สหรัฐอเมริกา ประเทศที่มีผู้อพยพเข้าไป มากที่สุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ทุก 1 ใน 4 ของประชากรผู้อพยพจากทั่วโลก มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
จนทำให้กลายเป็นประเทศที่มีผู้อพยพมากที่สุดในโลก..
ปี 2019 จำนวนผู้อพยพที่เข้ามาอาศัยในสหรัฐอเมริกาและยังมีชีวิตอยู่ มีจำนวน 51 ล้านคน
หรือประมาณ 15% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศ
ทำไมสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้อพยพเข้ามาอาศัยจำนวนมาก
แล้วสหรัฐอเมริกาได้ประโยชน์อะไรจากการมีผู้อพยพเข้ามาในประเทศ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ถ้าถามว่า จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์การอพยพของมนุษยชาติเกิดขึ้นมาเมื่อไร ?
คำตอบคือ เกิดขึ้นในช่วงประมาณ 70,000-100,000 ปีที่แล้ว เมื่อมนุษย์โฮโมเซเปียนส์เริ่มออกเดินทางจากทวีปแอฟริกา ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง ก่อนจะค่อย ๆ แยกย้ายไปยังยุโรป เอเชีย อเมริกา และออสเตรเลียในที่สุด
ซึ่งการอพยพของมนุษย์ในยุคนั้นก็เพื่อหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เป็นภัยต่อการใช้ชีวิตและดำรงเผ่าพันธุ์ของตนเองไว้
แม้ว่าเวลาจะผ่านมาเป็นหมื่นเป็นแสนปี แต่ทุกวันนี้การอพยพก็ยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ยังคงอยู่กับมนุษยชาติ ปัจจุบันทั่วโลกมีประชากรที่อพยพรวมกันกว่า 272 ล้านคน หรือประมาณ 3% ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมดไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศบ้านเกิด
ซึ่งการอพยพนั้น อาจเกิดมาจากความเต็มใจหรือถูกสถานการณ์บังคับ ทำให้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้น ต้องการอพยพเพื่อย้ายไปอยู่ในประเทศอื่นที่พวกเขาเชื่อว่า จะทำให้ชีวิตตนเองนั้นดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ปี 2019 ประเทศที่มีจำนวนผู้อพยพที่เข้ามาอาศัยในประเทศมากที่สุด 3 อันดับแรกของโลก คือ
1. สหรัฐอเมริกา 51 ล้านคน
2. เยอรมนี 13 ล้านคน
3. ซาอุดีอาระเบีย 13 ล้านคน
สำหรับสหรัฐอเมริกา..
ประเทศแห่งนี้สร้างขึ้นมาจากการต่อสู้กับการกดขี่ข่มเหงของเจ้าอาณานิคม
ในวันที่ประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ สิ่งที่อยู่ในคำประกาศอิสรภาพ
คือการปกป้องสิทธิในการใช้ชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข
ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นหลักความเชื่อที่สำคัญที่สุดสำหรับชาวอเมริกันทุกคน
ชาวอเมริกันจึงให้ความสำคัญกับเสรีภาพทางการคิด การพูด และการแสดงออกเป็นอย่างมาก ความคิดเห็นอะไรก็ตามที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ล้วนมีความเป็นไปได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
สิ่งเหล่านี้เองที่เป็นแรงดึงดูดให้นักคิด นักประดิษฐ์ นักผจญภัยจากทั่วโลก เข้ามาตั้งถิ่นฐาน และเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนให้สหรัฐอเมริกาก้าวขึ้นมาจนเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอันดับ 1 ของโลกในปัจจุบัน
ตัวอย่างของผู้อพยพจากทั่วโลกที่เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมอเมริกัน
ไม่ว่าจะเป็น..
