Why go viral #2 : ช่วงนี้เขาคุยอะไรกัน!
รวม 9 ดาวติ๊กต่อกฉบับย่อส่วน ที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะและความน่าเอ็นดู
กราบสวัสดีแฟนๆเพจ people persona วันนี้พับกบ! เอ้ย พบกับบทความสนุกๆจากเพจของเราอีกเช่นเคย เรื่องราวในวันนี้ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลตัวทุกคนเท่าไร เพราะว่าช่วงนี้ เราก็ต้องทั้งกักตัวทั้ง work from home กัน พอเริ่มเหงาๆ หลายคนก็ไถเฟสบุ๊ค ไอจี ทวิตเตอร์ ดูยูทูป หรือแอปน้องใหม่ของเรา ‘Tiktok’ ที่มาแรงแซงทางโค้งเรียกเสียงหัวเราะจากมวลมหาประชาชน จนบางคนจากแค่ดู ก็ผันตัวมาเป็น ‘ดาวติ๊กต่อก’ ซะเองเลย
วันนี้ก็เลยจะพาไปรู้จัก ‘9 ดาวติ๊กต่อก’ แต่ไม่ใช่ดาวติ๊กต่อกธรรมดานะ แต่เป็นฉบับย่อส่วน คือเหล่าเด็กน้อยมากความสามารถที่เรียกเสียงหัวเราะจากความน่ารักน่าเอ็นดูไปได้หลายล้านวิว จะมีใครกันบ้าง ก็ไปดูกันเลย
เด็กชายคนแรก เป็นเจ้าของคำพูด ‘หนูแทบจะไม่ใช่ลูกแล้ว หนูแทบจะเป็นลูกน้อง แทบจะไม่ใช่ลูกแล้วอ่ะ” ‘น้องมาร์ติน’ นั่นเอง ที่ความช่างพูดช่างเจรจาบวกกับความขี้อ้อนหม่าม๊าของเจ้าตัวทำเอาพี่ๆชูป้ายไฟน้องรัวๆ ทั้งเอาคลิปของน้องโคฟเวอร์จนเป็นไวรัลอีกด้วย ใครอยากติดตามน้องก็สามารถติดตามได้ที่ Tiktok ชื่อ @Unique.cld เลย
https://www.tiktok.com/UniqueCld Prawong
มาที่อีกหนึ่งเด็กหญิงที่เรียกว่าเป็นเจ้าแม่มีมตัวจิ๋วเลย ‘น้องเรนนี่’ แห่งช่อง @Little monster ของพ่อเหว่งและแม่ตุ๊ก ที่จะต้องมีคลิปน่ารักๆ ดูไปก็ขำไป กับความชัดเจนของเจ้าตัวที่เป็นสายกินแน่นอน เรียกได้ว่าน้องกินอะไรก็ดูน่าอร่อยไปหมด ไหนจะคลิปน้องเล่นกับพี่สาว ‘น้องจิน’ ที่จะต้องมีตีกันบ้าง ร้องไห้บ้าง แต่ก็แอบยิ้มกับความน่าเอ็นดูไม่ได้
https://www.tiktok.com/@tuklittlemonster?lang=en
ต่อกันที่สายโคฟเวอร์คลิปกันสักหน่อย กับ ‘น้องเพลง’ ช่อง @Plengpunch และ ‘น้องนิว’ จากช่อง @RNN_TK (นัท)ที่น้องโด่งดังจากการโคฟเวอร์คลิปต่างๆ อย่างคลิป ฉันหิว จากตุ๊กกี้ชิงร้อยที่เป๊ะปังเวอร์วังอลังการ ซึ่งตอนนี้ความน่าเอ็นดูของน้องก็ได้รับการทาบทามไปเล่นละครเรียบร้อย ด้านน้องนิว ก็พ่วงมาด้วยน้านัทและคุณแม่รัตน์ ที่ความเล่นใหญ่ของน้องเรียกเสียงฮาและทำเอา ออกจาก tiktok ไม่ได้เลยทีเดียว
https://www.tiktok.com/@plengpunch?lang=en
ไปกันต่อที่ทายาทดารานักแสดงและที่เจ้าตัวเป็นนักแสดงเอง อย่าง น้องชิลลี่ ลูกแม่พลอยชิดจันทร์ ช่อง @Chili Hung และน้องเรซซิ่ง ลูกแม่แพท ณปภา ช่อง @patt_napapa56 ที่ลูกๆของแม่ๆ ฉายแววนักแสดงเจ้าบทบาทตั้งแต่วัยยังไม่พ้นยี่สิบ พาคนดูเตรียมชูป้ายแฟนคลับให้เลย ยังมี น้องอินเตอร์ @inter_rungrada.me ดาราเด็กมากความสามารถ ทั้งเต้นทั้งร้องทั้งเดินแบบ มีคลิปให้เราชื่นชมเรื่อยๆในติ๊กต่อก
https://www.tiktok.com/@chilihung?lang=en
https://www.tiktok.com/@patt_napapa56?lang=en
