอย่างแน่นอน

ซึ่ง Bond Yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ก็เคยปรับขึ้นไปสูงถึงเกือบ 1.8% จากเดิมที่มีตัวเลข 1%

แต่แล้ว.. เมื่อประกาศอัตราเงินเฟ้อออกมาสูงตามที่นักลงทุนคาดไว้จริง ๆ Bond Yield ที่ปรับขึ้นมารออยู่แล้ว จึงเริ่มกลับปรับตัวลดลง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แท้จริง หรือที่เรียกว่า Real Yield ที่คำนวณจาก Bond Yield หลังหักเงินเฟ้อคาดการณ์ ยังอยู่ในระดับต่ำ -0.8%

สะท้อนได้ว่า ผลตอบแทนพันธบัตรไม่น่าจะเอาชนะเงินเฟ้อได้
จึงส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นกลับมาน่าสนใจ จากนั้นมาหุ้นเทคโนโลยีก็เริ่มปรับตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ

นอกจากนี้ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ผ่านเครื่องมือ Dot Plot
ยังมองว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ (Fed Fund Rate) อาจเกิดขึ้น 2 ครั้งภายในปี 2023
ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เร็วกว่าที่นักลงทุนคาดไว้

นักลงทุนจึงมองว่า ยิ่งการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยมาเร็วมากขึ้น โอกาสที่จะเกิดอัตราเงินเฟ้อย่อมลดลง
ดังนั้น Bond Yield คงไปต่อได้ไม่ไกล จึงน่าจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น รวมทั้งหุ้นเทคโนโลยี อีกด้วย

คำถามที่ 3 : ปัจจัยใดส่งผลต่อ “การปรับฐานของหุ้นเทคโนโลยี” ในตอนนี้ ?

ปัจจัยแรกคือ Bond Yield
หากถามว่า Bond Yield เท่าไรถึงจะส่งผลต่อตลาดหุ้น คำตอบจากการสำรวจของ Bank of America นั้นอยู่ที่ 2.5% ซึ่งปัจจุบันนี้ อัตราดอกเบี้ยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ บวกลบไม่เกิน 1.5%
ดังนั้น กว่าที่ Bond Yield จะปรับตัวสูงถึงระดับนั้น อาจใช้เวลานาน ตลาดหุ้นถึงจะเริ่มปรับฐาน

ปัจจัยที่สองคือ Sector Rotation
เมื่อต้นปีเกิดแรงขายของหุ้นเทคโนโลยี ไปลงทุนในหุ้นวัฏจักรที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง
โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีราคาปรับสูง จนกลายเป็น Commodity Supercycle
สะท้อนได้ว่า สินค้าโภคภัณฑ์กลายเป็น Most Crowded Trade ที่อาจเข้าใกล้จุดสูงสุดไปแล้ว

ดังนั้น เมื่อนักลงทุนเริ่มคลายกังวลในเรื่องอัตราเงินเฟ้อ บวกกับผลประกอบการของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีที่ออกมาดี จึงเป็นเหตุผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมาลงทุนหุ้นเทคโนโลยีอีกครั้ง

ปัจจัยสุดท้ายที่หลายคนกังวลคือ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น คนยังจะพึ่งพาเทคโนโลยีอยู่หรือไม่ ?
ซึ่งต้องยอมรับว่า พฤติกรรมหลาย ๆ อย่างได้กลายเป็น New Normal ไปเรียบร้อยแล้ว
อาทิ Work From Home, การช็อปปิงออนไลน์, การสั่งอาหารแบบ Delivery
สิ่งเหล่านี้สะท้อนได้ว่า ปัจจัยพื้นฐานการใช้เทคโนโลยีจะยังคงอยู่ต่อไป ไม่เปลี่ยนแปลง

คำถามที่ 4 : “QE Tapering” กระทบหุ้นเทคโนโลยีหรือไม่ ?

การปรับลดวงเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า QE Tapering
แม้ว่าจะมีวงเงินลดลง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในสถานะอัดฉีดเงินอยู่ดี

โดย QE Tapering เป็นหนึ่งในสัญญาณชี้ว่า สภาวะเศรษฐกิจอาจดีขึ้นแล้วจริง ๆ
เพราะแม้ว่า FED จะลดวงเงินอัดฉีดเงิน แต่เศรษฐกิจและภาคธุรกิจก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้
สะท้อนได้ว่า เราอาจจะกำลังอยู่ในช่วง Mid-cycle ของวงจรเศรษฐกิจ

ซึ่ง Mid-cycle จะเป็นช่วงที่ระดับอัตราดอกเบี้ยไม่ได้สูงมาก และเศรษฐกิจยังโตต่อเนื่องได้
โดยปกติแล้วจะส่งผลดีต่อกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก

ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่าความกังวลเรื่องสภาพคล่องก็ถูก Price In ไปแล้วบางส่วน
เมื่อทุกอย่างชัดเจน เชื่อว่ากลุ่มหุ้นเทคโนโลยีก็พร้อมจะไปต่อได้

นอกจากนี้ ต้องให้เครดิตคุณเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลาง​สหรัฐฯ
ผู้เป็นสุดยอดนักสื่อสาร และเข้าใจตลาดการลงทุน ซึ่งการค่อย ๆ ออกมาพูด ทำให้ตลาดปรับตัวได้

ที่น่าสนใจคือ หุ้นเทคโนโลยีตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา มีเพียงปีเดียวที่ให้ผลตอบแทนที่เป็นลบ คือปี 2018 ที่ให้ผลตอบแทน -1.1% จากมรสุมลูกใหญ่ อาทิ Trade War, ทรัมป์ ทวีต และการประกาศขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีเดียว ส่วนปีอื่นๆ ล้วนให้ผลตอบแทนในอัตราเลขสองหลัก
สะท้อนได้ว่า หุ้นเทคโนโลยีเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ และให้ผลตอบแทนที่ดีได้

คำถามที่ 5 : ถ้าอนาคตเกิด “การดูดกลับสภาพคล่อง” หุ้นเทคโนโลยีจะยังไปต่อไหม ?