ตระกูล Rockefeller ตระกูลนักธุรกิจชื่อดัง อพยพจากเยอรมนีเข้ามาสหรัฐอเมริกาช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดย John D. Rockefeller เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Standard Oil บริษัทน้ำมันที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
Nikola Tesla นักประดิษฐ์ นักฟิสิกส์ และวิศวกรชาวเซิร์บ อพยพเข้ามาสหรัฐอเมริกาในปี 1884 ผู้พัฒนาระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ผู้คิดค้นหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์และรีโมตคอนโทรล
Albert Einstein นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันเชื้อสายยิว อพยพเข้ามาสหรัฐอเมริกาในปี 1933 เขาเป็นคนนำเสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติของแรงโน้มถ่วง
Sergey Brin ผู้อพยพชาวรัสเซีย อพยพเข้ามาสหรัฐอเมริกาในปี 1979 เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Google ซึ่งเป็น Search Engine อันดับ 1 ของโลกในปัจจุบัน
Jandali ผู้อพยพชาวซีเรีย ที่เข้ามาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกา บิดาของ Steve Jobs ผู้ก่อตั้ง Apple บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ วันนี้
สหรัฐอเมริกาคือดินแดนที่ทำให้พวกเขาเหล่านี้มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต
รวมทั้งเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น ผู้อพยพหลายคนถึงกับตั้งฉายาให้กับประเทศแห่งนี้ว่า “Land of Opportunity”
เราลองมาดูว่า 50 ปีที่ผ่านมา มีผู้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกามากแค่ไหน ?
ปี 1970 จำนวนผู้อพยพ 12 ล้านคน เป็นสัดส่วน 5% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ปี 2019 จำนวนผู้อพยพ 51 ล้านคน เป็นสัดส่วน 15% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ปัจจุบัน โดยเฉลี่ยแล้วในแต่ละปีจะมีผู้อพยพเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ขณะที่ในปี 2019 นั้น 3 ประเทศที่มีผู้อพยพเข้ามายังสหรัฐอเมริกามากที่สุดคือ เม็กซิโก จีน และอินเดีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 26% ของจำนวนผู้อพยพเข้าไปยังสหรัฐอเมริกาทั้งหมด
ทีนี้มาดูว่า แล้วทำไมในแง่ของสหรัฐอเมริกา จึงยังต้องการให้มีผู้อพยพเดินทางเข้าไปเรื่อย ๆ
เรื่องแรก เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
การมีแรงงานอพยพที่มากจะช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจนั้นเติบโตทั้งในแง่ของการผลิตและการบริโภค โดยเฉพาะการบริโภคนั้นถือว่ามีความสำคัญเนื่องจากมีสัดส่วนสูงถึง 70% ของ GDP สหรัฐอเมริกา
ในปี 2019 แรงงานในสหรัฐอเมริกา ที่เป็นผู้อพยพมีจำนวนเท่ากับ 28 ล้านคน หรือประมาณ 15% ของจำนวนแรงงานทั้งหมดของประเทศ
แรงงานอพยพ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หลายธุรกิจในสหรัฐอเมริกานั้นเติบโต ไม่ว่าจะเป็น
แรงงานที่ใช้ทักษะทั่วไปในภาคเกษตรกรรม ภาคบริการ รวมทั้งงานที่คนอเมริกันไม่ต้องการทำ
แรงงานที่ใช้ทักษะขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมเมอร์ วิศวกร ซึ่งแรงงานเหล่านี้ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยทำให้สหรัฐอเมริกาคงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลกได้ในอนาคต
ที่ลืมไม่ได้เลยคือ แรงงานที่เป็นผู้อพยพนั้น ถือเป็นแหล่งรายได้จากการเก็บภาษีที่สำคัญของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ข้อมูลสรรพากรของสหรัฐอเมริการะบุว่า ในปี 2017 แรงงานอพยพในสหรัฐอเมริกาจ่ายเงินภาษีรวมกันกว่า 13 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นขนาดที่เกือบเท่า GDP ของประเทศไทยทั้งประเทศเลยทีเดียว
ซึ่งเงินภาษีเหล่านี้ ถือเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับกองทุนประกันสังคมและกองทุนที่ใช้ในโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
การย้ายถิ่นฐานของแรงงานอพยพ ยังช่วยชดเชยการลดลงของกำลังแรงงานของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากคนอเมริกันในยุค Baby Boomer หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทยอยเข้าสู่วัยเกษียณไปเรื่อย ๆ
ขณะที่ในปี 2020 บริษัทชั้นนำ 500 อันดับของสหรัฐอเมริกา หรือฟอร์จูน 500 นั้น เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยกลุ่มผู้อพยพ มีสัดส่วนถึง 44%..