https://www.tiktok.com/@inter_rungrada.me?lang=en
อีกคนที่หล่นไม่ไกลต้นเหมือนกัน คือ น้องยี่หวาและยูจิน จาก @brajaojoke ลูกสาววัยกำลังโตของบร้ะเจ้าโจ๊ก ที่เสียงร้องของเธอเหมือนถอดร่างคุณพ่อโจ๊กมาเลย เพราะหลังจากคลิปที่เธอร้องเพลงหรือฉันคิดไปเองของ ส้มมารี เธอก็กลายเป็นไวรัล มีคนชื่นชมถึงเสียงร้องอย่างไม่ขาดสายเลย
https://www.tiktok.com/@brajaojoke?lang=en
ปิดท้ายด้วยความ ‘ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น’ กับน้องเมญ่า หลานคุณเท่งเทิดเทิง ช่อง @เมญ่าพ่อจ๋าofficial ที่ฉายแววตลกเหมือนคุณลุงแบบถอดแบบกันมาเด๊ะๆ ทั้งอัดคลิปและเต้น เรียกเสียงฮาจากผู้ชมไม่แพ้คุณเท่งเลย
https://www.tiktok.com/@mayyaporjaofficial?lang=en
แหม่ แต่ละคนนี่น่ารักน่าเอ็นดูไม่ไหวจนอยากจะเจอตัวจริงและกระโดดกอดสักที 555 ใครชื่นชอบผลงานของน้องๆ ก็สามารถตามไปติดตามและดูคลิปของน้องๆได้ตามช่องทาง ชอบน้องๆคนไหนเป็นพิเศษก็คอมเม้นท์บอกกันได้ หรือว่ามีน้องๆ ดาวติ๊กต๊อก ฉบับย่อส่วนคนไหนก็แนะนำกันมาได้ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน พบกันใหม่กับ Why go viral #3 : ช่วงนี้เขาคุยอะไรกัน! ตอนที่ 3~ ในครั้งหน้า
#SORSORPEOPLEPERSONA
#WhyGoViral
#peoplepersona
#เขย่งก้าวกระโดด
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「peoplepersona」的推薦目錄:
- 關於peoplepersona 在 People Persona Facebook 的精選貼文
- 關於peoplepersona 在 People Persona Facebook 的最讚貼文
- 關於peoplepersona 在 People Persona Facebook 的精選貼文
- 關於peoplepersona 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最讚貼文
- 關於peoplepersona 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於peoplepersona 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於peoplepersona 在 #peopleperson - Explore | Facebook 的評價
- 關於peoplepersona 在 People Person - YouTube 的評價
peoplepersona 在 People Persona Facebook 的最讚貼文
ประเทศจีนกับหมีพูห์ที่หายไป
หมีพูห์ หรือ Winnie the pooh หนึ่งในตัวการ์ตูนตัวโปรดที่หลายคนต่างทั้งรักและเอ็นดูทั่วทุกมุมโลก กับเจ้าหมีสีเหลืองตัวใหญ่และผองเพื่อนที่มักออกผจญภัยหรือใช้ชีวิตเที่ยวเล่นกันในหมู่บ้าน ตัวการ์ตูนในนิทานสำหรับเด็กที่อยู่ในใจใครหลายคน โด่งดังขนาดแฟนคลับยกให้วันที่ 18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันหมีพูห์(จากวันเกิดของผู้สร้างตัวละครนี้ขึ้นมา) แต่มันกลับกลายเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศจีน จนหลายครั้งเนื้อหาเกี่ยวกับหมีพูห์ที่ปรากฏอยู่ภายในสื่อบันเทิงหลายแขนงจะถูกสั่งห้ามเข้าประเทศ เรื่องที่ฟังดูตลกแต่กลับเกิดขึ้นจริงในชาติมหาอำนาจ
สำหรับท่านที่ติดตามการเมืองภายในจีนหรือระหว่างประเทศมาคงเคยได้ยินบ้าง แต่สำหรับท่านที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ผู้เขียนคงต้องขอย้อนความเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเสียหน่อยว่าต้นเรื่องมาจากไหน
