“การลุ้นรางวัลใต้ฝา” ที่นำไปสู่ความรุนแรง ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ /โดย ลงทุนแมน
สงครามการตลาดระหว่างโค้กกับเป๊ปซี่ ดำเนินมาอย่างยาวนานและดูท่าว่าจะไม่มีวันจบลง
เราจึงยังได้เห็นสองแบรนด์นี้ งัดกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อชิงฐานลูกค้ากันไปมาอยู่เป็นระยะ
หนึ่งในแคมเปนที่อยู่คู่กับการแข่งขันของตลาดโคลาก็คือ “การลุ้นรหัสใต้ฝา”
ที่ช่วยเร่งกระตุ้นยอดขายจากการจูงใจให้เราสะสมฝาเครื่องดื่มที่มีรหัส
เพื่อลุ้นเป็นผู้โชคดีที่จะได้รับเงินรางวัลก้อนใหญ่
แต่รู้หรือไม่ว่าแคมเปนลุ้นโชคใต้ฝา ก็ไม่ได้เป็นไปได้ด้วยดีเสมอไป
เพราะเป๊ปซี่เคยได้ใช้แคมเปนนี้ที่ประเทศฟิลิปปินส์
แต่มันกลับนำไปสู่ความหายนะครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับแคมเปนลุ้นรหัสใต้ฝาเป๊ปซี่ในฟิลิปปินส์ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปราว 30 ปีก่อน ผู้บริหารเป๊ปซี่ได้เดินทางไปสำรวจตลาดเครื่องดื่มโคลาในหลายประเทศ
แต่ก็ต้องพบกับข้อเท็จจริงที่ว่าตัวเองแพ้คู่แข่งอย่างโค้กแบบขาดลอย
ในขณะเดียวกัน เป๊ปซี่ก็พบว่าแคมเปน “Number Fever” หรือ “ลุ้นรหัสใต้ฝา” ประสบความสำเร็จในประเทศสหรัฐอเมริกา
เป๊ปซี่จึงตัดสินใจใช้แคมเปนแบบเดียวกันนี้ในการกระตุ้นยอดขายเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดโคลาในต่างประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศฟิลิปปินส์ ที่เป๊ปซี่มีส่วนแบ่งตลาดโคลาอยู่ไม่ถึง 20%
ขณะที่โค้กครองส่วนแบ่งอยู่กว่า 70%
เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1992 เป๊ปซี่จึงประกาศแคมเปนลุ้นรหัสใต้ฝา
โดยจะพิมพ์เลข 3 หลักไว้ใต้ฝาของขวดเป๊ปซี่และเครื่องดื่มยี่ห้ออื่นในเครือ
และจะประกาศผลรหัสที่จะถูกรางวัลในอีก 3 เดือนข้างหน้า
ซึ่งเงินรางวัลจะเริ่มตั้งแต่ 100 เปโซ ไปจนถึงรางวัลใหญ่ที่ 1 ล้านเปโซ
หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1.2 ล้านบาทในขณะนั้น
เงิน 1 ล้านเปโซนี้ มากกว่าเงินเดือนเฉลี่ยของชาวฟิลิปปินส์ในขณะนั้นถึง 611 เท่า หรือเทียบเท่ากับเงินเดือนที่ได้จากการทำงานหลายสิบปี จึงถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สามารถพลิกชีวิตได้เลย
และเมื่อเป๊ปซี่เริ่มโฆษณาตามสื่อต่าง ๆ ด้วยประโยคที่ว่า “เศรษฐีเงินล้านคนต่อไปอาจเป็นคุณ”
ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ให้ชาวฟิลิปปินส์ทุกเพศทุกวัยแห่กันสะสมฝาเพื่อลุ้นเงินรางวัล
ผู้บริหารเป๊ปซี่ในขณะนั้นเปิดเผยว่ามีประชากรฟิลิปปินส์กว่าครึ่งหนึ่ง
หรือราว 31 ล้านคน ที่มีส่วนร่วมกับแคมเปนนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแคมเปนที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในโลก
นั่นจึงทำให้ยอดขายของเป๊ปซี่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ในช่วงนั้น เพิ่มขึ้นกว่า 40% ต่อเดือน
จนดันให้ส่วนแบ่งตลาดของเป๊ปซี่เพิ่มขึ้นจาก 19% มาเป็น 25% อย่างรวดเร็ว
มาถึงตรงนี้ก็ถือได้ว่าเป๊ปซี่ประสบความสำเร็จจากแคมเปนนี้อย่างสวยงาม
จนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่ชาวฟิลิปปินส์รอคอย
เวลา 6 โมงเย็นของวันที่ 25 พฤษภาคม ปี 1992
ชาวฟิลิปปินส์กว่า 70% ต่างเปิดโทรทัศน์เพื่อรอฟังประกาศผลรหัสที่ถูกรางวัล
และเลขรางวัลที่ออก ก็คือ “349”
ผู้โชคดีที่ครอบครองฝาที่มีเลข 349 ซึ่งกำลังดีใจที่ได้เป็นผู้โชคดีรับเงินล้าน
ได้รีบเดินทางไปยังสำนักงานของเป๊ปซี่ เพื่อยืนยันตัวตนและขอรับเงินรางวัล
แต่กลับกลายเป็นว่าด้านหน้าสำนักงานและโรงงานเป๊ปซี่รายล้อมไปด้วย “มวลชนผู้โชคดี” ที่ถูกรางวัลเหมือนกัน
ที่บอกว่า “มวลชน” ก็เพราะว่าผู้ที่มีฝารหัส 349 กลับไม่ได้มีเพียงคนเดียว แต่มีมากถึงเกือบ 5 แสนคน..
ในคืนนั้นทางเป๊ปซี่ได้แจ้งไปยังกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นกับการประกาศตัวเลข
มวลชนผู้โชคดีเลยเริ่มปักหลักชุมนุมที่สำนักงานเป๊ปซี่เพื่อรอฟังคำอธิบายจากเป๊ปซี่
และที่สำคัญก็คือ เรียกร้องเงินรางวัลที่พวกเขาควรได้
แต่ในวันรุ่งขึ้น แถลงการณ์จากเป๊ปซี่ที่รอคอย
กลับระบุว่าเป๊ปซี่ไม่สามารถจ่ายเงินรางวัลให้ทุกคนได้
เพราะงบประมาณสำหรับเงินรางวัลที่ตั้งไว้ตอนแรกอยู่ที่ 64 ล้านบาท
ถ้าต้องมอบเงินรางวัลเต็มจำนวนให้กับทุกคนที่มีฝารหัส 349
จะคิดเป็นเงินรางวัลที่มูลค่ามากกว่างบประมาณเดิมถึง 16 เท่า
เป๊ปซี่ได้ตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้ชี้แจงถึงสาเหตุของความผิดพลาด
ตั้งแต่ก่อนเริ่มแคมเปน รหัสใต้ฝาได้ถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
รหัสกลุ่มแรก ถูกกำหนดไว้ให้ใช้จับรางวัล จึงถูกพิมพ์ไว้ใต้ฝาในจำนวนน้อย
รหัสกลุ่มที่สอง ไม่ได้ถูกกำหนดให้นำไปรวมตอนจับรางวัล จึงถูกพิมพ์ไว้ใต้ฝาเป็นจำนวนมาก
และรหัส 349 นี้อยู่ในกลุ่มที่สอง นั่นคือไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จะใช้จับรางวัล
ฝาที่มีรหัส 349 จึงถูกผลิตออกมากว่า 8 แสนฝา
ทางเป๊ปซี่ได้ตัดสินใจมอบเงิน 500 เปโซ หรือราว 650 บาท ให้ทุกคนที่ครอบครองฝา 349 แทน
แต่แม้จะมีมวลชนผู้โชคดีไปรับเงินจากเป๊ปซี่แล้ว ความไม่พอใจก็ยังคงอยู่
เพราะผู้โชคดีเหล่านั้นที่เคยดีใจเพราะคิดว่าจะได้เงินรางวัลหลักล้าน กลับได้รับเพียงเงินหลักร้อย
ความโกรธแค้นของมวลชนหลายแสนคนจึงนำไปสู่การชุมนุมประท้วงที่กลายเป็นเหตุจลาจล
ผู้ชุมนุมได้เผายางรถยนต์ เผารถส่งเป๊ปซี่ กีดขวางและทำลายรถของเหล่าผู้บริหารเป๊ปซี่
จนทางเป๊ปซี่สำนักงานใหญ่ที่นิวยอร์กต้องสั่งให้ทีมงานชาวอเมริกันหนีกลับประเทศ
แต่เหตุการณ์ยังรุนแรงขึ้นไปกว่านั้น เพราะมีการใช้ระเบิดมือและระเบิดขวด
มีคนขว้างระเบิดเข้าไปในโรงงานเป๊ปซี่ ทำให้มีพนักงานเสียชีวิต 3 คน
มีคนขว้างระเบิดใส่รถส่งเป๊ปซี่ที่ขับผ่านพื้นที่ชุมนุม ทำให้คนที่ผ่านไปมาแถวนั้นเสียชีวิต 2 คน
ผู้เสียชีวิตคนแรกคือครูผู้หญิงวัยกลางคนที่เดินไปซื้อของตรงร้านขายของชำแถวนั้น
อีกคนคือเด็กวัยเพียง 5 ขวบที่วิ่งเล่นอยู่แถวนั้น
นั่นจึงทำให้ผลจากเหตุจลาจลครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 5 คน และมีคนบาดเจ็บอีกมากมาย
