พลานุภาพของเกม กับพิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิก 2021
.
หลังจากที่เตรียมการมานานหลายปี ผ่านการตัดสินใจอย่างยากลำบากที่จะเลื่อนออกไปหนึ่งปีเนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในที่สุดมหกรรมการแข่งขันกีฬานานาชาติ โตเกียวโอลิมปิก 2021 ก็เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564
.
พิธีเปิดครั้งนี้มีไฮไลท์ที่น่าจดจำมากมาย แม้ว่าบนอัฒจันทร์จะว่างเปล่าปราศจากคนดู เนื่องด้วยมาตรการเคร่งครัดช่วงโควิด-19 แต่ในบรรดาไฮไลท์ทั้งหมดนั้น ไม่น่ามีอะไรที่ทำให้คอเกมตื่นเต้น ตื้นตัน และประทับใจเท่ากับการบรรเลงเมดเลย์ดนตรีประกอบจากเกมยอดนิยมของญี่ปุ่น เป็นเซาน์ด์แทร็กประกอบการเดินพาเหรดเข้ามาในสนามของทัพนักกีฬาจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมชิงชัยในโตเกียวโอลิมปิก
.
ย้อนกลับไปที่พิธีปิดโอลิมปิกเกมส์ครั้งก่อน ห้าปีที่แล้วในกรุง ริโอ เดอ จาไนโร เมืองหลวงบราซิล ชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น ทำเซอร์ไพรส์คนดูทั้งสนามด้วยการแต่งตัวเป็น ซุปเปอร์มาริโอ พระเอกจากซีรีส์เกมยอดฮิตของค่ายนินเทนโด รับไม้ต่อเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกครั้งต่อไป
.
จากจุดนั้นคงไม่มีใครสงสัยว่า “เกม” จะเป็นส่วนสำคัญของพิธีเปิดโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า เจ้าภาพจะ “จัดเต็ม” ขนาดนี้
.
พิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 2021 ในโตเกียว ไม่มีมาริโอแล้ว (และก็ไม่มีเกมไหนสักเกมจากค่ายนินเทนโดด้วย) แต่เราได้ยินดนตรีประกอบคุ้นหูในเกมชื่อดังของแดนอาทิตย์อุทัยอย่างเต็มอิ่มสิบกว่าเกม และเมดเลย์นี้ก็ไม่ได้มาเล่นๆ แต่ถูกเรียบเรียงและบรรเลงโดยวงออเคสตราเต็มวง และเกมที่เลือกดนตรีมาเล่นนั้นก็ครอบคลุมประวัติศาสตร์เกม ตั้งแต่ Gradius เกมตู้ชื่อดังปี 1985 กว่าสามทศวรรษที่แล้ว เรื่อยมาจนถึงเกมสมัยใหม่อย่าง NieR และ Monster Hunter ในศตวรรษที่ 21
.
การประพันธ์เพลงและดนตรีประกอบเกมแบบ “จัดเต็ม” เป็นส่วนสำคัญของวงการเกมญี่ปุ่นมาช้านาน เกมเมอร์จำนวนมากเป็นแฟนพันธุ์แท้ของนักประพันธ์ดนตรีประกอบเกมชื่อดัง คอยติดตามผลงานอย่างติดหนึบไม่แพ้เพลงของนักร้องคนโปรด และในญี่ปุ่นเองก็มีการจัดคอนเสิร์ตดนตรีประกอบเกม (ดูแหล่งข้อมูลเช่น https://ultimatepopculture.fandom.com/wiki/Orchestral_Game_Music_Concerts) มาแล้วหลายครั้ง
.
แต่แน่นอนว่า การใช้ออเคสตราบรรเลงเมดเลย์ที่เรียงร้อยดนตรีประกอบเกม 14 เกม ต่อหน้าผู้ชมผ่านจอหลายล้านคนทั่วโลก ในพิธีเปิดมหกรรมการแข่งขันที่โด่งดังที่สุดของมวลมนุษยชาติ ยาวนานเป็นชั่วโมงๆ ต้องนับเป็นจุดสูงสุดครั้งหนึ่งที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์เกมเลยทีเดียว
.
ด้วยความที่ญี่ปุ่นคือญี่ปุ่น จะทำอะไรต้องผ่านการคิดใครครวญอย่างรอบคอบมาก่อนเสมอ เราลองมาไล่เรียงดนตรีจากเกมแต่ละเกมที่เลือกมาบรรเลงออเคสตราในพิธีเปิดโอลิมปิกกัน (ฟังเรียงเพลงได้จาก https://www.classicfm.com/discover-music/periods-genres/video-game/tokyo-2020-opening-ceremony/)
.
(ตัวเลขในวงเล็บ บอกลำดับของการเล่นเพลงนั้นๆ ในพาเหรดนักกีฬา)
.
