關於 star walk 2 ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

香港迪士尼喺2016年底公佈樂園擴建重整計劃, 經過咗差唔多五年嘅時間, 整個計劃完成咗一半. 但喺公佈計劃之後, 園方亦有為樂園部分位置進行翻新改建.

唔計喺公佈計劃之前已推出嘅Star Wars 同Duffy Shop 等等嘅改裝, 睇睇過去呢五年樂園出現過咩新項目.

Main Street
1) 小鎮沖印店縮小店面範圍加入Marty’s General Store, 其實並唔知呢間商店嘅定位同對面Emporium 嘅分別, 雖然知道改呢個名係為咗向Disney Legend Marty Sklar 致敬, 但1910年代嘅小鎮大街出現建於1934年嘅商店係奇怪.
2) 同樣出現時間錯亂嘅仲有Since 1912 小鎮雪糕店, 雖然小鎮大街嘅故事為迎合呢間新雪糕店而由1910年向前行咗兩年, 但其實Since 1912 都係奇怪, 正如你行街見到有間舖頭掛住個招牌寫Since 2021. 唔係唔得嘅, 但會笑囉.
3) 大街餅店一分為二改建成一半餅店一半咖啡店. 同樣都係美心主理.
4) 另一個由美心主理, Plaza Inn 內部重新粉飾. 當中嘅十二生肖裝飾係值得欣賞.

Adventureland
1) 加利布尼市集, 但依家受疫情影響或營運考慮已經幾乎長期關閉.
2) Moana: A Homecoming Celebration. 有佢嘅加入係令到逗留喺探險世界嘅時間延長, 基本上係唔錯嘅演出, 只不過戶外熱啫, 會唱兩句或播兩句歌應該會更完美.

Fantasyland
1) Castle of Magical Dreams, Disney 史上首次改建城堡, 香港迪士尼全新樂園地標, 考慮到配合不同天氣狀況嘅設計, 雖然Fans 們評價兩極, 但普遍都係讚. 冇Walk through 上唔到城堡仍然係一個不完美嘅體驗.
2) Bibbidi Bobbidi Boutique, 個人覺得係呢五年間最出色嘅改裝工程. 基於對象有年齡同性別限制, 唔係太多人能夠入到去. 假若呢間Shop 有個恆常Tour 嘅話, 應該都會好受Fans 歡迎.
3) 尋夢奇緣. 一個被硬推上城堡舞台嘅streetmosphere show. 由創作時期已種下嘅失敗, 喺全年最炎熱嘅天氣下推出, 令呢個演出未能造成話題, 感到惋惜同尷尬嘅係園方將宣傳重點由個演出本身轉移到販賣演員同幕後團隊嘅人生奮鬥故事, 亦可見呢個演出冇嘢可sell.

Tomorrowland
1) Iron Man Experience. 以Star Tours 為基礎, 全球首個Disney 創作嘅Marvel 遊樂設施.
2) Nano Battle. 等候區所營造嘅緊張氣氛一上到車就急速下降, 幾乎靜止嘅世界造唔到大戰嘅效果. 令人更掛住巴斯光年.

仲有灰熊山嘅翻新, 回復到新嘅一樣. 好靚.

