Lenovo จากบริษัทไม่มีใครรู้จัก สู่แบรนด์คอมพิวเตอร์ ขายดีสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ผู้ที่ครองส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PC ได้มากที่สุดในโลกก็คือ “Lenovo” แบรนด์จากประเทศจีน ที่สามารถแซง HP และ Dell จากสหรัฐอเมริกา จนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลกได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2013 และยังคงรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ได้จนถึงปัจจุบัน
Lenovo ยังถือเป็นบริษัทจีนที่ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทระดับโลกได้เป็นบริษัทแรก ๆ ก่อนบริษัทระดับโลกในยุคปัจจุบันอย่างเช่น Alibaba, Tencent, Huawei และ Xiaomi
แล้ว Lenovo ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จากข้อมูลของ Gartner ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก จำนวน PC ที่ส่งมอบทั้งปี 2020 แบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดโลกได้มากที่สุดก็คือ
อันดับ 1 Lenovo จากจีน 24.9%
อันดับ 2 HP จากสหรัฐอเมริกา 21.2%
อันดับ 3 Dell จากสหรัฐอเมริกา 16.4%
อันดับ 4 Apple จากสหรัฐอเมริกา 8.2%
อันดับ 5 Asus จากไต้หวัน 6.0%
คำว่า PC ในความหมายของ Gartner จะแปลว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และแล็ปท็อป
แล้วก่อนจะกลายมาเป็นบริษัทที่ขาย PC ได้มากที่สุดในโลก Lenovo มีจุดเริ่มต้นอย่างไร ?
ย้อนกลับไปในปี 1984 หรือเมื่อ 37 ปีก่อน ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
“Liu Chuanzhi” เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ทำงานวิจัยอยู่ที่สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS)
ตอนนั้น คุณ Liu รู้สึกว่าสิ่งที่คิดค้น มักจะจบลงแค่ในห้องทดลองและไม่ได้ถูกต่อยอดนำไปใช้ประโยชน์กับคนหมู่มาก
คุณ Liu ในวัย 40 ปี จึงขอเงินทุนจาก CAS มาได้ 2 แสนหยวน หรือราว 1 ล้านบาท เพื่อเปิดบริษัทเกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยีเอง
หลังจากได้ทุนมาแล้ว เขาก็ได้รวบรวมทีมงานที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรคอมพิวเตอร์ชาวจีนอีก 10 คนและได้ก่อตั้งบริษัท ในตอนแรกชื่อว่า “Legend”
ในเวลานั้น ถือเป็นจังหวะที่ดี เพราะประเทศจีนกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จากยุคเหมาเจ๋อตง ที่ระบบเศรษฐกิจถูกวางแผนโดยรัฐและไม่ค้าขายกับต่างประเทศ มาเป็นยุคเติ้งเสี่ยวผิง ที่เริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจ
โดยให้ภาคเอกชนมีบทบาทมากขึ้นและเริ่มค้าขายกับต่างประเทศ
แต่ Legend มีอุปสรรคสำคัญก็คือ ด้วยความที่ทีมงานมีพื้นฐานมาจากการเป็นนักวิจัย การเลือกประเภทสินค้าจึงไม่ค่อยตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งก็ได้ทำให้บริษัทต้องลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง
โดย Legend เริ่มจากการนำเข้าโทรทัศน์สีมาขายแต่ล้มเหลว
จึงเปลี่ยนมาพัฒนานาฬิกาข้อมือดิจิทัล แต่ก็ล้มเหลว
พอเปลี่ยนมาให้บริการตรวจสอบคุณภาพคอมพิวเตอร์ก่อนถึงมือลูกค้า ก็ยังคงล้มเหลว