1. Dragon’s Quest – Overture: Roto’s Theme (1)
เมดเลย์ประกอบพาเหรดนักกีฬาเปิดฉากด้วยเพลงติดหู Roto’s Theme จากเกม Dragon Quest ภาคแรก และธีมนี้ก็ปรากฎในเกมทุกเกมในซีรีส์เดียวกัน เพลงนี้ฟังดูยิ่งใหญ่ เชิดชูฮีโร่ เสียงกลองปลุกความฮึกเหิม สมกับใช้เปิดฉากพาเหรดนักกีฬาโอลิมปิก
.
2. Final Fantasy - Victory Fanfare (2), Main Theme: Prelude (13)
เพลงหลักสองเพลงในซีรีส์ Final Fantasy ที่คุ้นหูคอเกมเป็นอย่างดี โนบูโอะ อุเอมัตสึ ผู้ประพันธ์ Main Theme: Prelude เคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าทั้งชีวิตของเขาจะมีคนจำผลงานเขาได้เพียงชิ้นเดียว เขาอยากให้เป็น Prelude นี่เอง เพลงเพราะเพลงนี้ครบเครื่องทุกรสชาติ ทั้งฮึกเหิม บุกตะลุย เศร้าโศก โรมานซ์ และอ้อยอิ่ง เหมือนกับทั้งเรื่องราวในซีรีส์เกมมหากาพย์ และเรื่องราวความเป็นมนุษย์ที่ฉายผ่านโอลิมปิกเกมส์
.
เวอร์ชันที่เลือกมาเรียบเรียงและให้ออเคสตราบรรเลงในพิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิกมาจาก Final Fantasy VII เกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในซีรีส์ และดังนั้นจึงน่าจะติดหูคนมากที่สุด
.
3. Tales Of Zestiria - Sorey's Theme (The Shepherd) (3), Royal Capital ( 8 )
โมโตอิ ซากุราบะ นักประพันธ์ดนตรีประกอบเพลง อยู่เบื้องหลังเพลงติดหูในซีรีส์เกมมากมาย อาทิ Dark Souls, Mario Golf และ Star Ocean แต่ผลงานที่สร้างชื่อให้กับเขาที่สุดคือดนตรีประกอบซีรีส์ Tales จากค่าย Bandai Namco ด้วยความไพเราะและ “จัดเต็ม” เหมาะกับการเล่นแบบออเคสตราเต็มวง
.
4. Monster Hunter - Proof of Hero (4), Wind of Departure (9)
ธีมหลักของเกมซีรีส์ Monster Hunter ทุกเกม ปลุกเร้าให้ตื่นเต้น ฮึกเหิม และลุ้นระทึกในคราวเดียว บรรเลงระหว่างการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดและเตรียมตัวก่อนออกเดินทางไปผจญภัย เฉกเช่นนักกีฬาที่กำลังจะเข้าสู่สังเวียนประลองกำลัง
.
5. Kingdom Hearts - Olympus Coliseum (5), Hero’s Fanfare (15)
ดนตรีบรรเลงจากสนามกีฬาโอลิมปิกในเกม Kingdom Hearts เกมแรก (และก็ใช้ในเกมต่อๆ มาในซีรีส์นี้ด้วย) นับว่าเหมาะเจาะกับพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์โดยไม่ต้องตีความใดๆ โดยเฉพาะในเมื่อ โยโกะ ชิโมมูระ ผู้ประพันธ์เกมนี้ นำแรงบันดาลใจจากกรีกโบราณมาใช้ในการรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้
.
6. Chrono Trigger - Frog's Theme (6), Robo’s Theme (10)
เชื่อว่าคอเกมรุ่นเก๋าหลายคนน่าจะได้น้ำตาซึมเมื่อได้ยินดนตรีจาก Chrono Trigger เกม JRPG คลาสสิกขึ้นหิ้ง บรรเลงคลอพาเหรดนักดนตรี หลายคนคงหวนนึกถึงตอนที่เจอ Frog (กบ) อัศวินร่างกบที่เราได้มาเป็นพวกในช่วงแรกๆ ของเกม เพราะ Frog’s Theme คือเพลงประจำตัวของเขา ส่วน Robo’s Theme ก็เป็นเพลงคึกจังหวะสนุกอีกเกมที่ฟังครั้งเดียวก็ติดหูเลย เกม Chrono Trigger ทั้งเกมมีเพลงเพราะยอดนิยมมากมาย และทีมงานประพันธ์เมดเลย์ก็บรรเลงให้เราฟังอย่างจุใจด้วยการสอดแทรกธีมนี้ในหลายจุดของเมดเลย์
.