พลานุภาพของเกม กับพิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิก 2021
.
หลังจากที่เตรียมการมานานหลายปี ผ่านการตัดสินใจอย่างยากลำบากที่จะเลื่อนออกไปหนึ่งปีเนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในที่สุดมหกรรมการแข่งขันกีฬานานาชาติ โตเกียวโอลิมปิก 2021 ก็เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564
.
พิธีเปิดครั้งนี้มีไฮไลท์ที่น่าจดจำมากมาย แม้ว่าบนอัฒจันทร์จะว่างเปล่าปราศจากคนดู เนื่องด้วยมาตรการเคร่งครัดช่วงโควิด-19 แต่ในบรรดาไฮไลท์ทั้งหมดนั้น ไม่น่ามีอะไรที่ทำให้คอเกมตื่นเต้น ตื้นตัน และประทับใจเท่ากับการบรรเลงเมดเลย์ดนตรีประกอบจากเกมยอดนิยมของญี่ปุ่น เป็นเซาน์ด์แทร็กประกอบการเดินพาเหรดเข้ามาในสนามของทัพนักกีฬาจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมชิงชัยในโตเกียวโอลิมปิก
.
ย้อนกลับไปที่พิธีปิดโอลิมปิกเกมส์ครั้งก่อน ห้าปีที่แล้วในกรุง ริโอ เดอ จาไนโร เมืองหลวงบราซิล ชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น ทำเซอร์ไพรส์คนดูทั้งสนามด้วยการแต่งตัวเป็น ซุปเปอร์มาริโอ พระเอกจากซีรีส์เกมยอดฮิตของค่ายนินเทนโด รับไม้ต่อเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกครั้งต่อไป
.
จากจุดนั้นคงไม่มีใครสงสัยว่า “เกม” จะเป็นส่วนสำคัญของพิธีเปิดโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า เจ้าภาพจะ “จัดเต็ม” ขนาดนี้
.
พิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 2021 ในโตเกียว ไม่มีมาริโอแล้ว (และก็ไม่มีเกมไหนสักเกมจากค่ายนินเทนโดด้วย) แต่เราได้ยินดนตรีประกอบคุ้นหูในเกมชื่อดังของแดนอาทิตย์อุทัยอย่างเต็มอิ่มสิบกว่าเกม และเมดเลย์นี้ก็ไม่ได้มาเล่นๆ แต่ถูกเรียบเรียงและบรรเลงโดยวงออเคสตราเต็มวง และเกมที่เลือกดนตรีมาเล่นนั้นก็ครอบคลุมประวัติศาสตร์เกม ตั้งแต่ Gradius เกมตู้ชื่อดังปี 1985 กว่าสามทศวรรษที่แล้ว เรื่อยมาจนถึงเกมสมัยใหม่อย่าง NieR และ Monster Hunter ในศตวรรษที่ 21
.
การประพันธ์เพลงและดนตรีประกอบเกมแบบ “จัดเต็ม” เป็นส่วนสำคัญของวงการเกมญี่ปุ่นมาช้านาน เกมเมอร์จำนวนมากเป็นแฟนพันธุ์แท้ของนักประพันธ์ดนตรีประกอบเกมชื่อดัง คอยติดตามผลงานอย่างติดหนึบไม่แพ้เพลงของนักร้องคนโปรด และในญี่ปุ่นเองก็มีการจัดคอนเสิร์ตดนตรีประกอบเกม (ดูแหล่งข้อมูลเช่น https://ultimatepopculture.fandom.com/wiki/Orchestral_Game_Music_Concerts) มาแล้วหลายครั้ง
.
แต่แน่นอนว่า การใช้ออเคสตราบรรเลงเมดเลย์ที่เรียงร้อยดนตรีประกอบเกม 14 เกม ต่อหน้าผู้ชมผ่านจอหลายล้านคนทั่วโลก ในพิธีเปิดมหกรรมการแข่งขันที่โด่งดังที่สุดของมวลมนุษยชาติ ยาวนานเป็นชั่วโมงๆ ต้องนับเป็นจุดสูงสุดครั้งหนึ่งที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์เกมเลยทีเดียว
