ความปลอดภัยในการบริโภค "แอสปาแตม" สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล
(มีนักข่าวจะมาขอสัมภาษณ์วันนี้ เกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยของแอสปาแตม เลยหาข้อมูลมาสรุปไว้เผื่อเป็นประโยชน์)
ปัจจุบัน กระแสการบริโภคอาหารที่ปราศจากน้ำตาลทราย (sugar free) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และ แอสปาแตม (aspartame) ก็เป็นสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลตัวหนึ่ง ที่นิยมนำมาใส่ในอาหารและเครื่องดื่มแทบจะทุกชนิด ยกเว้นแต่พวกเบเกอรี่ ขนมอบ เพราะมันจะสลายได้เมื่อถูกความร้อนสูง และจะสูญเสียความหวานไป
แอสปาแตม ถูกคิดค้นขึ้นในปี ค.ศ. 1965 และผ่าน อ.ย. ของสหรัฐอเมริกาในปี 1981 โดยมันมีโครงสร้างทางเคมีเป็น เมทิลเอสเทอร์ (methyl ester) ของไดเปปไทด์ระหว่างกรดแอสปาร์ติกและฟีนีลอะลานีน (aspartic acid/phenylalanine dipeptide)
แอสปาร์แตมเป็นสารให้ความหวานกลุ่มที่ไม่ใช่น้ำตาลจริง แต่มีความหวานเหมือนกับน้ำตาลทราย (ซูโคลส) แต่จะหวานคาปากนานกว่า และมีระดับความหวานสูงกว่าน้ำตาลทราย ถึง 180-200 เท่า ดังนั้น แม้ว่าจริงๆ แล้วมันจะให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม แต่ปริมาณที่ใส่ลงไปในอาหารให้เกิดความหวานนั้น ใช้เพียงแค่เล็กน้อยก็หวานแล้ว จึงมักจะถือกันว่า แทบจะไม่ต้องนับแคลอรี่ที่แอสปาร์แตมให้กับอาหารนั้น
#ปริมาณที่กินได้ต่อวัน
สำหรับเรื่องความปลอดภัยในการบริโภคแอสปาร์แตมนั้น มันเป็นสารปรุงแต่งอาหารที่ได้รับการทดสอบอย่างเข้มข้นมากที่สุดแล้วตัวหนึ่ง และได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยในการบริโภคของมนุษย์จากองค์กรด้านอาหารและยาทั่วโลกกว่า100 แห่ง ทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฯลฯ รวมถึงประเทศไทย
คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญขององค์การอาหารโลกและองค์การอนามัยโลก (The Joint FAO/WHO Expert Committee on Food Additives (JECFA)) รวมทั้งคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ด้านอาหารของคณะกรรมาธิการยุโรป (the European Commission's Scientific Committee on Food) ได้กำหนดให้ระดับของการบริโภคแอสปาร์แตมต่อวันไว้ที่ไม่เกิน 40 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม ขณะที่ อย. ของสหรัฐอเมริกากำหนดไว้ที่ 50 mg/kg นั้นคือ ถ้าคนที่น้ำหนักตัว 75 กิโลกรัม ดื่มน้ำอัดลมไดเอ็ตขนาด 355 มิลลิลิตร ที่ใส่แอสปาร์แตมไป 0.18 กรัม ก็จะดื่มได้ถึง 21 กระป๋องต่อวัน !