เรียกได้ว่า ผู้อพยพกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอเมริกันไปแล้ว
พวกเขาไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจของประเทศ
แต่ยังทำให้เกิดความหลากหลายทางด้านสังคมและวัฒนธรรมอีกด้วย
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศพัฒนาแล้วไม่กี่ประเทศ ที่ถูกคาดว่าจะมีประชากรเพิ่มขึ้นในปี 2050 ซึ่งจะเพิ่มขึ้นราว 50 ล้านคน จากประชากร 330 ล้านคนในปี 2020
โดยสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นก็มาจากผู้อพยพนั่นเอง
เรื่องนี้ตรงกันข้ามกับประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป ที่ประชากรมีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคต
จีน ที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญของสหรัฐอเมริกาก็พบกับปัญหาที่ประชากรมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวเช่นกัน เพราะจีนไม่ได้เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติซึ่งไม่สามารถดึงดูดผู้อพยพได้เท่าไรนัก
หรือแม้แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยเอง ที่มีผู้อพยพจากประเทศใกล้เคียงอยู่จำนวนหนึ่ง ก็ยังเจอปัญหาประชากรที่มีแนวโน้มลดลงในอนาคตเช่นกัน
การอพยพของมนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานตั้งแต่ยุคโบราณ จนมาถึงวันนี้และน่าจะมีต่อไปในอนาคต
แต่การที่มนุษย์จะอพยพไปที่ไหนนั้น
ก็คงตอบได้ว่า เป็นสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี มีโอกาสรอบด้านที่จะทำให้ตัวเขา รวมไปถึงลูกหลานของเขาอยู่รอดปลอดภัย และอยู่ดีกินดี นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.migrationpolicy.org/article/frequently-requested-statistics-immigrants-and-immigration-united-states-2020#:~:text=How%20many%20immigrants%20reside%20in,of%204.7%20percent%20in%201970.
-https://www.un.org/sites/un2.un.org/files/wmr_2020.pdf
-https://mullin.house.gov/news/documentsingle.aspx?DocumentID=612#:~:text=Since%20its%20beginning%2C%20America%20has,own%3A%20an%20opportunity%20to%20succeed.
-https://www.khanacademy.org/humanities/world-history/world-history-beginnings/origin-humans-early-societies/a/where-did-humans-come-from#:~:text=Between%2070%2C000%20and%20100%2C000%20years,35%2C000%20and%2065%2C000%20years%20ago.
-https://www.sapiens.org/biology/early-human-migration/#:~:text=from%20SAPIENS&text=In%20a%20study%20published%20today,just%20over%20100%2C000%20years%20ago.
-https://www.bls.gov/opub/ted/2020/foreign-born-workers-made-up-17-point-4-percent-of-labor-force-in-2019.htm
-https://www.sandiegouniontribune.com/business/economy/story/2020-02-28/does-the-u-s-need-more-legal-immigration
- https://americasvoice.org/blog/immigration-101-immigrant-taxes/
-https://www.thebalance.com/components-of-gdp-explanation-formula-and-chart-3306015
-https://data.newamericaneconomy.org/en/fortune500-2020/#exploratory_tool
-https://citizenpath.com/countries-with-the-most-immigrants/
-https://www.populationpyramid.net/united-states-of-america/2050/
「the standard ผู้ก่อตั้ง」的推薦目錄:
- 關於the standard ผู้ก่อตั้ง 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於the standard ผู้ก่อตั้ง 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於the standard ผู้ก่อตั้ง 在 Fit Junctions Facebook 的最佳解答
- 關於the standard ผู้ก่อตั้ง 在 ประวัติศาสตร์ 90 นาที THE STANDARD | The Secret Sauce EP ... 的評價
- 關於the standard ผู้ก่อตั้ง 在 the secret sauce - ประวัติศาสตร์ 90 นาที THE STANDARD 的評價
- 關於the standard ผู้ก่อตั้ง 在 เฮียวิทย์ คุยสด เคน นครินทร์ เบื้องหลังสร้าง SMEs ที่ชื่อ THE ... 的評價
the standard ผู้ก่อตั้ง 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
เราอยากเป็นเจ้าของ Flash หรือ Kerry ? /โดย ลงทุนแมน
ถ้าเราเป็นนักลงทุนที่มีเงินมากพอ แล้วมี 2 กิจการให้เลือก ระหว่าง Flash และ Kerry ที่ทำธุรกิจขนส่งพัสดุเหมือนกัน
โดยราคาของกิจการ Kerry เป็น 2 เท่าของ ราคากิจการ Flash
เป็นเรา เราจะเลือกลงทุนในดีลไหน ?