หมีพูห์เดิมเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีต้นแบบจากหมีจริง แรกสุดมันเป็นหมีที่ชื่อ Winnie อาศัยอยู่ในสวนสัตว์กรุงลอนดอน ก่อนที่ Christopher Robin ในวัยเด็กจะได้ไปเที่ยวและประทับใจจนตั้งชื่อตุ๊กตาหมีตัวโปรดตัวเองตาม เป็นไอเดียให้กับพ่อของเขา Alan Alexander Milne ที่ออกแบบเจ้าหมีสีเหลืองตัวนี้พร้อมผองเพื่อน โดยมีต้นแบบมาจากตุ๊กตาที่ลูกชายของเขามีอยู่และสัตว์แถวบ้าน ก่อเกิดเป็นพูห์และผองเพื่อนกับเด็กชาย คริสโตเฟอร์ โรบิน เพื่อนสนิทที่เป็นมนุษย์และแวะเวียนมาหาเหล่าเพื่อนสรรพสัตว์ ที่ออกผจญภัยหรือเล่นสนุกกันภายในป่าและสวนหลังบ้านอย่างไม่รู้จบ
ตัวละครหมีพูห์ถึงไม่ได้เก่งกาจ ฉลาดเป็นกรด และชอบทำตัวตลกๆ ในบางครั้งเพราะเขามักหิวอยู่ตลอดเวลา พูห์ชอบกินน้ำผึ้งมากจนหัวมักเข้าไปติดในขวดโหล ลำบากเพื่อนๆ ให้ต้องมาช่วยดึงออกอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็มีอุปนิสัยอ่อนโยน มองโลกในแง่ดี และเป็นมิตรกับคนรอบข้าง มักออกความคิดดีๆ คอยช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาให้เพื่อนอยู่เสมอ ทำให้มักเป็นที่รักของผู้คนและเป็นจุดศูนย์กลางของกลุ่ม จนทำให้พูห์กลายเป็นผู้นำของกลุ่มไปโดยไม่รู้ตัว และบางครั้งก็จะมีเด็กชายคริสโตเฟอร์ โรบิน ที่คอยมาช่วยเหลือหรือให้คำปรึกษาเจ้าหมีตัวนี้อีกที
แน่นอนภาพลักษณ์ของหมีพูห์ไม่เคยเลวร้ายเป็นแค่หมีใจดีที่ชอบกินน้ำผึ้งจนดูน่ารัก แต่ประเทศจีนกลับไม่เห็นด้วยในส่วนนั้น ทั้งหมดเริ่มต้นมาจากปี 2013 ที่มีคนโพสต์ภาพประธานาธิบดีสีจิ้ผิงผู้สูงสุดของจีน กับบารัก โอบาม่า ประธานาธิบดีอเมริกาในขณะนั้น พวกเขาเข้าร่วมการประชุมในรัฐแคลิฟอเนียและกำลังเดินเคียงคู่กัน จนมีศิลปินมือดีบางคนวาดรูปหมีพูห์และทิกเกอร์ ตัวละครเสือหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทของพูห์เดินคู่กันมาเทียบ เป็นภาพที่สร้างเสียงหัวเราะกลายเป็นกระแสสร้างความขบขันชวนเอ็นดูภายในโลกอินเตอร์เน็ท แต่กลับไม่ใช่สิ่งที่ทางการจีนชื่นชอบและเริ่มกลายเป็นประเด็น ทำให้หมีพูห์กลายเป็นเป้าโจมตีและเซ็นเซอร์บนโลกอินเตอร์เน็ทขึ้นมา
ก่อนเหตุการณ์เดิมจะเกิดขึ้นอีกครั้งในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในขณะนั้นอย่าง ชินโซะ อาเบะ ในปี 2014 คราวนี้เป็นภาพการจับมือกันระหว่างสองผู้นำที่ถูกหยิบมาล้อเลียน ยังคงเป็นหมีพูห์ตัวเดิมและทำท่าทีแบบเดียวกับสีจิ้นผิง ส่วนตัวของอาเบะถูกแทนด้วยอิกอร์ ลาสีน้ำเงินอีกหนึ่งเพื่อนสนิทของหมีพูห์ และอีกครั้งในปี 2015 ที่สีจิ้นผิงเข้าร่วมพิธีตรวจกำลังพลท่ามกลางการสวนสนามในรถยนต์ ถูกนำมาเปรียบเทียบกับรถของเล่นที่มีหมีพูห์นั่ง สิ่งเหล่านี้ทำให้ทางการจีนหมดความอดทน เริ่มกำจัดภาพล้อเลียนเหล่านี้ไปจากอินเตอร์เน็ท ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของหมีพูห์จากในประเทศจีนได้ เป็นปฏิกิริยาตอบสนองเกินกว่าเหตุที่สร้างความงุนงงให้ผู้คนที่รับรู้ โดยเฉพาะคนที่รักหมีพูห์ด้วยแล้ว