จนกลายเป็นหนึ่งในการทำการตลาด ที่นำไปสู่ความรุนแรงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว Vicente del Fierro เจ้าของบริษัทที่ปรึกษาโฆษณาและนักเทศน์อิสระ
ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของแคมเปนชิงโชคแบบนี้มาตั้งแต่แรก เลยถือโอกาสเสนอตัวมาเป็นแกนนำและจัดตั้งกลุ่ม Coalition 349 หรือ “พันธมิตร 349”
กลุ่มพันธมิตร 349 รวบรวมผู้มีฝารหัส 349 ได้ราว 800 คน ที่ต้องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเป๊ปซี่
โดยร่วมกันลงขันสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี สำหรับผู้ที่มีกำลังทรัพย์ไม่พอ Vicente del Fierro ก็ยินดีรับผิดชอบให้
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนทางกฎหมายฟ้องร้องต่อเป๊ปซี่กลับดำเนินไปอย่างยืดเยื้อ
พร้อม ๆ กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ค่อย ๆ เบาบางลง จนหมดไป
ปี 1993 เป๊ปซี่ฟิลิปปินส์ถูกปรับเป็นเงินราว 1.8 แสนบาท โดยกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ โทษฐานที่เกิดความผิดพลาดในการจัดทำแคมเปน
ขณะที่ Vicente del Fierro ที่นอกจากจะยื่นฟ้องต่อศาลในฟิลิปปินส์แล้ว เขายังได้เดินทางไปยังเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่เป๊ปซี่ พร้อมกับจ้างนักกฎหมาย 2 คน เพื่อเป็นตัวแทนกลุ่มพันธมิตร 349 ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเป๊ปซี่ต่อศาลในนิวยอร์กด้วย
แต่หลังจากรอคอยอยู่ 2 ปี ศาลนิวยอร์กก็ยกฟ้อง
พร้อมให้เหตุผลว่า เป็นเรื่องที่ต้องให้ทางศาลฟิลิปปินส์จัดการ
ปี 1994 ศาลฟิลิปปินส์ได้ออกหมายจับผู้บริหารเป๊ปซี่ในฟิลิปปินส์ 9 คน
แต่หลังจากดีใจได้ไม่นาน เป๊ปซี่ก็ฟ้อง Vicente del Fierro กลับในข้อหาหมิ่นประมาท
สุดท้ายแล้วเรื่องราวก็เงียบหายไป
จนกระทั่งปี 2006 ศาลฎีกาที่ฟิลิปปินส์ได้ตัดสินให้เป๊ปซี่ไม่มีความผิด พ้นทุกข้อกล่าวหาและไม่ต้องรับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
แต่ไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะเป็นอย่างไร
ผลจากความผิดพลาดของแคมเปนนี้ ได้ทำให้ส่วนแบ่งตลาดที่เป๊ปซี่หวังกอบโกยในตอนแรก
กลายเป็นสิ่งที่ต้องเสียไปให้กับคู่แข่งจนแทบจะหมดหนทางสู้
เพราะส่วนแบ่งตลาดโคลาในฟิลิปปินส์ โค้กยังคงครองส่วนแบ่งได้อย่างขาดลอย แถมยังมีแบรนด์น้ำดำท้องถิ่นอย่าง Cosmos ที่ก้าวขึ้นมาแข่งกับเป๊ปซี่ได้อย่างสูสี
เงิน 650 บาทที่เป๊ปซี่มอบให้กับทุกคนที่มีฝารหัส 349 แทนเงินรางวัล
ก็ได้มีผู้มาติดต่อรับเงินไปกว่า 5 แสนคน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 325 ล้านบาท
และถ้ารวมความเสียหายที่เป็นผลจากความผิดพลาดของแคมเปนนี้ทั้งหมด
จะคิดเป็นมูลค่ากว่า 650 ล้านบาท สูงกว่างบประมาณที่เป๊ปซี่เตรียมใช้ทำแคมเปนในตอนแรกถึง 10 เท่า
แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาเกือบ 30 ปี
แต่เรื่องราวของชาวฟิลิปปินส์ที่ถูกหลอกให้ดีใจเก้อว่าได้เงินล้าน
หรือแม้แต่การมีผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตลงจากแคมเปนที่ผิดพลาด
ก็น่าจะเป็นกรณีศึกษา ให้กับนักการตลาดในปัจจุบัน ได้เป็นอย่างดี