จนกระทั่ง Legend หันมาลงทุนพัฒนาแผ่นวงจรพิมพ์ หรือ PCB เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่นำเข้ามา ใช้งานเป็นภาษาจีนได้ ซึ่งก็ถือว่าได้ผลตอบรับดี
หลังจากนั้น Legend จึงได้เริ่มนำเข้าคอมพิวเตอร์จากต่างประเทศ แล้วขายระบบภาษาจีนพ่วงด้วย
ทำให้คอมพิวเตอร์ที่บริษัทนำเข้ามา ขายดีมาก ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนแรกที่สำคัญ เพราะ Legend ได้เริ่มเรียนรู้ความต้องการของตลาด จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าต่างประเทศ
ในเวลาต่อมา Legend จึงต่อยอดกิจการด้วยการไปตั้งบริษัทย่อยที่ฮ่องกง เพื่อผลิตและส่งออก PCB จนกระทั่งในปี 1990 บริษัทก็ได้เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ของตัวเองและสามารถนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ในปี 1994
ผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของ Legend ที่ประสบความสำเร็จคือเมนเฟรมคอมพิวเตอร์
ก่อนที่บริษัทจะเริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและแล็ปท็อปตามมา
จนในที่สุด Legend ก็มีรายได้หลักมาจากการขายคอมพิวเตอร์ที่เป็นแบรนด์ของตัวเองและได้กลายเป็นแบรนด์คอมพิวเตอร์ที่มียอดขายมากที่สุดในประเทศจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 43% ในปี 1998
ซึ่งนอกจากการวิจัยพัฒนาคอมพิวเตอร์แล้ว กลยุทธ์ที่ทำให้ Legend ครองตลาดจีนได้ก็คือการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากที่สุด รวมถึงการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจัดจำหน่าย
หลังจากประสบความสำเร็จในประเทศแล้ว Legend จึงตั้งเป้าหมายใหญ่ขึ้น
ด้วยการก้าวสู่ตลาดโลก ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ที่ชื่อว่า “Yang Yuanqing”
คุณ Yang เริ่มงานที่ Legend ตั้งแต่ตอนที่บริษัทเปิดรับสมัครพนักงานครั้งแรกเมื่อปี 1988 โดยเริ่มจากตำแหน่งพนักงานขาย ซึ่งก็สร้างผลงานได้โดดเด่น จนไปเข้าตาประธานบริษัทอย่างคุณ Liu
คุณ Yang จึงได้เลื่อนขั้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มธุรกิจ PC ในวัยเพียง 29 ปี
ก่อนที่จะรับตำแหน่ง CEO ในปี 2001 ขณะที่อายุ 37 ปี
เพื่อเตรียมก้าวสู่ตลาดโลก Legend จึงรีแบรนด์ในปี 2003 ด้วยการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Lenovo” ซึ่งมาจากคำว่า “Le” จากชื่อบริษัทเดิม Legend รวมกับคำว่า “Novo” ที่แปลว่า ใหม่ ในภาษาละติน
ต่อมาในปี 2004 บริษัท IBM ได้ประกาศขายธุรกิจคอมพิวเตอร์
ซึ่ง IBM เป็นบริษัทผู้นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จากสหรัฐอเมริกา โดยนับเป็นบริษัทแรก ๆ ในโลกที่เริ่มขาย คอมพิวเตอร์จนมีแล็ปท็อป “ThinkPad” ที่โด่งดัง และครองส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์เป็นอันดับ 3 ของโลกในขณะนั้น เป็นรองจาก Dell และ HP
แต่สาเหตุสำคัญที่ IBM ตัดสินใจขายธุรกิจคอมพิวเตอร์ เพราะมองว่าเทคโนโลยีเครื่องคอมพิวเตอร์ ถูกคู่แข่งเลียนแบบได้ง่าย แถมยังแข่งกันตัดราคาขาย ทำให้อัตราการทำกำไรต่ำ บริษัทจึงอยากโฟกัสธุรกิจที่สร้างกำไรได้ดี อย่างพวกซอฟต์แวร์และกลุ่มให้บริการ มากกว่า
ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งที่ Dell ก็เสนอซื้อเช่นกัน แต่ IBM กลับเลือกขายธุรกิจคอมพิวเตอร์ให้กับ Lenovo ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นบริษัทจากประเทศจีนที่แทบไม่มีคนรู้จัก