7. Ace Combat - First Flight (7)
ครึ่งทางของเมดเลย์ ออเคสตราสลับฉากออกจากเกมแนว JRPG (เกมสวมบทบาทแบบญี่ปุ่น) มาทางเกมแนวอื่นๆ บ้าง เริ่มจากเกมเพราะจากซีรีส์ Ace Combat เกมขับเครื่องบินรบสไตล์เกมตู้จากค่าย Bandai Namco เพลงนี้อาจไม่คุ้นหูคอเกมเท่ากับเพลงจากซีรีส์ JRPG ยอดฮิตทั้งหลาย แต่พอใส่มาในเมดเลย์ช่วงครึ่งทาง เพลงต่อสู้เร้าใจจากเกมนี้ก็เหมาะเจาะเลยทีเดียว
.
8. Sonic The Hedgehog - Starlight Zone (11)
จากความเร้าใจของ Ace Combat สลับฉากมาเป็นจังหวะชิลๆ ของเพลงจาก Sonic the Hedgehog เกมแอ็กชั่น 2D คลาสสิกค้างฟ้าจากค่าย SEGA ติดหูคอเกมมาตั้งแต่เจ้าเฮดจ์ฮอกจอมซ่า คู่แข่งมาริโอ ปรากฎตัวครั้งแรกในปี 1991 มาซาโตะ นาคามูระ นักประพันธ์เพลง วันนี้ผันตัวมาเน้นการแต่งเพลงประกอบโฆษณาโทรทัศน์และภาพยนตร์มากกว่าเกมแล้ว แต่ผลงานที่เขาฝากไว้ในเกมพิภพก็จะติดหูไปอีกนานแสนนาน
.
9. Winning Eleven - eFootball Walk-On Theme (12)
เกมเด่นจาก Winning Eleven ซีรีส์เกมฟุตบอลชื่อดัง (วันนี้เปลี่ยนชื่อเป็น eFootball) ทั้งเพราะและเหมาะสมด้วยความที่เป็นเกม “กีฬา” เกมเดียวในเมดเลย์ชุดนี้
.
10. Phantasy Star Universe – Guardians (14)
เกมเพราะจาก Phantasy Star ซีรีส์ JRPG ที่ดังเป็นพลุแตกในญี่ปุ่น แต่นอกประเทศคนไม่รู้จักเท่า Chrono Trigger และ Final Fantasy ดึงอารมณ์คนฟังเข้าสู่แดนผจญภัย แม้อาจฟังดูไม่ยิ่งใหญ่และครบรสเท่ากับเพลงจาก JRPG ช่วงแรกในเมดเลย์
.
11. Gradius - 01 ACT I-1 (16)
เซอร์ไพรส์ที่ผู้เขียนบทความนี้ชอบมากเป็นการส่วนตัว การเลือกเสียงเปียโนจังหวะสนุกๆ จากเกมตู้คลาสสิกของ Konami มาอยู่ในเมดเลย์ออเคสตราที่บรรเลงประกอบพาเหรดนักกีฬา นับเป็นการให้เกียรติเกมตู้ (arcade) จากยุคที่ “เกม” ยังถูกมองว่าเป็น “เรื่องไร้สาระ” หรือ “อบายมุข” (ซึ่งผ่านมาหลายทศวรรษแล้วบางสังคมก็ยังมีทัศนคติแบบนี้อยู่)
.
12. NieR - Song of The Ancients (17)
เพลงเพราะจาก NieR ซีรีส์ action RPG ชื่อดัง ซีรีส์นี้มีเพลงเพราะหลายเพลง แต่ที่น่าสนใจคือทีมประพันธ์เมดเลย์เลือกเพลง Song of the Ancients ซึ่งกลายเป็นเพลงเดียวในเมดเลย์นี้ที่ไม่ได้มีแต่เสียงดนตรีอย่างเดียว แต่มี “เนื้อร้อง” ด้วย เวอร์ชันในเกมขับร้องโดย เอมิโกะ อีวานส์ และประพันธ์โดย เคนิอิชิ โอกาเบะ
.
เนื้อร้องของเพลงนี้ไม่ใช่ภาษาใดๆ ที่ใครจะฟังออกเลย เพราะเขียนในภาษาปลอมที่ไม่มีอยู่จริงในโลก เรื่องราวของเกมบอกว่าภาษานี้คือ Chaos เกิดจากการผสมภาษาต่างๆ ในโลกเข้าด้วยกัน
.
การเลือกเพลงนี้จึงคล้ายจะสื่อว่า การเล่นกีฬานั้นเป็น “ภาษาสากล” ของคนทุกชาติในโลก ไม่ว่าจะแตกต่างกันมากเพียงใด
.
