Love and Monsters (7.5/10)
ขอภาคต่อด่วน ๆ ตอนเห็นตัวอย่างรู้สึกไม่ดึงดูดให้ดูเท่าไร แต่พอดูหนังเต็มแล้วต้องยกนิ้วให้เลย มันมีหลายอย่างที่จำเจ แต่พอการเล่าเรื่องแข็งแรงเป็นชิ้นเป็นอันเลยทำให้หนังกลมกล่อม แล้วหนังมันบิดแนวเอาชีวิตรอดในโลกยุคล่มสลายให้กลายเป็นหนังผจญภัยโทนฟีลกู้ด ถึงอย่างนั้นหลายฉากก็ยังชวนสยองในความน่ากลัวของพวกสัตว์กลายพันธุ์ ที่งานเทคนิคพิเศษสร้างสรรค์พวกมันขึ้นมาได้ดูสมจริง กลมกลืนไปกับการออกแบบงานสร้างที่ดูเหมือนหลุดไปอยู่ในห้วงเวลาโลกแตกอย่างแท้จริง จนไม่แปลกใจว่าทำไมได้เข้าชิงออสการ์สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม
-------------------------------
เซ็ตติ้งของหนังเป็นโลกที่ประชากรเหลือรอดประมาณ 5% เพราะสัตว์ต่าง ๆ กลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่และอันตราย โดยหนังเล่าเรื่องของ 'โจเอล' (Dylan O'Brien) ที่อาศัยอยู่ในหลุมหลบภัยแห่งหนึ่งนาน 7 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งเขาติดต่อทางวิทยุเจอ 'เอมี่' (Jessica Henwick) คนรักเก่าที่เคยคุยกันก่อนโลกล่มสลาย เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางกว่าร้อยกิโลเพื่อไปหารักแท้ ทั้งที่ตัวเองขี้กลัว ไม่มีทักษะเอาตัวรอดจากสัตว์ประหลาดเลย แต่การเดินทางครั้งนี้จะเปลี่ยนเขาไปอย่างสิ้นเชิง
.
หนังสอบผ่านแทบจะทุกแง่มุมที่จะทำให้สนุกและเอาใจช่วย ตั้งแต่บทนักแสดงนำชาย ดีแลน โอไบรอัน จาก The Maze Runner หนังไม่ได้ต้องการพระเอกมาดฮีโร่ แต่ต้องการคนที่ดูเป็นคนธรรมดาจับต้องได้ มีความกลัว มีสัญชาตญาณ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน การเขียนบทของไบรอัน ดัฟฟิลด์ (Underwater, The Babysitter) นี่เข้าขั้นดีสำหรับหนังผจญภัย เขาสร้างคาแรคเตอร์พระเอกที่ไม่เจี๋ยมเจี้ยมจนน่ารำคาญ ไม่พยายามตลกเกินไป พอไปอยู่ในโครงการเขียนบทที่วาง 1 2 3 4 เป็นลำดับ หยิบจับมาใช้ภายหลังได้เห็นภาพ หนังวางเซ็ตติ้งให้ช่วงการเดินทางได้เจอคนใหม่ ๆ ถ่ายทอดความรู้แลกเปลี่ยนกัน แล้วเอาความรู้นั้นมาปรับใช้ตัดสินใจด้วยสัญชาตญาณภายหลัง แค่นี้ก็ทำให้หนังสนุกแล้ว
.