โดย IBM ให้เหตุผลว่าตอนนั้นรัฐบาลจีนกำลังผลักดันบริษัทจากจีนให้ได้เติบโตในระดับโลก
IBM จึงตอบสนองความต้องการของรัฐบาลจีน เพื่อเปิดโอกาสให้ IBM เข้าไปบุกตลาดจีนได้ง่ายขึ้น
Lenovo ที่อยากขายสินค้าไปทั่วโลก จึงตกลงซื้อธุรกิจคอมพิวเตอร์ของ IBM ในปี 2005 ด้วยมูลค่า 1.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทแรก ๆ ของจีน ที่มีดีลการเข้าซื้อกิจการต่างประเทศ
นั่นจึงทำให้ Lenovo ได้โรงงานผลิตคอมพิวเตอร์ของ IBM ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ได้ช่องทางการจัดจำหน่ายและฐานลูกค้าทั่วโลก รวมถึงได้ทีมงานจาก IBM ซึ่งทำให้บริษัทมีพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ที่สำคัญก็คือ ไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่ม “Think” ที่ขายดีที่สุดของ IBM อย่าง ThinkPad ที่เป็นแล็ปท็อป และ ThinkCentre ที่เป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ก็จะเปลี่ยนโลโกจาก IBM มาเป็น Lenovo
และนี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Lenovo ซึ่งแต่เดิมแทบไม่มียอดขายในต่างประเทศเลย สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดจากบริษัทคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก ขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ของโลก แทนที่ IBM ทันที
นอกจากนี้ การรวมพนักงานนานาชาติของทั้ง 2 บริษัท ทำให้ Lenovo ปรับโครงสร้างกรรมการบริษัทและทีมบริหารให้มีสัดส่วนชาวจีนและอเมริกันเท่า ๆ กัน
อีกมุมที่ Lenovo ให้ความสำคัญไม่แพ้การมีสินค้าขายไปทั่วโลก ก็คือการปรับวัฒนธรรมองค์กร ธรรมาภิบาล รวมถึงมาตรฐานบัญชี ให้มีความเป็นสากล
ยกตัวอย่างเช่น แม้ในตอนนั้นตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงจะกำหนดให้ส่งงบประมาณเพียงปีละ 2 ครั้ง แต่ CFO หญิงผู้วางรากฐานที่สำคัญให้ Lenovo อย่างคุณ Mary Ma เลือกให้บริษัทเปิดเผยงบประมาณปีละ 4 ครั้งเป็นรายไตรมาส ตามมาตรฐานสากล
จากการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ Lenovo จึงเปลี่ยนจากบริษัทท้องถิ่น มาเป็นบริษัทข้ามชาติ
ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทข้ามชาติแห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน Lenovo ก็ต้องเจอความท้าทายครั้งใหญ่ เพราะผลจากวิกฤติการเงินโลกในปี 2008 ทำให้ผลประกอบการปี 2009 ของบริษัทพลิกเป็นขาดทุนมากถึง 7.4 พันล้านบาท
ในปี 2009 คุณ Yang ที่ได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นประธานกรรมการบริษัทในปี 2004 ได้ขอกลับมารับตำแหน่งเป็น CEO อีกครั้งเพื่อนำบริษัทให้กลับมามีกำไร รวมถึงเร่งเพิ่มยอดขายและขยายส่วนแบ่งตลาด ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง แต่คุณ Yang ขอเวลา 4 ปี แล้วค่อยวัดผล
คุณ Yang เริ่มจากการฟื้นฟูตลาดเดิมที่ทำกำไรได้ดีอยู่แล้ว นั่นก็คือ ฐานลูกค้าเดิมจาก IBM อย่าง PC สำหรับลูกค้าองค์กร และฐานลูกค้าเดิมของ Lenovo อย่างตลาดในประเทศจีน
ขณะเดียวกันก็บุกตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตแรงและมีจำนวนประชากรมาก อย่างเช่น อินเดีย เพื่อขยายฐานลูกค้าไม่ให้พึ่งพาชาวจีน มากเกินไป
