หลากหลายช่องทางในโซเชียลมีเดียของ ปันปัน นาคประเสริฐ Drag Queen ตัวแม่ของเมืองไทยที่โด่งดังระดับโลก มีเด็กๆ ที่เป็น LGBT ทักทายเข้ามาพูดคุยและปรึกษาปัญหาชีวิตอยู่เสมอๆ
.
หนึ่งในประเด็นที่พวกเขามักจะปรับทุกข์กับปันปันก็คือพวกเขาวิตกกังวลว่าตัวเองอาจจะติดเชื้อ HIV ซึ่งอาจเกิดจากความพลั้งพลาดหรืออุบัติเหตุข้ามคืน
.
คำตอบที่เธอมอบให้พวกเขาคือบอกให้เขารีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ซึ่งจะไขคำตอบเรื่องนี้ได้ดีกว่าใครๆ
.
“เวลาเด็กส่งข้อความมาปรึกษา ปันจะบอกว่าเธอต้องคุยกับหมอ อันนี้สำคัญมาก คือเด็กบางคนเขาอาจจะกลัว judgement ของหมอ ปันจะแนะนำให้ไปคลินิกที่ไม่มีการ judgement และบอกให้เขาไปมากกว่าแค่คลินิกเดียว เพื่อให้มี second opinion แล้วถ้าเกิดหลายๆ เคสที่เพิ่งไปมีเพศสัมพันธ์มาแล้วรู้ว่าถุงยางแตก ปันจะบอกว่า คุณมีเวลา 72 ชั่วโมงหลังจากนั้น ที่จะสามารถกินยาต้านฉุกเฉิน (PEP) เพื่อป้องกันได้ ดังนั้น คุณต้องรีบไปหาหมอให้ด่วนที่สุด”
.
อินฟลูเอนเซอร์หรือเน็ตไอดอลมีอิทธิพลต่อความคิดของผู้คนในสังคม หากใช้ชื่อเสียงไปในทางที่ดี สังคมจะดีขึ้น แต่หากใช้ในทางที่ผิด ความเสียหายจะส่งต่อไปในวงกว้าง เมื่อถามปันปันว่า นอกจากความฝันของการเป็น Drag Queen ที่มีฝีมือ ได้รับการยอมรับในระดับโลกแล้ว ความฝันต่อไปคืออะไร เธอตอบว่า “อยากเห็นสังคมลดความเข้าใจผิดและอคติที่มีต่อกลุ่ม LGBT รวมถึงเลิกเหมารวมเสียทีว่าทุกๆ คนจะมีทัศนคติและพฤติกรรมคล้ายคลึงกันไปทั้งหมด”
.
ในวันที่สังคมไทยกำลังอินกับประเด็นร้อนของแนวทางในการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยของนักรณรงค์คนหนึ่ง (ซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงว่า มันใช่แนวทางที่ถูกต้องจริงๆ เหรอ หรือหลายคนเป็นห่วงกับการให้ข้อมูลที่ผิดๆ เหล่านั้น) ปันปันจะรู้สึกอย่างไร รวมถึงมีข้อเสนอแนะอะไรต่อกรณีนี้บ้าง
.
adB ถามเธอในฐานะ LGBT คนหนึ่ง ผู้ที่เคยผ่านการโดนดูถูกเหยียดหยามด้วยความไม่เข้าใจ และเลือกที่จะพิสูจน์ตัวเองด้วยความสามารถ จนกลายเป็นที่ยอมรับ มีอิทธิพลทางความคิด และเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้แก่เด็กรุ่นใหม่ๆ
.
.