ส่วนนี้หากต้องการคำอธิบายจำเป็นต้องกล่าวถึงและทำความเข้าใจการเมืองภายในของจีนเพิ่มเติมอีกสักนิด
ดังที่เรารู้ทุกวันนี้จีนก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลกอย่างเต็มตัว แต่ด้วยระบบการปกครองของจีนเองที่อาศัยพรรคการเมืองและระบบราชการรวมศูนย์ นับว่าค่อนข้างสร้างปัญหา แรงกดดัน และกดทับความไม่พอใจของผู้คนมากเป็นเงาตามตัว ความเจริญรุ่นเรืองและยิ่งใหญ่ของจีนในหลายขวบปีที่ผ่านมา นโยบายที่ออกเพื่อผลักดันประเทศให้ก้าวไปด้านหน้าทิ้งรอยแผลให้ดูต่างหน้าไว้ไม่น้อย ดังเช่น ปัญหาในด้านมลพิษทางการที่เกิดขึ้นและปกคลุมตามเมืองใหญ่ บีบบังคับให้ประชาชนจำเป็นต้องติดตั้งและหาเครื่องฟอกอากาศมาใช้งาน, การกีดกันวัฒนธรรมยุคเก่าและความเชื่อทางศาสนา นำไปสู่การก่อตัวของฝ่าหลุนกงและการชุมนุมของผู้คนนับหมื่นรอบที่ทำการพรรคคอมมิวนิสต์, ไปจนนโยบายจีนเดียวที่เข้าไปสั่งห้ามและควบคุมการเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น กลืนและลบหายคนเหล่านี้ไปจากโลก ต้องการเปลี่ยนให้กลายเป็นจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเต็มตัว อย่างที่เกิดขึ้นในพื้นที่ซินเจียงและอีกหลายส่วนของประเทศ
ความไม่พอใจสะสมมายาวนานและรัฐบาลก็ดูจะรู้ตัวจึงเริ่มออกกฎหมายเข้ามาควบคุม สอดแนม ไปจนยุ่งเกี่ยวกับความรับรู้ของประชาชนมากขึ้น การวิจารณ์หรือติเตียนนโยบายและระบบของพรรคฯทำได้ยากขึ้นทุกวัน เรื่องมากมายกลายเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศ อย่างเรื่องจัตุรัสเทียนอันเหมินการเข้าไปค้นหาข้อมูลหรือพูดถึงกลายเป็นความผิด เรื่องเกี่ยวกับเขตซินเจียงจากต่างชาติถูกหาว่าเป็นเรื่องหลอกลวง หรือหลิวเสี่ยวโปนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน กลายเป็นชื่อที่ถูกห้ามค้นหาภายในเครือข่ายอินเตอร์เน็ทของจีน และยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้นเมื่อมีความพยายามปกป้องรักษาเสถียรภาพด้านภาพลักษณ์ของผู้นำอย่างสีจิ้นผิง นำไปสู่การสั่งห้ามหลายต่อหลายอย่างกับคนในประเทศอย่างน่าพิศวง นั่นทำให้คลื่นใต้น้ำทวีความรุนแรงแค่ไม่มีโอกาสพุ่งออกไปก่อเรื่องได้ดังใจ ก่อนมาเกิดเหตุการณ์สั่งแบนหมีพูห์ภายในประเทศในที่สุด