ซึ่งกลยุทธ์เชิงรุกนี้ช่วยเพิ่มรายได้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังต้องแลกกับการทุ่มงบประมาณก้อนใหญ่ เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และทำการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย
Lenovo จึงได้เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้นนอกเหนือจาก ThinkPad ที่เป็นแล็ปท็อปพรีเมียมราคาสูง อย่างเช่น IdeaPad ที่เป็นแล็ปท็อปราคาเข้าถึงง่าย รวมถึง Yoga ที่ฟังก์ชันการใช้งานเป็นได้ทั้งแล็ปท็อปและแท็บเล็ต
นอกจากนี้ Lenovo ได้เร่งขยายส่วนแบ่งตลาดจากการควบรวมกิจการมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
ปี 2011 Lenovo ซื้อบริษัทอิเล็กทรอนิกส์เยอรมันที่ชื่อ Medion ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ Lenovo ในเยอรมนีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทันที และ Lenovo ยังตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท NEC ของญี่ปุ่น ทำให้กลายเป็นบริษัท PC ที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น
ปี 2012 Lenovo ซื้อบริษัทคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่สุดในบราซิลที่ชื่อ CCE ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเจาะตลาดอเมริกาใต้
ปี 2018 Lenovo ซื้อกิจการคอมพิวเตอร์ของ Fujitsu ประเทศญี่ปุ่น
ผลลัพธ์จากแผนงานที่นำทีมโดยคุณ Yang หลังจากวิกฤติการเงินโลก ก็ถือว่าเกินความคาดหมาย
เพราะ Lenovo สามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้จากประเทศอื่น ๆ และลดสัดส่วนจากจีนลงได้ จาก 46% ในปี 2010 เหลือเพียง 23% ในปัจจุบัน โดยรายได้ของ Lenovo กว่า 80% ยังมาจากธุรกิจคอมพิวเตอร์
ในด้านของส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ Lenovo สามารถชนะ Dell จนขึ้นมาเป็นที่ 2 ของโลกได้เป็นครั้งแรกในปี 2011 ก่อนที่จะแซง HP ขึ้นมาเป็นที่ 1 ของโลกในอีก 2 ปีถัดมา และยังครองอันดับ 1 มาจนถึงปัจจุบัน
ความสำเร็จของการปลุกปั้นธุรกิจคอมพิวเตอร์ของ Lenovo ก็ได้ทำให้ คุณ Yang ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน CEO ที่เก่งที่สุดในโลก รวมถึงผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Liu ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ไฮเทคฮีโรแห่งประเทศจีน”
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
คุณ Liu Chuanzhi ผู้ก่อตั้ง Lenovo มีลูก 2 คน
หนึ่งในนั้นคือลูกสาวที่ชื่อว่า Liu Qing หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “Jean Liu”
หลังจากที่ Jean Liu จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และทำงานที่ Goldman Sachs มา 12 ปี
เธอก็ย้ายมารับตำแหน่งเป็น COO ให้กับบริษัทสตาร์ตอัปของจีนที่ชื่อ Didi Dache
เธอมีบทบาทสำคัญในการควบรวมกิจการระหว่าง Didi Dache กับบริษัทคู่แข่งอย่าง Kuaidi Dache ในปี 2015 ที่เปลี่ยนมาใช้ชื่อใหม่เป็น “Didi Chuxing” แอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่และส่งอาหารอันดับ 1 ของจีน