ถ้าทำการตลาดกับมวลชนจำนวนมาก แล้วทำให้เขาผิดหวัง ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจเป็นหายนะ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/features/2020-08-04/the-inside-story-of-pepsi-s-philippines-bottle-contest-fiasco
-https://www.nytimes.com/1993/08/18/business/company-news-an-unlucky-number-pepsi-caps-the-damages-on-a-promotion-gone-flat.html
-https://www.washingtonpost.com/archive/business/1993/07/29/a-pepsi-giveaway-gone-wrong/1a6af4b1-2b6f-4e5a-9b1d-5dc6799ac2af/
-https://medium.com/digital-diplomacy/the-marketing-mistake-that-made-pepsi-go-on-a-full-fledged-war-with-a-country-bd31f3fa6d62
同時也有122部Youtube影片,追蹤數超過2,210的網紅DJ Macky Suson,也在其Youtube影片中提到,Boracay Videographer | Boracay Videography Service by DJ Macky Suson for Tourists and Businesses #boracay #boracayisland I am DJ Macky Suson. Before c...
「apple philippines」的推薦目錄:
- 關於apple philippines 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於apple philippines 在 ReLab - Review Laboratory Facebook 的最佳解答
- 關於apple philippines 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於apple philippines 在 DJ Macky Suson Youtube 的最讚貼文
- 關於apple philippines 在 DJ Macky Suson Youtube 的最讚貼文
- 關於apple philippines 在 DJ Macky Suson Youtube 的最佳貼文
- 關於apple philippines 在 Power Mac Center - Home | Facebook 的評價
- 關於apple philippines 在 2021 Apple Online Store Philippines First Time Order IPad Pro ... 的評價
apple philippines 在 ReLab - Review Laboratory Facebook 的最佳解答
Việt Nam nằm trong top 10 thị trường smartphone lớn nhất thế giới.
Điện thoại thông minh (smartphone ) ngày càng trở thành thứ không thể thiếu trong cuộc sống thường nhận của phần lớn người dân trên toàn cầu. Trung Quốc hiện là thị trường có nhiều dùng smartphone lớn nhất thế giới với 912 triệu người dùng.
Số người dùng smartphone tại Trung Quốc thậm chí lớn hơn tổng số người dùng tại Ấn Độ, Mỹ và Indonesia cộng lại. Đây là lý do Trung Quốc là thị trường đặc biệt quan trọng với những đại gia công nghệ như Apple.
Dưới đây là những thị trường smartphone lớn nhất thế giới tính theo số lượng người dùng trong năm 2020. Một người dùng smartphone được tính là người sử dụng smartphone ít nhất một lần một tháng.
Những số liệu dưới đây được được lấy từ Báo cáo Thị trường Di động toàn cầu và dựa trên mô hình xem xét tiến bộ về kinh tế, dân số, người dùng internet, cấu trúc nhân khẩu học và khả năng truy cập mạng không dây của mỗi quốc gia.
Theo đó, Việt Nam đứng ví trí thứ 10 với hơn hơn 61 triệu người dùng. Tại châu Á, Philippines, Hàn Quốc, Thái Lan cũng là những thị trường smartphone lớn với lần lượt 41 triệu, 39 triệu và 38 triệu người dùng.