13. SaGa - The Minstrel's Refrain (เมดเลย์ฉบับปี 2016) (18)
ผลงานเด่นอีกชิ้นของ โนบุโอ อุเอมัตสึ นักประพันธ์ที่ดังเป็นพลุแตกจากเพลงที่เขาแต่งให้กับซีรีส์ Final Fantasy แต่ Romancing SaGa (ซึ่งจริงๆ ก็เป็นเกมที่เริ่มต้นจากการแตกแขนงมาจาก Final Fantasy) ก็เป็น JRPG อีกหนึ่งซีรีส์ที่มีเพลงเพราะๆ มากมายที่ อุเอมัตสึ ฝากผลงานเอาไว้ เวอร์ชันที่ออเคสตราบรรเลงในพิธีเปิดคือเวอร์ชันเมดเลย์ปี 2016 ที่ “จัดเต็ม” ในเกมด้วยวงออเคสตราเช่นกัน
.
14. SoulCalibur - The Brave New Stage of History (19)
เหมาะสมกับการเป็นเพลงปิดเมดเลย์ประกอบพาเหรดนักกีฬาด้วยประการทั้งปวง ผลงาน จูนิชิ นาคัทซึรุ เพลงนี้เป็นธีมหลักของ SoulCalibur VI เกมต่อสู้จากค่าย Bandai Namco เพลงให้อารมณ์ชวนออกไปผจญภัยเกมนี้บรรเลงประกอบฉากเลือกคู่ต่อสู้ 2 คน ที่จะมาประมือกันในสนามประลอง ราวกับจะบอกเราว่า ขอเชิญรับชมการประลองฝีมือของนักกีฬาจากทั่วโลก ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป!
.
เมดเลย์ดนตรีประกอบเกมญี่ปุ่นที่บรรเลงแบบ “จัดเต็ม” โดยวงออเคสตรา ไม่เพียงป่าวประกาศให้โลกรู้ว่า ญี่ปุ่นเป็น “ชาติมหาอำนาจ” เพียงใดในวงการเกมโลก หากแต่ยังเป็นการแสดงไมตรีจิตและความคารวะต่อเกม นักออกแบบเกม และการยกย่องเกมในฐานะสื่อสมัยใหม่ที่เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของคนหลายล้านคนทั่วโลก
.
รวมถึงแสดงพลานุภาพของ “เกม” ในการเป็นเครื่องมือที่สามารถผนึกความสมัครสมานสามัคคี มิตรภาพที่เบ่งบานระหว่างการต่อสู้หรือขับเคี่ยวแข่งขัน สะท้อนความมุมานะไม่เลิกราของมนุษย์ และชวนให้ขบคิดถึง “ความเหมือน” มากกว่า “ความต่าง” ระหว่างคนชาติต่างๆ
.
“เกม” ทั้ง 14 เกมที่ถูกเลือกดนตรีมาบรรเลงในพิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิก และเกมอีกมากมาย มีจุดร่วม “กีฬาโอลิมปิก” ในแง่นี้เอง
同時也有10部Youtube影片,追蹤數超過9,750的網紅Dainghia25,也在其Youtube影片中提到,Little Nightmares 2 wiki guide will walk you through getting the bully's key for the locked music room in The School. Getting the Bully's Key There’s ...
wiki walk 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
Encyclopédie หนังสือที่อ่านแล้ว มีโทษถึงประหารชีวิต /โดย ลงทุนแมน
“นายไม่อ่านหนังสือ นายจะรู้อะไร”
คำพูดของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี คงเป็นที่จดจำของใครหลายคน
แต่ถ้าย้อนกลับไปในประเทศฝรั่งเศสในปี 1749
การอ่านหนังสือบางเล่มกลับกลายเป็นสิ่งต้องห้าม
สมัยนั้น มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า Encyclopédie, ou dictionnaire raisonné des sciences, des arts et des métiers ได้ถูกตีพิมพ์ให้คนทั่วไปมีโอกาสเข้าถึงจนก่อให้เกิดการพัฒนาทั้งทักษะและความคิดครั้งใหญ่
แต่ Encyclopédie กลับถูกสั่งแบนทั้งห้ามอ่าน ห้ามจัดจำหน่าย และห้ามครอบครอง
ซึ่งโทษสูงสุดของผู้ที่ฝ่าฝืนคือ “การประหารชีวิต”
แล้วทำไมการอ่านหนังสือเล่มนี้ ถึงมีโทษร้ายแรง
และหนังสือมีบทบาทสำคัญต่อโลกอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดนี้ เกิดขึ้น ณ ประเทศฝรั่งเศสในปี 1745
เมื่อ André Le Breton เจ้าของสำนักพิมพ์สนใจนำหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ชื่อว่า Cyclopædia: or, An Universal Dictionary of Arts and Sciences
มาแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาฝรั่งเศสเพื่อวางจำหน่ายในประเทศ
โดยหนังสือเล่มนี้เป็นสารานุกรมรวบรวมบทความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และศิลปะ
เขาจึงได้จ้างนักเขียนที่ชื่อว่า Denis Diderot มาทำหน้าที่ในการแปลหนังสือ
ร่วมมือกับนักคณิตศาสตร์ชื่อว่า Jean Le Rond d'Alembert
ต้องบอกว่าช่วงเวลานั้น รัฐมักปิดกั้นความรู้และความคิดของชนชั้นล่าง
ขณะเดียวกันกลับส่งเสริมบารมีของชนชั้นสูง เช่น สถาบันกษัตริย์ ขุนนาง และเหล่านักบวช
ทำให้หนังสือส่วนใหญ่เน้นเรื่องราวเกี่ยวกับชนชั้นสูงมากกว่า
และไม่ค่อยมีหนังสือที่มีเนื้อหาที่มีประโยชน์แก่กลุ่มคนชนชั้นล่างมากนัก
แต่ด้วยความที่ผู้แปลหรือ Denis Diderot เป็นชายที่มีหัวขบถและชอบตั้งคำถาม
ทำให้ในเวลาต่อมาเขาเกิดตั้งคำถามกับตัวเองว่า
ทำไมจะต้องทำแค่แปลหนังสือ
ทำไมพวกเราไม่สร้างหนังสือขึ้นเอง
หนังสือที่จะทำให้ผู้คนเกิดความรู้และวิธีคิดครั้งใหญ่ขึ้นมา ?