ก่อนหน้านี้ สภาพคล่องได้กระจายตัวไปทั่วตลาดหุ้น แม้แต่ในหุ้นที่ขาดทุนไม่มีกำไร
ดังนั้น เมื่อสภาพคล่องลดลง หุ้นที่มีคุณภาพและมีกำไร เชื่อว่าจะยังไปต่อได้
ต่างจากหุ้นพื้นฐานไม่ดี ยังไม่มีกำไร คงยากที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในปีนี้

ทีนี้น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า ไม่ใช่หุ้นเทคทุกตัว ที่จะน่ากลัวเสมอไป

หนึ่งวิธีที่จะช่วยเฟ้นหาหุ้นเทคในช่วงเวลานี้คือ วิธี Bottom Up
ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์หุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐานจากตัวธุรกิจ ไปยังกลุ่มอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจ

ตัวอย่างเช่น Shopify ธุรกิจ E-commerce แบบครบวงจรสัญชาติแคนาดา ทั้งในด้านการตลาด โกดังเก็บของ และบริการขนส่งสินค้า แม้จะมี P/E สูงมาก แต่ก็สร้างกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเท่าตัว และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องได้ นักลงทุนจึงได้เข้าไปลงทุนจนราคาหุ้นปรับตัวสูง 150% ในปีที่ผ่านมา

ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่าหุ้นเทคโนโลยีจะยังไปต่อไหม จึงขึ้นอยู่กับการเลือกหุ้น นั่นเอง

โดยลักษณะหุ้นที่มีโอกาสไปต่อก็คือ หุ้นที่ยังไม่แพง หุ้นที่มีกำไรสม่ำเสมอ และเป็นหุ้นใหญ่
อาทิ หุ้นกลุ่ม FAANG, หุ้นกลุ่ม Software-as-a-Service (SaaS) ที่ให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ที่มี Recurring Income หรือมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ และราคาหุ้นยังไม่แพง ก็น่าจะยังไปต่อได้

คำถามที่ 6 : หุ้นเทคโนโลยี “ลงทุนระยะยาว” ได้ไหม ?

หลายคนอาจจะยังไม่กล้าถือหุ้นเทคโนโลยีในระยะยาวเพราะกลัวปัจจัยเรื่องดอกเบี้ย
ซึ่งคำถามสำคัญคือ หากมีการขึ้นดอกเบี้ยจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้น ?
อิงจากสถิติตั้งแต่ช่วงปี 1990 จนถึงปัจจุบัน FED ได้มีการขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 7 ครั้ง บวกการทำ QE Tapering อีก 1 ครั้ง

ผลปรากฏว่า Sector ที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้มาโดยตลอดก็คือ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และยังให้ผลตอบแทนเป็นบวกมากที่สุดเมื่อเทียบกับ Sector อื่น ๆ

หรืออย่างในปัจจุบันเอง ที่มีปัจจัยมากระทบมากมาย อย่างเรื่อง Sector Rotation, ภาษีนิติบุคคลฉบับใหม่, กฎหมายเรื่องการผูกขาด แต่กองทุน B-INNOTECH ยังคงเติบโตกว่า 17%

ดังนั้น ทางกองทุนบัวหลวงก็มองว่า อาจไม่จำเป็นต้องดู Timing มาก แต่ให้เน้นจัดพอร์ตการลงทุนโดยให้คงสัดส่วนหุ้นเทคโนโลยีไว้ เพราะถือเป็น Sector ที่มีโอกาสเติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับ Sector อื่น ๆ ในตลาด

คำถามที่ 7 : ตอนนี้ “ควรเลือกลงทุน” หุ้นเทคโนโลยี อย่างไรดี ?

หุ้นเทคโนโลยีในช่วงนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็นหลัก ๆ 3 ประเภท คือ

1. กลุ่ม Hardware เช่น อุปกรณ์ไอที คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร อย่างบริษัท HP หรือ Logitech
2. กลุ่ม Software as a Service หรือว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้ในบริษัทองค์กรใหญ่ ๆ เช่น Microsoft Office, Salesforce (CRM) และ ServiceNow
3. กลุ่ม Semiconductor เช่น ชิปเซต การ์ดจอ อย่าง TSMC และ NVIDIA

ซึ่งกลุ่มที่ 2 และ 3 นั้นตลาดจะให้ P/E ค่อนข้างสูง เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของกำไรที่สูง ต่างกับกลุ่มที่ 1 ที่อาจเติบโตได้ดีแค่ในช่วงโควิด แต่เป็นสินค้าที่คนไม่ได้ซื้อบ่อย ทำให้ตลาดยังให้ราคาค่อนข้างต่ำ

อย่างบริษัท NVIDIA ผู้ผลิตการ์ดจอ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของนักขุดเหรียญคริปโทฯ ที่มี P/E สูงถึง 76 เท่า แต่ก็มีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น ในไตรมาสที่ผ่านมาสูงถึง 100% ในขณะที่กลุ่ม Hardware อย่าง HP หรือ Logitech นั้นจะมี P/E อยู่ที่ประมาณ 20 เท่า เท่านั้น

จะเห็นได้ว่า หุ้นเทคโนโลยีแต่ละกลุ่มนั้น ให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้น การเลือกกองทุนที่มีนโยบายบริหารแบบ Active Management หรือ กองทุนที่มีเป้าหมายเพื่อเอาชนะดัชนีอ้างอิง จึงเป็นนโยบายที่เหมาะกับการลงทุนใน Theme เทคโนโลยีนี้ เพราะจะช่วยให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในการคัดเลือกหุ้นมากขึ้น โดยสามารถเลือกลงทุนในหุ้นที่เห็น Upside ได้เยอะกว่าได้ เมื่อเทียบกับแบบ Passive Management ที่ลงทุนอิงตามดัชนีเท่านั้น

คำถามที่ 8 : แล้ว “B-INNOTECH” เลือกหุ้นเทคโนโลยีเข้าพอร์ตอย่างไร ?