เราไม่มีทางทราบว่าในสายตาของผู้นำหรือทางการจีนเจ้าหมีกินน้ำผึ้งตัวนี้เป็นภัยคุกคามแบบใด ที่แน่ใจมีเพียงหลังความพยายามควบคุมของทางการ หมีพูห์กลายเป็นตัวตนเป็นภัยต่อความมั่นคงประเทศและภาพลักษณ์ของผู้นำไปโดยสมบูรณ์ จากที่คาดเดาสาเหตุคงเป็นสิ่งที่ทางการและตัวสีจิ้นผิงพยายามสื่อหรือแสดงให้เห็นมาตลอด คือภาพของของผู้มีสง่าราศี เปี่ยมความเป็นผู้นำ น่าเคารพและนับถือ ประกอบกับในระยะหลังนับจากครองตำแหน่งในปี 2012 เป็นต้นมา สีจิ้นผิงก็พยายามซื้อใจผู้คน ทั้งพยายามกำจัดคอร์รัปชั่นภายในพรรค ออกนโยบายลดความยากจน สร้างเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็ง ก่อนนำสิ่งเหล่านั้นมาฉาบทับและเริ่มสร้างความมั่นคงให้กับอำนาจของตัวเอง จนถึงขั้นแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกข้อจำกัดระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เปิดโอกาสให้สีจิ้นผิงสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้ตราบจนกว่าจะหมดอายุขัย
ใช่ สิ่งที่สีจิ้นผิงต้องการและกำลังทำอยู่อาจเป็นลัทธิบูชาตัวบุคคลสร้างภาพลักษณ์ของเขาให้เป็นผู้สูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยกระทำเรื่องผิด เป็นผู้นำอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมศิโรราบให้กระทั่งกับอเมริกาผู้นำโลกตะวันตก สร้างภาพลักษณ์และความน่าภูมิใจให้ชาติ ปลุกความรู้สึกชาตินิยมดังในวันวาน สมัยที่จีนยังเป็นมหาอำนาจหนึ่งในใต้หล้ากลับมาในใจคน ทั้งหมดเพื่อสร้างจีนเดียวภายใต้การปกครองของสีจิ้นผิง หรือจะบอกว่าเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่จักรพรรดิองค์นี้ก็คงได้
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการหมิ่นหรือลบหลู่ผู้นำจีนอย่างสีจิ้นผิงกลายเป็นประเด็นที่มีความสำคัญ เพราะมันขัดกับสิ่งที่พวกเขาพยายามสร้างและปลุกปั้น กับตัวตนของผู้นำที่น่าเทิดทูนบูชา ไม่ควรนำมายุ่งเกี่ยวกับหมีที่นอกจากน่ารักไร้ความน่าเกรงกลัวต่อผู้คน ยังไม่รวมพฤติกรรมหลายอย่างของพูห์เองที่บางครั้งก็สนุกสนานเฮฮาตามประสาตัวการ์ตูนเด็ก หมีพูห์ตัวน้อยเลยกลายเป็นสิ่งบ่อนทำลายประเทศชาติและต้องถูกจำกัด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการเคลื่อนไหวหรือเหตุการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญทั้งหลายจะก็ทวีความเข้มข้น ด้วยไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดหรือใครมาดูแคลน ไม่ว่าจะเป็นคนในประเทศหรือสมาชิกภายในพรรคคอมมิวนิสต์เองก็ตาม
ความพยายามสร้างชาติในทางนี้ของจีนเป็นปัญหาทางการเมืองมาหลายครั้ง กับความสุดโต่งมากเกินทำให้เกิดการเซ็นเซอร์หรือลิดรอนสิทธิของผู้คน ที่นอกจากภายในยังลามมาถึงนอกประเทศด้วย สื่อหลายประเภทต้องโอนอ่อนผ่อนตามหรือตัดทอนเนื้อหาบางส่วนเพื่อให้มีโอกาสได้เข้าฉายในจีนที่เป็นตลาดใหญ่ ใครก็ตามที่แตะต้องเกี่ยวกับการเมืองจีนจะถูกสั่งห้าม สื่อที่เผลอพูดขัดหูหรือหลุดคำใดผิดหูจะถูกต่อว่าและฝังกลบ ร้ายแรงกว่านั้นคือการระรานทางโลกอินเตอร์เน็ทที่มาจากประเทศจีนกับแค่เรื่องเข้าใจผิดในบางครั้งจนทำให้ผู้คนได้แต่สงสัย กับความพยายามมากเกินในการสร้างภาพจนเกือบเรียกว่ายัดเยียด ว่ามันจำเป็นต้องทำขนาดนั้นเพื่อความมั่นคงของประเทศและผู้นำตัวเองเลยอย่างนั้นหรือ?
