เปรียบเทียบต้นทุน การขุดทองคำ VS บิตคอยน์ /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งทองคำและคริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะบิตคอยน์ ที่ใครหลายคนนิยามว่าเป็นทองคำดิจิทัล ได้กลายมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนของใครหลายคน
หากเรามาดูมูลค่าทองคำ แร่ต่าง ๆ และคริปโทเคอร์เรนซี
ทองคำ 374 ล้านล้านบาท
เงิน 44 ล้านล้านบาท
บิตคอยน์ 29 ล้านล้านบาท
แพลเลเดียม 14 ล้านล้านบาท
อีเทอเรียม 12 ล้านล้านบาท
จะเห็นได้ว่าคริปโทเคอร์เรนซี มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าที่เราเห็นนั้น นอกจากจะเป็นผลมาจากความต้องการซื้อและความต้องการขายของตลาดแล้ว ส่วนหนึ่งยังมาจาก “ต้นทุน” ในการผลิต ซึ่งสำหรับทองคำและบิตคอยน์ ถูกเรียกเหมือนกันว่าการขุด ต่างกันตรงที่เราจะขุดทองคำในโลกจริง แต่ขุดบิตคอยน์ในโลกเสมือน
แล้วเราเคยสงสัยไหมว่า ต้นทุนในการผลิตทองคำและบิตคอยน์
ประกอบไปด้วยอะไรบ้างและต่างกันอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เริ่มกันที่ต้นทุนในการผลิตทองคำ
สำหรับทองคำ เราจะมีศัพท์เฉพาะในอุตสาหกรรมนี้ เรียกว่า “All-In Sustaining Cost”
All-In Sustaining Cost หมายถึง ต้นทุนในการผลิตทองคำเพื่อความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการประเมินต้นทุนสำหรับผู้ผลิตทองคำแต่ละรายว่าจะยังคงมีกำไรและมีความสามารถในการผลิตทองคำต่อไปได้หรือไม่ในอนาคต
โดย All-In Sustaining Cost จะประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายทุกอย่างของบริษัทที่ใช้ไปในกิจการเหมืองขุด รวมถึงกระบวนการแปรรูปทองคำ
เช่น ค่าแรงงานและพลังงาน ค่าขนส่ง ค่าสัมปทาน ค่าสำรวจ ค่าอุปกรณ์ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับอาคารสำนักงาน
หากอ้างอิงจากต้นทุนของเหมืองทอง Polyus ในประเทศรัสเซีย ซึ่งมีต้นทุนในการผลิตทองคำ ถูกที่สุดในโลก จะมี All-In Sustaining Cost ต่อหน่วยประมาณ 604 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
ในขณะที่ราคาทองคำ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เท่ากับว่าต้นทุนในการผลิตทองคำที่ถูกที่สุดในโลก จะคิดเป็นสัดส่วนราว 34% ของมูลค่าทองคำที่ซื้อขายกันในตลาด ณ ตอนนี้
ในขณะที่ต้นทุนในการขุดของบิตคอยน์นั้น จะไม่ได้มีมาตรฐานการหาต้นทุนแบบทองคำ
แต่หลัก ๆ ต้นทุนของการขุดบิตคอยน์ ก็จะมาจาก
1. อุปกรณ์ที่ใช้ในการขุดซึ่งที่นิยมใช้มีทั้งการใช้การ์ดจอหรือการใช้เครื่องขุดโดยเฉพาะ
ที่เรียกว่า Application-Specific Integrated Circuit หรือ ASIC
2. พลังงานที่ใช้ในการขุด หรือก็คือพลังงานไฟฟ้า
สำหรับคำศัพท์เฉพาะของวงการขุดบิตคอยน์ ก็จะมีคำว่า “Hash Rate” หรือกำลังการคำนวณที่ผู้ขุดใช้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการทำธุรกิจบนบล็อกเชน ซึ่งก็ใช้วัดตั้งแต่ระดับอุปกรณ์ในการขุดและของทั้งระบบ
ทุกอุปกรณ์จะต้องการพลังงานไฟฟ้าที่มีหน่วยเป็น Watt ถ้าหากอุปกรณ์มี Hash Rate ที่ต่ำภายใต้การใช้ Watt เท่ากัน ก็แปลว่าอุปกรณ์นั้นจะมีประสิทธิภาพที่ไม่ดี ก็จะทำให้เราต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นในการขุดบิตคอยน์จำนวนเท่ากัน นั่นหมายถึงต้นทุนของเราก็จะเพิ่มขึ้น ตามไปด้วย