Nguồn: GenK
#ReLab #News #Smartphone
apple philippines 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
ทำไมชาวฟิลิปปินส์ นิยมออกไปหารายได้ ในต่างแดน /โดย ลงทุนแมน
“1 ล้านล้านบาท” คือมูลค่าเงินที่ชาวฟิลิปปินส์ผู้อพยพไปทำงานในต่างประเทศ
ส่งกลับประเทศบ้านเกิดต่อปี ซึ่งนับเป็นมูลค่าที่สูงเป็นอันดับ 4 ของโลก
เป็นรองเพียงประเทศอินเดีย จีน และเม็กซิโก
โดยเงินจำนวน 1 ล้านล้านบาทนี้ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 10% ของ GDP ฟิลิปปินส์
ถ้าเทียบชาวอินเดีย ที่ส่งเงินกลับประเทศมากที่สุดในโลก ยังคิดเป็นสัดส่วน 3% ของ GDP เท่านั้น
แล้วทำไมชาวฟิลิปปินส์จึงนิยมออกไปทำงานหารายได้ที่ต่างประเทศ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ในแต่ละปีจะมีชาวฟิลิปปินส์อพยพไปทำงานที่ต่างประเทศราว 10 ล้านคน
หรือคิดเป็นเกือบ 1 ใน 10 ของประชากร
ซึ่งสาเหตุหลักก็มาจากการที่ประเทศฟิลิปปินส์ มีอัตราการเกิดของประชากรเร็วกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ความต้องการจ้างงานจึงเพิ่มขึ้นไม่ทันกับจำนวนแรงงานที่เพิ่ม ส่งผลให้มีอัตราการว่างงานสูง
การหางานทำในฟิลิปปินส์จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
บวกกับอัตราค่าจ้างโดยเฉลี่ย ก็ไม่ได้สูงนัก
ส่งผลให้เงินที่หาได้เลยไม่เพียงพอกับภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว
โดยภาระค่าใช้จ่ายที่ว่านี้หมายถึงค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐาน
เช่น ค่าเล่าเรียนของลูก ค่ายา ค่ารักษาพยาบาลให้พ่อแม่
รวมไปถึงเงินที่ต้องกันไว้สำหรับยามเกิดภัยพิบัติ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในฟิลิปปินส์
ต้นทุนค่าใช้จ่ายพื้นฐานเหล่านี้ต่างก็อยู่ในระดับสูง
สวนทางกับอัตราค่าจ้างและรายรับที่หาได้
ชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งส่วนใหญ่มีรายได้ปานกลางค่อนไปทางต่ำ
ต่างก็อยากส่งเสียให้ลูกได้เรียนในโรงเรียนเอกชนที่ดี จบการศึกษาในระดับสูง
เพื่อหวังให้อนาคตจะมีหน้าที่การงานที่สร้างรายได้มากขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเดิม
สิ่งเหล่านี้จึงเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ชาวฟิลิปปินส์ออกไปหางานทำในต่างประเทศและส่งเงินกลับมาเป็นค่าใช้จ่ายหลักให้กับคนในครอบครัว เพราะงานในต่างประเทศนอกจากจะหาง่ายกว่าแล้ว ยังได้ค่าตอบแทนที่ดีกว่า อย่างน้อย ๆ ก็ดีกว่าค่าแรงเฉลี่ยในประเทศตัวเองเกือบ 3 เท่า
ซึ่งนี่ก็ไม่ได้เป็นกระแสเพียงชั่วคราว แต่การไปทำงานในต่างประเทศเกิดขึ้นมานานจนกลายเป็นค่านิยมของชาวฟิลิปปินส์ไปแล้ว
ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีชาวฟิลิปปินส์จำนวนมาก อพยพไปทำงานในสหรัฐอเมริกาซึ่งส่วนใหญ่จะไปเป็นคนงานในไร่ในสวน
ช่วงทศวรรษ 1970s ที่เป็นยุครุ่งเรืองของน้ำมัน ชาวฟิลิปปินส์ก็นิยมอพยพไปทำงานก่อสร้างและงานในโรงกลั่นน้ำมันที่ประเทศในตะวันออกกลาง อย่างเช่น ซาอุดีอาระเบีย
ซึ่งในสมัยนั้นผู้ที่อพยพไปทำงานในต่างแดนยังคงเป็นผู้ชายเป็นหลัก ก่อนที่ในทศวรรษ 1980s ผู้หญิงฟิลิปปินส์ต่างก็เริ่มออกไปหางานทำนอกประเทศมากขึ้นเช่นกัน
จนในปัจจุบัน ชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานในต่างประเทศมีสัดส่วนเป็นผู้หญิงมากกว่า
โดยประเทศที่มีชาวฟิลิปปินส์เลือกไปทำงานมากที่สุด ก็คือประเทศในแถบตะวันออกกลาง
หรือที่เรียกว่า “Gulf States” ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 40%
อาชีพที่ชาวฟิลิปปินส์นิยม ก็แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ยกตัวอย่างเช่น
ซาอุดีอาระเบีย นิยมทำงานเป็น พนักงานโรงแรม แม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็ก และพนักงานขับรถ
จีน นิยมทำงานเป็น นักร้องในโรงแรม
ฮ่องกง นิยมทำงานเป็น พี่เลี้ยงเด็กและแม่บ้าน
ญี่ปุ่น นิยมทำงานเป็น คนงานก่อสร้าง
และอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับความนิยมสูงมากก็คือ ลูกเรือขนส่ง
ซึ่งชาวฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นกำลังหลักของลูกเรือทั่วโลก โดยคิดเป็นกว่า 1 ใน 4 เลยทีเดียว
ในขณะเดียวกัน คนฟิลิปปินส์ที่มีทักษะสูงในวิชาชีพ ก็เกิดการสมองไหลไปประเทศอื่นเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็น วิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ ที่ต่างก็นิยมหางานทำในต่างประเทศ เพราะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
หมอและบุคลากรทางการแพทย์นิยมไปทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา
รวมถึงประเทศในยุโรปและตะวันออกกลาง
ทำให้ประเทศฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์
รัฐบาลซึ่งรับรู้ถึงปัญหาเหล่านี้ ได้พยายามออกนโยบายที่เชิญชวน
ให้คนฟิลิปปินส์กลับมาทำงานในประเทศบ้านเกิด เช่น การการันตีว่าจะมีงานทำแน่นอน
การยกระดับเงินเดือนขึ้น ให้ทุนการศึกษากับลูก รวมถึงประกันสุขภาพ
แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวฟิลิปปินส์ได้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเองก็ยังคงสนับสนุนระบบการศึกษาที่ช่วยฝึกฝนและเตรียมพร้อมกับการไปทำงานต่างประเทศ โดยเฉพาะอาชีพที่ได้รับความนิยมสูง อย่างเช่น โรงเรียนพยาบาล โรงเรียนช่างเรือ โรงเรียนการโรงแรม รวมถึงศูนย์ฝึกการเป็นแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็ก
เพราะรัฐบาลรวมไปถึงชาวฟิลิปปินส์ ต่างก็ยกย่องกลุ่มคนที่ออกไปทำงานในต่างประเทศว่าเป็นฮีโร
ที่ยอมเสียสละ ละทิ้งครอบครัว ทิ้งลูกไว้ให้คนในครอบครัวช่วยเลี้ยง และออกไปทำงานส่งเงินกลับมาในประเทศ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของครอบครัวและถือเป็นการกระทำที่ช่วยเหลือประเทศ
แต่แน่นอนว่าการที่ประชากรออกไปทำงานต่างประเทศเป็นจำนวนมากก็ไม่ได้มีเพียงด้านที่ดีเสมอไป
นั่นก็เพราะว่ากลุ่มคนที่ไปอยู่ต่างประเทศนั้น คือวัยที่เป็นเสาหลักของครอบครัว
นั่นหมายความว่าสังคมฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ต้องทิ้งให้ผู้สูงอายุและเด็กอยู่บ้านกันเอง
กลุ่มผู้สูงอายุส่วนใหญ่จึงขาดคนคอยดูแล โดยเฉพาะยามเจ็บไข้ได้ป่วย
ส่วนเด็ก ๆ ก็ต้องอยู่กับญาติแทน ไม่ได้มีพ่อแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ซึ่งแน่นอนว่าได้ส่งผลเสียต่อเด็กเหล่านี้
โดยงานศึกษาพบว่าเด็กฟิลิปปินส์ที่ต้องห่างจากพ่อแม่ที่ไปทำงานนอกประเทศ
มักมีผลการศึกษาในระดับที่ต่ำกว่ามาตรฐาน และยังมีแนวโน้มเลิกเรียนกลางคันสูงกว่าด้วย
ซึ่งแม้ว่าพ่อแม่จะรับรู้ถึงความเสี่ยงเหล่านี้
แต่พวกเขาก็ยอมเลือกเส้นทางแบบนี้
เพราะมันอาจไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-06-15/filipinos-who-came-home-during-the-pandemic-go-abroad-again
-https://www.economist.com/asia/2020/11/12/filipinos-working-abroad-are-a-source-of-money-not-reform
-https://edition.cnn.com/interactive/2020/11/asia/hong-kong-filipino-helpers-dst/
-https://blogs.lse.ac.uk/seac/2020/10/08/a-heros-welcome-repatriated-overseas-filipino-workers-and-covid-19/
-https://www.nationalgeographic.com/magazine/article/filipino-workers-return-from-overseas-philippines-celebrates
-https://www.bbc.com/news/magazine-31762595
-https://www.statista.com/chart/20166/top-10-remittance-receiving-countries/
apple philippines 在 DJ Macky Suson Youtube 的最讚貼文
Boracay Videographer | Boracay Videography Service by DJ Macky Suson for Tourists and Businesses
#boracay #boracayisland I am DJ Macky Suson. Before coming back to Boracay Island Philippines, I used to work at Apple South Asia Pte Ltd as Area Sales Manager for 10 years. While working at Apple, I founded my online magazine business, Model Citizen Magazine until October 2019.