เหตุใดความมั่นคงของชาติจึงดูเปราะบางแตกหักง่ายเพียงพูดเรื่องผิดไปสักเล็กน้อยเช่นนั้น?
นโยบายสร้างจีนให้เข้มแข็งและการทูตในเชิงแข็งกร้าวเช่นนี้สร้างปัญหาให้กับทั้งโลก ดารา นักข่าว หรือใครก็ตามที่พูดถึงประเด็นละเอียดอ่อน ไม่ว่าจะประเด็นเกี่ยวหมีพูห์ ซินเจียง หรือฮ่องกงต่างถูกหมายหัวและสั่งห้าม อย่างกรณีของบาส NBA ที่มีนักกีฬาพูดสนับสนุนชาวฮ่องกง ภาพยนตร์อย่าง Christopher Robin(2018) ที่ถูกห้ามฉายในประเทศจีนทั้งที่มีเนื้อหาสดใสให้กำลังใจแต่ถูกสั่งห้ามจากการที่มีเหล่าหมีพูห์และผองเพื่อนโลดแล่น ไปจนกรณี Hololive ที่มี Vtuber ที่ทำช่องในยูทูปเผลอเข้าใจผิดพูดว่าไต้หวันเป็นประเทศไป กลับสร้างกระแสภายในใหญ่โตจนมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานของเธอ ทั้งที่ความจริงคนจีนไม่น่ามีโอกาสเข้ามายุ่งเกี่ยวกับยูทูปที่เป็นแพลตฟอร์มภายนอกประเทศได้สะดวกเลย
ได้แต่สงสัยว่าเหตุใดทางการรวมไปถึงคนจีนจึงต้องมีทัศนคติรุนแรงขนาดนั้นแม้แต่กับคนที่อยู่นอกประเทศกัน?
และนั่นคือสาเหตุทำให้นับวันสัญลักษณ์ผู้นำจีนกลายเป็นหมีพูห์ เมื่อความไม่พอใจไม่ได้จำกัดแค่ภายในแต่เผื่อแผ่มาถึงคนนอก นั่นทำให้ภาพล้อเลียนของสีจิ้นผิงยังอยู่ในรูปลักษณ์ของหมีพูห์ ยิ่งทางการจีนพยายามห้ามปรามหรือหยุดยั้งผู้คนก็ยิ่งขบขันสนุกสนานจนกลายเป็นยุยงให้ทำตาม และชวนให้ขบคิดว่าเหตุใดผู้นำประเทศมหาอำนาจถึงต้องกลัวหมีน้อยตัวเดียว
ความเข้าใจนี้แผ่ขยายเป็นวงกว้างและถูกหยิบมาพูดถึงไม่ขาดสายจนกลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาล ที่นอกจากดูน่ารัก จำง่าย ยังเข้าถึงทุกคนได้โดยเฉพาะกลุ่มเด็กกับวัยรุ่นที่เกิดและเติบโตมากับหมีพูห์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าหมีพูห์ตัวนี้จะถูกหยิบมาใช้งานบ่อยครั้ง ตั้งแต่การคุกคามสิทธิมนุษยชนของชาวอุยกูร์ในเขตซินเจียง ไปจนการเคลื่อนไหวในฮ่องกง และอีกมากมายไม่ว่าจะโดนสั่งห้ามไปแค่ไหนก็ตาม
แน่นอนแค่เรื่องหมีพูห์อาจไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรได้ในเร็ววัน จีนเองก็ใช้เวลายาวนานหลายสิบปีเปลี่ยนจากคนป่วยแห่งเอเชียหรือประเทศล้าหลังในสายตาผู้คนไปเป็นมหาอำนาจต่อนานาชาติ แต่คาดว่าภาพลักษณ์ในสายตานานาชาติและทิศทางการทูตจากนี้ของจีนคงไม่มีทางเหมือนเดิม หลังเป็นต้นตอการระบาดของไวรัสโคโรน่าแถมยังปกปิดข้อมูลนานนับเดือน ประกอบกับการไม่ยอมให้องค์กรระหว่างประเทศเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุของโรคอย่างจริงจัง ก็บีบให้จีนและสีจิ้นผิงที่เป็นผู้นำต้องเริ่มออกมาบอกว่าจากนี้ต้องเปลี่ยนท่าทีทางการทูตให้นุ่มนวลยิ่งขึ้น แสดงให้เห็นว่าจากที่เคยมืดมนเริ่มมีโอกาสที่ผู้คนไม่พอใจทั้งหลายจะมีโอกาสหายใจหายคอได้คล่องกับเขาบ้าง
คงต้องติดตามหลังจากนี้ว่าที่พูดมาจะเป็นแค่ลมปากหรือความจริง อีกทั้งเมื่อใดหมีพูห์จะเลิกถูกกีดกันในจีนเสียที
#peoplepersona
#เขย่งก้าวกระโดด
ภาพ: melmagazine
ที่มา