.
ด้วยความที่ญี่ปุ่นคือญี่ปุ่น จะทำอะไรต้องผ่านการคิดใครครวญอย่างรอบคอบมาก่อนเสมอ เราลองมาไล่เรียงดนตรีจากเกมแต่ละเกมที่เลือกมาบรรเลงออเคสตราในพิธีเปิดโอลิมปิกกัน (ฟังเรียงเพลงได้จาก https://www.classicfm.com/discover-music/periods-genres/video-game/tokyo-2020-opening-ceremony/)
.
(ตัวเลขในวงเล็บ บอกลำดับของการเล่นเพลงนั้นๆ ในพาเหรดนักกีฬา)
.
1. Dragon’s Quest – Overture: Roto’s Theme (1)
เมดเลย์ประกอบพาเหรดนักกีฬาเปิดฉากด้วยเพลงติดหู Roto’s Theme จากเกม Dragon Quest ภาคแรก และธีมนี้ก็ปรากฎในเกมทุกเกมในซีรีส์เดียวกัน เพลงนี้ฟังดูยิ่งใหญ่ เชิดชูฮีโร่ เสียงกลองปลุกความฮึกเหิม สมกับใช้เปิดฉากพาเหรดนักกีฬาโอลิมปิก
.
2. Final Fantasy - Victory Fanfare (2), Main Theme: Prelude (13)
เพลงหลักสองเพลงในซีรีส์ Final Fantasy ที่คุ้นหูคอเกมเป็นอย่างดี โนบูโอะ อุเอมัตสึ ผู้ประพันธ์ Main Theme: Prelude เคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าทั้งชีวิตของเขาจะมีคนจำผลงานเขาได้เพียงชิ้นเดียว เขาอยากให้เป็น Prelude นี่เอง เพลงเพราะเพลงนี้ครบเครื่องทุกรสชาติ ทั้งฮึกเหิม บุกตะลุย เศร้าโศก โรมานซ์ และอ้อยอิ่ง เหมือนกับทั้งเรื่องราวในซีรีส์เกมมหากาพย์ และเรื่องราวความเป็นมนุษย์ที่ฉายผ่านโอลิมปิกเกมส์
.
เวอร์ชันที่เลือกมาเรียบเรียงและให้ออเคสตราบรรเลงในพิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิกมาจาก Final Fantasy VII เกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในซีรีส์ และดังนั้นจึงน่าจะติดหูคนมากที่สุด
.
3. Tales Of Zestiria - Sorey's Theme (The Shepherd) (3), Royal Capital ( 8 )
โมโตอิ ซากุราบะ นักประพันธ์ดนตรีประกอบเพลง อยู่เบื้องหลังเพลงติดหูในซีรีส์เกมมากมาย อาทิ Dark Souls, Mario Golf และ Star Ocean แต่ผลงานที่สร้างชื่อให้กับเขาที่สุดคือดนตรีประกอบซีรีส์ Tales จากค่าย Bandai Namco ด้วยความไพเราะและ “จัดเต็ม” เหมาะกับการเล่นแบบออเคสตราเต็มวง
.
4. Monster Hunter - Proof of Hero (4), Wind of Departure (9)
ธีมหลักของเกมซีรีส์ Monster Hunter ทุกเกม ปลุกเร้าให้ตื่นเต้น ฮึกเหิม และลุ้นระทึกในคราวเดียว บรรเลงระหว่างการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดและเตรียมตัวก่อนออกเดินทางไปผจญภัย เฉกเช่นนักกีฬาที่กำลังจะเข้าสู่สังเวียนประลองกำลัง
.
5. Kingdom Hearts - Olympus Coliseum (5), Hero’s Fanfare (15)