ซึ่งเราก็ต้องมาดูต่อว่ากำลังในการผลิต ค่าไฟฟ้าที่เราใช้ เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานของเครื่องขุดเรา จะคุ้มกับมูลค่าของบิตคอยน์ ณ เวลานั้น ๆ หรือไม่ นั่นเอง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศจีนนับเป็นประเทศแห่งการขุดบิตคอยน์ สะท้อนให้เห็นจากในปี 2019 ประเทศแห่งนี้ มีส่วนแบ่งการขุดบิตคอยน์มากถึง 75% ของการขุดทั่วโลก
แต่หลังจากที่รัฐบาลจีนมีนโยบายปราบปรามเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซีทั่วประเทศ ก็ได้ทำให้บรรดาเหมืองขุด ต่างพากันเทขายอุปกรณ์ขุด ในขณะที่บางส่วนได้ย้ายฐานไปยังประเทศอื่น
ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกา นับเป็นฐานการขุดบิตคอยน์แห่งใหม่ที่กำลังเติบโต
ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่าส่วนแบ่งการขุดบิตคอยน์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในช่วงต้นปี 2020 ที่มีเพียง 5% ได้ขยับขึ้นมาเป็น 17% ในปี 2021
แต่จากการย้ายฐานการผลิตดังกล่าวก็ทำให้ต้นทุนรวมของการขุดบิตคอยน์สูงขึ้น จากต้นทุนค่าพลังงานที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งสหรัฐอเมริกามีค่าไฟฟ้าประมาณ 0.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ในขณะที่จีนมีค่าไฟฟ้าเพียง 0.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง
ทีนี้ เราลองมาดูกันว่าต้นทุนในการขุดบิตคอยน์หนึ่งเหรียญ จะมีมูลค่าเท่าไร ?
จริง ๆ แล้ว การหาต้นทุนในการขุดบิตคอยน์นั้นทำได้ค่อนข้างยาก เพราะผู้ขุดแต่ละคน
ก็จะมีวิธีการจัดอุปกรณ์ขุดที่ต่างกันออกไป และส่วนใหญ่จะใช้เครื่องขุดเป็นจำนวนมาก
ในที่นี้ เราจึงนำสมมติฐานของ Miner Daily ที่ได้ระบุว่าโดยทั่วไป
เครื่องขุดบิตคอยน์ ASIC จะมีอายุการใช้งานราว 4 ปี
และหากเราใช้เครื่อง ASIC เครื่องเดียว ก็จะใช้เวลาขุด 4 ปี ถึงจะได้มา 1 บิตคอยน์
นั่นเท่ากับว่าเราสามารถนำมูลค่าเฉลี่ยของ ASIC มาบวกกับค่าไฟเพื่อเป็นต้นทุนได้
ซึ่งวิธีนี้ก็ถือเป็นเพียงตัวอย่างการคำนวณต้นทุน เพราะในทางปฏิบัติคงมีน้อยคนที่ใช้เครื่อง ASIC 1 เครื่องขุดบิตคอยน์เป็นเวลา 4 ปี
สำหรับค่าเฉลี่ยของเครื่องขุดที่ Miner Daily เฉลี่ยเอาไว้อยู่ที่ 7,946 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง
ในขณะที่ค่าไฟตลอดระยะเวลาการขุดเพื่อให้ได้ 1 บิตคอยน์
ที่ 0.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ตามค่าไฟในประเทศจีน
ต้นทุนทั้งหมดจะอยู่ที่ 26,693 ดอลลาร์สหรัฐ
คิดเป็น 56% ของมูลค่าบิตคอยน์ (ให้ปัจจุบัน บิตคอยน์ 47,369 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ)
ที่ 0.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ตามค่าไฟในประเทศสหรัฐอเมริกา
ต้นทุนทั้งหมดจะอยู่ที่ 39,191 ดอลลาร์สหรัฐ
คิดเป็นราว 83% ของมูลค่าบิตคอยน์ (ให้ปัจจุบัน บิตคอยน์ 47,369 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ)
จากสมมติฐานดังกล่าว ก็จะเห็นได้ว่า ทั้งต้นทุนในการขุดทองคำจะถูกกว่าราคาตลาดอยู่พอสมควร
แต่สำหรับการขุดบิตคอยน์นั้น ต้นทุนจะมีความแตกต่างกันมาก ตามค่าไฟในแต่ละประเทศ