• คุณติดตามข่าวสารนี้ด้วยความรู้สึกอย่างไร
ด้วยความรู้สึกกังวลและเป็นห่วง หนึ่ง––ห่วงเด็กๆ ที่ไม่รู้หรือมีข้อมูลไม่มากพอ เพราะการที่เขาบอกไม่หมด หรือชูแค่ประเด็นว่าการกินยาต้านที่สม่ำเสมอ สามารถมีเซ็กซ์แบบไม่ป้องกันได้ และปลอดภัยจากการติดเชื้อเอชไอวี คำถามคือ แล้วโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ล่ะ? รู้ไหมว่ายังมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกหลายโรคที่นำไปสู่การเสียชีวิตได้ แต่การพูดไม่หมดของคนคนนี้ได้ทำให้เด็กหลายๆ คนไม่รู้ว่าเขากำลังทำในสิ่งที่เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตอยู่ ที่สุดแล้วคำพูดของคนคนนี้อาจกลายเป็นการฆ่าคนได้เลยนะ
สอง––ห่วงภาพลักษณ์ของชุมชน LGBT เพราะคุณบอกว่าคุณรณรงค์เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย แต่คุณกลับเอาหลายๆ เรื่องมาปะปนกันไปหมด คุณพูดถึง High-Fun หรือการใช้สารเสพติดร่วมกับการมีเพศสัมพันธ์ เฮ้ย คุณไปเอาเรื่องยาเสพติดมาเกี่ยวข้องทำไม ปันพูดด้วยความที่ไม่เคยคิดดูถูกคนเล่นยานะ แต่ปันจะไม่มีวันรณรงค์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด ปันคิดว่าการที่คุณเอามารวมกันมันทำให้เละตุ้มเป๊ะไปหมด ทำให้คนในสังคมที่เขาไม่ได้รู้จักคอมมูนิตี้ของ LGBT จริงๆ มองว่าคนเป็นเกย์จะต้องติดยาเสพติด และติดเชื้อเอชไอวี
แล้วปันก็อยากถามว่าคนติดเชื้อเอชไอวี เกย์ รวมถึงคนที่มีรสนิยมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยาง ว่าอยากได้คนคนนั้นมา represent ความเป็นพวกเขาหรือเปล่า สิ่งที่คนคนนั้นทำมัน toxic และทำให้เกิดการเหมารวมไปแล้ว
.
.
• คุณเชื่อไหมว่าจริงๆ แล้วเขามีความตั้งใจที่ดี
ปันอยากจะเชื่อในความดีของมนุษย์ทุกคน เพราะฉะนั้น สำหรับคำถามนี้ปันขอตอบว่าเขาน่าจะมีความตั้งใจที่ดีอยู่ แต่ว่าเขาทำไม่ถูกวิธี ทำให้คนได้รับข้อมูลผิดๆ และที่สุดแล้วคือเขากำลังทำร้ายสังคม ปันคิดว่าการที่เขาออกมาทำแบบนี้ เขามีส่วนในการช่วยเหลือน้อยกว่าที่เขาทำได้ อีกเรื่องก็คือ คนที่จะออกมาให้ข้อมูลแบบนี้ไม่ควรเป็นเขา แต่ควรเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำไมคุณไม่ทำงานร่วมกับแพทย์ล่ะ
.
.
• เซ็กซ์ที่ปลอดภัยสำหรับคุณเป็นอย่างไร
(นิ่งคิด) คือการที่คุณจะขอเอกสารยืนยันว่าคนที่คุณอยากไปนอนด้วยเขาติดโรคอะไรบ้าง มันคงเป็นอะไรที่โลกสวยและไร้สาระมาก มันไม่มีทางที่ฉันจะเดินไปทุกที่แล้วทุกคนมีเอกสารยืนยันตัวเอง และอย่าลืมว่ามันยังมี window period (ช่วงเวลาที่ผู้ได้รับเชื้อเอชไอวีมาแต่ยังตรวจไม่พบ) รวมถึงยุคสมัยนี้มีเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวก ทำให้เราทำเอกสารปลอมขึ้นมาได้ง่ายจะตาย เพราะฉะนั้น เอกสารที่เขาเอามาให้คุณดูอาจจะเป็นของปลอมก็ได้ ใครจะรู้
ดังนั้น การมีเซ็กซ์ที่ปลอดภัยสำหรับปันคือใส่ถุงยางอนามัย ง่ายมาก มันไม่ได้ต้องใช้อะไรมากมายเลย ถุงยางอันหนึ่งไม่ได้มีราคาสามล้านบาทนะ
.