ดนตรีบรรเลงจากสนามกีฬาโอลิมปิกในเกม Kingdom Hearts เกมแรก (และก็ใช้ในเกมต่อๆ มาในซีรีส์นี้ด้วย) นับว่าเหมาะเจาะกับพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์โดยไม่ต้องตีความใดๆ โดยเฉพาะในเมื่อ โยโกะ ชิโมมูระ ผู้ประพันธ์เกมนี้ นำแรงบันดาลใจจากกรีกโบราณมาใช้ในการรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้
.
6. Chrono Trigger - Frog's Theme (6), Robo’s Theme (10)
เชื่อว่าคอเกมรุ่นเก๋าหลายคนน่าจะได้น้ำตาซึมเมื่อได้ยินดนตรีจาก Chrono Trigger เกม JRPG คลาสสิกขึ้นหิ้ง บรรเลงคลอพาเหรดนักดนตรี หลายคนคงหวนนึกถึงตอนที่เจอ Frog (กบ) อัศวินร่างกบที่เราได้มาเป็นพวกในช่วงแรกๆ ของเกม เพราะ Frog’s Theme คือเพลงประจำตัวของเขา ส่วน Robo’s Theme ก็เป็นเพลงคึกจังหวะสนุกอีกเกมที่ฟังครั้งเดียวก็ติดหูเลย เกม Chrono Trigger ทั้งเกมมีเพลงเพราะยอดนิยมมากมาย และทีมงานประพันธ์เมดเลย์ก็บรรเลงให้เราฟังอย่างจุใจด้วยการสอดแทรกธีมนี้ในหลายจุดของเมดเลย์
.
7. Ace Combat - First Flight (7)
ครึ่งทางของเมดเลย์ ออเคสตราสลับฉากออกจากเกมแนว JRPG (เกมสวมบทบาทแบบญี่ปุ่น) มาทางเกมแนวอื่นๆ บ้าง เริ่มจากเกมเพราะจากซีรีส์ Ace Combat เกมขับเครื่องบินรบสไตล์เกมตู้จากค่าย Bandai Namco เพลงนี้อาจไม่คุ้นหูคอเกมเท่ากับเพลงจากซีรีส์ JRPG ยอดฮิตทั้งหลาย แต่พอใส่มาในเมดเลย์ช่วงครึ่งทาง เพลงต่อสู้เร้าใจจากเกมนี้ก็เหมาะเจาะเลยทีเดียว
.
8. Sonic The Hedgehog - Starlight Zone (11)
จากความเร้าใจของ Ace Combat สลับฉากมาเป็นจังหวะชิลๆ ของเพลงจาก Sonic the Hedgehog เกมแอ็กชั่น 2D คลาสสิกค้างฟ้าจากค่าย SEGA ติดหูคอเกมมาตั้งแต่เจ้าเฮดจ์ฮอกจอมซ่า คู่แข่งมาริโอ ปรากฎตัวครั้งแรกในปี 1991 มาซาโตะ นาคามูระ นักประพันธ์เพลง วันนี้ผันตัวมาเน้นการแต่งเพลงประกอบโฆษณาโทรทัศน์และภาพยนตร์มากกว่าเกมแล้ว แต่ผลงานที่เขาฝากไว้ในเกมพิภพก็จะติดหูไปอีกนานแสนนาน
.
9. Winning Eleven - eFootball Walk-On Theme (12)
เกมเด่นจาก Winning Eleven ซีรีส์เกมฟุตบอลชื่อดัง (วันนี้เปลี่ยนชื่อเป็น eFootball) ทั้งเพราะและเหมาะสมด้วยความที่เป็นเกม “กีฬา” เกมเดียวในเมดเลย์ชุดนี้
.
10. Phantasy Star Universe – Guardians (14)
เกมเพราะจาก Phantasy Star ซีรีส์ JRPG ที่ดังเป็นพลุแตกในญี่ปุ่น แต่นอกประเทศคนไม่รู้จักเท่า Chrono Trigger และ Final Fantasy ดึงอารมณ์คนฟังเข้าสู่แดนผจญภัย แม้อาจฟังดูไม่ยิ่งใหญ่และครบรสเท่ากับเพลงจาก JRPG ช่วงแรกในเมดเลย์
.
11. Gradius - 01 ACT I-1 (16)
เซอร์ไพรส์ที่ผู้เขียนบทความนี้ชอบมากเป็นการส่วนตัว การเลือกเสียงเปียโนจังหวะสนุกๆ จากเกมตู้คลาสสิกของ Konami มาอยู่ในเมดเลย์ออเคสตราที่บรรเลงประกอบพาเหรดนักกีฬา นับเป็นการให้เกียรติเกมตู้ (arcade) จากยุคที่ “เกม” ยังถูกมองว่าเป็น “เรื่องไร้สาระ” หรือ “อบายมุข” (ซึ่งผ่านมาหลายทศวรรษแล้วบางสังคมก็ยังมีทัศนคติแบบนี้อยู่)