พวกฉากเอาตัวรอดก็ไม่เล่นใหญ่เว่อร์วังมาก พองานเทคนิคพิเศษดี ดูสมจริงกลืนไปกับธรรมชาติของหนัง การออกแบบฉากเอาตัวรอดก็เล่นท่าง่าย ๆ เพราะพระเอกก็ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่อะไร แถมการใส่หมาแสนรู้เข้ามายังทำให้หนังน่ารักมากขึ้นด้วย ยิ่งหนังจบแบบนี้แล้วภาคต่อต้องมาเร็ว ๆ นะ อยากดูจริงจัง
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Netflix: https://www.netflix.com/title/81277430
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์จากทุกค่ายได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb
#หนังโปรดของข้าพเจ้า
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「the babysitter netflix」的推薦目錄:
- 關於the babysitter netflix 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳解答
- 關於the babysitter netflix 在 Fantasy All Facebook 的最讚貼文
- 關於the babysitter netflix 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳解答
- 關於the babysitter netflix 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最讚貼文
- 關於the babysitter netflix 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於the babysitter netflix 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
the babysitter netflix 在 Fantasy All Facebook 的最讚貼文
jenna ortega จาก You และ The Babysitter Killer Queen จะได้รับบทนำใน Wednesday ฉบับ Netflix โดยได้ Tim Burton ผู้กำกับจากบีเทิลจุ๊ยส์และเอ็ดเวิร์ด มือกรรไกร มาดูแลซีรี่ส์ชุดนี้ โดยจะออกมาในรูปแบบ Coming-of-Age เรื่องราวของครอบครัว Addams ที่บอกเล่าผ่านลูกสาวในช่วงวัยรุ่นอย่าง Wednesday ส่วนแคสนักแสดงอื่นๆยังไม่เปิดเผย
the babysitter netflix 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳解答
Love and Monsters (2020) สามารถดูได้ใน Netflix
ขอภาคต่อด่วน ๆ ตอนเห็นตัวอย่างรู้สึกไม่ดึงดูดให้ดูเท่าไร แต่พอดูหนังเต็มแล้วต้องยกนิ้วให้เลย มันมีหลายอย่างที่จำเจ แต่พอการเล่าเรื่องแข็งแรงเป็นชิ้นเป็นอันเลยทำให้หนังกลมกล่อม แล้วหนังมันบิดแนวเอาชีวิตรอดในโลกยุคล่มสลายให้กลายเป็นหนังผจญภัยโทนฟีลกู้ด ถึงอย่างนั้นหลายฉากก็ยังชวนสยองในความน่ากลัวของพวกสัตว์กลายพันธุ์ ที่งานเทคนิคพิเศษสร้างสรรค์พวกมันขึ้นมาได้ดูสมจริง กลมกลืนไปกับการออกแบบงานสร้างที่ดูเหมือนหลุดไปอยู่ในห้วงเวลาโลกแตกอย่างแท้จริง จนไม่แปลกใจว่าทำไมได้เข้าชิงออสการ์สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม และเราก็แอบลุ้นให้หนังเป็นผู้ชนะด้วย
.
เซ็ตติ้งของหนังเป็นโลกที่ประชากรเหลือรอดประมาณ 5% เพราะสัตว์ต่าง ๆ กลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่และอันตราย โดยหนังเล่าเรื่องของ 'โจเอล' (Dylan O'Brien) ที่อาศัยอยู่ในหลุมหลบภัยแห่งหนึ่งนาน 7 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งเขาติดต่อทางวิทยุเจอ 'เอมี่' (Jessica Henwick) คนรักเก่าที่เคยคุยกันก่อนโลกล่มสลาย เขาจึงตัดสินใจออกเดินทางกว่าร้อยกิโลเพื่อไปหารักแท้ ทั้งที่ตัวเองขี้กลัว ไม่มีทักษะเอาตัวรอดจากสัตว์ประหลาดเลย แต่การเดินทางครั้งนี้จะเปลี่ยนเขาไปอย่างสิ้นเชิง
.
หนังสอบผ่านแทบจะทุกแง่มุมที่จะทำให้สนุกและเอาใจช่วย ตั้งแต่บทนักแสดงนำชาย ดีแลน โอไบรอัน จาก The Maze Runner หนังไม่ได้ต้องการพระเอกมาดฮีโร่ แต่ต้องการคนที่ดูเป็นคนธรรมดาจับต้องได้ มีความกลัว มีสัญชาตญาณ และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน การเขียนบทของไบรอัน ดัฟฟิลด์ (Underwater, The Babysitter) นี่เข้าขั้นดีสำหรับหนังผจญภัย เขาสร้างคาแรคเตอร์พระเอกที่ไม่เจี๋ยมเจี้ยมจนน่ารำคาญ ไม่พยายามตลกเกินไป พอไปอยู่ในโครงการเขียนบทที่วาง 1 2 3 4 เป็นลำดับ หยิบจับมาใช้ภายหลังได้เห็นภาพ หนังวางเซ็ตติ้งให้ช่วงการเดินทางได้เจอคนใหม่ ๆ ถ่ายทอดความรู้แลกเปลี่ยนกัน แล้วเอาความรู้นั้นมาปรับใช้ตัดสินใจด้วยสัญชาตญาณภายหลัง แค่นี้ก็ทำให้หนังสนุกแล้ว
.
พวกฉากเอาตัวรอดก็ไม่เล่นใหญ่เว่อร์วังมาก พองานเทคนิคพิเศษดี ดูสมจริงกลืนไปกับธรรมชาติของหนัง การออกแบบฉากเอาตัวรอดก็เล่นท่าง่าย ๆ เพราะพระเอกก็ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่อะไร แถมการใส่หมาแสนรู้เข้ามายังทำให้หนังน่ารักมากขึ้นด้วย ยิ่งหนังจบแบบนี้แล้วภาคต่อต้องมาเร็ว ๆ นะ อยากดูจริงจัง
Director: Michael Matthews
story: Brian Duffield
screenplay: Brian Duffield, Matthew Robinson
Genre: adventure, comedy, action, sci-fi
7.5/10