วิธีคัดเลือกหุ้นของผู้จัดการกองทุน Fidelity ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ B-INNOTECH
จะประกอบไปด้วย 3 ปัจจัยสำคัญ นั่นคือ

- Growth คือ หุ้นบริษัทที่เน้นการสร้างนวัตกรรมทันสมัย มีแนวโน้มเติบโต และเป็นผู้นำได้ในระยะยาว

- Cyclical คือ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และที่จะเติบโตไปตามสภาพเศรษฐกิจได้
ตัวอย่างเช่น หุ้นผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ Semiconductor ที่จะยังเติบโตต่อไปได้

- Special Situation คือ หุ้นบริษัทคุณภาพในช่วงเวลาไม่ปกติ
เมื่อกองทุนเห็นบริษัทคุณภาพที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
หากบริษัทนั้น มีโอกาสฟื้นตัวได้สูง น่าสนใจในอนาคต ก็จะเข้าไปลงทุนเก็บสะสมไว้

ดังนั้น การเลือกหุ้นเทคโนโลยีของกองทุน B-INNOTECH ที่มักจะลงทุนในหุ้นใหญ่
ลักษณะไม่หวือหวา เช่น Alphabet, Microsoft
ด้วยพื้นฐานของการประเมินมูลค่าหุ้นที่เหมาะสม เป็นธุรกิจผู้นำในกลุ่ม
รวมทั้งเป็นธุรกิจมีรายได้และกำไรที่มีคุณภาพ และต้องเติบโตต่อเนื่องในอนาคตด้วย

ซึ่งการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีขนาดใหญ่, ธุรกิจเทคโนโลยีพื้นฐาน และเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน
ที่มีแนวโน้มผลการดำเนินการค่อยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังส่งผลให้ B-INNOTECH เป็นกองทุนที่มีความผันผวนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับกองทุนเทคโนโลยีและ Innovation อื่น ๆ อีกด้วย

ทั้งหมดนี้ สะท้อนได้ว่า B-INNOTECH เป็นอีกหนึ่งกองทุนหุ้นเทคโนโลยีที่น่าสนใจเลยทีเดียว ในตอนนี้..

คำเตือน:
การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้อนู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

【龔成問答信箱】（Q21321-Q21340）

Q21321：

龔sir你好，你本《80後千萬富翁》我已經睇到接近尾聲，書中含金量極大,當中思維篇真係本書最重要既部分，講中哂大部分香港人既固有思想，其中“覺得冇可能，到最後就真係冇可能”呢句一語中的，成枝針拮到9成香港人。

至於金錢篇都係講返金錢背後運作同乘既法則，其實用字真係好簡單，小學生都睇得明，同富爸爸窮爸爸一樣keep it super simple。

到實戰篇，睇完令我更加想成為全職股票投資者，要自己提升股票投資，希望自己做到第四級投資者，脫離打工生活。

本書真係勁好睇，內容價值一定大過書既價錢，其實龔sir既書全部已經睇過哂，最重要既係，書中所帶黎既投資回報已經大過咁多本書既價錢總和，真係多謝龔sir，希望可以再出多啲書

龔成老師：

多謝你的讚賞！

其實我之前有少少擔心，讀者會覺得我重覆左某些概念，與之前的書有接近內容，因為這是一個由思維到應用的知識大連貫，總會有小部分內容，同之前類似，因為有些重要內容我無可能跳過不談。

現時你這樣講，我就放心了，因為我能夠做到寫這書時的目的，就是帶領讀者，由思維到落實，向著$1000萬進發。

這本書用左我好多時間寫，希望可以幫到你知識與財富提升，等你的好消息，加油！

------------------------------------------------

Q21322：

你好龔成老師我沒有工作差不多9個月，現在做全職媽媽。

三十幾歲係07年既時候買咗d細價股，輸咗差不多20萬，一直吾敢再買股。

直至今年2月開始，買再買返現時有既股票︰

390 4.09 買入10000 股
2314 7.5 買入3000 股
777 19.92買入1000股
460 2.09 買入10000股

仲有3隻 現在都持有緊
9626 (抽返來的20股)
2158 37.65 買入1000股
769 1.02 買入60000股

1. 我以上既股請俾一俾意見，我現在有的7隻股票，有邊d可以繼續持、有邊d要放咗佢?

2. 同埋我想用30萬去買其他股票當幫小朋友儲錢及收息，可給我建議嗎?
謝謝

龔成老師︰

1) 中國中鐵(0390)和理文造紙（2314）質素中等，唔建議持有太多。你可以等反彈時，沽出部份，餘下的就長線持有。

網龍（0777）主要從事網絡遊戲開發（包括遊戲設計、編程及繪圖）及網絡遊戲營運；教育業務；移動解決方案及移動營銷業務。

另外，佢近年有發展教育業務，相信長遠都有前景的，但業務始終有不確定性，市場具體情況仍有未知數，所以，投資價值是有，現貨可持有，但暫時不要加注。

四環醫藥（0460）好翻D，相信無之前咁差。不過這股，2015年、2016年，曾經出現了核數師有「保留意見」的情況，反映盤數有問題，小心這股。我對投資這股有保留。

中國稀土（0769）質素一般般。炒作多過實際，過往賺錢能力不高，業務波動，間中出現虧損，投資價值唔算高，你沽出會較好。

醫渡科技（2158）和嗶哩嗶哩(9626)有潛力的，可長線持有。但由於佢地係新股，不確定性會較高，暫時只宜小注。

我睇翻你持股中，除了部份新股算有質素外，其他都係麻麻。你再投前資，建議你先學好投資知識，對你長線財富增值效果，會有重大影響。

現時，你可以先集中係以下「平穩增值股」+「收息股」。

平穩增值股，例如盈富（2800）、金沙（1928）、長建（1038）、中銀（2388）、港鐵（0066）、恆基（0012）、港交所（0388）。

目標是5%、6%的股息率的收息股，例如港燈（2638）、深高速（0548）、香港電訊（6823）、工行（1398）、恆生（0011）、置富（0778）、陽光（0435）、高息基金（3110）都可以。