.
12. NieR - Song of The Ancients (17)
เพลงเพราะจาก NieR ซีรีส์ action RPG ชื่อดัง ซีรีส์นี้มีเพลงเพราะหลายเพลง แต่ที่น่าสนใจคือทีมประพันธ์เมดเลย์เลือกเพลง Song of the Ancients ซึ่งกลายเป็นเพลงเดียวในเมดเลย์นี้ที่ไม่ได้มีแต่เสียงดนตรีอย่างเดียว แต่มี “เนื้อร้อง” ด้วย เวอร์ชันในเกมขับร้องโดย เอมิโกะ อีวานส์ และประพันธ์โดย เคนิอิชิ โอกาเบะ
.
เนื้อร้องของเพลงนี้ไม่ใช่ภาษาใดๆ ที่ใครจะฟังออกเลย เพราะเขียนในภาษาปลอมที่ไม่มีอยู่จริงในโลก เรื่องราวของเกมบอกว่าภาษานี้คือ Chaos เกิดจากการผสมภาษาต่างๆ ในโลกเข้าด้วยกัน
.
การเลือกเพลงนี้จึงคล้ายจะสื่อว่า การเล่นกีฬานั้นเป็น “ภาษาสากล” ของคนทุกชาติในโลก ไม่ว่าจะแตกต่างกันมากเพียงใด
.
13. SaGa - The Minstrel's Refrain (เมดเลย์ฉบับปี 2016) (18)
ผลงานเด่นอีกชิ้นของ โนบุโอ อุเอมัตสึ นักประพันธ์ที่ดังเป็นพลุแตกจากเพลงที่เขาแต่งให้กับซีรีส์ Final Fantasy แต่ Romancing SaGa (ซึ่งจริงๆ ก็เป็นเกมที่เริ่มต้นจากการแตกแขนงมาจาก Final Fantasy) ก็เป็น JRPG อีกหนึ่งซีรีส์ที่มีเพลงเพราะๆ มากมายที่ อุเอมัตสึ ฝากผลงานเอาไว้ เวอร์ชันที่ออเคสตราบรรเลงในพิธีเปิดคือเวอร์ชันเมดเลย์ปี 2016 ที่ “จัดเต็ม” ในเกมด้วยวงออเคสตราเช่นกัน
.
14. SoulCalibur - The Brave New Stage of History (19)
เหมาะสมกับการเป็นเพลงปิดเมดเลย์ประกอบพาเหรดนักกีฬาด้วยประการทั้งปวง ผลงาน จูนิชิ นาคัทซึรุ เพลงนี้เป็นธีมหลักของ SoulCalibur VI เกมต่อสู้จากค่าย Bandai Namco เพลงให้อารมณ์ชวนออกไปผจญภัยเกมนี้บรรเลงประกอบฉากเลือกคู่ต่อสู้ 2 คน ที่จะมาประมือกันในสนามประลอง ราวกับจะบอกเราว่า ขอเชิญรับชมการประลองฝีมือของนักกีฬาจากทั่วโลก ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป!
.
เมดเลย์ดนตรีประกอบเกมญี่ปุ่นที่บรรเลงแบบ “จัดเต็ม” โดยวงออเคสตรา ไม่เพียงป่าวประกาศให้โลกรู้ว่า ญี่ปุ่นเป็น “ชาติมหาอำนาจ” เพียงใดในวงการเกมโลก หากแต่ยังเป็นการแสดงไมตรีจิตและความคารวะต่อเกม นักออกแบบเกม และการยกย่องเกมในฐานะสื่อสมัยใหม่ที่เป็นส่วนสำคัญในชีวิตของคนหลายล้านคนทั่วโลก
.
รวมถึงแสดงพลานุภาพของ “เกม” ในการเป็นเครื่องมือที่สามารถผนึกความสมัครสมานสามัคคี มิตรภาพที่เบ่งบานระหว่างการต่อสู้หรือขับเคี่ยวแข่งขัน สะท้อนความมุมานะไม่เลิกราของมนุษย์ และชวนให้ขบคิดถึง “ความเหมือน” มากกว่า “ความต่าง” ระหว่างคนชาติต่างๆ
.
“เกม” ทั้ง 14 เกมที่ถูกเลือกดนตรีมาบรรเลงในพิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิก และเกมอีกมากมาย มีจุดร่วม “กีฬาโอลิมปิก” ในแง่นี้เอง