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับมูลค่าของ 2 กิจการนี้ ในตอนนี้
Kerry Express จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่าบริษัทล่าสุด 75,000 ล้านบาท
ส่วน Flash Express ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาด แต่วันนี้บริษัทสามารถถระดมทุนซีรีส์ D+ และ E ในมูลค่ากิจการระดับยูนิคอร์นตัวแรกของไทย ที่ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 31,000 ล้านบาท
คำนวณแล้ว มูลค่ากิจการ Kerry Express ตอนนี้จะเป็น 2.4 เท่าของ Flash Express
แล้วผลประกอบการของ 2 บริษัทนี้เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะมาเจาะลึกให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บริษัท Flash Express
ปี 2561 รายได้ 47 ล้านบาท ขาดทุน 183 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 2,123 ล้านบาท ขาดทุน 1,666 ล้านบาท
และจากในบทสัมภาษณ์กับ THE STANDARD คุณคมสันต์ ลี ผู้ก่อตั้ง Flash Express บอกว่า ปี 2563 รายได้บริษัทเติบโต 600% นั่นก็อาจคำนวณรายได้ ปี 2563 ได้ประมาณ 14,900 ล้านบาท
บริษัท Kerry Express
ปี 2561 รายได้ 13,668 ล้านบาท กำไร 1,185 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 19,895 ล้านบาท กำไร 1,329 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 19,010 ล้านบาท กำไร 1,405 ล้านบาท
สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ
การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Flash 4,464% ในปี 2562 และ 600% ในปี 2563 อย่างไรก็ตามบริษัทก็น่าจะเติบโตพร้อมกับการขาดทุน เพราะบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างเร่งขยายกิจการ
ในขณะเดียวกัน Kerry เป็นธุรกิจที่สามารถทำกำไรระดับพันล้านบาทต่อปี มาอย่างต่อเนื่อง
แต่ในปี 2563 ที่รายได้ของบริษัทก็ลดลง ซึ่งบริษัทระบุว่าเป็นผลมาจากโรคระบาด และการปรับราคาค่าบริการลงเพื่อเจาะตลาดขนส่งแบบประหยัด
ซึ่งจริง ๆ แล้ว การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่มากขึ้น ก็น่าจะมีส่วนที่ทำให้รายได้ของ Kerry ไม่เติบโต
และเมื่อดูจากรายได้ด้านบน ก็พอจะเดากันได้ว่าหนึ่งในคู่แข่งคนสำคัญของ Kerry ก็คือ “Flash”
ถ้าเราเป็นนักลงทุน เราจะเลือกอะไร ? ระหว่าง
-การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ Flash ที่แลกมาด้วยผลขาดทุน
-หรือ Kerry ที่มีกำไรปีละพันล้านบาท แบรนด์คุ้นหูกว่า แต่เติบโตไม่แรง
เก็บคำตอบไว้ในใจ แล้วมาดูข้อมูลกันต่อ..
ถ้าบอกว่ามีแค่ 2 เจ้านี้ เป็นผู้เล่นคนสำคัญ อยู่ในตลาดขนส่งพัสดุเมืองไทย ก็ไม่น่าจะถูกต้อง
แล้วในตลาดขนส่งพัสดุ มีผู้เล่นที่สำคัญรายไหน อีกบ้าง ?