หลังจากเกิดคำถามขึ้นในใจ
Denis Diderot ก็ได้เริ่มเกลี้ยกล่อม Jean Le Rond d'Alembert นักคณิตศาสตร์ที่มาช่วยแปลหนังสือให้เห็นด้วยกับโปรเจกต์ใหม่ของเขาและในที่สุดโปรเจกต์ระดับมหากาฬนี้ก็ได้กำเนิดขึ้น
โดยเป็นการสร้างสารานุกรมที่รวบรวมข้อมูลหลาย ๆ ศาสตร์เข้าด้วยกัน
มีทั้งศาสตร์ด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ และงานฝีมือ ที่มีประโยชน์แก่ผู้คน
รวมถึงแอบแฝงวิธีคิดอย่างมีเหตุมีผล และการตั้งคำถามกับสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ
แต่ทั้งคู่คิดว่าการมีผู้เขียนแค่ 2 คนคงไม่สามารถเขียนได้ครบจบทุกเรื่อง
เพราะภาระหนักเกินไปและแต่ละคนก็ใช่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกด้าน
พวกเขาจึงคัดเลือกและรวบรวมผู้เชี่ยวชาญในแต่ละศาสตร์
เพื่อมาเผยเคล็ดลับและความรู้ของตนให้ผู้คนได้รับรู้
ซึ่งโปรเจกต์นี้เองมีผู้เชี่ยวชาญมาให้ความร่วมมือถึง 150 คนเลยทีเดียว
และส่วนใหญ่เป็นตัวท็อปของแต่ละวงการนั้น ๆ อีกด้วย เช่น
Claude Bourgelat สัตวแพทย์ชื่อดังของฝรั่งเศส
Chevalier Louis de Jaucourt ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์
Voltaire นักปรัชญาที่มีชื่อเสียงด้านความเฉลียวฉลาด
ระหว่างทำโปรเจกต์นี้เอง Denis ก็ได้แยกตัวออกมาเขียนหนังสือของตัวเองเพิ่ม
อย่าง Philosophical Thoughts, The Skeptic's Walk และ Letter on the Blind
โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการไม่เชื่อในพระเจ้าหรือศาสนาคริสต์ รวมถึงมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ทำให้ Denis Diderot ถูกรัฐลงโทษจำคุกในที่สุด แต่เวลาต่อมาเขาก็ถูกปล่อยตัว
โดยเขาสัญญาว่าจะไม่กลับมาเขียนเรื่องแนวนี้อีก
แต่สัญญาก็ไม่ได้เป็นไปตามสัญญา
เพราะแทนที่เขาจะหยุด เขากลับไม่ได้เพียงแค่หันมาเขียนหนังสือเช่นเดิม
แต่กลับสร้างหนังสือที่กำลังจะสร้างผลกระทบครั้งใหญ่
โดยตัวเขาได้เขียนเกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์ชนชั้นสูงเหมือนเดิม
แต่ทำให้กลมกลืนไปกับเนื้อหาเรื่องอื่น ๆ ด้วยการแฝงใจความสำคัญเข้าไป
ซึ่งหลังจากตีพิมพ์หนังสือออกมา หนังสือของเขาก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
และได้รับการตอบรับที่ดีจากชนชั้นล่าง ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ
สำหรับเนื้อหาในหนังสือเป็นเรื่องที่ผู้คนเข้าถึงได้ง่าย สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ซึ่งเป็นเกร็ดความรู้ของแต่ละสายอาชีพ
เช่น ความรู้เกี่ยวกับพืชผัก ลักษณะ การปลูกและเลี้ยงดู
การก่อสร้างอาคาร การผลิตสิ่งทอ การผลิตเครื่องปั้นดินเผา
และอื่น ๆ อีกมากมายที่ส่งผลต่อปากท้องของผู้คน
ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ เพราะเวลานั้นผู้คนจะไม่ค่อยแบ่งปันเคล็ดลับให้คนอื่น