CHIA SẺ CÁCH CHỤP MILKY WAY (NGÂN HÀ)
📷📷📷🌌🌌🌌

Dạo này mùa giãn cách, cũng vì thế mà ô nhiễm ánh sáng giảm đi nhiều, những hôm trời quang nhìn trăng sáng, sao trời thích mắt thật, lại nghĩ chỗ mấy bạn mình chắc ngân hà sẽ sáng lắm, nên share lại để mong mọi người chụp nhiều nhiều, để mấy người nằm nhà tụi tui có ảnh đẹp mà coi!!! Thử thôi nào!!!

Đầu tiên chuẩn bị:
- Máy ảnh có chế độ chụp Manual (M), máy có khả năng khử nhiễu (noise) tốt thì càng tốt . T hôm qua xài Fuji x100t, mốt có tèn đổi máy xịn hơn tính sau :v .

-Chân máy . ( không có thì lấy gì kê, nhưng mà mình không đảm bảo vì như thế không cơ động góc chụp được, nói chung nếu có ý định thì chuẩn bị trước , còn lỡ vô tình thì tuỳ bạn , bắt buoicj phải có điểm tựa cho máy vì chụp phơi sáng)

-Nếu ở vùng lạnh nhớ mang đồ giữ ấm, đêm qua mình thủ cả găng tay, không bõ công :3.

- Điện thoại down app Star Walk 2 về, cái app này nó chỉ mình dãi ngân hà đang nằm đâu, không có nó thì hơi mệt để xác định nếu bạn không phải một người rành thiên văn. Ngoài ra nếu ở nơi thật sự tối như khu vực hoang dã, ngân hà hiện ra rõ ràng thì khỏi :)))) .

- Đồ ăn thức uống chống đói, vì chụp cũng tốn thời gian

Rồi bây giờ vác đít đi thôi.

- Đầu tiên là tìm địa điểm, thời gian
*nói chung cứ gọi là tối nhất có thể, vì ánh sáng càng ít ta nhìn các vì sao càng rõ, thậm chí đến nơi tối phải dăm chục phút mắt mới điều tiết để nhìn sao rõ hơn, nên cứ phi xa càng xa thành phố càng tốt nha. ( hôm qua mình đạp xe nên chỉ ra Ngôi đền giữa đồng mình vẫn thích, cách tp tầm 10 km thôi nên vẫn bị ảnh hưởng ánh sáng nhiều, bạn để ý “ngân hà” mình không rõ lắm cũng vì thế) với đạp xe mà, đạp xa hơn sao nổi, cùng chỗ quen nên idea trong đầu bố cục sẵn rồi nữa! Hê hê.

*Thời gian thì nhìn thời tiết, chọn 1 ngày thật quang mây, khô thoáng , không trăng( hôm qua mình may lắm, đạp xe tới còn trăng, đứng 1 lúc thì trăng lặn mất sau lưng. Ngoài ra nếu có trang nhưng nằm xa vị trí Ngân hà, không che vẫn chụp được, những lúc này nhìn sao mới rõ được, có mây nó mù với trăng sáng sao mờ ko thấy gì đâu. Tất nhiên là đi vào ban đêm, xem app xác định vị trí nữa nhé, vì trái đất xoay nên Milky way (ngân hà) cũng trôi, tuy nhiên đừng lo nó trôi không nhanh như mặt trời hoàng hôn với bình minh, nên bố cục vẫn đầy thời gian chỉnh, hôm qua mình đi từ 9-10h đêm tới 4h sáng mới về tới nhà .

Tiếp theo là cách chụp:
- Thực ra máy ảnh có cơ chế thu ánh sáng đặc biệt so với mắt, nên chúng nhạy hơn nhiều, mắt nhìn chưa chắc thấy chứ máy chụp vẫn được, nên đừng lo khi đứng mãi ko thấy ngân hà đâu, thì lo móc app Star walk nãy kêu down ra, xác định vị trí, rồi bố cục máy để chụp thôi .

*set máy:
+ Tốc độ /Shutter speed : hôm qua mình phơi 8-10 giây , chụp sao thì đừng phơi dài quá, 10 giây nhé, do trái đất xoay nên sao tạo thành vệt không tròn đẹp.

+ Khẩu / F : Mở to hết mức có thể, mình để 2.8 đến 2 .