I use GoPro Hero 9 and Go Pro Hero 8 to shoot activities in Boracay Island. I use Sony A7C and Sony ZV1 for my professional videos.
If you are looking for a videographer in Boracay for your business or during your tour, please contact me.
저는 DJ Macky Suson입니다. 필리핀 보라카이로 돌아 오기 전에 저는 Apple South Asia Pte Ltd에서 지역 영업 관리자로 10 년 동안 일했습니다. Apple에서 일하면서 저는 2019 년 10 월까지 온라인 잡지 비즈니스 인 Model Citizen Magazine을 설립했습니다.
GoPro Hero 9와 Go Pro Hero 8을 사용하여 Boracay Island에서 활동을 촬영합니다. 전문 비디오에 Sony A7C와 Sony ZV1을 사용합니다.
보라카이에서 귀하의 비즈니스 또는 투어 중에 비디오 작가를 찾고 있다면 저에게 연락하십시오.
我是 DJ 麦基苏森。在回到菲律宾长滩岛之前,我曾在 Apple South Asia Pte Ltd 担任区域销售经理 10 年。在 Apple 工作期间,我创立了自己的在线杂志业务 Model Citizen Magazine,直到 2019 年 10 月。
我使用 GoPro Hero 9 和 Go Pro Hero 8 在长滩岛拍摄活动。我的专业视频使用索尼 A7C 和索尼 ZV1。
如果您正在为您的业务或旅行期间在长滩岛寻找摄像师,请与我联系。
Я DJ Macky Suson. Прежде чем вернуться на остров Боракай, Филиппины, я работал в Apple South Asia Pte Ltd в качестве регионального менеджера по продажам в течение 10 лет. Работая в Apple, до октября 2019 года я основал свой онлайн-журнал Model Citizen Magazine.
Я использую GoPro Hero 9 и Go Pro Hero 8, чтобы снимать мероприятия на острове Боракай. Я использую Sony A7C и Sony ZV1 для своих профессиональных видео.
Если вы ищете видеооператора на Боракае для вашего бизнеса или во время тура, пожалуйста, свяжитесь со мной.
apple philippines 在 DJ Macky Suson Youtube 的最讚貼文
Boracay Videographer | Boracay Videography Service by DJ Macky Suson for Tourists and Businesses
#boracay #boracayisland I am DJ Macky Suson. Before coming back to Boracay Island Philippines, I used to work at Apple South Asia Pte Ltd as Area Sales Manager for 10 years. While working at Apple, I founded my online magazine business, Model Citizen Magazine until October 2019.
I use GoPro Hero 9 and Go Pro Hero 8 to shoot activities in Boracay Island. I use Sony A7C and Sony ZV1 for my professional videos.
If you are looking for a videographer in Boracay for your business or during your tour, please contact me.
저는 DJ Macky Suson입니다. 필리핀 보라카이로 돌아 오기 전에 저는 Apple South Asia Pte Ltd에서 지역 영업 관리자로 10 년 동안 일했습니다. Apple에서 일하면서 저는 2019 년 10 월까지 온라인 잡지 비즈니스 인 Model Citizen Magazine을 설립했습니다.