ปัจจุบัน เธอดำรงตำแหน่งประธานบริษัท ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของ Didi Chuxing ร่วมกับผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Cheng Wei ที่ดำรงตำแหน่งเป็น CEO และประธานกรรมการ จนถูกจัดอันดับจากนิตยสาร Time ให้เป็น 1 ใน 100 คน ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกเมื่อปี 2017
ซึ่งก็เรียกได้ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.economist.com/business/2013/01/12/from-guard-shack-to-global-giant
-https://www.economist.com/business/2001/09/13/legend-in-the-making
-https://www.ft.com/content/2bb25562-4ae0-11d9-a0ca-00000e2511c8
-https://www.cnbc.com/2016/12/01/china-based-lenovos-ride-to-top-spot-of-pc-business.html
-https://www.marketwatch.com/story/why-ibm-selling-server-unit-to-lenovo-is-bad-news-for-hp-1390500250
-https://www.wsj.com/articles/the-worlds-largest-pc-maker-is-no-longer-a-bargain-11550742853
-https://www.theverge.com/2012/1/3/2677691/ex-ibm-ceo-revisits-selling-pc-business-samuel-palmisano
-https://en.wikipedia.org/wiki/Lenovo
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Market_share_of_personal_computer_vendors
-https://investor.lenovo.com/en/financial/results.php
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過1,160的網紅Mawardi Yunus,也在其Youtube影片中提到,How To Make Baklava | Bila tengok pada rupa dan teksturnya, saya dapat teka bahawa manisan #Baklava ini mesti berasal dari #TimurTengah. Apa yang saya...
「huawei wiki」的推薦目錄:
- 關於huawei wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於huawei wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於huawei wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於huawei wiki 在 Mawardi Yunus Youtube 的最佳貼文
- 關於huawei wiki 在 TTMつよし【国際政治ニュースch】白メガネ Youtube 的最讚貼文
- 關於huawei wiki 在 ThinkView Youtube 的精選貼文
- 關於huawei wiki 在 Huawei makes hundreds of billions a year! Can't stop Biden? 的評價
- 關於huawei wiki 在 華為到底是一家甚麼樣的公司? | DW一看你就懂 - YouTube 的評價
huawei wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
MediaTek ผู้มีบทบาทสำคัญ ในระบบ 5G แทนที่ Huawei /โดย ลงทุนแมน
ตั้งแต่ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา สั่งแบน Huawei ในปี 2019
และบริษัทอเมริกันถูกห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับ Huawei
เรื่องนี้ก็สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการ ชิปรับสัญญาณ 5G
จากเดิมที ที่ชิปตระกูล Kirin ของ Huawei เคยเป็นผู้เล่นคนสำคัญ
กลับต้องตกที่นั่งลำบาก เพราะโดนสหรัฐอเมริกาแบน
ซึ่งอานิสงส์จากเรื่องนี้ ก็ตกมาที่บริษัทออกแบบชิป 5G รายอื่น ๆ
หนึ่งในนั้นก็คือ “MediaTek”
MediaTek เป็นใคร ทำไมถึงก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ในวงการชิป 5G
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
MediaTek ก่อตั้งเมื่อปี 1997 ทำธุรกิจออกแบบ และจัดจำหน่ายชิปสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