+ Độ nhạy sáng / Iso : khá quan trọng đó, vì độ nhạy sáng sẽ quyết định việc có thu được ánh sáng hay không, hôm qua mình để 1000-2000 (thực ra vẫn sợ noise do T xài x100t)

+ Lấy nét T lấy nét tay, cứ xoay chụp khi nào nhìn nét thì thôi, ai cầm theo đèn bin rọi mà lấy, tui gặp quat kính cận nữa nó hơi bực mình , nhưng yên tâm ổn mà.

Tham khảo thông số mình hôm qua :
Speed: 8s , 10s
F: 2 , 2.8
Iso : 1000, 1200 , 1600
Chụp Raw nếu có nhé, cho dễ hậu kì.

Rồi xong rồi, bây giờ thì móc ý tưởng ra, bố cục và chụp đi thôi. Chờ đợi chi nữa!? 😎🌌🌌🌌

Mẹo Hậu kì :

- Kéo contract lên sẽ rõ hơn.
- Kéo clarity cũng làm Milkyway rõ hơn.

Mẹo xác định Milkyway không cần app( tất nhiên là khi mắt không thấy được):

- Nhìn lên trời tìm 3 ngôi sao sáng gần như thẳng hàng, nó nằm hơi check về bên trái, còn ai rành thì tìm cung sao bọ cạp, nằm ngay đó luôn đấy. Ở Việt Nam thì sẽ mọc ở hướng Đông Nam và di chuyển về hướng Tây Nam
. Ở nơi khác mình hong biết mình xài app :v .

Mà ở VN đi đêm có đội cho cẩn thận nha, khu vắng vẻ ít đèn :”> đi 1 mình như tui hơi mệt đó! Lo lắm!

chúc mọi người có những bức ảnh đẹp về ngân hà nhé! Có gì hãy share cùng Lạc nhaaaa!

#laclost #sharing #photography #milkyway #galaxy

Aisho Nakajima “Love me for me”

“Love me for me” on Spotify : https://open.spotify.com/artist/73TJEwnZTYd2p0qRbn2Pi3
“Love me for me” on Apple Music : https://music.apple.com/us/artist/aisho-nakajima/1503461433


Aisho’s Instagram : https://www.instagram.com/aishonakajima/?hl=en
Aisho’s Twitter : https://twitter.com/aishooo74?lang=en


Written by Aisho Nakajima
Recorded/ Mixed by Aisho Nakajima
Produced by ELI
Mastering by Wax Alchemy


Lyrics -
Ohh to be young, dead inside Tokyo city
Holding my tears while I walk down the streets
Ohh Im jealous, you got what I need
Thinking, When will I love me for me

Come and f**k the sadness out of me
Broken hearted bloody bitch like me
Can’t even feel my heartbeat

Dancing in acid rain, do you still feel my pain?
Haunted, my past that I wish could erase

Ohh to be young, dead inside Tokyo city
Holding my tears while I walk down the streets
Ohh Im jealous, you got what I need
Thinking, When will I love me for me

Pretty little birds crying
All my angels dying
I used to let everyone walk over me

Everybody pulling out their phones
Who you gonna do it all for?
The love you give others, not choosing yourself

I hear intuition screaming out my name
Maybe I’m over thinking, devils I’m my head

Demons in mind overtaking
Or am I hallucinating?

All on my neck till it breaks
Something shifted in my brain

Ohh to be young, dead inside tokyo city
Holding my tears while I walk down the streets
Ohh Im jealous, you got what I need
Thinking, When will I love me for me

Had to lose myself to find myself
I Begged for help
“Burn in hell”
Word for word
Hated myself
Gasping for air

Acceptance
That’s all I wanted
Depression
Somebody stop it
A broken star
Wrecking ball
I know it’s hard
Now Time to go up

x2

Ohh to be young, dead inside Tokyo city
Holding my tears while I walk down the streets
Ohh Im jealous, you got what I need
Dreaming, When will I love me for me

This beautiful view is in front of this award-winning, iconic, unforgettable and luxurious resort in Boracay Island, the Philippines.
But the only true about what I said is, “unforgettable”.

