REVIEW : LUMINAR 4
ก่อนหน้านี้ได้ Live อธิบายการทำงานเบื้องต้นไปบ้างแล้ว ตอนนี้จะมาสรุปให้ฟังนะครับ
เพราะหลังจากได้ลองใช้ Luminar 4 ตัวเต็ม มาได้หลายวัน ถ้าถามว่าน่าใช้ไหม?
ตอบเลยว่า "ไม่!"
ทำไมถึงคิดว่าไม่น่าใช้ ...
.
1.กินกำลังเครื่องมาก ขนาดเครื่องที่ใช้งานตอนนี้ สามารถใช้ Final Cut Pro X ตัดต่อ Video 4K ได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องพยายามมาก ...
แต่สำหรับ Luminar ยังรู้สึกว่าหน่วง การเรียกใช้เครื่องมือต่าง ๆ ไม่ราบรื่นมีดึงให้ได้รู้สึก เหมือนสั่งแล้วมีชะงักก่อนที่จะทำงาน ตอบสนองได้ไม่ดี ใช้แล้วจะรู้สึกไม่สนุก
.
2.Workflow การจัดลำดับการทำงานไม่ค่อยดี ไม่เป็นธรรมชาติ กระโดดไป กระโดดมา การสั่งงานต่าง ๆ มีลำดับชั้นมากกว่าโปรแกรมตกแต่งภาพตัวอื่น ๆ Luminar จะวาง Control เป็นแนวลึก ต่างจาก Lightroom หรือ Capture One ที่พยายามจะนำออกมาวางด้านนอก
ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยเวลาทำงานที่ต้องลงลึกไปดึงขึ้นมาทำ พอใช้ Control ตัวใหม่ ก็ต้องเริ่มลงไปอีก เหมือนขุดหลุมไปเรื่อย ๆ ไม่ได้อยู่บนพื้นผิว
เวลาจะทำรูปใหม่จะรู้สึกไม่อยากทำอีก
.
3.Default ของ Effect ต่าง ๆ เป็นแนวหนักมือ กดเลือกแล้วต้องมาลด ออก ซึ่งทำให้เกิดความต่อเนื่องนุ่มนวลค่อนข้างยาก ซึ่งตรงนี้ก็เข้าใจในมุมของคนออกแบบ ว่าต้องให้ผู้ใช้เห็นได้ชัด ๆ ว่า Effect ให้ผลอย่างไร
แต่กลายเป็นว่าเป็นการเพิ่มงานที่จะต้องมาค่อยทำให้กลมกล่อมนุ่มนวล
Luminar ถ้าเป็นคนก็แนว ๆ ประโคมมาเต็มที่ ใส่แบรนด์ยกองค์ทรงเครื่องมาหมดสยามพารากอน
ถ้าเป็นรถก็ดึงโป่ง จัดสปอยเลอร์ ทำสี คาดสติ๊กเกอร์มาเยอะ ๆ
ถามว่าสวยดูดีไหม ถ้าคนที่ชอบอะไรแนวจัด ๆ ปรี๊ด ๆ ก็คงชอบ อันนี้แล้วแต่รสนิยม
.
4.Sky replacement ถือว่าทำได้ดี แต่ทำงานหน่วง และสุดท้ายคือมันซ้ำ ๆ ท้องฟ้ามันก็มีให้เลือกไม่มาก ทำไปหลาย ๆ รูปก็เบื่อ รูปถ่ายที่ขั้วโลกเหนือ ฟ้าซ้ำกับภูทับเบิกของเพื่อนข้างบ้าน
มีฟ้าขายเพิ่มชุดละ 25 USD มี 25 ภาพ ตกภาพละ 1 USD
หรือจะหาฟ้าของตัวเองมาใส่ก็ได้ แต่ Workflow ที่ช้าและหน่วง จะทำให้เรารู้สึกไม่อยากไปวุ่นวายอะไรกับมัน
.
5.Portrait Enhance ... Skin retouch ดูหลอกตา เหมือนทำเบลอ ๆ แล้วเอามาซ้อน ยังถือว่าไม่ใช่งานละเอียด พวกตำหนิต่าง ๆ เลื่อนจนสุดก็ยังเอาออกไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น (ไม่ได้หมายความว่าควรเอาออกไปทั้งหมด แต่มันไม่น่าเหลือเยอะขนาดนั้น)
แต่พวกปรับใบหน้า ปาก ตา คิ้ว ถือว่าทำได้ดีพอสมควร แต่ Effect เหมือนจะเบาไปนิด (ที่ควรจะมากดันให้มาน้อย กลับกันซะงั้น)
.
6.วิธีคิดการทำงานกับ Layer พวก Adjustment ต่าง ๆ และการ Mask ลำดับขั้นตอนการทำงานไม่สะดวก เพิ่ม Layer ทีนึงจะคล้าย ๆ ว่าให้เราเพิ่มงานชุดใหม่อีกครั้ง และด้วยความที่โปรแกรมมันหน่วง มันเลยไม่ชวนให้เราอยากทำ
.
7.มันเป็นโปรแกรมแบบสำเร็จรูป ใช้สูตรสำเร็จ แรก ๆ ใช้อาจตื่นตาตื่นใจ แต่พอใช้ไปสักพัก จะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ ทำให้ภาพของเราขาดเสน่ห์ ไม่มีตัวตน โปรแกรมมันเลือกทางให้เราเดินไปในทางเดียวกัน ภาพก็จะออกมาซ้ำ ๆ กันไปหมด
ไม่ได้หมายความว่าภาพจะเหมือนกัน แต่ Look & Feel มันไม่แตกต่าง
.
8.ราคาถือว่าไม่แพง 89USD หรือถ้า Upgrade ก็ถูกกว่านี้ จ่ายขาดไม่ต้องเช่า ไม่ได้ถือว่าแพงอะไร ส่วนตัวถึงซื้อมาลองและไม่ได้คิดจะใช้ต่อ ราคานี้ถือว่าซื้อมาลองให้รู้ และมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ก็คุ้มค่าแล้ว
.
ใครอยากซื้อตามสบายนะครับ ไม่ได้ห้าม เพราะไม่ได้เอาตังค์พี่หาวไปซื้อ ลองให้รู้ ... ถือว่าสร้างเสริมประสบการณ์
capture one portrait workflow 在 Portrait Editing Techniques using Capture One 22 - YouTube 的美食出口停車場
In this Capture One 22 tutorial, I review layers, masks, style brushes, magic eraser, and the color editor. Save 20% off on New Annual ... ... <看更多>