โดย MediaTek เป็นบริษัทลูกของ UMC (United Microelectronics Corporation) หนึ่งในบริษัทผลิตชิปยักษ์ใหญ่ในไต้หวัน
เดิมที MediaTek มีหน้าที่หลักคือรับออกแบบชิป
และให้บริษัทแม่อย่าง UMC เป็นผู้ผลิตชิปที่ออกแบบ
โดยเริ่มจากการผลิตชิปควบคุมการทำงานของแผ่น CD, DVD, Blue-ray แล้วต่อมาจึงได้เริ่มหันเข้าสู่ธุรกิจผลิตชิปควบคุมการทำงานของทีวีดิจิทัล
จนในปี 2017 MediaTek เริ่มเข้าสู่ธุรกิจผลิตชิปสำหรับสมาร์ตโฟน
คือชิปตระกูล Helio เพื่อมาเจาะตลาดชิปสำหรับแบรนด์สมาร์ตโฟนต่าง ๆ นอกเหนือจากตลาดเจ้าเดิม อย่าง Snapdragon ของ Qualcomm และ Exynos ของ Samsung
จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ MediaTek กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในตลาดนี้
คือการเข้ารับตำแหน่งของ CEO คนปัจจุบัน ที่ชื่อว่าคุณ Rick Tsai
คุณ Rick Tsai อดีตเคยเป็น COO ของ TSMC บริษัทรับผลิตชิปรายสำคัญของโลกสัญชาติไต้หวัน
สิ่งแรกที่เขาทำหลังเข้ามารับตำแหน่งคือ
ลดการพึ่งพาบริษัทแม่อย่าง UMC ที่ก่อนหน้านี้ เป็นผู้ผลิตชิปรายหลักให้กับ MediaTek
เขามองว่า เทคโนโลยีและประสิทธิภาพในการผลิตชิปของ UMC ยังไม่สามารถเทียบเคียงกับ TSMC ได้
คุณ Rick Tsai จึงหันไปเลือกใช้บริการ TSMC ให้เป็นผู้ผลิตชิปหลัก ให้กับ MediaTek แทน
อีกจุดเปลี่ยนสำคัญตามที่ได้เกริ่นไปตอนต้นเรื่องก็คือ การที่สหรัฐอเมริกาแบน Huawei
ซึ่งมาตรการที่ออกมา ส่งผลให้สมาร์ตโฟนของ Huawei มียอดขายที่ลดลง
จากเดิม Huawei ครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟน อันดับ 3 รองจาก iPhone และ Samsung
กลายเป็นว่า ต้องเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับแบรนด์สมาร์ตโฟนมาแรงจากจีนรายอื่น อย่างเช่น Xiaomi, Oppo, Vivo, Realme
ประเด็นก็คือ สมาร์ตโฟนแบรนด์ Xiaomi, Oppo, Vivo ใช้ชิปประมวลผล ที่ออกแบบโดย 3 บริษัทคือ MediaTek, Qualcomm และ Samsung ซึ่งครองส่วนแบ่งในตลาดชิปออกแบบ รวมกันกว่า 60%
MediaTek ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีสื่อสารของไต้หวัน
ที่ได้เข้าร่วมโครงการ Clean Network ของสหรัฐอเมริกา
ซึ่งโครงการ Clean Network คือโครงการที่ทางสหรัฐอเมริกาเคลมว่า ช่วยส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการสื่อสารที่ปลอดภัย ให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้งาน
นอกจากนั้น MediaTek ยังเป็นบริษัทออกแบบชิปเจ้าแรก ๆ
ที่ร่วมมือกับ HiSilicon ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกแบบชิปของ Huawei ในการพัฒนาชิปสำหรับอุปกรณ์ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตในระบบ 5G ทำให้ MediaTek ได้องค์ความรู้ในเรื่องพัฒนาชิป 5G มาพัฒนาต่อ
การเข้าสู่ยุคของการสื่อสารระบบ 5G
ทำให้มีความต้องการที่จะเปลี่ยนมาใช้สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่มากขึ้น
ซึ่งจากจุดนี้ ก็เป็นตัวผลักดันให้เกิดการขายชิปสมาร์ตโฟน ตระกูล Dimensity ของ MediaTek สำหรับเป็นส่วนประกอบของสมาร์ตโฟน ตั้งแต่ระดับกลาง ไปจนถึงระดับสูง
ที่น่าสนใจคือ แบรนด์สมาร์ตโฟนสัญชาติจีนอย่าง Xiaomi, Oppo, Vivo ที่ส่วนใหญ่เลือกใช้ชิปของทั้ง MediaTek และ Qualcomm ก็กำลังมียอดขายเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้ยอดขายชิปของทั้ง MediaTek และ Qualcomm ขยายตัวตามไปด้วยเช่นกัน