After a long walk from station 3 to DiscoveryS hores Boracay, I decided to grab my favorite pasta, aglio olio. There were a few people taking photos of food at the entrance and I was greeted by a guard who happened to be the owner, and the waiter of the resort.

His greetings was so warm, he asked if I had a QR code, which is required before you get in the island. His tone was so condescending and unfriendly, and so I thought, he was the owner, acting as a guard. I politely answered “yes, and I would not be able to get inside the island itself, if I did not have one.” Hence, my response for his already condescending voice. He answered back with a more condescending voice “I am just asking!” Which was then again, obvious from the first question he asked, because, it sounded with a question mark AND an exclamation point.

I eagerly asked if they had pasta, and he said he had to go inside first and check. When I was approaching him again, to ask if there serve pasta, he asked “what kind of pasta?”, now the guard became the waiter. I did not know a luxurious hotel hires a guard and a waiter at the same time.

The resort had a few people. Yes, which means there were plenty of vacant tables inside. He then approached me and ask me to dine it at a location where the table was filthy, the chair was dirty, and secluded from the rest of the guests. I confirmed four times with the manager if it was really their protocol, to let the walk-in guest eat there. Which was then a lie because I saw a few people dining it at the better place, not hotel guests, but walk-ins.

Discovery Shores Boracay Island, where the guard and manager discriminate people.
Discovery Shores Boracay Island, where they market their resort as luxurious but their service is rated as one star. No, let’s make it unrateable.
Discovery Shores Boracay Island, a place where people with Sony A7C and professional cameras are discriminated. Vloggers are not welcomed.
Discovery Shores where the guard is the owner, and the waiter. Where the operations manger is incapable.

Discovery Shores Boracay Island the Philippines, overrated and does not need the support of the people. Only people who discriminates supports a business that discriminates.

P.S, this is my personal experience, and with videos to support my claim. Some people around the area that this is owned by a congressman, where in the Philippines, you get killed if you speak against their businesses. So if something happens to me, you know who to find.

This beautiful view is in front of this award-winning, iconic, unforgettable and luxurious resort in Boracay Island, the Philippines.
But the only true about what I said is, “unforgettable”.

After a long walk from station 3 to DiscoveryS hores Boracay, I decided to grab my favorite pasta, aglio olio. There were a few people taking photos of food at the entrance and I was greeted by a guard who happened to be the owner, and the waiter of the resort.

His greetings was so warm, he asked if I had a QR code, which is required before you get in the island. His tone was so condescending and unfriendly, and so I thought, he was the owner, acting as a guard. I politely answered “yes, and I would not be able to get inside the island itself, if I did not have one.” Hence, my response for his already condescending voice. He answered back with a more condescending voice “I am just asking!” Which was then again, obvious from the first question he asked, because, it sounded with a question mark AND an exclamation point.

I eagerly asked if they had pasta, and he said he had to go inside first and check. When I was approaching him again, to ask if there serve pasta, he asked “what kind of pasta?”, now the guard became the waiter. I did not know a luxurious hotel hires a guard and a waiter at the same time.

The resort had a few people. Yes, which means there were plenty of vacant tables inside. He then approached me and ask me to dine it at a location where the table was filthy, the chair was dirty, and secluded from the rest of the guests. I confirmed four times with the manager if it was really their protocol, to let the walk-in guest eat there. Which was then a lie because I saw a few people dining it at the better place, not hotel guests, but walk-ins.

Discovery Shores Boracay Island, where the guard and manager discriminate people.
Discovery Shores Boracay Island, where they market their resort as luxurious but their service is rated as one star. No, let’s make it unrateable.
Discovery Shores Boracay Island, a place where people with Sony A7C and professional cameras are discriminated. Vloggers are not welcomed.
Discovery Shores where the guard is the owner, and the waiter. Where the operations manger is incapable.

Discovery Shores Boracay Island the Philippines, overrated and does not need the support of the people. Only people who discriminates supports a business that discriminates.

P.S, this is my personal experience, and with videos to support my claim. Some people around the area that this is owned by a congressman, where in the Philippines, you get killed if you speak against their businesses. So if something happens to me, you know who to find.