ถึงตรงนี้ เราก็คงจะพอเห็นภาพว่าทั้งการขุดทองคำและขุดบิตคอยน์ก็จะมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และแต่ละประเภท ก็มีความผันผวนและความเสี่ยงที่ไม่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ทั้ง 2 สินทรัพย์ ยังมีจุดร่วมเดียวกันก็คือ “การมีอยู่อย่างจำกัด” ซึ่งก็ถือเป็นคุณสมบัติ ที่ทั้งนักลงทุนและใครหลายคน เชื่อมั่นว่าจะช่วยให้เรากักเก็บความมั่งคั่งเอาไว้ได้
ซึ่งบางที ความเชื่อของเราที่สร้างขึ้นมาเองนั้น อาจจะเป็นส่วนที่สร้างมูลค่าเพิ่ม
ให้กับทั้งทองคำและบิตคอยน์ มากกว่าต้นทุนในการผลิต ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://goldtraders.or.th/ArticleView.aspx?gp=2&id=692
-https://minerdaily.com/2021/how-much-does-it-cost-to-mine-a-bitcoin-update-may-2021/
-https://minerdaily.com/2021/how-much-power-does-it-take-to-mine-a-bitcoin/#How_much_power_does_it_take_to_mine_a_bitcoin_with_S19_Pros
-https://www.statista.com/statistics/263492/electricity-prices-in-selected-countries/
-https://www.buybitcoinworldwide.com/mining/hardware/
-https://polyus.com/en/investors/disclosure/annual-reports/
-https://cbeci.org/mining_map
-https://technode.com/2021/05/24/crypto-mining-moves-to-north-america-as-china-cracks-down/
-https://www.cnbc.com/2021/07/17/bitcoin-miners-moving-to-us-carbon-footprint.html
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過6萬的網紅MDD,也在其Youtube影片中提到,誰不想要一個現金列印機? 了解如何通過開採以太幣來製造真正的貨幣打印機。 本指南適用於初學者。 我簡單快速地介紹了構建和設置採礦計算機的基本知識。 加入我的Discord服務器“現實”-https://discord.gg/bsHsvd7 跟隨MDD:https://www.instagram...
how to mine bitcoin 在 貓的成長美股異想世界 Facebook 的精選貼文
🌻另一個Zoom會議(第二次貼......有補上一些內容)
繼上次的年報導讀會議後, 讓我們再做另一個會議! 這次很榮幸邀請到一位對估值很有見解的股友前輩來帶大家了解估值(恩, 這次我會是主持人, 不是主講人).
主題: 估值(valuation)分享會(Cat: 這不算基礎的估值會議)
主講人: 小揚(from安泰價值投資)
https://www.facebook.com/antaiinvestment (此為小揚的粉絲頁)
參與者: 具基本估值能力. 若打算參加者, 請事先跟我(請私訊)提出一個關於估值的case study, 到時候可在會議中分享(最好是以投影片形式呈現, 這樣到時候好跟大家分享). 若有估值的問題, 也可以提出.
Case study可以是美股, 也可以是台股.
時間: 台灣時間07/10 (周六)晚間9點.
預計一個小時(不會像上次那樣冗長了😅): 前30分鐘由小揚做分享, 後30分鐘大家分享估值案例&提問
進行方式: 以Zoom進行(之後會私訊會議資訊給參與者)
🌻Morgan Stanley Mid-year Investor Outlook: A tricky transition
https://www.morganstanley.com/ideas/midyear-2021-global-markets-outlook
🌻在您投資生涯中, 有沒有一些觀念讓您受用很多?
下面這位投資名人的好觀念影響我很深. 他的意思是, 一般投資人, 只要能説出三個買一家公司的理由, 就很夠了. 這也迫使我, 每次在買股票時, 問自己對這家公司的了解有多少. 也會去衡量公司的優點與缺點在哪裡.
"It is vital (重要的) that you know what you own, that if I asked you on the street why you like a certain stock, you can give me three reasons. If you don't know how they make their money, who their key clients are and what they make if, then I will tell you that you are over your head and should not own individual stocks."
全文在此:
Jim Cramer: In Times Like This, Go for the Easy Money
Look at the stocks you own. Can you tell me why you've got them? If you can't answer the following three questions, then have a look at several I like right now.
