TMB I Thanachart x ลงทุนแมน
สถานการณ์ตลาดแบบนี้ ลงทุนลดหย่อนภาษีอย่างไรให้อุ่นใจ
ใกล้สิ้นปีแล้ว หลายคนคงกำลังหากองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีอยู่
แต่ด้วยสถานการณ์ตลาดที่ผันผวนมาตลอดทั้งปี
เราก็คงเกิดความกังวล ว่าจะเลือกกลยุทธ์การลงทุนอย่างไรดี
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า
ในปีนี้เราสามารถซื้อกองทุนอะไรเพื่อลดหย่อนภาษีได้บ้าง
และกองทุนแต่ละประเภท นำไปลดหย่อนภาษีได้เท่าไร
เริ่มจากกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ซึ่งเราน่าจะคุ้นเคยกันดี
สามารถนำเงินค่าซื้อหน่วยลงทุน มาใช้เป็นค่าลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง
แต่ต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 500,000 บาท
โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี แต่ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นกองเดิมเหมือนกันทุกปี
และต้องถือหน่วยลงทุนไว้อย่างน้อย 5 ปี รวมถึงไม่ขายจนกว่าผู้ถือจะอายุครบ 55 ปี
RMF จึงเหมาะกับคนที่อยากวางแผนการเงินเพื่อไว้ใช้ในยามเกษียณ
นอกจากนั้นยังเป็นการฝึกวินัยไปในตัว เพื่อมีเงื่อนไขกำหนดให้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง
นอกจาก RMF แล้ว ปีนี้ยังมีกองทุนน้องใหม่ ที่ใช้ลดหย่อนภาษีแทน LTF
ซึ่งก็คือ กองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF
โดยเราสามารถนำเงินที่ซื้อหน่วยลงทุนมาใช้เป็นค่าลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง
แต่ต้องไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 200,000 บาท
ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี แต่ต้องถือครองจนครบ 10 ปี จึงจะเข้าเงื่อนไข
ซึ่งเมื่อรวมจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดที่ซื้อ RMF และ SSF
รวมกับ กบข./กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน + กองทุนการออมแห่งชาติ + ประกันชีวิตแบบบำนาญ เมื่อรวมกันทั้งหมดแล้วจะสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
พอรู้อย่างนี้แล้ว ปัญหาที่ตามมาก็คือ เราจะเลือกลงทุนกับ RMF หรือ SSF กองไหนดี?
เรื่องนี้ทีเอ็มบีและธนชาต เข้าใจว่าความต้องการของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน
จึงมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ มาเพื่อตอบโจทย์คนแต่ละสไตล์
โดยเราสามารถแบ่งกองทุนออกได้เป็น 4 กลุ่มหลักๆ ตามความสนใจ
1. กลุ่มที่ต้องการลงทุนในประเทศที่มีอัตราการเติบโตด้านเศรษฐกิจสูง อย่างประเทศจีน
กองทุน SSF ที่น่าสนใจ คือ T-ES-CHINAA-SSF
กองทุน RMF ที่น่าสนใจ คือ T-ES-CHINAA-RMF และ TMBCORMF
กองทุนแรก “กองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง China A” หรือ “T-ES-CHINAA”
ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบที่เป็น SSF และ RMF ให้เลือก
เป็นกองทุนที่ลงทุนในกองทุน UBS (Lux) IS - China A Opportunity
ซึ่งเน้นการลงทุนในหุ้นจีนกลุ่ม New Economy ที่จดทะเบียนในแผ่นดินใหญ่ (A Share)
เช่น Ping An Insurance หรือ Moutai บริษัทเหล้าระดับพรีเมียมของจีนที่มีชื่อเสียงมายาวนาน
และที่สำคัญผู้จัดการกองทุน ก็ได้รับรางวัล Rating AAA จาก Citywire เป็นระยะเวลาถึง 35 เดือน
กองถัดไป “กองทุนเปิดทหารไทย China Opportunity เพื่อการเลี้ยงชีพ” หรือ “TMBCORMF”
ซึ่งลงทุนกับกองทุน UBS (Lux) Equity Fund–China Opportunity
เน้นการลงทุนในหุ้นที่มีรายได้เติบโตสูงจากในประเทศจีน
แต่ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ช่วยให้สามารถลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงที่มักเลือกเข้าตลาดหลักของโลก
เช่น Alibaba เลือกจดทะเบียนในสหรัฐฯ และฮ่องกง เป็นต้น
2. กลุ่มที่ต้องการลงทุนแบบกระจายการลงทุนไปทั่วโลก ไปยังอุตสาหกรรมที่หลากหลาย
กองทุน SSF ที่น่าสนใจ คือ T-ES-GCG-SSF และ UGQG-SSF
กองทุน RMF ที่น่าสนใจ คือ TMBGQGRMF และ TMBGINCOMERMF
กองทุนแรกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนทั่วโลก คือ “กองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง Global Capital Growth เพื่อการออม” หรือ “T-ES-GCG-SSF”