由於你投資知識不足，建議你用月供方式去儲貨。若想1手手入都得，但緊記要分多注咁慢慢入，去拉平均個買入成本，以減低入貴貨的機會。

2) 由於小朋友年紀少，到佢用這筆資金尚有一段長時間。所以，我地可以集中係增值部份，先為佢累積起一筆財富。

收息都可以，但這類股票增長力較弱，我唔係太建議你用在小朋友身上。

策略上，我建議你分注，慢慢買入盈富（2800）。現時大市只在合理水平，30萬可以先用一半，慢慢咁入分多注入，唔好一次過入晒。

餘下15萬，就等大跌市時，我地才出手。

------------------------------------------------

Q21323：

Hello,龔老師，小朋友岩岩出世，想幫佢儲起啲利是錢去投資，買金粒或者買港鐵股票，請問有無咩意見？謝謝！

龔成老師︰

黃金是貴金屬，有「終極貨幣」之稱，是人類自古以來的貨幣，因此，有持有價值，而現時我地的現金，一定長期貶值，所以黃金長期會向上。

不過，黃金沒有現金流，持有無法創造出經濟價值，其主要作用是對沖黑天鵝事件。用作小朋友的財富增值，就未必咁適合。

我建議你小朋友，利用一些優質股，去做財富增值會較好。

港鐵(0066)係其中一個選擇，另外，你都可以儲盈富(2800)，佢係包括55間質素不錯上市公司股票的組合，比港鐵更能分散風險。

若你想增長力高D，可以投資安碩恒生科技(3067)。但此股波動性會較大，要睇翻你自已風險承受能力。

基本上，以你小朋友年紀計，持有以上股票都係可以，但你明白當中風險和分別。

------------------------------------------------

Q21324：

老師：我是一個中年婦女，想請教基金每月派息有邊隻建議

龔成老師︰

我對坊間基金無特別研究，無太多意見比到你。

除非你係有原因，係必需以「每月」這模式去收息。否則，我建議你用「收息股」去創造一個組合，咁會較好。因為基金好多時都會有費用要收取，變相令你實際收入減少。

或者你可以考慮，在港交所上市的收息ETF，GX恒生高股息率（3110），這是一個投資收息股的基金，追蹤恆生高股息率指數之表現。

佢一年派2次息，都不差的，你可了解下。

可以視為收息股的組合中其中一員。這基金可投資的，現價合理，可分注。佢是投資香港大型，較穩陣，派息較高的上市公司。

這是不差的收息組合，但增長力不強。

可以上基金網站有介紹的

http://www.globalxetfs.com.hk/funds/hang-seng-high-dividend-yield-etf/

另外，以下都係較有質素的「收息股」，你可以參考下。

這些股票大多每年派1至2次息，雖然唔係每月派息。但你可以按照你生活所需，再去自行調配這些股息就可以。

目標是5%、6%的股息率的收息股，例如港燈（2638）、深高速（0548）、香港電訊（6823）、工行（1398）、恆生（0011）、置富（0778）、陽光（0435）、高息基金（3110）都可以。

另外，有些更有超過8%的高息股，但股價就略有風險，你可以小注考慮，例如佐丹奴國際（0709）、中石化（0386）、互太紡織（1382）等（記住，股價略波動，不能太過大注）。

現時大市只在合理區，資金唔好盡用。最好留有部份，等大跌市出現時，可以用來掃貨。

------------------------------------------------

Q21325：

你好呀，有野想請教。

我想問有冇聽過 消費商，對於呢樣野既前景又點睇?

龔成老師︰

其實「消費商」概念，就是從過往純「消費者」年代，單向作出消費的模式，轉變成「消費者」除了單向消費外，自己同時參與一定程度的銷售工作。從而賺取回報，這個模式有少少似「產品代理人」。

現今科技較以往發達，人與人之間溝通和分享渠道多左，都造就這類「消費商」發展。而且，這類宣傳有別於傳統模式，由生產商單向花大錢賣廣告。

而是直接有身邊認識的人，向你推薦產品。相對舊模式，精準度和新客戶接受程度，一般都會較高。

其實「消費商」概念好耐之前已經存在，好似你購物後，再介紹新客戶賺積分的獎勵活動，其實都係運行緊「消費商」模式。

這模式有佢價值，相信在現時互聯網發達的社會，在不同社交平台支援下，發展會唔錯。

------------------------------------------------

Q21326：

老師你好 本人今年33歲 完全係投資新手無經驗。

但𠵱家決心要將財富增值 希望10年後達到財務自由 現打算月供股票

請問建議買邊類/隻股票 同應該將儲起嘅錢幾多percent用嚟做月供?

以下大約係本人背景
- 單身 月薪9萬左右
- 平均每月可儲6萬
- 有意2-3年內置業

謝謝老師

龔成老師︰

你可以投資「平穩增值股」+「潛力股」，去創造一個增值組合，累積一筆資金，助你達成置業和財務自由的目標。

至於，用多少儲蓄作投資，無一個特定答案。若你想盡快達成財務自由，最好係盡量投入最多閒置資金，就會越理想。

組合當中的「潛力股」，要求你有一定的投資知識。加上你會在2-3年內置業，時間唔算好長，係增值時先要保守一點。

現時，你可以集中在平穩增值股先，潛力股小注好了。到你投資實力較強和處理好置業時，可慢慢增加潛力股比例。

平穩增長股：潛力股
7：3

平穩增長股：考慮盈富（2800）。

另外再加：銀娛（0027）、恆基（0012）、港鐵（0066）、平安（2318）、粵海（0270）、領展（0823）、希慎（0014）、太古地產（1972）等，你可以了解下這些股票，然後從中選股。

潛力股：安碩恆生科技ETF（3067）

另外再加：阿里（9988）、騰訊（0700）、港交所（0388）、舜宇光學（2382）、小米（1810）、ＧＸ中國電車基金（2845）、中生製藥（1177），但就要明白波動性比上述會高左，同時風險大左，你要自己平衡。部分要等回少少先入。

現時大市波動，可以一邊投資一邊留現金的策略去做月供。每月用3.5萬先月供，另外2.5萬就儲起，是等大跌市時出手。

如果你能在這段時間學好選股等技巧，到大跌市時就能把握機會，財富增值會更明顯。

其實你要考慮一點，當你打算中短期置業時，宜留多少少現金，特別是打算買樓前的一年。而我地投資股票就是買入企業，而企業成長需時，因此一定要長期先有效果。

因此，你要考慮幾時置業，在現金與投資上取平衡。

現時可以用上述的方法，部分月供，部分留現金（但近置業就可能要減現金），到你完成置業後，其實可以再加大投資力度，進行財富增值。

------------------------------------------------

Q21327：

手持5百萬現金應該怎樣投資 希望每月回報有2%

投資股票 置業 應該 怎樣分佈

龔成老師︰

我地做財富增值，一般希望做到架合理回報，係每年增長10-15%。你現時這個每月2%回報的目標，用股票或物業投資去做，風險會較大。

我建議你按步就班，透過月供和買入優質股，去一步步為自已資產作增值。在合理風險下，爭取最大回報。

係投資增值時，我地會運用「先增值，後現金流」作方法，初期投資較有潛力的股票，令財富較快增值，當增值到一定金額後，可開始將財富分配至平穩增值型股票，然後到已累積了相當財富後，才漸漸轉成收息型股票，為自已創造穏定現金流。

