#Rivian_R1S là mẫu #SUV_7_chỗ chạy điện có khả năng tăng tốc từ 0 – 96 km/h chỉ trong 3,2 giây.
#cựu_CEO_Amazon- #Jeff_Bezos #New_Shepard
Hãy đăng ký kênh #Xe_Hay tại đây https://bit.ly/2nmwiaL để xem những video đánh giá xe chi tiết hấp dẫn nhất
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
jeff_bezos 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
คนที่รวยสุดในโลกเมื่อ 100 ปีที่แล้ว John D. Rockefeller / โดย ลงทุนแมน
ทุกคนรู้ดีว่าปัจจุบัน Jeff Bezos เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลก
เขาคือผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon
มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของ Amazon ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
จึงทำให้ Jeff Bezos กลายมาเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
อันดับเศรษฐีโลก ในยุคปัจจุบัน
1. Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon มูลค่าทรัพย์สิน 4.6 ล้านล้านบาท
2. Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft มูลค่าทรัพย์สิน 3.1 ล้านล้านบาท
3. Bernard Arnault เจ้าของ LVMH มูลค่าทรัพย์สิน 2.7 ล้านล้านบาท
แต่ถ้าถามว่า ใครเคยรวยสุดในโลกเมื่อ 100 ปีที่แล้ว
ชายคนที่ว่าคือ John D. Rockefeller นักธุรกิจชาวอเมริกันเจ้าของกิจการน้ำมัน Standard Oil บริษัทที่ทำธุรกิจผลิตปิโตรเลียมในสหรัฐอเมริกา และเคยเป็นผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
John D. Rockefeller เกิดเมื่อปี 1839 ทางตอนเหนือของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวนักธุรกิจ
เมื่อตอนอายุ 16 ปี เขาเริ่มต้นฝึกงานเป็นผู้ช่วยพนักงานบัญชี
ระหว่างปี 1861-1865 ได้เกิดสงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกาขึ้น ในระหว่างนั้น John D. Rockefeller และพี่ชายมองว่า น้ำมันกำลังมีความต้องการสูงในตลาด
การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ทำให้มีการขุดเจาะ และกลั่นน้ำมันกันมาก
ในปี 1870 John D. Rockefeller และหุ้นส่วนทางธุรกิจจึงมีการก่อตั้งบริษัท Standard Oil โดย Samuel Andrews นักเคมีชาวอังกฤษซึ่งเป็นหุ้นส่วนของเขา เป็นผู้ที่ช่วยให้บริษัทสามารถกลั่นน้ำมันด้วยต้นทุนที่ต่ำ จึงทำให้กิจการของ Standard Oil ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
การขยายกิจการอย่างต่อเนื่องของ Standard Oil ทำให้บริษัทสามารถคุมกิจการน้ำมันในสหรัฐอเมริกาได้ถึง 90% ในช่วงนั้น
ในปี 1937 John D. Rockefeller เสียชีวิตลง ด้วยอายุ 97 ปี
มีข้อมูลที่น่าสนใจคือ
นักเศรษฐศาสตร์ได้มีการใช้เครื่องมือที่ใช้วัดความมั่งคั่งของคนในแต่ละช่วงเวลา
หนึ่งในนั้นคือ การใช้มูลค่าทรัพย์สินหารด้วยมูลค่า GDP ของประเทศ
โดยทรัพย์สินของ John D. Rockefeller เมื่อปี 1937 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1.6% ของมูลค่า GDP ของสหรัฐอเมริกาในช่วงนั้น
แต่ถ้านำทรัพย์สินของ Jeff Bezos มาเทียบกับมูลค่า GDP ของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันที่ 656 ล้านล้านบาท จะได้เพียง 0.7%
นั่นหมายความว่า John D. Rockefeller จะมีทรัพย์สินต่อ GDP ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสัดส่วนมากกว่า Jeff Bezos ในวันนี้เสียอีก
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
แม้ Standard Oil ได้ปิดตัวลงไปในปี 1911
แต่บริษัทลูกๆ หลายแห่งได้ดำเนินกิจการต่อมา บางแห่งมีการควบรวมหรือเปลี่ยนชื่อไป
ซึ่ง 2 แห่งนั้น มีชื่อของ ExxonMobil และ Chevron บริษัทน้ำมันและปิโตรเลียมรายใหญ่ของโลกในวันนี้นั่นเอง
╔═══════════╗
อ่านลงทุนแมนสนุกขึ้น
อ่านในแอป blockdit
โหลดที่ blockdit.com
╚═══════════╝
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Jeff_Bezos
-https://ycharts.com/companies/AMZN/market_cap
-https://en.wikipedia.org/wiki/Standard_Oil
-https://wealthygorilla.com/top-20-richest-people-world/
-http://www.in2013dollars.com/us/inflation/1855?amount=16
-https://www.bloomberg.com/…/john-d-rockefeller-was-almost-t…
-https://en.wikipedia.org/…/List_of_countries_by_GDP_(nomina…
jeff_bezos 在 JC 財經觀點 Facebook 的最佳解答
📘《黑石的選擇:黑石創始人彼得·彼得森的人生七堂課》
看到高毅資產公眾號轉發一篇好書導讀,書名是《黑石的選擇》(The Education of an American Dreamer),作者就是黑石的創辦人彼得·彼得森(Peter G. Peterson),於今年3月過世,所以又重新再版。在這本2009年出版的書中,彼得·彼得森將他的人生經歷與智慧享給世人。
👉彼得森說:在商業方面,很多人都感興趣的一個問題是,為什麼年僅三四十的我就能在一些看似毫無關聯的領域謀得要職,比如廣告業、製造業以及金融領域,我是如何做到的?也許大家還有一個隱藏未說出的問題:如何成為億萬富翁?