ซึ่งไปลงทุนในกองทุน Amundi Fund Polen Capital Global Growth
กองทุนนี้จะเน้นลงทุนในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการที่โลกกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคสังคมออนไลน์
มีการเติบโตดีและมีความสามารถในการแข่งขันสูง
แต่ราคาหุ้นมีความผันผวนต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
นอกจากนั้นก็มี “กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ควอลิตี้ โกรท ฟันด์” หรือ “UGQG-SSF”
และ “กองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth เพื่อการเลี้ยงชีพ” หรือ “TMBGQGRMF”
ซึ่งมีนโยบายไปลงทุนใน Wellington Global Quality Growth Fund
โดยกองทุนหลักนี้ จะไปลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจดี
มีโอกาสในการเติบโตที่ดีในระยะ 5 - 7 ปี ข้างหน้า
กระจายไปยังอุตสาหกรรม ทั้ง IT, การอุปโภคบริโภค และการสื่อสารที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ยังต้องการกระจายการลงทุนไปทั่วโลก
แต่ไม่อยากรับความผันผวนมาก รวมถึงต้องการการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ
และกองที่น่าสนใจกองสุดท้ายในกลุ่มนี้ คือ “กองทุนเปิดทีเอ็มบี Global Income เพื่อการเลี้ยงชีพ” หรือ “TMBGINCOMERMF”
ก็ถือว่าตอบโจทย์
เพราะเป็นกองทุนที่ลงทุนใน PIMCO GIS Income Fund
ซึ่งกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก
3. กลุ่มที่ต้องการลงทุนด้านเทคโนโลยี ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต
เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ควรมีในพอร์ตระยะยาว เพราะถือเป็นเมกะเทรนด์ของโลก
กองทุน SSF ที่น่าสนใจ คือ T-ES-GTECH-SSF
“กองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง Global Technology เพื่อการออม” หรือ “T-ES-GTECH-SSF”
ถือเป็นกองทุนที่น่าสนใจในหมวดนี้
เพราะมีการไปลงทุนในบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ที่โตระเบิด
อย่าง Apple, Facebook และ Google
รวมถึงมีนโยบายลงทุนใน 8 ธีมเทคโนโลยี
ที่มีแนวโน้มในการเติบโตและสามารถสร้างผลตอบแทนสูงในอนาคต
เช่น Mobility 5G, Payment Fintech หรือ Cloud Infrastructure
และมาถึงกลุ่มสุดท้ายที่ต้องการลงทุนแบบเกาะกระแสเมกะเทรนด์อย่างกลุ่ม เทคโนโลยีการแพทย์
เนื่องจากแนวโน้มของจำนวนสังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
กองทุน SSF ที่น่าสนใจ คือ UGH-SSF
“กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล เฮลท์แคร์ ฟันด์” หรือ “UGH-SSF”
กองทุนนี้จะไปลงทุนกับกองทุนที่เน้นไปที่หุ้นของบริษัท Healthcare ทั่วโลก
โดยคัดเลือกบริษัทที่มีนวัตกรรม และมีความสามารถเติบโตในระยะยาว
เช่น กลุ่มการให้บริการทางการแพทย์ กลุ่มการคิดค้นและผลิตยา กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ และกลุ่มเทคโนโลยีทางการแพทย์อื่น
อ่านมาถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่าไม่ว่าจะเป็นคนสไตล์ไหน หรือมีความต้องการลงทุนแบบไหน
ก็สามารถเลือกลดหย่อนภาษีได้ตรงใจ
เพียงแค่ลงทุนกับทีเอ็มบีและธนชาต
ถ้าใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.tmbbank.com/tax20/ltm หรือเข้าไปลงทุนได้ผ่านช่องทางดังนี้
- แอป TOUCH
- ทีเอ็มบีและธนชาต ทุกสาขา
หรือติดต่อ TMB Investment Line โทร. 1558 กด #9 (ในเวลาทำการธนาคาร)
แถมยังมีโปรโมชันดีๆ ตั้งแต่วันนี้ - 30 ธ.ค. 63 อีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติม www.tmbbank.com/promotion/tax2020
หมายเหตุ:
-ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน รวมทั้งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ก่อนตัดสินใจลงทุน
-การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน
-สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ทีเอ็มบีและธนชาต ทุกสาขา
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過837的網紅Exthetics,也在其Youtube影片中提到,Ping An Finance Centre is the tallest building in China, and second tallest in the world....