และแม้ว่าจะมีการแบ่งปันความรู้อยู่บ้าง แต่ก็เป็นแค่ระดับคนใกล้ชิด
จึงทำให้หนังสือฉบับนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คน
เท่านั้นไม่พอ หนังสือยังมอบมุมมองและวิธีตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวบนโลกใบนี้ด้วย
อย่างความเชื่อที่ส่งต่อกันมา เราจะสามารถพิสูจน์ได้อย่างไรว่าจริงหรือเท็จ
รวมถึงแต่ละเรื่องมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เช่น ทำไมชนชั้นตัวเองต้องอยู่อย่างลำบาก ในขณะที่คนอีกกลุ่มอยู่อย่างสุขสบาย
ด้วยการตั้งคำถามแบบนี้ ทำให้ผู้คนเริ่มเกิดวิธีคิดแบบใหม่
แทนที่จะเป็นการเชื่อหรือตัดสินอะไรโดยทันที
มาเป็นการพิจารณาและวิเคราะห์เรื่องราวนั้น ๆ ก่อน
นอกจากนี้สารานุกรมยังยกย่องชนชั้นระดับล่างหรือแรงงาน
ว่าเป็นผู้ที่มีเกียรติและอุตสาหะ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ
ไม่ได้เป็นเพียงผู้ต่ำต้อยอย่างที่เข้าใจกัน
ในทางกลับกัน หนังสือก็ได้ตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของกลุ่มคนชนชั้นสูงว่ามีความจำเป็นหรือไม่
หรือกลุ่มคนเหล่านี้เป็นตัวส่งเสริมหรือขัดขวางความเจริญของประเทศกันแน่
จากเรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวไป ก็ทำให้ผู้คนตระหนักและเข้าใจถึงสถานการณ์ของตนเองมากขึ้น
รวมถึงเริ่มเข้าใจถึงการแบ่งแยกชนชั้น และการถูกเอารัดเอาเปรียบ
ส่งผลให้หลังจากการตีพิมพ์ฉบับที่ 2 ออกมาได้ไม่นาน
พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ได้สั่งห้าม ไม่ให้ประชาชนมีหนังสือไว้ในครอบครอง
เพื่อป้องกันการต่อต้านและตื่นรู้จากกลุ่มชนชั้นล่าง
นอกจากนี้ พระสันตะปาปาเคลมองต์ที่ 13 เองก็มีคำสั่งให้เผาหนังสือทั้งหมด
รวมถึงหนังสือต้นฉบับ โดยให้เหตุผลว่า มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายและสร้างกิเลสจนเกินไป
แต่โชคก็ยังเข้าข้าง Denis Diderot อยู่บ้าง
เมื่อหัวหน้าผู้ตรวจที่รับผิดชอบบุกค้นบ้านอยู่ข้างเดียวกับเขา
ช่วยให้เขาสามารถแอบเก็บต้นฉบับได้ทัน และลักลอบออกไปตีพิมพ์นอกประเทศได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามหลังจากโปรเจกต์สารานุกรมโดนแบน ชีวิตของ Denis Diderot ก็เริ่มแย่ลง
เพื่อนพ้องถอยห่างจากเขา ตัวเขาเองก็ถูกเจ้าหน้าที่คุกคาม
และการงานอาชีพของเขาก็ค่อย ๆ ลดหายลงไป
ด้วยความที่ Denis Diderot เป็นคนที่มุ่งมั่นและแพ้ไม่เป็น
เขาก็ยังคงตั้งตาเขียนบทความออกมาอยู่เรื่อย ๆ รวมกันแล้วประมาณ 7,000 บทความ
แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ต้องพบเจอกับความผิดหวัง
เมื่อบทความเหล่านั้นถูกเซนเซอร์เนื้อหาหลังจากตีพิมพ์
เพราะสำนักพิมพ์ก็กลัวอำนาจของรัฐเช่นกัน
บั้นปลายชีวิตของ Denis Diderot จึงคิดว่าโปรเจกต์ที่สร้างมาโดยตลอด น่าจะล้มเหลว..