.
• ใช้ถุงยางอนามัยปลอดภัยก็จริง แต่อาจจะไม่เสียว
ถ้าอย่างนั้นปันถามว่าเสียวแล้วมันคุ้มไหม ปันไม่ได้คิดดูถูกคนที่เขามีรสนิยมทางเพศแบบไม่ใช้ถุงยางนะ แต่การที่คุณจะไปนอนกับคนอื่นๆ แล้วคุณอยากรับประกันความเสียวโดยไม่ใช้ถุงยาง คุณเอาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้น มันคุ้มจริงๆ เหรอ
อย่างไรก็ตาม ถ้าคนสองคนตกลงกันว่าเขาจะมีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่ใส่ถุงยาง อันนี้เรื่องของเขา จบ แต่ถ้าถึงขั้นออกมารณรงค์ให้คนอื่นๆ ในสังคมไม่ต้องใส่ถุงยางไปด้วยนี่ผิดแน่นอน คุณไม่ใช่แพทย์ คุณปล่อยให้คนเป็นแพทย์เขาเป็นผู้ให้คำแนะนำคนอื่นๆ ในสังคมเถอะ
.
.
• บทเรียนสอนใจจากกรณีนี้คืออะไร
การเป็นคนชื่อเสียง มีแพลตฟอร์มในการสื่อสารคือดาบสองคม และมันอันตรายมากถ้าคุณใช้รณรงค์ผิดวิธี สิ่งที่อาจจะดีขึ้นบ้างก็คือ สังคมอาจจะรู้จักยาต้าน (PrEP) มากขึ้น แต่ในทางกลับกัน ผลร้ายที่เกิดขึ้นคือมันทำให้สังคมเข้าใจคนกลุ่ม LGBT รวมถึงผู้ติดเชื้อ HIV น้อยลง คนเขาอาจจะพูดถึงประเด็นนี้กันมาก แต่จะพูดในทำนองว่า ดูสิ อีนี่ติดเชื้อ HIV แปลว่ามันอาจจะอยากแพร่ให้คนอื่นๆ ติดไปด้วย
.
.
• อยากฝากอะไรถึงนักรณรงค์ที่กำลังอยู่ในกระแสตอนนี้
อื้ม… ฝากเหรอ เราไม่อยากพูดถึงชื่อของเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าเขาเองก็ได้พื้นที่ของสื่อเยอะมากแล้ว อยากให้คนลืมๆ เขาไปมากกว่า เพราะสำหรับเรา เขาเป็นเหมือนจุดดำในผืนธงสีรุ้งของเรา เราจึงไม่อยากให้ค่าเขามากขนาดนั้น ถ้าจะให้บอกจริงๆ ก็คือ ขอให้คนอื่นๆ ในสังคมได้รับข้อมูลจากแหล่งที่ถูกต้องเถอะ และถ้าอยากช่วยประชาสัมพันธ์รณรงค์จริงๆ ขอให้ใช้วิธีการในทางบวก ไม่ toxic อย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้
พวกเรา LGBT มาไกลแล้ว เราพยายามทำให้คนเข้าใจเกย์มากขึ้น เข้าใจคนที่มีเชื้อ HIV มากขึ้น แต่กลับจะต้องถูกทำลายเพราะคนคนหนึ่งเหรอ และสิ่งที่อยากจะย้ำกับเขาจริงๆ ก็คือการที่เขาทำอย่างนี้มันทำให้คนที่ติดเชื้อ HIV รู้สึกดีขึ้น หรือทำให้เขาถูกมองในทางที่ดีขึ้นจริงเหรอ?
.
.
สัมภาษณ์และเรียบเรียง: ภัทรพร บุญนำอุดม
ภาพ: รัชต์ภาคย์ แสงมีสินสกุล
__
#adayBULLETIN #WheretheConversationsBegin #Opinion a day BULLETIN
wheretheconversationsbegin 在 無題 的美食出口停車場
#wheretheconversationsbegin. < 100 videos and channels. ... <看更多>