#ผลต่อน้ำหนักตัว
มีรายงานตีพิมพ์ในปี 2017 ในวารสาร Canadian Medical Association Journal (CMAJ) ที่รีวิวทบทวนงานวิจัยทางการแพทย์ต่างๆ เกี่ยวกับการใช้แอสปาร์แตม บริโภคแทนน้ำตาลทราย สรุปว่าแอสปาร์แตมสามารถลดปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับ และลดน้ำหนักตัว ของทั้งผู้ใหญ่และเด็กได้ (สนใจรายละเอียด อ่านได้ที่ https://www.cmaj.ca/content/189/28/E929)
#ผลต่อระดับสารในร่างกาย
มีรายงานในปี 2018 ในวารสาร Critical Reviews in Food Science and Nutrition ที่รีวิวงานวิจัยถึงผลกระทบทางเมตาบอลิซึมจากการบริโภคแอสปาร์แตม ก็ยืนยันว่า มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด อินซูลิน คลอเรสเตอรอลรวม ไตรกลีเซอไรด์ ปริมาณแคลอรี่ที่่ร่างกายได้รับ หรือน้ำหนักตัว แถมยังช่วยเพิ่มระดับของ HDL (high-density lipoprotein หรือคลอเรสเตอรอลตัวที่ดีต่อร่างกาย) อีกด้วย (สนใจรายละเอียด อ่านได้ที่ https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/10408398.2017.1304358)
#ผลต่อมะเร็ง
มีหลายบทความรีวิว ที่ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างแอสปาร์แตมกับมะเร็ง ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรทางอาหารของหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยระบุว่าแอสปาร์แตมนั้นปลอดภัยต่อการบริโภค
#อันตรายต่อผู้ที่เป็นโรคPKU
แต่แอสปาร์แตมก็มีอันตรายต่อคนบางคนได้ นั่นคือ คนที่เกิดมาเป็นโรคฟีนีลคีโตนูเรีย (phenylketonuria หรือ PKU) ซึ่งเป็นโรคพันธุกรรมที่ค่อนข้างหาได้ยาก โดยร่างกายจะไม่สามารถย่อยสลายกรดอะมิโนฟีนีลอะลานีนได้ และต้องควบคุมปริมาณอาหารที่มีฟีนีลอะลานีน ซึ่งก็ร่วมถึงแอสปาร์แตมด้วยนั่นเอง ... ดังจะเห็นได้ว่า ข้างของบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ใส่แอสปาร์แตมเพิ่มความหวาน จะต้องมีคำเตือนสำหรับผู้ที่เป็นโรค PKU ไว้ด้วย
#ซูคราโลส
แถมนิดนึงว่า หลังๆ จะเริ่มเห็นอาหารและเครื่องดื่มที่เปลี่ยนจากการใช้แอสปาร์แตม มาเป็นสารตัวอื่นที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลทราย ได้แก่ ซูคราโลส (sucralose) ที่มีข้อดีกว่าแอสปาร์แตม ตรงที่ยังคงความหวานไว้ได้ แม้ว่าจะถูกนำไปให้ความร้อนสูงกว่าตาม แถมมีอายุการเก็บรักษาที่นานกว่าแอสปาร์แตมถึง 2 เท่า ในขณะที่ก็เป็นสารที่ได้รับการรับรองว่าสามารถนำมาบริโภคได้อย่างปลอดภัยเช่นกันครับ
สรุปๆ คือ แอสปาร์แตม เป็นสารทดแทนความหวานของน้ำตาลทราย ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ว่าปลอดภัยในการนำมาบริโภคในปริมาณปรกติ .. ส่วนที่ใครบอกว่ากินอาหารที่ใส่แอสปาร์แตมแล้ว ก็ยังคงอ้วนอยู่ดี อันนั้นคงต้องไปปรับพฤติกรรมการกินของแต่ละคนเองนะครับ
ข้อมูลจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Aspartame
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「phenylketonuria」的推薦目錄:
- 關於phenylketonuria 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
- 關於phenylketonuria 在 余海峯 David . 物理喵 phycat Facebook 的最佳解答
- 關於phenylketonuria 在 余海峯 David . 物理喵 phycat Facebook 的精選貼文
- 關於phenylketonuria 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
- 關於phenylketonuria 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於phenylketonuria 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
phenylketonuria 在 余海峯 David . 物理喵 phycat Facebook 的最佳解答
【科普文分享】益生菌醫腹瀉 愛你變成害死你?/Little fat ball
//100 年前,德國醫生 Alfred Nissle 在一個士兵的糞便中分離出一株大腸桿菌 (E. coli Nissle 1917, EcN),發現 EcN 可以安全有效地治療腹瀉。至今 EcN 依然被應用為其中一種腹瀉藥品。
早前已有研究指食益生菌無法治療兒童腸胃炎,令人懷疑益生菌不如商家所說一樣神奇。而最新刊於 Cell Host & Microbe 的研究更發現, EcN 未必有效治理腹瀉之餘,這些「益菌」還可能會演化並叛變,蠶食你原本的腸道保護膜,增加患腸易激綜合症 (irritable bowel syndrome) 風險!
