Search
BACC 13-16 潑水很忙也沒開喔
各位訪泰大大要注意
是說你們才不在意BACC是吧
你只在意 soi 裡那幾家店吧
他們會開啦
หอศิลปกรุงเทพฯ ปิดให้บริการเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 13 - 16 เมษายน และจะเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 17 เมษายนค่ะ
#yourbacc #saveyourbacc
ไปเดทที่หอศิลป์กัน ❤️🙋🏻♀️
" ศิลปะทำให้เรารู้จักตัวเอง ... หอศิลป์เป็นที่ๆ ปลอดภัยทางความรู้สึก"
คุณอาย กมลเนตร เรืองศรี: นักแสดงและนักเขียน
#10ปีพื้นที่การเรียนรู้ผ่านศิลปะ #yourbacc
หืมมมมมมมมมมมม
Hmm, that's not good.Translated
สรุปข่าวเรื่อง กทม. จะยึดหอศิลป์
- เมื่อวาน (11 พ.ค. 2561) มีข่าวชื่อ ‘กทม.ยันบริหารหอศิลป์ "โปร่งใส" ได้เอง’ ลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของเดลินิวส์ ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม. มีแนวคิดจะให้ทางสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว มาเป็นผู้จัดการดูแลหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (bacc) โดยอ้างว่าทาง กทม. จะสามารถทำให้หอศิลป์เป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนได้มากขึ้น และยังมีแนวคิดจะเพิ่มโต๊ะ-เก้าอี้เพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้แบบ Co-working Space อีกด้วย อ่านข่าวนี้ได้ที่ลิงก์นี้ > https://www.dailynews.co.th/bangkok/642848
- ข้อเท็จจริงก็คือ ปัจจุบันหอศิลปกรุงเทพฯ บริหารโดยมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ที่ตั้งขึ้นโดยมีศิลปินและผู้คนในแวดวงศิลปะหลายภาคส่วนมาช่วยกันบริหาร และกำลังเข้าสู่วาระครบรอบ 10 ปี โดยที่ผ่านมาการบริหารจัดการของมูลนิธิเป็นอย่างไรก็มีผลเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนอยู่แล้ว ข้อมูลที่ง่ายที่สุดที่เป็นบทพิสูจน์ประการหนึ่งก็คือสถานที่แห่งนี้ได้รับการเรตถึง 4.5 ดาวใน GoogleMap โดยมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่เคยมาเยือนร่วมแสดงความเห็นไว้มากถึง 3,000 กว่ารีวิว และตลอด 10 ที่ผ่านมา แนวโน้มจำนวนผู้เข้าใช้บริการในหอศิลปกรุงเทพฯ ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2560 มีผู้เข้าใช้บริการที่นี่เป็นจำนวนถึง 1,700,000 คน (เป็นนักท่องเที่ยวราว 30%) และมีการจัดกิจกรรม-นิทรรศการทางศิลปะมากถึง 400 กว่ารายการ เฉลี่ยแล้วคือมีกิจกรรมใหม่ๆ ที่นี่ทุกวัน และหอศิลป์กลางเมืองแห่งนี้ยังเคยถูกใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองตลอดจนศิลปินชื่อดังจากต่างประเทศอีกหลายครั้ง
- หลายคนอาจพอรู้ว่า กิจกรรมที่มาจัดที่หอศิลปกรุงเทพฯ บางครั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนและศิลปินได้แสดงออกเรื่องสังคมและการเมืองในประเด็นต่างๆ เช่นเรื่องกรณีเสือดำที่ทุ่งใหญ่ และเรื่องการรณรงค์หยุดเขื่อน เป็นต้น
- ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ก็คือการเกิดขึ้นหอศิลป์ที่ตั้งอยู่ในทำเลทองใจกลางเมืองแห่งนี้ เหล่าศิลปินและเครือข่ายได้ผ่านการต่อสู้รณรงค์มาอย่างหนักหน่วงเพื่อให้เกิดขึ้น เป็นการสื่อสารต่อรองระหว่างภาคประชาชนกับภาครัฐและภาคการเมืองที่เป็นมหากาพย์เรื่องหนึ่งของแวดวงศิลปะบ้านเรา สามารถอ่านประวัติศาสตร์นี้ได้ในลิงก์นี้ > http://www.bacc.or.th/content/27.html
- ข้อเท็จจริงอีกเรื่องก็คือ ปัจจุบันมีพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้หลายแห่งที่บริหารโดยทาง กทม. อาทิ หอสมุดเมืองกรุงเทพฯ, พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร และ พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก เป็นต้น ส่วนแหล่งเรียนรู้บางแห่งอย่าง TCDC, TK park และ Museum Siam นั้นถือเป็นองค์กรอิสระภายใต้ OKMD สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ไม่ได้อยู่ใต้ กทม. แต่อย่างใด ซึ่งผลงานและการบริหารของแต่ละองค์กรเป็นอย่างไร มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนด้วยตัวเองอยู่แล้ว
- เมื่อข่าวเรื่องผู้ว่าฯ กทม. มีแนวคิดจะยึดคืนหอศิลป์ได้แพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็เริ่มมีศิลปินและผู้คนในแวดวงหลายท่านออกมาแสดงความเห็นและความเป็นห่วง อาทิ สุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ ที่สามารถอ่านได้ในข่าว ‘ศิลปินแห่งชาติแจกกล้วย!'สุชาติ'ยั๊วะกทม.จะเข้าบริหาร'หอศิลป์'เอง ลั่นเปลี่ยนชื่อเป็น'หอค_ย'’ จาก ไทยโพสต์ > https://www.thaipost.net/main/detail/9016 ในขณะที่ศิลปินอย่าง วสันต์ สิทธิเขต ซึ่งกำลังมีผลงานนิทรรศการ ‘I AM YOU’ จัดแสดงที่หอศิลปกรุงเทพฯ ในช่วงนี้ ก็ได้โพสต์บทกลอนลงในเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า “ไม่สนใจเรื่องจัดการขยะ แต่เรื่องหอศิลปะจะกวาดทิ้ง เป็นผู้ว่าไร้ความคิดจริง ทำทุกสิ่งเพื่อตนได้กอบโกยฯ” เป็นต้น
- ล่าสุดมีการเปิดแคมเปญใน change.org ในหัวข้อ 'คัดค้านการที่กรุงเทพมหานครจะเข้ามาบริหารจัดการหอศิลป์กรุงเทพฯด้วยตัวเอง' #freebacc โดยผู้ที่อยากแสดงความคิดเห็นสามารถไปแสดงได้ที่ลิงก์นี้ > https://bit.ly/2wxfnJG
- เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ทาง happening ในฐานะสื่อมวลชนด้านศิลปะ ขอชวนเชิญให้คนรักศิลปะร่วมกันติดตามอย่างใกล้ชิด
#yourbacc