https://www.thaipost.net/main/detail/15004
https://www.bbc.com/thai/international-40640861
https://thestandard.co/news-world-china-baned-pooh-cause-mimic-xi-jinping/
https://prachatai.com/journal/2017/07/72461
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_6226538
https://voicetv.co.th/read/QiSdZRx9o
https://mgronline.com/daily/detail/9620000025253
peoplepersona 在 People Persona Facebook 的精選貼文
‘ย้อนไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์ชัยชนะของคนตัวเล็ก’
#Onthisday: วันนี้เมื่อหลายปีก่อน - 13 มิถุนายน: สงครามเวียดนาม สมรภูมิรบของคนชาติเดียวกัน
ก่อนจากกันในวันอาทิตย์~ ทักทายกันก่อนที่จะเล่าเรื่องราวจากคอลัมน์ #Onthisday ต่อไป เรื่องราวในวันนี้
เกิดขึ้นที่ประเทศเวียดนาม ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทยเรา เป็นประเทศคู่ค้าคู่แข่งกับเรามายาวนาน เลยจะพานั่งไทม์แมชชีนย้อนอดีตไปดูเรื่องราวของประเทศเพื่อนบ้านบ้าง ตั้งแต่เรื่องการเปลี่ยนประเทศจากยุคสงครามเย็นมาถึงจุดแบ่งแยกประเทศ สู่สงครามเวียดนามไปถึงจุดที่ประกาศชัยชนะ
เรื่องของสงครามเวียดนาม จริงๆไม่ได้เกิดขึ้นในวันนี้วันเดียว เพราะสงครามนี้ยืดเยื้อถึง 19 ปี!!
แต่วันนี้เมื่อปี 2514 หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ ได้เริ่มตีพิมพ์เอกสารที่เปิดเผยความลับเกี่ยวกับสงครามเวียดนามเป็นครั้งแรก วันนี้ก็เลยอยากจะเล่าความ (ไม่) ลับ บ้าง บทความนี้พาไปย้อนดูไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์ สงครามเวียดนามเริ่มยังไง? ชาติเดียวกันทะเลาะกันได้อย่างไร? ใครหนุนหลังใคร? แล้วสุดท้ายใครชนะ?
ย้อนไปช่วงหนึ่งของเวียดนาม เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นชาตินิยมจ๋าๆเลย คือคนในชาติมีความเห็นพ้องต้องกันว่าชาติเรานี่แหละคือความเจริญอย่างที่สุดแล้ว จนในยุคล่าอาณานิคม ความชาตินิยมก็เป็นอันต้องไป เพราะความเจริญแบบจริงๆ จากฝั่งตะวันตกเข้ามาครอบครอง จนสุดท้ายเวียดนามก็ถูกฝรั่งเศสปกครอง
เวียดนามถูกเปลี่ยนมือการปกครองอีกครั้งตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นเป็นมหาอำนาจ พี่ใหญ่ของดินแดนอาทิตย์อุทัยก็เขามาเดินเล่นในเวียดนามอย่างสนุกสนาน พาลให้ฝรั่งเศสต้องถอยร่นไป พอหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวียดนามซึ่งนำโดย ‘โฮจิมินห์’ ก็เริ่มมีความคิดที่จะไม่ทนอยู่ใต้ใครทั้งนั้น คืออยากเป็นเอกราชบ้าง จึงมีการทำข้อตกลงกับฝรั่งเศสว่าให้แค่เพียงวางรากฐานความเจริญแก่ประเทศ
แต่พี่ฝรั่งเศสก็ไม่ยอมจ้า ฝรั่งเศสเปิดศึกกับเวียดนาม ข้ามทวีปมาพร้อมด้วยยุทโธปกรณ์ครบมือ ทั้งเครื่องบิน ปืนผาหน้าไม้ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ต่อหัวใจรักชาติที่ยิ่งใหญ่ของชาวเวียด นั่นก็นับเป็นการประกาศอีกหนึ่งชัยชนะของ ‘คนตัวเล็ก’ หมายถึงชาวเวียดนาม เพราะถ้าเทียบจริงๆ ฝั่งตะวันตกก็เป็นคนตัวใหญ่ ทั้งขนาดตัวจริงๆ และความเป็นมหาอำนาจ