參與研究的微生物學家 Gautam Dantas 在新聞稿中表示:「如果要使用生物作為藥物,我們應該要知道牠們將會演化,即是你放入身體的生物在數小時後不一定與原先一樣。」
益生菌本身就是生命,而每個生命體都會繁殖,隨著繁殖其基因也會改變與演化。 Dantas 領導的團隊讓老鼠服食市面取得的 EcN 產品,以了解益生菌在身體的演化。
這些老鼠被分成 4 組,其中一組腸胃完全沒有微生物,其餘的腸道微生物多樣性都有不同以模擬各種健康狀況。然後,這些老鼠再分配進食混有 EcN 的正常實驗室鼠糧、高纖天然糧、高脂高糖鼠糧、高脂高糖但有加入微量纖維的鼠糧,後兩者是摸擬西式飲食習慣。
經過五星期後,團隊檢查老鼠的腸道,發現 EcN 並非如想像中是所有老鼠健康的友善「盟友」;在有較健康膳食、腸道微生物多樣性高的老鼠身上, EcN 基因突變相對較少。相反在吃較西式食物的老鼠體內, EcN 會累積較多基因突變且會使用碳水化合物,令自身變得更黏可待在腸胃更長時間。除此之外,這些 EcN 亦比其他原有微生物群更具競爭力,可侵食原本由細菌組成的腸道保護層,令老鼠更易患腸易激綜合症。
另外,團隊又發現當餵食其中一組老鼠抗生素鏈黴素 (Streptomycin) 時,有較多突變的 EcN 可能令其產生低水平的抗藥性。
留意的是,由於 EcN 是用來治療腹瀉,正常人是不會無端生事當糖食,所以學者擔心的是,本身無健康飲食又已經出現病情的人,服用 EcN 後會加重病情,或引致更多抗藥惡菌。
然而,這只是老鼠實驗,人類與其他哺乳類動物在生理上仍有一定差距,不代表 EcN 一定對人體有害,讀者毋須過份恐慌。
研究不是完全沒有好消息。團隊將一個可降解胺基酸苯丙胺酸 (Phenylalanine) 的基因插入 EcN 中製造新益生菌,發現可暫時改善患苯酮尿症 (phenylketonuria) 老鼠苯丙胺酸代謝,減低其水平達 50% 。而且這種基改益生菌的 DNA 在一星期療程內仍然相當穩定。
苯酮尿症是種可遺傳的胺基酸代謝缺陷,影響患者大腦發育,引起智力障礙和癲癇,亦會造成皮膚白化、頭髮變黃、尿液有鼠臭味等病癥。
世衛與聯合國糧農組織於 2006 年發表的報告曾強調,細菌在維持人類身體功能有非常重要的角色,只要攝取足夠份量以及適合的益生菌,理應能改善健康。不過,人體是很複雜的機器,而我們只略懂皮毛,還有漫長科研路了解「益生菌」是否健康的真正盟友。//
phenylketonuria 在 余海峯 David . 物理喵 phycat Facebook 的精選貼文
肥控制員的化驗室 解釋咗點解我咁靚仔都唔係李+x,因為我打過疫苗針同埋睇過醫生😱😂
#已移除Link 可以 share 這篇
素人父母反疫苗反上腦,依家仲夠膽草擬一封信,要求醫生承擔接種疫苗既後果。其實外面已經有好多科學同醫學既 page 鞭撻反疫苗既荒謬,個個都好詳盡咁解釋科學研究同理論,我覺得我呢個半桶水真係無咩位再去講。不過聽到法網肥人既召喚,咁等我用比較市井既方式講兩句啦,因為呢班人唔係缺乏高深科學教育,而係五行欠X:
1. 先講講封信,呢封信咁把炮,但只係列出 autistic spectrum diseases (其實係 disorder,我估呢班人點樣分 illness, diseases, condition, disorder 同 syndrome都唔識),Attention deficit and hyperactive disease (again,係 disorder 而唔係 disease),Eczema 同Asthma。點解唔詳細列出整個自閉症譜系障礙既症狀出來呢?唔識,定係有遺漏?抑或係仲未想到有邊種手尾長既 disorder 寫落去?作為父親,我可以推介你地下次加埋呢堆要父母勞心勞力照顧既古怪疾病落去,賴埋係疫苗引起既問題:Dyslexia, Glucose-6-phosphate dehydrogenase deficiency, Phenylketonuria, α/β/δ thalassemia, all childhood idiopathic diseases, all childhood blood cancers… 咁你咪可以完全免除做父母既勞心勞力同麻煩囉,係咪?