GoPro Hero 9와 Go Pro Hero 8을 사용하여 Boracay Island에서 활동을 촬영합니다. 전문 비디오에 Sony A7C와 Sony ZV1을 사용합니다.
보라카이에서 귀하의 비즈니스 또는 투어 중에 비디오 작가를 찾고 있다면 저에게 연락하십시오.
我是 DJ 麦基苏森。在回到菲律宾长滩岛之前,我曾在 Apple South Asia Pte Ltd 担任区域销售经理 10 年。在 Apple 工作期间,我创立了自己的在线杂志业务 Model Citizen Magazine,直到 2019 年 10 月。
我使用 GoPro Hero 9 和 Go Pro Hero 8 在长滩岛拍摄活动。我的专业视频使用索尼 A7C 和索尼 ZV1。
如果您正在为您的业务或旅行期间在长滩岛寻找摄像师,请与我联系。
Я DJ Macky Suson. Прежде чем вернуться на остров Боракай, Филиппины, я работал в Apple South Asia Pte Ltd в качестве регионального менеджера по продажам в течение 10 лет. Работая в Apple, до октября 2019 года я основал свой онлайн-журнал Model Citizen Magazine.
Я использую GoPro Hero 9 и Go Pro Hero 8, чтобы снимать мероприятия на острове Боракай. Я использую Sony A7C и Sony ZV1 для своих профессиональных видео.
Если вы ищете видеооператора на Боракае для вашего бизнеса или во время тура, пожалуйста, свяжитесь со мной.
apple philippines 在 DJ Macky Suson Youtube 的最佳貼文
Boracay Videographer | Boracay Videography Service by DJ Macky Suson for Tourists and Businesses
#boracay #boracayisland I am DJ Macky Suson. Before coming back to Boracay Island Philippines, I used to work at Apple South Asia Pte Ltd as Area Sales Manager for 10 years. While working at Apple, I founded my online magazine business, Model Citizen Magazine until October 2019.
I use GoPro Hero 9 and Go Pro Hero 8 to shoot activities in Boracay Island. I use Sony A7C and Sony ZV1 for my professional videos.
If you are looking for a videographer in Boracay for your business or during your tour, please contact me.
저는 DJ Macky Suson입니다. 필리핀 보라카이로 돌아 오기 전에 저는 Apple South Asia Pte Ltd에서 지역 영업 관리자로 10 년 동안 일했습니다. Apple에서 일하면서 저는 2019 년 10 월까지 온라인 잡지 비즈니스 인 Model Citizen Magazine을 설립했습니다.
GoPro Hero 9와 Go Pro Hero 8을 사용하여 Boracay Island에서 활동을 촬영합니다. 전문 비디오에 Sony A7C와 Sony ZV1을 사용합니다.
보라카이에서 귀하의 비즈니스 또는 투어 중에 비디오 작가를 찾고 있다면 저에게 연락하십시오.
我是 DJ 麦基苏森。在回到菲律宾长滩岛之前,我曾在 Apple South Asia Pte Ltd 担任区域销售经理 10 年。在 Apple 工作期间,我创立了自己的在线杂志业务 Model Citizen Magazine,直到 2019 年 10 月。
我使用 GoPro Hero 9 和 Go Pro Hero 8 在长滩岛拍摄活动。我的专业视频使用索尼 A7C 和索尼 ZV1。
如果您正在为您的业务或旅行期间在长滩岛寻找摄像师,请与我联系。
Я DJ Macky Suson. Прежде чем вернуться на остров Боракай, Филиппины, я работал в Apple South Asia Pte Ltd в качестве регионального менеджера по продажам в течение 10 лет. Работая в Apple, до октября 2019 года я основал свой онлайн-журнал Model Citizen Magazine.
Я использую GoPro Hero 9 и Go Pro Hero 8, чтобы снимать мероприятия на острове Боракай. Я использую Sony A7C и Sony ZV1 для своих профессиональных видео.
Если вы ищете видеооператора на Боракае для вашего бизнеса или во время тура, пожалуйста, свяжитесь со мной.
apple philippines 在 2021 Apple Online Store Philippines First Time Order IPad Pro ... 的美食出口停車場
... <看更多>
apple philippines 在 Power Mac Center - Home | Facebook 的美食出口停車場
The official page of the premier Apple partner in the Philippines. We know Apple to the core.... Greenbelt 3 | TriNoma | SM Mall of Asia | SM Megamall |... ... <看更多>