We've endured the meme stock craziness, with all of its love for heavily shorted stocks. We have watched the collapse of bitcoin to levels viewed as shocking, even if they are still more than double where they were not that long ago. We've dealt with Fed officials making it clear that they are no longer on the side of the bulls or the bears. They are on the side of job growth, but are wary of inflation. We've seen the end of the rush to get vaccines, which means that millions of people are going to get the new COVID variant, because there is no natural immunity to it. We've watched as the hopes for an infrastructure bill have collapsed. We've endured shortages of everything from chips to plastic to imported goods and labor.
And we're still standing, yeah, yeah, yeah.
Yep, we are in one of those halcyon moments, where the masks are off -- even if they shouldn't be -- and Americans are back doing what they do best: consume, spend, go out to eat and then consume and spend some more.
There are times in the stock market where the collective mindset is revealed. This is one of those times: Things are cool, it's not a big moment, there's no real news for a bit, it's the historically strong period and we can reach some conclusions about where we are.
When things are like this, it is important to remember that buyers like to revert to tried-and-true companies that thrive no matter what. These are companies that have an edge and are better at what they do than other companies.
You know that I am a great believer in index funds, that the average person doesn't have the time or the inclination to research individual stocks. It's a difficult barrier. I think you need to make time to read the quarterly report and listen to the conference call, to Google articles and, if possible, get some research about the companies you own. It is vital that you know what you own, that if I asked you on the street why you like a certain stock, you can give me three reasons. If you don't know how they make their money, who their key clients are and what they make if, then I will tell you that you are over your head and should not own individual stocks. I am reminded by this, because, once again, without a mask, I can be recognized and if I am not holding "Nvidia the Second," I can carry on a conversation.
I have had many in the last two weeks and when I have asked this litany of questions, I find myself at a loss as to why almost no one knew what they owned. But they thirsted for individual stocks, because they, like me, think things are better post pandemic. No, that's not a facetious comment. Many, many stocks did better with a stay-at-home economy. A huge number.
So what do I do? I revert to what others do when you are stumped about how to stay in touch with stocks, but want to do less homework. That means buying stocks that are accessible, not stocks like Unity (U) or Snowflake (SNOW) or Twilio (TWLO) or Okta (OKTA) .
I revert to normal businesses people know and I suggest they Google some articles, peruse the conference call, but, above all, like the company's products so you can buy more if it goes down.
Here's some that I have been telling people I like:
First is Ford (F) . I think the Ford lineup is amazing. The electric F-150 series will be incredible. I am eager to get a Maverick for my family, because it is a smaller pickup that will get the job done for the myriad little things I need to do with this farm I bought from that crazy bitcoin foray. I like the competitive edge of the CEO, who says he is going to bury Elon Musk when the Lightning comes out. I even think the Bronco is cool as all get out. Most important, though? I think the chip shortage is ending. My semiconductor friends are telling me the foundries are producing more feature-rich chips and that means Ford can pump out the trucks small business people love and need. Plus, the used car prices at last have plateaued, according to their most important pricing index. Halcyon times.
Second, Costco (COST) : The samples are coming back. Tell me you don't love the samples. You need things in bulk. You want low prices. You want to get all of the things that people don't think of with Costco, like insurance, hearing-aids -- hey, they are a fortune -- jewelry, things around the house. You go and you will buy far more than you first came for. My kind of store.
The kids love this American Eagle Outfitters (AEO) , which we just bought for my charitable trust, which you can follow along by joining the Action Alerts PLUS club. Jay Schottenstein, the CEO, came on "Mad Money" recently and it's clear that his Aerie model has real staying power: 26 consecutive quarters of double digit growth. No flash in the pan, that one. Number one brand in jeans for the 15 to 25 year old group. The best in the mall. How did I know this? I see the credit card bills.
I got up this morning to do my physical therapy. I have been doing it ever since I hurt my back in February. I have this really cool pair of sneakers that fit me perfectly and I love them, but I am fortunate enough to have a vacation house and I am always taking those shoes with me.
So I went on Amazon (AMZN) this morning and lo and behold I saw them for half price. I bought two pairs. Then I went over everything I have bought in the last year and got a bunch of those things. Then I bought a pair of binoculars, because mine were stolen. I paid half price.