คำตอบแรกก็คือ ไปรษณีย์ไทย ที่ปี 2563 มีรายได้ 24,211 ล้านบาท กำไร 385 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าไปรษณีย์ไทยก็ยังมีรายได้เป็นอันดับหนึ่งในตลาด แต่กำไรของไปรษณีย์ไทยก็ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อ ปี 2561 ไปรษณีย์ไทยเคยมีรายได้มากถึง 29,728 ล้านบาท และกำไร 3,826 ล้านบาท นี่เท่ากับว่า กำไรของไปรษณีย์ไทยหายไป 90% ใน 2 ปี
ในขณะเดียวกัน การเข้ามารุกธุรกิจขนส่งพัสดุของเจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
เช่น Lazada และ Shopee ก็ถือเป็นผู้เล่นที่น่ากลัวสำหรับรายอื่น
อย่างในกรณีของ Lazada Express ที่รายงานผลประกอบการปีล่าสุดแล้ว
ปี 2562 รายได้ 4,685 ล้านบาท ขาดทุน 794 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 6,845 ล้านบาท ขาดทุน 1,676 ล้านบาท
ในเมื่อตลาดแข่งขันกันดุเดือดขนาดนี้
ที่สำคัญคือ หลายบริษัทแสดงผลประกอบการที่ขาดทุน
แล้วทำไม Flash Express ถึงเป็นยูนิคอร์นได้ ?
เหตุผลที่ Flash Express ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ น่าจะมี 3 เหตุผลหลัก ที่ธุรกิจสตาร์ตอัปอื่นในไทยยังทำไม่ได้
1. ตลาดการขนส่งพัสดุเป็นตลาดที่ใหญ่พอที่จะสร้างรายได้ขนาดใหญ่หลักหมื่นล้านบาท และเป็นตลาดที่กำลังเติบโตสูงล้อไปกับเทรนด์อีคอมเมิร์ซที่หอมหวาน
ยูนิคอร์นต้องการมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท พอบริษัททำรายได้หลักหมื่นล้านบาท ดังนั้นขอแค่เพียงตลาดในประเทศไทยเพียงประเทศเดียวก็ทำให้สตาร์ตอัปที่เป็นผู้นำในตลาดนี้สามารถเป็นยูนิคอร์นได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาการขยายไปต่างประเทศ ซึ่งต่างจากสตาร์ตอัปที่อยู่ในธุรกิจอื่นที่อาจมีขนาดตลาดที่เล็กเกินไปในประเทศไทย
2. Flash Express มีผู้ก่อตั้งคือ คุณคมสันต์ ลี ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าสู้ ปั้นบริษัทใน 4 ปี จากรายได้ไม่เท่าไร กลายเป็นบริษัทที่มีรายได้หลักหมื่นล้านบาท ที่สำคัญคุณคมสันต์เป็นคนพรีเซนต์เก่ง ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนเชื่อและยอมให้เงินลงทุน
ถ้าให้บริษัทขนส่งพัสดุรายอื่น มาระดมทุน ก็อาจจะไม่ได้มูลค่าระดับนี้ เหตุผลง่าย ๆ ก็คือบริษัทนั้นไม่มีคุณคมสันต์ ลี ที่ไม่สามารถโน้มน้าวคนให้เงินทุนได้
3. ประเทศไทยมีบริษัทใหญ่ที่มีเงินทุนเหลือ และต้องการกระจายไปทำธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น เช่นในคราวนี้ ก็จะมี OR, Krungsri Finnovate, SCB10X, Durbell ที่เป็นผู้ให้เงินลงทุน ซึ่งแต่ละบริษัท เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ผลิตกำไร หรือ กระแสเงินสด ได้ปีละเป็นหลักหมื่นล้านบาท
การให้เงินทุนเพื่อขยายธุรกิจใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่บริษัทใหญ่ถูกบังคับให้ทำ ในยุคสมัยที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะบริษัทใหญ่ต่างกลัวว่าสักวันหนึ่งตัวเขาเองจะถูกบริษัทหน้าใหม่มาดิสรัปต์
กลับไปที่คำถามของบทความนี้
Flash และ Kerry บริษัทไหนน่าลงทุนมากกว่ากัน ?