我的第一個答案(並非我胡謅)就是:我的某些成功是因為走狗屎運😂
我確實有過不少很好的運氣。但是編輯覺得這個回答太敷衍了事了,只好提有名的老闆喬治·華盛頓·普拉克特的回答:「我看到了我的機遇,我便抓住了它們。」
為了避免令這個部分漸變成職業生涯諮詢,讓我多說一句。我們的興趣、愛好、能力、資源、優勢以及劣勢,都各不相同,所以「如何」進行職業生涯規劃沒有統一的標準。至少對我來說,這個標準是沒有的。
我強調我從未給自己規劃過什麼長期職業路線,無疑,我也不可能為你規劃一條。我能幫助你的就是,當你讀到這些主題或指導原則的時候,把它們當作連接我各類事業的紐帶,然後問自己:哪些在我身上適用?哪些和我的興趣、能力、激情掛得上鉤❓
📝以下是文章中重點節錄(建議看全文🔗摟❗️)
1️⃣ 發揮你的比較優勢:這份工作是否能讓你利用優點,發揮你的比較優勢
2️⃣ 思想上不能懶惰:常常思考一下你的公司、你所處的行業,還有整個經濟環境的具體狀況是怎樣的
3️⃣ 最重要的是投入,並試著採取實際行動:我不滿於僅僅知道我所知道的,或者我以為我所知道的。我想要去記錄它們、談論它們,甚至向他人傳播它們。
4️⃣ 結合個人需要,謹慎選擇你的奮鬥領域:因為我對某些領域的事情特別有激情,而且願意花很多時間在上面,我不僅會十分樂意在這些機構的事務上花上大量的時間和精力,而且會願意參與它的管理和它的籌資活動(這點很重要)。
5️⃣ 忠於自己的原則、自己的內心、自己的道德標準:即使當下不好受,長期利益卻可能獲得滿足。
6️⃣ 在事業和個人生活中,尋找一個令你健康快樂的平衡點:天啊!在這個方面,我的經歷基本上都是沒找到平衡點的負面教材。我經歷過兩次離婚,因為我除了工作和成就什麼都不看重。
7️⃣ 選擇長遠利益:回望過去,我遇到的機會最後都成了二選一的題目——眼前利益還是長遠利益。而我的選擇都是——長遠利益❗️
⬇️全文連結⬇️
🔗 https://mp.weixin.qq.com/s/symQ6ajf6n6vXWhyOnt1qw
👉對於第6項,我覺得之前Amazon創辦人Bezos在一個訪問中的回答更為有價值。他談到很多人問他如何去平衡生活與工作。但他認為這個問題是沒什麼意義的,因為生活與工作應該是一個良好的循環( It actually is a circle; it's not a balance. )如果我在工作中快樂,我也會將快樂帶回家;如果我在家裡很快樂,我一樣會樂在工作。
「每一個人都應該要了解,工作與生活其實是一種協調,而不是平衡❗️」
🔗 https://www.businessinsider.com/jeff-bezos-interview-axel-s…
👉讀完這篇文章,我也推薦你可以看一下NBA小牛隊老闆Mark Cuban的短文《Don’t Follow Your Passion, Follow Your Effort》
人生中最有價值,但也是我們最缺乏的資產就是「時間」,與其盲目去追求你的熱情,還不如先停下來思考一下,你最擅長的事是什麼,而且可以使你樂在其中,在這樣的情況下,你會更加努力工作並且做到最好,自然就可以獲得成功。
🔗 http://blogmaverick.com/…/dont-follow-your-passion-follow-…/
#讀書心得 #Blackstone #Peter_Peterson #Jeff_Bezos #Mark_Cuban #黑石 #彼得彼得森