2. 好多素人父母根本就唔識科學。我所指既唔識,唔係簡單非理科出身,而係連基本思考同邏輯都無。喂,讀文科都要 scientific mind 要邏輯架,有無聽過讀歷史會講求「言必有據、無徵不信、孤證不立」呀?有無聽過史學研究有「內部考證」同「外部考證」以及「歸納推理」同「演繹推理」呀?好明顯係無,識就唔會咁容易被人昆啦!我相信好多香港人既 degree 係背書背返來既。就咁,點解 Andrew Wakefield 個假 research 就信,其他 research 就唔信?反過來講,佢地有無想過點解 Andrew Wakefield 個 research 係做假,其他 research 就唔係呀?唔好同我講 big pharma同conspiracy theory 呀。
講返封信上既兩類症狀,第一就係自閉症呢類發展障礙,第二就係濕疹/哮喘呢類免疫系統問題。我都講過百九幾萬次病有好多成因,自閉症呢類發展障礙係搵唔到原因,你話係咪基因問題?可能係。咁基因出現問題,但人類進化一直都無 eliminate 呢種壞基因,一係呢種基因有過人之處,自然界唔會淘汰佢,一係就係 de novo mutation(新生突變)。咁免疫系統問題呢?睇返我上次講 children leukemia 果篇啦。
如果乜都關疫苗關西醫事,咁我知點解我唔係李嘉誠啦,因為我細個有打疫苗,仲有我上個月都仲有睇西醫。
3. 孩子係上天賜俾我地既禮物。上天賜禮物俾你,唔一定代表係有即時利益同唔使錢有你著數先叫做禮物。上天賜呢份大禮俾你,係要你做左二三十年人之後,好好從孩子身上學習點樣睇清楚自己、點樣面對自己既不足、點樣去接受天命、點樣去改變自己生活習慣,學習以付出代替收穫、點樣去愛與被愛… 所以,孩子有乜問題,你都要接受。人生豈能盡如人意?輸唔起,付出唔起,怕承擔責任,咁學乜人做王子公主?不如同居加結紮啦!呢D父母,根本就係怕萬一自己既細路有問題,將來係精神與金錢既付出會有幾龐大,反而無想過點去面對同拆呢個問題,否則點會寫 responsible for the medical fee and daily care fee? 咁你既愛同無償付出計唔到數咩?計唔到就搵律師計,佢地識計架。要唔要法網肥人解釋咩叫 Loss of Society 同 Loss of Service 呀?