所以，當我地選擇投資項目時，應參照自已人生階段。年輕時，可以用「平穏增長股"」+ 「潛力股」，到中年「潛力股」比重要減少，到近退休應集中在「收息股」上。

若你投資經驗較淺，就算年輕，我都建議你「潛力股」部份比重，要調低少少。到有一定經驗時，才慢慢調高。

現時，你可以因應自已人生階段和投資經驗，在以下股票中，作出選擇和配置。

平穏增長股︰盈富(2800)、金沙（1928）、恆基（0012）、平安(2318)、中銀（2388）、港鐵（0066）、長建(1038)、領展(0823)、希慎(0014)、太古地產(1972)

或潛力股︰中生(1177)、福壽園(1448)、小米(1810)、安碩恒生科技(3067)、港交所(0388)、阿里（9988）、騰訊（0700）、ＧＸ中國電車基金（2845）。

大市現處於合理水平，那500萬資金，你可以先用200-250萬，以"分注"形式慢慢入貨。餘下資金，我地就等大跌市機會出現，才大力度掃貨，並長線投資。

如果你本身無乜投資經驗，暫時只建議動用$100萬-$150，同時你要增加知識，等你有一定知識先慢慢加大金額。

長線計，我地要建立一個長期的「財富組合」，要優質，要平衡，要適合你的年齡與風險承受程度，不同資產類都要有，好似優質股、物業等。

持股中，唔可以太集中個別股票，同一行業不能太多，同一股不能太多。

此刻整體物業算是合理區頂，相對股票值博率較低，所以又唔需要話好急去買入，投資值博率算是中等，當然，如果你見到較有質素，回報理想的物業，其實又不是不可考慮。而長線，你都要將佢加入財富組合當中，成個組合平衡性才算理想。

------------------------------------------------

Q21328：

龔Sir 您好！近排買咗你的一本書，開始留意股市，我想入高增長的股票，但資金不多$5-$8萬左右

有一手快手，想望長綫，無時間長期留意股市波動，建議入咩組合？

龔成老師：

你唔好只集中在高增長股，我地最重要是建立一個長期的「財富組合」，要優質，要平衡，要適合你的年齡與風險承受程度，新舊經濟各類股都要有。

同一行業不能太多，同一股不能太多。要平衡，建立後長期持有，不是買賣賺差價，而是成為你財富組合一部分。

你部分資金買入高增長股是可以的。

快手（1024）可長線，但上市後一直都貴，注意風險。不要心急加注。

另外可考慮盈富（2800）、恆生科指ETF（3067）。潛力股投資要慢慢用資金，不要急。

------------------------------------------------

Q21329：

老師，早前聽你分析一篇是有關人士尚欠10年退休，應如何處理退休計劃。

你提及若基金有高回報，可考慮退保轉移收息股。

我以前同朋友買落一些基金單，過去回報真係麻麻，但最近終於超越我的供款額，我計劃停供兼考慮申請退保，取回本金轉買你建議的收息股，十年後成效會否顯著？

但還有一些基金單早已停供，但退保費用尚高（要足20年才沒有，現時退保費達41%）。但係未回本兼一早已停供，應否提早贖回此單買其他如2800，起碼不會被每月基金手續費蠶食本金？

本人一向好節儉，但不懂投資，到今日開始認真思考未來退休生活費。慶幸認識你才檢討自己投資方向，希望有所改善。

過去經驗令我現在對基金單有所保留，雖然回報可以好高，但亦可以蝕到入肉。所以自己入行後從沒建議人客買，除非人客有能力選擇基金 。

但若我只集中股票投資，又會否有危機？最近有朋友常説股票市場未崩是阿爺出手，叫我有賺就放。但聽完富途牛牛老師分享，更堅定長線投資。不過始終心不夠定，因自己已不年輕，希望老師俾一些啓發，謝謝。

龔成老師：

基金有好多種的，因此，好難一次過講基金是好還是壞，有些基金的回報可以跑贏市場，但同時有些都可以遠差過市場。

你最重要考慮翻該基金，佢本身的投資策略，投資那些市場或產品，以及過往5-10年的回報，比起一般投資市場回報是好是壞，如果回報較差，就要考慮轉。

不過，你話有些基金單已停供，但退保費用尚高（要足20年才沒有，現時退保費達41%），你就要睇翻仍有多少年要等，如果等的年期不多，就可以等。

其實在概念上，以及比較那個投資決定上，最重要是你要分析「之後的組合情況」，不是過去，是將來。應該持有那些項目，比例如何，能為你帶來怎樣的長期財富。

你最重要建立一個平衡配置，不要只集中在過往的虧損。首先，你每一份基金去分析翻，個別的質素怎樣，如果質素不佳同時又無特別賣出的限制，就轉其他工具。（你要問清楚，如果賣出相關基金，會有那些罰款，能夠取回多少本金）。

如果讓基金過往表現不差，有質最素，件就可以繼續持有。

之後可以將資金，部分投資股票，只要投資優質股，長線，其實不用擔心，同時你不用太著重短期因素。最簡單是選一些ETF，如盈富（2800）、高息基金（3110），這些ETF的管理費，比一般的基金較低，因此長遠對你的回報較高。

我相信ETF比較適合你，因為彈性比較高。

------------------------------------------------

Q21330：

阿sir你好！我最近係度調整緊月供計劃，total每月有9千蚊，有剩希望儲現金，麻煩你幫手睇睇咁樣嘅組合會唔會太分散？係唔係唔太好？幫手俾啲意見，唔該！

1. 3067 – HKD$2,000（手動月供）
2. 0700 – HKD$1,000

3. 0003, 0823, 0388, 2388, 1928, 1177, 2800, 1810, 2020, 3188 – 各HKD$500

4. IAU & SLV, BTC – 各HKD$500（通過美股同虛擬貨幣平台手動月供）

龔成老師：

你月供恆生科指（3067）及騰訊（0700）無問題，不過都要明白3067是潛力基金，佔組合比例不能過多。

至於0003, 0823, 0388, 2388, 1928, 1177, 2800, 1810, 2020, 3188 – 各HKD$500。你供得有點散，要好長時間先有一定的貨。