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็ต้องบอกว่าเขาคิดผิด
เพราะแม้ว่าหลังจากโปรเจกต์นี้จะถูกแบนไป แต่มันก็ได้ทำหน้าที่ไปเรียบร้อยแล้ว
โดยสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น คือคนฝรั่งเศสเริ่มรู้จักใช้ความคิดอย่างมีเหตุมีผล
นอกจากนี้ จากการที่หนังสือถูกแบน ก็เป็นตัวเร่งให้ผู้คนเกิดความสงสัย
และอยากรู้กันมากขึ้นจนผลักดันให้พวกเขาศึกษาและหาความรู้เพิ่ม
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้เอง ก็เป็นส่วนสำคัญ
ที่นำไปสู่การปฏิวัติครั้งใหญ่ในฝรั่งเศสเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในเวลาต่อมา..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.britannica.com/biography/Denis-Diderot
-https://www.youtube.com/watch?v=jv4bWkoG4k8
-https://library.wustl.edu/news/a-revolutionary-encyclopedia/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Encyclop%C3%A9die
-https://en.wikipedia.org/wiki/Denis_Diderot
-https://en.wikipedia.org/wiki/Encyclop%C3%A9distes
wiki walk 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
กรณีศึกษา Casper ธุรกิจขายที่นอน ออนไลน์ /โดย ลงทุนแมน
“ไอเดียนี้แย่มาก ไม่มีใครซื้อที่นอนทางอินเทอร์เน็ตกันหรอก”
นี่คือคำพูดของกลุ่มนักลงทุน ที่ปฏิเสธให้เงินเจ้าของบริษัท Casper ไปเริ่มต้นธุรกิจขายที่นอนออนไลน์
ซึ่งอาจเพราะในอดีต คนยังคุ้นเคยกับการไปซื้อที่นอนตามหน้าร้านอยู่...
Continue ReadingCase study Casper. Online / Investing mattress business.
′′ This idea is terrible. No one will buy internet mattresses
This is the quote of a group of investors who refuse to get money for Casper company to start an online mattress business.
Maybe because in the past, people are still familiar with buying beds in front of the store.
But Casper finally can erase those beliefs
And make online mattresses widely popular
How do they use DISRUPT mattress market
Investing man will tell you about it.
╔═══════════╗
Blockdit. Analytical article source.
Deep content penetrating
Podcast feature recently.
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Casper is an online retail business from USA
Founded in 2014 or just 6 years ago
The main products that the company has chosen to sell are ′′ bed ′′
Because it's something to use regularly because humans sleep average of 6-8 hours a day.
However, Casper in the early stages couldn't convince investors to care about their business.
Y ' all don't believe consumers buy site mattresses that often.
Because it's quite expensive and the product has been used for years.
This industry is also a large market worth around 1,200,000 million baht.
With a lot of retail players competing fiercely
Making the owner of the company to pay personal money. Try to produce the product first. Until it's in debt of 3 million baht.
Casper's mattresses are designed with good quality materials like Memory Foam, which fits the user's body, so it reduces pressure and makes us sleep better.
The sale price is between 11,000 to 35,000 baht, which is not expensive like various retail stores.
Including the company is open to return within 100 days and warranty for 10 years.
When businesses look into form, there is a group of Venture Capital investors coming to support funding.
Make Casper finally able to launch the platform
Originally, they predicted the first year of income at around 60 million baht.
But the result appears that just the first 2 months, sales have gone through the target.
If you ask me why Casper mattresses are selling well.
The answer would be a marketing strategy that attracts consumers in this era.
Casper's most highlights. Apart from quality and price.
It's packing small boxed mattress products to be shipped to customers.
When the box is removed, put it on the base of the bed, the mattress will gradually blister up as if it lives.
This unique creates a trend of posting video clips, unpacking boxes and placing Casper mattresses on social media platforms.
Especially when famous people post like Kylie Jenner's case talking about their Instagram and YouTube casper mattresses generated over 870,000 likes.
Therefore, companies are primarily focused on advertising on social media
By hiring actresses and influencer to make casper product containers
Later, when the brand is famous, there are more interested in investing.
Target major retail malls, A-Grade Investment. Ashton Kutcher's fund.
Or entertainment industry people like Tobey Maguire, Leonardo DiCaprio, Adam Levine etc.
The company therefore puts future vision to step into a virtual Nike of sleep.
By expanding the business to other sleep related items such as pillow, bed sheet, lamp.
Also invested to build over 200 storefronts
And expanding services to foreign countries such as Canada, Germany, England.
Performance of Casper Sleep Inc. Continuing to grow
Year 2017 Income 7,900 million baht. Loss of 2,300 million baht.
Year 2018 Income 11,200 million baht. Loss of 2,900 million baht.
Year 2019 Income 13,800 million baht. Loss of 2,950 million baht.
Casper used to be evaluated by business value at 34,500 million baht. It is a starter cuddle Unicorn decoration.
And on February 2020, the company got the IPO listed into the New York Stock Exchange.