4. 好啦,上面提到基因問題,假設自閉症呢類發展障礙係因為基因出現問題先有,咁點解人類進化史唔會淘汰呢類壞基因?你可以睇一睇之前我講 sickle cell anaemia 果篇文就明。另外,有無睇 Dustin Hoffman套 Rainman 或者 Ben Affleck 套 The Accountant? 戲裡面既自閉症主角,就係有過人既能力同智慧。自閉症唔係精神病,佢地有 special educational needs,而香港呢個社會同埋香港人正正就係唔想付出額外金錢同時間去 tailor made 任何野俾呢班小朋友!講到自閉症,其實好多人都有自閉症,最出名既就係美國動物行為學家 Temple Grandin,唔識?咁唔好生住啦你。仲有寫愛麗絲夢遊仙境既 Lewis Carrol,愛恩斯坦,大導演寇比力克,諾貝爾生理醫學獎得主Barbara McClintock… 如果你腦中只有恐懼、無知、擔心要付出,咁你就算生個正常小朋友兼唔打疫苗佢都死唔去,你一樣唔會俾到佢愉快成長既環境。
5. 最後我想講,好多素人父母係科學常識同邏輯思考上有嚴重缺陷。先講素人父母好 buy 所謂既「自然療法」(Homeopathy):Homeopathy 根本不應翻譯做自然療法,點解?Homeopathy 係由兩個古希臘文既字頭 (prefix) 與字尾 (suffix) 組成,Homeo- (希臘文 Homío)解作 the same,而 –pathy (希臘文 páthos)解作 therapy,所以 Homeopathy 應該翻譯為 the same therapy同源療法(或者順勢療法)。後來點解係華文社會同源療法變成自然療法呢?我唔知道。只知道文字係極具威力,一放左「自然」兩個字,呢瓣偽科學就同中醫、草藥、天然無添加、唔化學、古人智慧結晶等等劃上等號。等你班友一指責自然療法,就等同質疑埋中醫、草藥、天然無添加、唔化學、古人智慧結晶。君不見每次有人質疑自然療法,其他非自然療法但又非西醫系統既人都會跳出來咩?另外,自然療法最喜歡講水稀釋同水記憶。水記憶呢D違反自然科學法則既偽科學,外面大把解釋,我無謂重覆,而且咩 hydrogen bond 呀咩 Van der Waals force 好難簡單解釋,不過水稀釋就可以。
自然療法最喜歡將佢地所謂既藥稀釋好多倍,然後話佢會有療效,因為水記憶會記住個療法。好,你依家去茶餐廳叫杯柯華田,個水吧將杯華田溝淡一千倍,然後話水會記住華田既味道,呢杯溝淡左一千倍既華田依然係華田。你唔問候水吧個老母我切。
另一樣野素人父母話依家已經無呢D百日咳呀、麻疹呀、天花呀、小兒麻痺呀。所以打唔打都無問題。我記得醫學治眼同文科生習醫都有講過 Herd Immunity,唔明可以上 Wikipedia 睇。我想講,點解依家無呢堆病呢?當然因為 herd immunity 啦,即係一班人有 95%以上既人有鍛鍊身體有武器,咁你無鍛鍊身體同無武器,佢地都可以保護你。但當有鍛鍊身體有武器既人漸漸流失,你無鍛鍊身體同無武器就好容易受外敵攻擊而死。咁L簡單既道理,根本連唔讀書都應該明白。如果大家都學你地咁,人人唔鍛鍊身體又無買武器,咁就算有武器既人都會受攻擊。
最後,如果你做人乜都怕,乜都驚,乜都要 everything in control,打針驚自閉,出街驚花盤跌落你個頭,咁你唔黐線你下一代都黐線。
#唔寫唔寫又寫左咁長 #是咁的法網肥人召喚 #講下唔接種疫苗而令人病死有乜法律責任呀 #蠢人教唔精
phenylketonuria 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
phenylketonuria 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
phenylketonuria 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
phenylketonuria 在 Phenylketonuria: MedlinePlus Genetics 的相關結果
Phenylketonuria (commonly known as PKU) is an inherited disorder that increases the levels of a substance called phenylalanine in the blood. ... <看更多>
phenylketonuria 在 Phenylketonuria (PKU) - Symptoms and causes - Mayo Clinic 的相關結果
Phenylketonuria (fen-ul-key-toe-NU-ree-uh), also called PKU, is a rare inherited disorder that causes an amino acid called phenylalanine to ... ... <看更多>
phenylketonuria 在 苯丙酮尿症- 維基百科,自由的百科全書 的相關結果
苯丙酮尿症,又稱苯酮尿症(英語:Phenylketonuria,縮寫為PKU),是一種遺傳性代謝缺陷,肇因於苯丙胺酸這種胺基酸的代謝能力下降。如果不接受治療,苯丙酮尿症可能 ... ... <看更多>