建議你集中翻少少，例如每隻供$1000，減少隻數。其實當中都是有質素的股票，都可以選擇，你睇翻自己較睇好那隻，以及自己的投資目標及風險程度。

至於IAU & SLV，即是間接投資黃金與白銀，長遠都可以，因為貴金屬都可以在我地的財富組合中，佔一個比例，但就不會太多，如果你每月合共$1000，佔你每月投資比例10%，開始有點多，調整翻去到5%較好。

至於BTC這類虛擬貨幣，我不是這方面的專家，所以我太大意見。

以本質來說，這是人為創造出來的，絕對不是「資產」，有沒有真正的價值，如何定義真正的價值，未知。

這些人為創造的貨幣，因為關注度由很少變得大，價格會大升，但這背後是否有真正的支持，我不知道。只能說，投資這些貨幣，投機味好重，可能大賺，亦可能蝕到一文不值，因為，當中有沒有價格，我不知道。

但這不代表佢無價值，佢可能好勁，只是我自己不知佢好勁定好差。

佢長遠的價值，取決於「有多少人用」，即是說，雖然無真實價值，但可以有「交易價值」，如果長遠好多人用，的確可能有高價值。

因此，這些虛擬貨幣，由於我無法作出專業分析，所以，我不會投資。

但如果你分析到佢長遠的交易大，大家都持續關注，就有價值，就值得你投資。如果你睇好，小注每月投資，不是不可的。

------------------------------------------------

Q21331：

多謝老師一路以黎既教導 你個page 充滿正能量 哈～（對我黎講）

龔成老師：

加油！

我出書，不斷做分享，在FB不斷發放正能量，正正是這個目的，你要做好自己，影響其他人。加油！

------------------------------------------------

Q21332：

阿sir 我份人比教保守但又想搭到快車 起望資產有所增值

所以我想有一半買3067
但另一半可以買邊隻潛力股

因為好多新經濟潛力股都銀碼太高 所買股份唔多，長遠增值唔大

我睇中必瘦站 佢而家係疫情下重可以擴展 同埋減肥 美容 係唔會冇人去做 加上佢銀碼唔大 大約6蚊
你意見如何？

龔成老師：

你要清楚翻投資概念，如果你風險承受能力較低，就唔應該投資潛力類的股票。

因為風險與回報一定成正比的，你要清楚翻這一點。

記住，我地最重要是建立一個長期的「財富組合」，要優質，要平衡，要適合你的年齡與風險承受程度，新舊經濟各類股都要有。

如果你承受風險能力不太高，就可能要將恆生科指ETF（3067）改為投資其他，如盈富（2800）。

當我地建立組合後，就長期持有，不是買賣賺差價，而是成為你財富組合一部分。

另外你要記住，入場費的大小，以及股價數字大小，與平貴度，無關！

至於必瘦站（1830）長遠有發展，本身有一定的質素。

睇翻之前的疫情，佢身處的行業受影響，但佢的現金流及財務數據都唔算差，這點可以想象到，當正常的經營環境，佢的生意一定唔錯。

加上佢的野心愈來愈大，本身有一定的技術，同時不斷將香港的業務模式複製到其他海外地區，我見佢加強了發展其他地方，因此發展不差。

你預$4是合理區頂，這股有長線投資價值。

如果你真的想買入，就等回少少先，小注，之後等落翻$4左右先正式買入。

------------------------------------------------

Q21333：

龔sir，用三十萬炒股，最近半年接觸衍生工具，已輸左HKD十萬,有咩方法可以可以追番血汗錢

龔成老師：

記住，財不入急門，你愈心急想追翻，就愈危險。這刻你應該停一停，冷靜翻，增加翻投資知識先，唔好太心急再投資。

其實我20年前，都玩衍生工具，玩左幾年，輸足幾年，之後長線投資，就開始不斷賺錢。

我之後做銀行同證券行，見大部分輸錢的客，都是偏向短炒，及投資衍生工具的。

這刻，你停一停先，之後長遠計，你要建立一個長期的「財富組合」，要優質，要平衡，要適合你的年齡與風險承受程度。

同一行業不能太多，同一股不能太多。要平衡，建立後長期持有，不是買賣賺差價，而是成為你財富組合一部分。

------------------------------------------------

Q21334：

老師! 我買的保險有儲蓄成份的。我有3份，第1份$ 20萬2022年9月到期$20萬，到期可取$24萬幾，可將筆$供第三份保險。

第2份2026年頭到期，比現在供款大约多$23萬，到時可取~$74萬。第3份$100萬，若10年不取，大约有$ 149萬。整體有~4-5厘息。所以4年後，只有1份100萬的保險。

你建議我們持股要長線才能赚得多D，但退休後冇收入，靠收息過活，始終都需要賣股票，那何時才是適當時間賣? 若不賣，可能到時人在天堂，股票在銀行!

龔成老師：

如果現時保險類太多，你要睇下點樣調整佢，但持有多少，其實好個人化，因為這類有儲蓄成份的保險，可說是一些防守性產品，對一些好怕風險的人，持有較多都可以，但如果能承受基本風險，其實不應持有太多，可考慮將資金投資其他工具，會更好。

如果你這刻在配置上，股票等增值類資產不多，你應該等2022年該份保持到期後，將資金轉到股票，建立一個更為攻守兼備的組合。

至於另外的第2、3份，就可照原定計劃進行。

另外，當我地進行人生財富累積，會運用「先增值，後現金流」作方法，年輕人應投資較多增值類資產，而較年長的，則應投資較多保守類項目，因為年輕人的財富系統未成形，同時負擔較少，可承受的風險度較高，所以會著重增值為先。