「ping an insurance」的推薦目錄:
- 關於ping an insurance 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於ping an insurance 在 คุยการเงินกับที Facebook 的最佳解答
- 關於ping an insurance 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於ping an insurance 在 Exthetics Youtube 的最佳解答
- 關於ping an insurance 在 Ping An Group - Home | Facebook 的評價
- 關於ping an insurance 在 The PING AN / Digital Insurance in China. A closer look at the ... 的評價
ping an insurance 在 คุยการเงินกับที Facebook 的最佳解答
วันนี้เรามีข่าวจากทาง Nikkei Asia มาเล่าให้ฟังกัน เป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องก่อนการทำ IPO ของ ANT และตัวเลขเปิดตัวที่ NYSE ของ LUFAX เป็นข่าวในวันที่ 30 ตุลาคม 2020 ซึ่งปัจจุบัน ANT ได้โดนทางจีนเลื่อน IPO ออกไปก่อนค่ะ ไปดูกันเลย
นักลงทุนแห่กันไปลงทุนให้กับฟินเทค(fintech)ของจีน หลังการเปิดตัวของ Ant และ Lufax
ในฮ่องกงสัปดาห์นี้ เหล่านักลงทุนมีความกระหายในหุ้นเทคโนโลยีทางการเงินของจีนเป็นอย่างมาก โดยมีจำนวนเงินสดเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์จากการIPO(เสนอขาย)ในฮ่องกงและนิวยอร์ก ซึ่งในแต่ละภาคส่วนมีแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
ANT Group ซึ่งกำลังทำการเสนอขายหุ้น(IPO)ที่ใหญ่ที่สุด ดึงดูดนักลงทุนรายย่อยได้เป็นจำนวนเงินมากกว่า 3ล้านล้านดอลล่าร์ ในสัดส่วนข้อเสนอระหว่างฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้
เมื่อถึงระยะเวลาปิดสั่งซื้อในหน่วยลงทุนรายย่อย(retail subscription period)ที่ฮ่องกง ช่วงเที่ยงวันศุกร์มีผู้คนประมาณ 1.5ล้านคนได้ส่งคำสั่งซื้อมากถึง 400 เท่าของหุ้นที่เสนอขาย
Lufax แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการทางการเงิน โดย Ping An Insurance Group เปิดตัวในตลาดหุ้นนิวยอร์คในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากระดมทุนได้ถึง 2.36พันล้านดอลล่าร์ จากการเสนอขายในสหรัฐโดยบริษัทจีนในปีนี้ ราคาหุ้นสูงสุดในตลาดอยู่ในช่วง 11.50 ถึง 13.50 ดอลล่าร์ต่อหุ้น ราคาเปิดหุ้นในตอนเช้าลดลง14% และปิดที่ราคา 12.85ดอลล่าร์ โดยดัชนี Dow Jones ปิดที่ 150 จุดในวันศุกร์
เหล่านักลงทุนกำลังเดิมพันว่า ทั้งสองบริษัทจะได้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของสินเชื่อ การลงทุน และการประกันภัยอีกด้วย เนื่องจากจีนนั้นส่งเสริมเรื่องธุรกิจขนาดเล็กและการบริโภคภายในประเทศ โดยผู้ให้กู้รายใหญ่ที่สุดในแผ่นดินจีนได้พยายามในเรื่องให้บริการลูกค้าดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการปูทางให้แก่บริษัท Ant และ Lufax ได้เติบโต