But the latest stock value has gone down to around 11,300 million baht.
This may be the result of Casper's losses and marketing advertisement costs quite high.
Assemble Casper's success, it has resulted in competitors selling online mattresses for less than 175 companies.
Including big ones like Walmart and Amazon
Online mattress selling has become a new trend in the market which makes the largest US mattress firm retailer named Mattress Firm who has been in business for 33 years. Sales of 107,000 million baht. Bankruptcy announced in 2018
This is an interesting case study
Although the product doesn't seem to fit online sales.
But did you know that when we walk in the mall to buy a mattress, we listen to the sales staff speak differently than we see online reviews. Trying with a real mattress may not affect the decision that we initially thought.
If you can make a point of selling by letting people review the products.
So that there is a trend. Let's talk about it widely.
Maybe we can sell the kind that people don't think they can sell like Casper's bed..
╔═══════════╗
Blockdit. Analytical article source.
Deep content penetrating
Podcast feature recently.
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Follow to invest in man at
Website - longtunman.com
Blockdit-blockdit.com/longtunman
Facebook-@[113397052526245:274: lngthun mæn]
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram-instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.cnbc.com/2019/04/05/how-caspers-founders-built-a-billion-dollar-mattress-start-up.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Casper_Sleep
-https://casper.com/
-https://www.statista.com/chart/20729/revenue-and-net-loss-of-casper/
-https://www.cnbc.com/2019/08/18/there-are-now-175-online-mattress-companiesand-you-cant-tell-them-apart.html
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Mattress_FirmTranslated
wiki walk 在 Dainghia25 Youtube 的最讚貼文
Little Nightmares 2 wiki guide will walk you through getting the bully's key for the locked music room in The School. Getting the Bully's Key
There’s a crank to the back right of the piano, so head back there and start turning it. This will lift the piano up a little ways, then it’ll drop and break the flooring. However, it’s not all the way, so you and Six will have to jump on it until it fully breaks through the floor. n this next room, there’s a vent on the left side that Six will boost you through. On the other side is a Bully that’s holding a key. While the Bully is busy playing with it, drop down quietly and sneak over to the piece of wood, which you can use as cover.
Six will then distract the Bully by stepping on the piano, giving you some time to grab the pipe that was next to the Bully and smack it. Then, head over to the door on your right and Six will help you open it a crack to go back into the room.
Then, head over to the door and unlock it.

wiki walk 在 Dainghia25 Youtube 的精選貼文
Little Nightmares 2 wiki guide will walk you through the first puzzle you'll encounter when entering The School.
Entering the School
Climb up the rope on the side of the building, then through the window. You’ll notice a switch on the wall, flip it and it will turn off the lights. You’ll see a tiny bit of light shining through one of the pictures on the wall. Now, you’ll have to find a way to knock it down.
Head down the hallway and enter the room on the left that’s filled with bunk beds. Grab an object off the floor, and head back to the picture. Toss this item at it and it’ll fall down, then crawl through the hole.
You’ll then find yourself in a room with a chair in the middle. If you move around the floor a bit, you’ll notice some unstable flooring. With Six’s help, jump up and down on it until it breaks.
From here, continue making your way under the floor until you reach a drop off. Jump down on the platforms until you’re at the bottom, then remove the vent on the right. Crawl through until you drop on the other side near some lockers.
▶ SUBSCRIBE MY CHANNEL : https://goo.gl/VPOrGK
▶ RENUMBER LIKE, SUBSCRIBE AND SHARE MY VIDEO!!!
▶ Fanpage Facebook : https://www.facebook.com/dainghia25gaming
▶ Facebook : https://www.facebook.com/dainghia25

wiki walk 在 Dainghia25 Youtube 的最佳解答
Little Nightmares 2 wiki guide will walk you through the TV puzzle. You'll encounter this one right away after entering into The Pale City.
Sneak through the broken door on the right and over into the next room. Here, you’ll find a bunch of TVs stacked on top of each other. These will come in handy later. For now, Six will boost you through the window. Now, you have to get her over. There will be a hook swinging in the middle of the room. Jump from the TV on the right over to it and swing into the TV on the left. Keep kicking it until it knocks over, and this will shoot you upwards. Then, swing over to the left and jump onto the platform.
Head through the door on the left and push the remaining TV down. This will lift Six up so she can join you again. Head back out the doorway on the right and meet her by the stairs. You’ll have to jump and grab her hand, so make sure to get a running start.
#dainghia25
▶ SUBSCRIBE MY CHANNEL : https://goo.gl/VPOrGK
▶ RENUMBER LIKE, SUBSCRIBE AND SHARE MY VIDEO!!!
▶ Fanpage Facebook : https://www.facebook.com/dainghia25gaming
▶ Facebook : https://www.facebook.com/dainghia25