例如初期投資較有潛力的股票，令財富較快增值，當增值到一定金額後，可開始將財富分配至平穩增值型股票，然後到年紀漸長或已累積了相當財富後，才漸漸轉成收息型股票。

因此，當你退休時，就能以不同的資產，去獲得持續的現金流。

------------------------------------------------

Q21335：

請問老師2588現價位值得入市嗎？留意了它一段時間，之前因市場炒疫苗復蘇已炒到當年的高位81，但現價已漸漸回落，請問現價71值得入市嗎？

龔成老師：

中銀航空租賃（2588）本身質素不算差，但又未到好好，主要原因是負債太高。佢利用高槓杆的模式，進行飛機租賃等業務。

即是借錢，買飛機，再租出給飛機公司。

現時航空業不景，對佢有影響，加上佢利用槓杆，風險點都會有。不過，這只是中短期情況，長遠仍是不差的。

現價算是合理價，但投資注碼不能多。

------------------------------------------------

Q21336：

龔sir, 你好，我係新手投資，聽某股評人8.1高追入了1760英恒科技，我有睇過1760的業務，基本面好像不錯的。

所以一直抱著希望會回升，但股票卻一直向下，現已蝕了五成本金。

請求老師對此股給點意見及睇法，感激不盡。

龔成老師︰

我地買入一隻股票，一定要知道佢質素、行業前景、財務狀況等，才去投資。唔好單憑消息，就去做投資決定，咁係好危險。

英恒科技（1760）算係有危有機類的股票。這股質素不算高，但都未去到劣質，而你最大的問題，是在好貴的價位買入，因此，要上翻去並不是易事。

佢業務主要於中國提供汽車電子解決方案，客戶為汽車行業的原設備製造商、一線及其他供應商。例如新能源、車身控制、安全、動力傳動等。

過往財務數據只是一般，未算強，市場主要炒佢新能源汽車業務。

佢之前有集資去開發集團在新能源汽車及高級駕駛輔助系統（ＡＤＡＳ）方面的服務平台，特別是加強研發實力，包括智能駕駛軟件平台搭建、電動車電控系統軟件的研發、半導體功率器件定制化研發。