Yep, Amazon's universal. I was talking to Alexa, while I was ordering, getting some new music on, asking questions. I saw that despite all of the Sturm und Drang of Amazon being late with things, all the delivery dates were within range. I didn't click on any ads, and I didn't need the speed of Web Services, but the whole thing reminded me about how special the darned company is. I don't care if it's ahead or behind plan for the moment. I would just buy some more when it goes down.
Finally, Apple (AAPL) . I think people who don't own Apple should look what they are holding at this very moment. Yes, right now. Or look at what's in your lap or on the table besides your fork. And then think about the bill you paid last night without knowing it. Think about what you bought in the App store yesterday. Think about what would happen if it would break or get stolen or, left in the Uber (UBER) , or heaven forbid, be dropped into the pool or in the, yes, toilet.
There, that's what you buy in halcyon times. Stocks of companies you know that if they go lower, because things get less halcyon, you are fine with it and buy more. If things go up, believe me, you will participate.
So accept the moment. Don't try for the hard money. Go for the easy kind. That's the best kind.
https://realmoney.thestreet.com/jim-cramer/jim-cramer--15692051
Picture: 牡丹(peony)花開. 恨不得院子裡有一塊地是牡丹園.
how to mine bitcoin 在 Milton Goh Blog and Sermon Notes Facebook 的最佳貼文
As many of you know, I have been occasionally sharing about Pi. This is a new article about it and it’s a really good summary that explains what it’s all about: https://bitcoinist.com/introducing-pi-network-making-cryptocurrency-accessible-to-the-masses/
I like these excerpts:
“Pi was conceived with the vision of re-democratizing access to cryptocurrencies and making them accessible for anyone to mine with equipment that’s easily available – a smartphone.
Pi was founded by Dr. Nicolas Kokkalis and Dr. Chengdiao Fan. Dr. Kokkalis holds a Ph.D. from Stanford and was the instructor of Stanford’s first class on decentralized applications, and co-teaches the Beyond Bitcoin class at Stanford once a year. In the course of teaching his dapps class, he came to realize the difficulty of making blockchain technology available to everyday people.
Dr. Fan holds a Ph.D. in Computational Anthropology from Stanford. Her research has focused on human-computer interactions and social computing – how we can use technology to positively impact human behavior and societies.
In total, the Pi team comprises 14 people working around the globe.
Conclusion:
The barriers to entry for mining most major cryptocurrencies are currently so high that most participants are excluded. Mining Pi on a smartphone is a simple and easy way to watch cryptocurrency rewards accrue on a daily basis.
However, the value of those rewards requires Pi to gain the traction and usage of the network effect. Only once enough people participate and are willing to transact goods and services in Pi, will the rewards gain any real-world value. In that sense, the success of Pi depends on its ability to reach enough people and enough utilities.
If the project can meet this challenge, Pi has every chance of being a success when it launches on the mainnet.
Pi already operates in 238 countries and 52 languages.”
I am sending you 1π! Pi is a digital currency developed by Stanford PhDs, with over 14 million members worldwide.
To claim your Pi and mine Pi for free, follow this link https://minepi.com/miltongohblog and use my username (miltongohblog) as your invitation code.
how to mine bitcoin 在 MDD Youtube 的精選貼文
誰不想要一個現金列印機?
了解如何通過開採以太幣來製造真正的貨幣打印機。
本指南適用於初學者。 我簡單快速地介紹了構建和設置採礦計算機的基本知識。
加入我的Discord服務器“現實”-https://discord.gg/bsHsvd7
跟隨MDD:https://www.instagram.com/mdd_uberox/
-
Learn how to make a literal money printer by mining ethereum.
This guide is for beginners. I go over the basics of building and setting up your mining computer quickly and easily.
Join my Discord server "Reality" - https://discord.gg/bsHsvd7
Follow MDD: https://www.instagram.com/mdd_uberox/
how to mine bitcoin 在 How to Mine Bitcoin from Your Smartphone? 的相關結果
All you have to do to begin mining the cryptocurrency you choose is sign into the app after downloading it, look for a mining pool to join, and ... ... <看更多>
how to mine bitcoin 在 How Does Bitcoin Mining Work? 的相關結果
Bitcoin mining is the process by which new bitcoins are entered into circulation. It is also the way the network confirms new transactions and is a critical ... ... <看更多>
how to mine bitcoin 在 How to mine Bitcoin at home 的相關結果
To start mining Bitcoin at home, one needs to obtain a Bitcoin wallet and a mining rig, install the Bitcoin mining software, and join a ... ... <看更多>