ซึ่งทาง MediaTek มีข้อได้เปรียบในเรื่องราคาขายชิป กว่า Qualcomm อยู่เล็กน้อย
เพราะ MediaTek ขายชิประบบ 5G ในราคาไม่ถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีราคาถูกกว่า ชิปตระกูล Snapdragon ของ Qualcomm ที่กำหนดราคาอยู่ที่ประมาณ 120-140 ดอลลาร์สหรัฐ
เรื่องนี้ทำให้ไตรมาสแรกปี 2021 ที่ผ่านมา
MediaTek ทำยอดขายชิปสมาร์ตโฟนเบียดเอาชนะ Qualcomm ได้สำเร็จ
โดยจากข้อมูล Counterpoint Research
ไตรมาสแรก ปี 2021 MediaTek ครองส่วนแบ่งในตลาดส่งมอบชิปสมาร์ตโฟน 37% ตามด้วย Qualcomm 31%
อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ Qualcomm เลือก Samsung เป็นผู้ผลิตชิปให้
ส่วนทางด้าน MediaTek นั้นเลือก TSMC ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงกว่า เป็นผู้ผลิตชิปให้
เราจะเห็นได้ว่า การที่ MediaTek เปลี่ยนมาใช้บริการ TSMC ให้มาเป็นผู้ผลิตชิปรายหลักให้ จากเดิมที่ใช้บริการบริษัทแม่อย่าง UMC ถือเป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ MediaTek มีข้อได้เปรียบในเรื่องศักยภาพการแข่งขันในตลาดชิป 5G
ผลประกอบการ ย้อนหลัง 3 ปี ของ MediaTek
ปี 2018 รายได้ 238,057 ล้านบาท กำไร 23,632 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 280,281 ล้านบาท กำไร 26,219 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 366,708 ล้านบาท กำไร 46,577 ล้านบาท
โดยที่ปี 2020 รายได้และกำไรของ MediaTek เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ปัจจัยสำคัญก็เพราะ ยอดขายของบรรดาสมาร์ตโฟนอย่าง Xiaomi, Oppo, Vivo ที่เพิ่มสูงขึ้นมากมาแทนที่ Huawei ที่โดนทางสหรัฐอเมริกาแบน ซึ่งสมาร์ตโฟนแบรนด์เหล่านี้ ก็เป็นลูกค้าที่สั่งซื้อชิป รายสำคัญของ MediaTek
แต่ความท้าทายของผู้ออกแบบชิปอย่าง MediaTek และอีกหลาย ๆ รายในตอนนี้
ก็คงหนีไม่พ้น ความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้นมากจากทั่วโลก จนเกิดปัญหาชิปขาดแคลน
จนซัปพลายเออร์คนสำคัญของ MediaTek ในตอนนี้อย่าง TSMC ก็มีออร์เดอร์อยู่ล้นมือ จนผลิตกันไม่ทันแล้ว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://tips.thaiware.com/1449.html
-https://www.bnext.com.tw/article/60653/5g-stock-industry-cellphone-december
-https://news.sina.com.tw/article/20200104/33899734.html
-https://www.bnext.com.tw/article/62681/MediaTek-ap-soc-37-percent-predict
-https://www.gvm.com.tw/article/60781
-https://qooah.com/2021/04/22/dimensity-2000-will-be-released-at-the-end-of-the-year-and-may-be-the-worlds-first-4nm-process-processor/
-https://money.udn.com/money/story/5612/5336387
-https://www.moneydj.com/kmdj/wiki/wikiviewer.aspx?keyid=80b24902-5be8-4232-bfcd-d80a4db156a2
-https://corp.MediaTek.tw/news-events/press-releases/MediaTek-unveils-new-m80-5g-modem-with-support-for-mmwave-and-sub-6-ghz-5g-networks
huawei wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