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://asia.nikkei.com/Business/Finance/Investors-swarm-to-China-fintech-as-Ant-and-Lufax-debut
แอดแพรว
ping an insurance 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
โอกาสเติบโตไปกับประเทศจีน พร้อมลดหย่อนภาษีด้วย RMF
กองทุนบัวหลวง x ลงทุนแมน
ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ได้ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศก็ได้แตกต่างกันออกไป
แต่หากให้เราพูดถึงประเทศที่กลับมาฟื้นตัวทั้งในด้านสาธารณสุข และเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของประเทศจีน
เรื่องดังกล่าวก็ได้สะท้อนไปยังดัชนีตลาดหลักทรัพย์ประเทศจีนอย่างดัชนี A-Shares ที่ได้ปรับตัวสูงขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับต้นปี
แล้วเราจะมีโอกาสการเติบโตไปกับเรื่องนี้ อย่างไรบ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับดัชนีหุ้นจีน A-Shares กันก่อน
A-Shares เป็นดัชนีหุ้นจีนที่นำหุ้นทั้งหมดในสองตลาดหลักทรัพย์หลักนั่นก็คือ Shanghai และ Shenzhen มาคำนวณแบบถ่วงน้ำหนัก
โดยดัชนีดังกล่าวถือเป็นดัชนีที่มีจำนวนหลักทรัพย์ และมีมูลค่ามากที่สุดในบรรดาดัชนีทั้งหมดในประเทศจีน และได้ใช้สกุลเงินหลักในการซื้อขายก็คือ หยวน นั่นเอง..
แม้ว่าจะเป็นดัชนีใหญ่สุดในประเทศจีน แต่นักลงทุนทั่วโลกก็ยังให้น้ำหนักความสำคัญกับ A-Shares ในระดับที่ต่ำ เมื่อเทียบกับอิทธิพลของจีนบนเวทีโลกทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และมูลค่าทางการค้า
ตรงนี้เราสามารถเปรียบเทียบได้จากการที่ประเทศจีน
มีขนาดเศรษฐกิจ คิดเป็น 16.9% ของขนาดเศรษฐกิจทั่วโลก
มีมูลค่าการค้า คิดเป็น 10.2% ของมูลค่าการค้าทั่วโลก
มีการบริโภค คิดเป็น 11.6% ของการบริโภคทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ดัชนี MSCI AC World ที่เป็นเกณฑ์มาตรฐานของหุ้นทั่วโลก กลับมีสัดส่วนหุ้นจีนจากดัชนี A-Shares อยู่เพียง 0.5%
ในขณะเดียวกัน A-Shares ก็ยังมีสัดส่วนการถือครองหุ้นจากนักลงทุนต่างชาติเพียง 3.3% เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เราสามารถมองเรื่องดังกล่าวเป็นโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดแห่งนี้ตามการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศจีนในอนาคต
นอกจากนั้น ตลาดหุ้น A-Shares ก็ยังประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย เช่น เฮลธ์แคร์ เทคโนโลยี สินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม ซึ่งกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ก็เป็นเศรษฐกิจยุคใหม่ของประเทศจีน ที่กำลังเติบโต
แล้วเราจะเป็นส่วนหนึ่งกับการเติบโตของ A-Shares ได้อย่างไร?