แต่ละคนก็คงมีคำตอบแตกต่างกัน เพราะมีไอเดียในการลงทุนแตกต่างกัน
บางคนชอบบริษัทโตเร็วแบบ Flash
บางคนชอบกำไรเน้น ๆ ในตอนนี้แบบ Kerry
แต่คำถามนี้ก็คงช่วยเปิดมุมมองให้กับเราว่าในบางครั้งเราก็คิดอะไรได้เยอะกับข่าวที่เกิดขึ้น
เพราะทุกอย่างในโลกของการลงทุน มันสามารถวัดมูลค่า และนำมาเปรียบเทียบกันได้เสมอ ว่าดีลไหนน่าสนใจมากกว่า ไม่เว้นแม้แต่ดีลของ Kerry ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และทำธุรกิจคล้ายกันกับ Flash ที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์
แต่เรื่องนี้เมื่อเราได้เห็นตัวเลขการแข่งขัน
ทั้ง ไปรษณีย์ไทย, Kerry, Flash, Lazada, Shopee
ไม่ว่าใครจะมีรายได้เติบโตหรือถดถอยอย่างไร แต่กำไรของบริษัทเหล่านี้น่าจะถูกกดดันจากการแข่งขันที่ดุเดือดไปอีกสักระยะ
และดูเหมือนว่า ผู้ชนะที่แท้จริงในเกมนี้ น่าจะเป็นผู้บริโภคที่ใช้บริการนั่นเอง..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ไปรษณีย์ไทยใส่เหตุผลที่ รายได้ลดลง ไว้ในรายงานประจำปี 2563 ว่า
“แม้ว่าอีคอมเมิร์ซจะยังคงเติบโตได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะในช่วงโรคระบาด
แต่เนื่องจากมีผู้ประกอบการส่งพัสดุรายใหม่เปิดบริการหลายรายใช้สงครามราคาที่รุนแรง
ประชาชนจึงมีทางเลือกใช้บริการที่หลากหลาย ซึ่งส่งผลต่อการเลือกใช้ไปรษณีย์ไทย
โดยเฉพาะผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยเรื่องของอัตราค่าบริการเป็นหลัก”
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
the standard ผู้ก่อตั้ง 在 Fit Junctions Facebook 的最佳解答
💪🏼🧡 Hack! ร่างกายและจิตใจฝ่าวิกฤต ด้วยแนวคิด HIM กับ #โค้ชพี่ฟ้าใส พึ่งอุดม ผู้ก่อตั้ง Fit Junctions และโฮสต์ประจำรายการ Look Good Naked
the standard ผู้ก่อตั้ง 在 the secret sauce - ประวัติศาสตร์ 90 นาที THE STANDARD 的美食出口停車場
... “พี่จะทำเป็นสำนักข่าว คนหาว่าพี่บ้า” คำกล่าวของ โหน่ง-วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ก่อตั้ง THE STANDARD จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการมีสื่อที่นำเสนอมุมมองที่ 'สร้างสรรค์' ในสังคมไทย ... ... <看更多>
the standard ผู้ก่อตั้ง 在 เฮียวิทย์ คุยสด เคน นครินทร์ เบื้องหลังสร้าง SMEs ที่ชื่อ THE ... 的美食出口停車場
... และ เคน นครินทร์ ถึงเบื้องหลังการสร้าง THE STANDARD ในฐานะ ผู้ ประกอบการ ... SMEs และมองอนาคตความท้าทายของการเป็น ผู้ ประกอบการหลังจากนี้ได้ที่ The Secret ... ... <看更多>
the standard ผู้ก่อตั้ง 在 ประวัติศาสตร์ 90 นาที THE STANDARD | The Secret Sauce EP ... 的美食出口停車場
วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ก่อตั้ง THE STANDARD ... จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการมีสื่อที่นำเสนอมุมมองที่ 'สร้างสรรค์' ในสังคมไทย ... เบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยรู้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น ทั้งบาดแผล มรสุม ด ... ... <看更多>