สุดท้ายเรื่องก็ร้อนถึงประชาคมโลก บทสรุปจบที่ว่า เวียดนามเป็นเอกราชได้ แต่ต้องแบ่งเป็น เวียดนามเหนือ และ เวียดนามใต้ เวียดนามเหนือปกครองโดย ‘โฮจิมินห์’ ด้วยระบอบคอมมิวนิสต์และเวียดนามใต้ปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตย ก่อนจะเปลี่ยนการปกครองไปเป็นเสรีนิยม
แต่เรื่องยังไม่จบ ด้วยความที่แบ่งแยกประเทศกัน ต่างฝ่ายก็มีผู้สนับสนุน ทางฝั่งเหนือสนับสนุนด้วย
โซเวียตและจีน ส่วนทางใต้สนับสนุนโดยสหรัฐอเมริกา สงครามเวียดนามจึงเกิดขึ้น เวียดนามต้องกลายเป็นพื้นที่ตรงกลางที่ ‘คนชาติเดียวกัน’ ต้องมาทะเลาะตบตีกัน เพียงเพราะการหนุนหลังจากประเทศมหาอำนาจ
เวียดนามใต้เกิดความไม่แข็งแรงทางการปกครอง จะเรียกว่าประเทศล่มสลายก็ได้ ผู้คนในเวียดนามใต้ก็หนีเอาตัวรอดไปตามที่ต่างๆ ฝ่ายสหรัฐก็กลัวว่าถ้าปล่อยให้เวียดนามเหนือเข้ามาถึงเวียดนามใต้ อำนาจของตนเองที่อยู่ฝั่งเอเชียก็จะหายไป จึงส่งทหารมาจัดการ แต่หารู้ไม่ว่า…ความชาตินิยมของเวียดนามเหนือนี่แหละที่น่ากลัวกว่าสิ่งใด
เพราะหลังจากอเมริกาเปิดศึกกับเวียดนามเหนือได้ไม่นาน ก็ต้องถอย จากการที่ชาวสหรัฐเริ่มเรียกร้องการส่งพลเมืองออกมารบโดยไม่จำเป็นและอีกเรื่องที่ทำให้อเมริกาพ่ายแพ้ต่อเวียดนามเหนืออย่างถาวรคือ ‘กลยุทธ์คนตัวเล็ก’ เป็นเรื่องตลกที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเกิดขึ้น เวียดนามวางกลยุทธ์การรบอย่างแยบยล เลือกที่จะเสียสถานที่สำคัญๆไป แต่ไปสร้างใหม่ไว้ที่ใต้ดิน และขุดรูทางเข้าที่เล็กและหายากมากๆ ทหารอเมริกาไม่มีทางเข้าไปได้แน่นอน ขึ้นมารบและแอบหลบลงใต้ดิน ในขณะที่อเมริกาต้องเสียทหารทุกวันแต่กลับหาคนทำไม่เจอ
อเมริกาก็เลยต้องยอมตกลงเจรจายุติสงครามกับเวียดนามเหนือที่กรุงปารีส โดยสหรัฐได้ถอนทหารหน่วยสุดท้ายออกจากเวียดนามใต้ภายใน 60 วัน นับเป็นชัยชนะของ ‘คนตัวเล็ก’ ที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถเอาชนะต่อประเทศมหาอำนาจได้ แม้ว่าจะมีความพร้อมน้อยกว่าแต่ด้วยหัวใจรักชาติที่ยิ่งใหญ่ เราจึงได้เห็นประเทศเวียดนามมาถึงทุกวันนี้…
#SORSORPEOPLEPERSONA
#peoplepersona
#เขย่งก้าวกระโดด
peoplepersona 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最讚貼文
peoplepersona 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
peoplepersona 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
peoplepersona 在 People Person - YouTube 的美食出口停車場
Provided to YouTube by Universal Music Group People Person · Donnie The Colored Section ℗ 2003 Motown Records, a Division of UMG Recordings, ... ... <看更多>
peoplepersona 在 #peopleperson - Explore | Facebook 的美食出口停車場
Heather is a native of the Richmond area, and a University of Richmond graduate. She most recently worked as a Realtor, but has a background in business to ... ... <看更多>