บางครั้งเราอาจไม่รู้ว่า สิ่งที่เราทำนั้น มีค่ากับผู้อื่นแค่ไหน?
ปลายปี 2561 ผมได้รับเชิญไปบรรยายโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ในต่างจังหวัด ทางโรงพยาบาลเชิญผมไปบรรยายวันที่ 4 มกราคม 2562 ผมเลยถือโอกาสวางแผนเที่ยวปีใหม่ก่อน กะว่าเคาน์ดาวน์ข้ามปีเรียบร้อย ค่อยแวะบรรยายที่นี่ก่อนกลับบ้าน
โปรแกรมการบรรยายตั้งไว้ 3 ชั่วโมง 13.30-16.30 น. ผมและครอบครัวเดินทางไปถึงตั้งแต่เที่ยงครึ่ง เราหาอาหารกลางวันทานกันง่ายๆ จำได้ว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เพราะไม่อยากรบกวนทางโรงพยาบาลให้ต้องลำบากจัดหาอาหารให้
ก่อนบรรยายได้มีโอกาสพูดคุยกับทันตแพทย์หญิงซึ่งท่านเป็นผู้จัดงานวันนี้ สีหน้าสีตาเธอแสดงออกชัดเจนว่าดีใจมาก ที่ผมเดินทางมา ไม่คิดว่าติดต่อไปแล้วจะว่างตรงกัน เพราะทราบดีว่าตารางบรรยายผมค่อนข้างแน่น
เธอบอกกับผมว่า เมื่อสองเดือนที่แล้วมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะปัญหาหนี้สิน ก่อนที่จะตัดสินใจทำร้ายตัวเอง เจ้าหน้าที่ท่านนี้ถูกเจ้าหนี้ติดตามทวงถามหนักมาก จนเป็นโรคซึมเศร้า และเลือกที่จะจากไปในท้ายที่สุด
ที่มันพีคกว่านั้น คือ การจัดบรรยายที่ทางโรงพยาบาลเชิญผมมาพูดในวันนี้ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารสูงสุด ไม่มีงบประมาณหรืออะไรให้เลยแม้แต่น้อย แต่ทางคุณหมอและเจ้าหน้าที่ที่อยากฟังผมพูด ช่วยกันระดมทุน จัดหาเงินมาซื้ออาหารว่างและกาแฟ เพื่อเอาไว้ต้อนรับคนมาฟังกันเอง
“จัดกันโดยพลการแบบนี้ ท่านผู้อำนวยการไม่ว่าเหรอครับ” ผมถาม
“ท่านลาพักร้อนคะ ไปทางประเทศ เราถึงต้องรีบเชิญอาจารย์มาพูดวันนี้ รบกวนเวลาเที่ยวปีใหม่ของอาจารย์ ต้องขอโทษด้วยนะคะ"
ข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ บวกกับความตั้งใจจริงของทีมงาน กระตุ้นให้ผมอยากบรรยายให้เต็มที่ที่สุด ว่ากันตามจริงผมก็ไม่รู้หรอก ว่าการมาของผมในวันนี้จะช่วยคนได้แค่ไหน แน่นอนว่ามันคงช่วยคนทุกคนไม่ได้ แต่อย่างน้อยขอให้มีคนมีหวังมีกำลังใจสู้ต่อเพิ่มอีกสัก 1 คน การเดินทางของผมก็ไม่เสียเปล่าแล้ว
ผมเดินเข้าห้องก่อนบรรยายไม่ถึง 5 นาที บรรยากาศในห้องทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ เมื่อเห็นผู้ฟังร่วม 200 คน อัดแน่นเต็มห้อง ปรบมือดีใจตอนที่เห็นผมเดินเข้ามา คำพูดคำนึงที่ได้ยินคนนั่งแถวหน้าพูดกันคือ “โค้ชมาจริงๆ ด้วย”
นึกในใจ “นัดแล้ว จะเบี้ยวได้รึ”
ตลอด 4 ชั่วโมงของการบรรยาย (สอนเกินเวลาไป 1 ชั่วโมง) ไม่มีใครกลับก่อน ไม่มีคนนอนหลับ เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ทำให้วันนี้เป็นอีกวันที่ชีวิตวิทยากรสดใสเหมือนดอกไม้บาน
แม้เรื่องที่เราคุยกัน จะเป็นเรื่องการแก้หนี้ และการออมเพื่อสร้างความหวัง ไม่ใช่เรื่องการลงทุนอะไรใหญ่โต แต่ทุกคนดูมีความหวัง ตั้งใจ และส่งสัญญาณเป็นสัญญาด้วยสายตาว่าจะสู้
ปิดท้ายการบรรยาย ผมยืนถ่ายรูปกับผู้เข้าฟังน่าจะเป็นร้อยคน ทีละคน แต่ไม่เหนื่อยเลยครับ ยิ้มกว้างยิ่งกว่านางงามเสียอีก จนบางครั้งก็แอบสงสัยว่า ใครมาให้ความสุขใครกันแน่!