此股唔係話無質素，只是業務始終有不確定性。若你持貨不多，可以守。但若持貨較多，可以等有反彈時，沽出部份，去平衡個風險。

在將來再投資其他股票前，你先要問問自已。你到底知唔知間公司做乜生意、間公司點賺錢、行內有乜優勢、點解未來有發展和增長潛力。

若果答唔倒自己，就必需要停一停，唔好投資住。

------------------------------------------------

Q21337 ：

你好，龔sir

1. 我買左2018，平均價55蚊，佢近期業績不錯，請問可否返家鄉。

2. 另外347近期有營利，股價會否再繼續上漲？我平均價9蚊。謝謝你

龔成老師︰

1) 瑞聲科技（2018）不差的，本身有一定的規模與技術，長遠發展正面，不過，佢增長力不是好強，只能視為平穩增長類別。

佢業績算係可以，此股有質素，可長線持有。要回到你買入價，相信係可以。但由於增長力不及以往，所以要比多點耐心。

2) 鞍鋼股份（0347）本質屬中等，但有較受大環境影響。佢始終這只是商品企業，沒有一些太大的優勢。近年盈利上落較大，難以達到穩定生意與盈利的投資擬標。

所以整體的投資價值只是中等。這類股，長遠投資價值不算高，但又不是劣質，一般不建議佔組合比例太多。

若佢佔你組合比重較高，我建議你當有反彈，就沽出部份，來減低風險。

你要記住，我地投資時，唔好太過睇重短期因素，要長線咁分析。鞍鋼股份（0347）係2020年公布盈利係多左，但你睇多幾年，會發現佢盈利其實好波動。

另外，我見你對股票點定平貴的概念，唔係太強。建議你再投資其他股票時，可以考慮用月供方法，去平衡這個買貴貨的風險。

------------------------------------------------

Q21338：

Hi 成兄，我留意左你一段時間，前日我買左第一本你既書《80後2百萬富翁》，睇到一半，真心覺得你好有毅力去做每一件事。

而我亦都係上年係股票輸左成50萬，而家要每個月還$14000，人工每個月只係$34000。

小弟只係一個公務員，但唔甘心維持現狀，而家努力儲緊啟動資金、另一邊亦都睇緊啲理財、投資既書，唔想比自己再衰多次。

但係公務員有啲限制，而自己無咩技能，但黎緊會報啲有關電力既野，亦都會慢慢報下其他課程。

但係小弟已經30歲，果50萬要還到34歲，好似有啲唔夠時間用咁，想係呢4年努力返少少儲返多啲資金，再進軍股票世界。

因之前買輪及牛熊輸，到最後都係覺得買正股、潛力股先有增長，亦明白到貪字真係得個貧。

龔成老師︰

緊記，短炒唔係一個正確的投資方法。窩輪及牛熊證這些工具好複雜，唔好再用。

過去的事情，就由得它過去。最重要係你上了寶貴一課後，明白到何謂正確的投資理念，加上你已開始努力學習相關知識，算得上係向成功踏出一大步。

你現在才30歲，絕對有足夠時間讓你做好財富增值。

現時你負債雖然係可以還到34歲，但若果個貸款息率係較高，最好在投資前，先還清。因為高債息，長線會拖低你投資回報率，影響成個財富增值效果。

之後，你唔一定要等到儲到一筆較大的啟動資金，才開始投資計劃。你可以先用月供方法，去邊入貨，邊儲錢。我相信咁做，會較有效率。

以你30歲，可以選擇一些「平穩增值股」+「潛力股」作投資目標。

以現時大市合理區狀況，月供最好係先用一半每月儲蓄，另一半就先儲起架策略。

由於你投資知識不算好高，因此我建議你先集中係平穩增長類股。至於潛力股，只宜小小注(約佔組合3成)，等到你提高投資知識後，先慢慢增加翻潛力股比例。

至於，每月儲下現金，就是等大跌市時出手。如果你能在這段時間學好選股等技巧，到大跌市時就能把握機會，財富增值會更明顯。

------------------------------------------------

Q21339：

龔sir，我之前$61入左1000股9633，和$16入左3500股6993，仲有得守嗎？

龔成老師︰

農夫山泉（9633）有質素的。

是中國包裝飲用水及飲料的龍頭企業，旗下品牌包括農夫山泉、東方樹葉、尖叫等。佢係中國擁有10個區域取水許可證，並在其周邊建立生產基地。

其產品覆蓋包裝飲用水、茶飲料、功能飲料及果汁飲料等類別。根據弗若斯特沙利文報告，2012年至2019年間，連續八年保持中國包裝飲用水市場佔有率第一的領導地位。

業務上，的確有吸引力的，不過，我一向都新股半新股都無興趣，因為真實面要慢慢先見到。此股可投資，但只建議持有小注，同時你要明白當中的風險。

而藍月亮（6993）都係有質素的。

佢有「中國P&G」之稱，成立於1992年，擁有衣物清潔護理、個人清潔護理和家居清潔護理三大系列共73個品種的產品。

佢係中國洗衣液有龍頭地位，加上毛利率高，賺錢能力強。睇翻佢之前的資料，以零售額計算，藍月亮在洗衣液市場、濃縮洗衣液市場及洗手液市場的市佔率均為第一，分別為24%、28%、17%。

雖然你買貴左，但由於佢地都係有質素，你可以守。若果佢地佔你組合比重較高，可以考慮沽出部份，去平衡個風險。

但緊記，我地唔好成個組合，只集中係1,2隻股票身上。

最重要是建立一個長期的「財富組合」，要優質，要平衡，要適合你的年齡與風險承受程度，新舊經濟各類股都要有。

同一行業不能太多，同一股不能太多。要平衡，建立後長期持有，不是買賣賺差價，而是成為你財富組合一部分。

------------------------------------------------

Q21340：

龔成老師你好，好多謝你好用心解答網友問題，雖然睇左咁多，我都有問題想向你請教，先謝謝你。

我33歲,收入約35k, 而家持有月供股2800、2318和0012。每隻$500。

1. 可能係太少，我唔知大約供幾多先好？

2. 現時唔多負擔，係每月要俾約8k家用。所以想請教你我點樣分配先好？

3. 係咪要買多d,同埋加多隻比亞迪呢？ 感謝

龔成老師︰

1) 我地做財富增值，目標係首先累積起一筆財富。到退休時，再換成收息資產，去支持後的退休生活。

以你現時33歲，應先努力做好增值個部份。因此，你每月有空閒資金，我建議都盡量投放在財富增值之用。

至於比例佔收入多少，無一個絕對的答案。你可以視乎你自己情況，作出調節。

但你33歲，係財富增長的黃金期，以你收入來說，其實可以將更多資金用作投資。

2) 以你33歲計，可以選擇一些「平穩增值股」+「潛力股」作投資目標。你現時月供的盈富（2800）、恆基（0012）、平安(2318)都可以。

但每隻月供股票銀碼上，要提高少少，最少要$1000。因為每隻的供款太低，會變相令月供成本佔比增加，影響你長線回報。

以現時大市合理區狀況，月供最好用一半每月儲蓄，另一半就先儲起架策略。

另外，你都要加翻D「潛力股」，去提升個組合增長力。但「潛力股」始終有一定波動性，若你投資知識不高，可先集中在平穩增長類股。

至於潛力股，就先小注(約佔比重3成)。到你提高左投資知識，先慢慢增加翻潛力股比例。

每月儲下現金，我地就是等大跌市時才出手，並長線持有。

3) 比亞迪(1211)都係一隻好有質素的潛力股，但現價偏貴。想月供的話，最好等佢回到$120先考慮。

若你真係對新能車股票好有興趣，可考慮GX中國電車（2845），這基金的目標是追蹤Solactive中國電動車指數NTR「相關指數」表現緊密相關的投資回報。

持股中最重就係比亞迪A股（002594），以及與中國電動車產業有關的股票，故此股有一定投資價值。

此股有潛力度，你預佢會比較波動，但有長線投資價值。

----------------------------------------------

若你有問題想向本人發問，可在龔成的fb專頁中（www.facebook.com/80shing）inbox龔成，但要注意如無特別聲明，有可能將問答放上網，當然，會將發問者的身份，以及有關個人資料的部分刪去。

另外，我所給予的各種意見，只是供大家參考，當中無任何銷售及推介，不涉及任何利益，其實大家應該要有獨立分析的能力，我只是給予一些方向及純參考模式。

由於提問人數眾多，見諒無法即日回覆，如果是普通的提問，預起碼要7天以上才能回覆，若然是較複雜的提問，起碼要10天才能回覆，希望各位能諒解。

股息到底是什麼？
到底買了一隻股票過後
我們要怎樣看每年可以得多少股息？
當一家公司賺取盈利時
它可以把部分盈利派給股東
那個就叫股息
股息也是投資股票的一種回酬
一個賺取被動收入的方式。
在這個影片，我會跟大家分享
怎樣看股息？股息有抽稅嗎？
股票什麼時候持有才會有股息？
買外國的股票很買本地的股票差別在哪呢？
.
獲取我的獨家理財貼士
http://bit.ly/get-spark-financial-tips
.
【免費】股票投資工作坊 - 從0開始學股票
http://bit.ly/join-free-webinar-now
.
🔥點擊連結瞭解更多詳情或購買🔥
https://valueinmind.co/zh/sparks/
.
🔥 點擊連結購買《零資金開始圓創業夢》🔥
http://bit.ly/spark-book-launch


eToro申请链接 · 全世界都可以用
.
中文简体版
http://bit.ly/2YyXzGS
.
中文繁体版
http://bit.ly/2LQCTZ3
.
英文版
http://bit.ly/2MtwsuG.
Rakuten Trade賬戶申請鏈接
http://l.ead.me/vmrakuten
Rakuten Trade 帳戶申請教學
https://drive.google.com/file/d/1R0sA8a3gjnSURyYO_tRFHkWeQdx59a_t/view

怎麽買入股票或ETF
http://bit.ly/330s8c1

eToro 怎样入金还有提款？
http://bit.ly/2XDBbja

怎样开始投资你的1000块？
http://bit.ly/2RGsqiX


⚡ Spark 的Facebook 很熱閙
http://bit.ly/2X3Cgwr
.
⚡Spark 的YouTube 很多教學
http://bit.ly/2KMqMvR
.
⚡Spark 的Instagram 很多八卦
http://bit.ly/31YMLon

#股息 #股票投資 #dividend