หนึ่งในโอกาสการลงทุนกับหุ้น A-Sharesในช่วงนี้ ก็คือ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีนเอแชร์เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ B-CHINAARMF
กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนในรูปแบบ RMF ที่จะเข้าไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศกองทุนเดียวชื่อ Allianz China A-Shares ที่จะลงทุนในหุ้นจีนที่อยู่ในดัชนี A-Shares โดยเฉพาะ
สำหรับแนวทางการลงทุนของ Allianz China A-Shares จะโฟกัสการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีนวัตกรรมใหม่ ที่มีแนวโน้มที่จะก้าวไปเป็นแบรนด์พรีเมียมได้ในอนาคต
ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรจีน ที่เติบโตสูงขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
โดยกองทุนดังกล่าวก็ได้ถูกบริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารหุ้นจีน
ทีนี้ เราลองมาดูตัวอย่างบริษัทที่ Allianz China A-Shares เข้าไปลงทุน เช่น
Luxshare Precision Industries ทำธุรกิจผลิตสินค้าให้กับ Apple
Citic Securities สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน
Ping An Insurance Group บริษัทประกัน และการเงินครบวงจร
Jiangsu Heng ผู้ผลิตไฮดรอลิกรายใหญ่สุดในประเทศจีน
ในขณะเดียวกัน Allianz China A-Shares ก็ยังกระจายการลงทุนไปยังหลายกลุ่มธุรกิจ โดยที่จะถือครองหุ้นราว 40 ถึง 60 บริษัทที่มีศักยภาพ และมีแนวโน้มในการเติบโตในระดับราคาที่เหมะสม
แล้วที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของ Allianz China A-Shares เป็นอย่างไร?
(อ้างอิงข้อมูลของกองทุน ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2020 ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ)
3 เดือน
Allianz China A-Shares 27.3%
เกณฑ์มาตรฐาน 16.0%
1 ปี
Allianz China A-Shares 38.6%
เกณฑ์มาตรฐาน 12.2%
3 ปี
Allianz China A-Shares 21.6% ต่อปี
เกณฑ์มาตรฐาน 2.0% ต่อปี
5 ปี
Allianz China A-Shares 13.5% ต่อปี
เกณฑ์มาตรฐาน -5.6% ต่อปี
10 ปี
Allianz China A-Shares 15.4% ต่อปี
เกณฑ์มาตรฐาน 4.9% ต่อปี
ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน
Allianz China A-Shares 13.9% ต่อปี
เกณฑ์มาตรฐาน 4.9% ต่อปี
จากผลตอบแทนข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า Allianz China A-Shares เป็นหนึ่งในกองทุนที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยเฉพาะในมุมมองการลงทุนเพื่อเป็นเงินออมระยะยาว
ซึ่งก็สอดคล้องกับการที่ กองทุนบัวหลวง เลือกกองทุนดังกล่าวมาเป็นกองทุนหลักใน B-CHINAARMF ที่นอกจากจะทำให้เราเติบโตไปกับเศรษฐกิจประเทศจีนในระยะยาวแล้ว เราก็ยังสามารถได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษี
ซึ่งนอกจากข้อดีในเรื่องของสิทธิการนำเงินลงทุนของเราไปลดหย่อนภาษีแล้ว
ค่าธรรมเนียมในการจัดการของกองทุนก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ และไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการขาย ซึ่งก็ถือว่าต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรายอื่นที่นำเสนอกองทุนในลักษณะเดียวกันในประเทศไทย
ถึงตรงนี้ เราก็สามารถสรุปได้ว่า B-CHIANAARMF เป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนระยะยาวกับธุรกิจในประเทศจีนที่กำลังเติบโต พร้อมกับเป็นเครื่องมือในการลดหย่อนภาษีให้เราได้ในเวลาเดียวกัน
สำหรับผู้ที่สนใจ B-CHIANAARMF กำลังจะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม ถึง 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-674-6488 กด 8 หรือที่ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขา
คำเตือน: ผลการดำเนินงานในอดีต ไม่ได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ping an insurance 在 Exthetics Youtube 的最佳解答
Ping An Finance Centre is the tallest building in China, and second tallest in the world.
ping an insurance 在 The PING AN / Digital Insurance in China. A closer look at the ... 的美食出口停車場
... <看更多>
ping an insurance 在 Ping An Group - Home | Facebook 的美食出口停車場
Our brand is in everything we do. And in times of uncertainty, a solid brand sets a company on a strong footing. In the latest Brand Finance Insurance 100 ... ... <看更多>