อย่างไรก็ดี ... ไคลแมกซ์ของเรื่องมันอยู่ตอนจบครับ
หลังจบการสัมมนา ทีมงานเดินมาหาผมแล้วถามว่าอาจารย์คิดค่าบรรยายเท่าไหร่ สารภาพตามตรงที่ไม่คุยตกลงกันก่อน เพราะผมตั้งใจมาบรรยายให้ฟรี ปกติหน่วยงานรัฐผมจะให้ดูแลค่าเดินทาง ค่าอาหาร แต่สำหรับที่นี่ ผมวางแผนไว้ว่าจะเที่ยวปีใหม่ และเห็นว่าเป็นทางผ่านตอนเดินทางกลับบ้าน เลยไม่คิดที่จะรับค่าบรรยายใดๆ
สุดท้ายทีมงานไม่ยอม พร้อมกับหยิบเงินธนบัตรที่พับเป็นปึกเล็กๆ ยัดใส่มือภรรยาผม แล้วบอกว่า “อาจารย์รับไปเถอะนะคะ ไม่ได้มากอะไร อย่างน้อยขอให้เราได้ดูแลการเดินทางมาของอาจารย์ก็ยังดี”
หลังจากนั้นเราพูดคุยอำลากับทางเจ้าหน้าที่อีกเล็กน้อย ก่อนเดินทางกลับ
ขณะเดินทางกลับ ผมกับภรรยาพูดคุยและรู้สึกตรงกันว่า รู้สึกดีและมีความสุขที่ตัดสินใจมาบรรยาย
“แต่คุณหมอน่าจะเอาเงินใส่ซองมาสักหน่อย รับเป็นแบงค์แบบนี้เขินจังเลย” ภรรยาผมเอ่ยปาก “มีทั้งแบงค์ 1,000 แบงค์ 500 แบงค์ 100 แบงค์ 50 มาครบทุกแบงค์เลย” (รวมๆ แล้วเกือบ 5,000 บาท)
สิ้นเสียงภรรยาผม ในรถเงียบไปครู่ใหญ่ ...
“เฮ้ยยยย อย่าบอกนะว่า ...” ผมเอ่ยเสียงดังทำลายความเงียบ
เราสองคนมองหน้ากัน แล้วรู้สึกผิดที่รับเงินมา ...
เราลืมไปว่าโรงพยาบาลไม่มีงบสำหรับจัดงานวันนี้ ดังนั้นเงินที่คุณหมอยัดใส่มือภรรยาผม คือ เงินที่เจ้าหน้าที่แค่ไม่กี่คนเรี่ยไรกันมา เพื่อให้เกิดงานในวันนี้
สารภาพว่าน้ำตาซึม และนั่งคิดทบทวนไปมาว่า ตลอด 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา ผมได้ทำหน้าที่สมกับที่ทุกคนเฝ้าคอย และพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาบรรยายหรือเปล่า
ชีวิตของการเป็นวิทยากรธรรมดาๆ คนหนึ่ง มันคือการได้รับเกียรติอย่างสูง และเป็นอีกวันที่ผมได้รับพลังจากผู้คน เห็นคุณค่าของงานที่ตัวเองทำ และทำให้ผมอยากทำหน้าที่มันนีโค้ชของผมต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
อีกหนึ่งเรื่องราวเล็กๆ ที่จะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป
#โค้ชหนุ่ม
#IamMoneyCoach
#เรื่องเล่าจาก16ปีของการเป็นมันนีโค้ช
ปล. สุดท้ายผมกับภรรยาตัดสินใจนำเงินก้อนดังกล่าวไปทำบุญกับมูลนิธิแห่งหนึ่ง
ปล.2 ไม่ต้องถามนะครับว่าโรงพยาบาลอะไร เอาเป็นว่าจังหวัดนี้ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็พอ (555)
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...