John Carter (7/10)
หนังสร้างจากนิยายที่เขียนตั้งแต่ปี 1912 ความที่นิยายมันผ่านมาร้อยปีจึงทำให้หนังยุคที่ผ่านมาหยิบยืมนั่นนู่นนี่มาใช้จนไอเดียเหล่านั้นมันช้ำไปหมดละ ตลอดการดู John Carter เราจึงได้กลิ่นอายของนั่นนู่นนี่เต็มไปหมด คือพอสร้างช้าไปจนโดนหนังเรื่องอื่นก็อปไอเดียไปหมดแล้ว แล้วการโปรโมทเรื่องสงครามบนดาวอังคารพอเอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้ฉีกจากหนังแนว ๆ นี้เรื่องอื่นเลย ยิ่งมาเป็นหนังที่พยายามจะขายความล้ำสมัยของยุคโบราณนี่ยิ่งดูเชยขึ้นไปอีก แต่อย่างไรก็ตามพื้นเพดั้งเดิมของหนังในสายตาเราค่อนข้างน่าสนใจ เรามองว่า John Carter มันเป็นการแทนภาพถึงสงครามกลางเมืองอเมริกา ฝ่ายเหนือรบกับฝ่ายใต้แล้วมีอินเดียนแดงเป็นชนพื้นเมืองที่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้มันถูกแทนที่ด้วยสงครามบนดาวอังคารนั่นเอง
-------------------------------
'จอห์น คาร์เตอร์' (Taylor Kitsch) อดีตทหารฝ่ายใต้ได้เสียชีวิตลงกะทันหัน เขาเขียนมรดกมอบให้หลานคนหนึ่งพร้อมมอบหนังสือที่บันทึกเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อของเขาเอาไว้นั่นคือเขาถูกจับโดยทหารฝ่ายเหนือให้มาช่วยต่อสู้กับอินเดียนแดง แต่เขาไม่สนใจการต่อสู้อีกแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อทหารฝ่ายเหนือถูกโจมตีเขาก็ฝ่าดงปืนเข้าไปช่วยผู้พันออกจากวงล้อมก่อนจะไปซ่อนตัวในถ้ำที่ซึ่งพาเขาวาร์ปข้ามมายังดาวอังคารที่กำลังมีสงครามระหว่างโซแดงก้ากับฮีเลียม โดยมีพวกทาร์กสหน้าตาประหลาดเป็นกลุ่มอิสระไม่รบกับใคร
.
มาดูยุคนี้นี่นึกถึงหนังหลายเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็น Superman ฉากเหยียบดาวอังคารครั้งแรกแล้วแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าโลกทำให้กระโดดได้ไกลและมีพละกำลังมากกว่าชาวดาวอังคารนี่มันไอเดียตัวละครซูเปอร์แมนชัด ๆ นอกจากนี้ถ้าไปดูในวิกีพีเดียจะเห็นว่า John Carter ยังเป็นอิทธิพลให้งานยุคต่อมาเช่น Buck Rogers, Flash Gordon, Dune แม้กระทั่ง Star Wars เองที่แม้จะหยิบยืมนู่นนี่มาจากหนังนับสิบเรื่องแต่ก็ไม่วายจะหยิบยืมบางส่วนจากนิยาย John Carter เช่นกัน รวมถึง Avatar ของคาเมร่อนก็เอ่ยอ้างอิงถึงแรงบันดาลใจหนังของเขาว่ามาจากหนังผจญภัยคลาสสิกเรื่องนี้ที่พาทหารไปยังดาวอังคาร และถ้าหากดู ๆ อยู่คงไม่แปลกใจที่จะนึกถึงลานประลองใน Gladiator และฉากขับยานบุกทำลายงานแต่งนี่ก็คุ้นมาก ๆ ว่ามีหนังเรื่องไหนเคยนำไปใช้คล้าย ๆ แบบนี้เลย
.
ตัวเนื้อเรื่องน่าสนใจถ้าเราแทนภาพฝ่ายเหนือเป็นโซแดงก้า, ฝ่ายใต้คือฮีเลียม, และทาร์กสคืออินเดียนแดง เหมือนเขาตั้งใจวางจอห์น คาร์เตอร์ให้เป็นทหารใต้ที่ไม่อยากทำสงคราม มีประสบการณ์ผ่านความเจ็บปวดมามากมายจนไม่รู้จะสู้เพื่ออะไรอีกแล้ว จึงพยายามวางตัวอยู่เหนือความขัดแย้งแต่ในใจลึก ๆ ก็มีคุณธรรมอยู่พอสมควร มีความเป็นฮีโร่ช่วยเหลือคนไม่มีทางสู้แล้วสุดท้ายมุมนี้ในจิตใจก็ปลุกเขาให้ลุกขึ้นมาใช้ความสามารถในการรบของตัวเองช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่าให้รอดพ้นจากการถูกกดขี่ข่มเหง ซึ่งไอเดียนี้มันอาจจะเก่าแต่พอมองดูด้วยสายตาคนในยุคสงครามกลางเมืองเรารู้สึกว่ามันมีความน่าสนใจเหมือนกัน อย่างที่บอกว่าหนังมันสร้างช้าเกินไปด้วย เอาเรื่องสงครามกลางเมืองยุคร้อยกว่าปีก่อนนู้นมาใส่ในหนังดาวอังคารมันก็ยังเชยอยู่เหมือนเดิมน่ะแหละ ปัจจัยนี้น่าจะสำคัญเหมือนกันที่ทำให้หนังเจ๊งเพราะกระแสบอกต่อน่าจะไม่ค่อยดี แปลกใจที่ดิสนี่ย์ทุ่มทุนสร้าง 264 ล้านเหรียญ งบนี่มากกว่า Avatar อีกนะ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ John Carter ก็ไม่ใช่หนังที่แย่อะไร แค่มันทำมาช้าจนทุกอย่างดูคุ้นเคยไปหมดสำหรับคอหนังเท่านั้นเอง
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Disney+ Hotstar: https://www.hotstar.com/th/movies/john-carter/1260016408
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์จากทุกค่ายได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb
#หนังโปรดของข้าพเจ้า