มหาอำนาจโลก เปลี่ยนจากยุโรป สู่สหรัฐฯ และกำลังจะไป จีน /โดย ลงทุนแมน
ถ้าเราย้อนเวลากลับไปเมื่อ 500 ปีที่แล้ว
เราจะยืนอยู่ท่ามกลางยุคล่าอาณานิคม
ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธว่า มหาอำนาจของโลกในตอนนั้น คือประเทศจากทวีปยุโรป
แต่ 400 ปี ต่อมา หลังเกิดสงครามโลกขึ้นสองหน
ก็เกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจโลก จากยุโรป ไปยังสหรัฐอเมริกา เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
แต่ในอนาคตอันใกล้ เรากำลังเห็นแล้วว่า
ขั้วมหาอำนาจของโลก อาจกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
มายัง “จีน” ประเทศยักษ์ใหญ่แห่งซีกโลกตะวันออก
เรื่องราวการผลัดเปลี่ยนกันเป็นมหาอำนาจของโลกที่ผ่านมา และอนาคตจะเป็นอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ยุคล่าอาณานิคมที่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16
เกิดขึ้นจากแนวความคิดและอุดมการณ์ของประเทศในยุโรป
ที่ต้องการออกเดินเพื่อยึดครองทรัพยากรในดินแดนอื่นๆ มาเป็นของตนเอง
โดยประเทศที่เริ่มต้นแนวคิด คือ โปรตุเกส สเปน เนเธอร์แลนด์ ตามมาด้วย อังกฤษ และฝรั่งเศส
ประเทศเหล่านี้ เริ่มออกเดินทางด้วยเรือ
ข้ามมหาสมุทรอันกว้างไกล เพื่อค้นพบทวีปใหม่ๆ แล้วเข้ายึดครองเป็นอาณานิคมของตนเอง
หนึ่งในดินแดนที่ถูกล่าอาณานิคมจากเหล่าประเทศจากยุโรป คือดินแดนที่ถูกเรียกว่า “สหรัฐอเมริกา”
การเข้ามาตั้งอาณานิคมภายในดินแดนอเมริกาของประเทศจากยุโรป ได้นำมาซึ่งองค์ความรู้ต่างๆ ทั้งด้านการทำเกษตรกรรม ระบบการศึกษาที่นำโดยมิชชันนารีจากยุโรป
สิ่งเหล่านั้นทำให้ชนพื้นเมืองบนแผ่นดินอเมริกา ได้รับองค์ความรู้ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบคนยุโรป และกลายเป็นรากฐานสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา
ช่วงเวลานั้น ยุโรปยังเป็นมหาอำนาจของโลกทั้งทางด้านการเมือง และเศรษฐกิจ ในขณะที่สหรัฐอเมริกาก็กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ที่เริ่มมีการเปลี่ยนโครงสร้างการเติบโตจากภาคเกษตรกรรม มาสู่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผลจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมตามประเทศในทวีปยุโรป ที่นำโดย อังกฤษ
การปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
มีการคิดค้นวิธีผลิตสินค้าครั้งละมากๆ (Mass production) ซึ่งทำให้เกิดการ “ประหยัดต่อขนาด” คือยิ่งผลิตมากต้นทุนยิ่งลดลง โดยเริ่มขยายจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ
ผลผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจากสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายธุรกิจมีกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตามมาด้วยการจ้างงานและการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ยังได้รับอานิสงส์มาจากสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20
เนื่องจากสงครามโลก ทำให้หลายประเทศในยุโรป รวมถึงเอเชีย สูญเสียทรัพยากรทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ซึ่งตามมาด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจ
เมื่อเทียบกันแล้ว สหรัฐอเมริกา ถือว่ารับความบอบช้ำจากสงครามน้อยกว่าประเทศในยุโรปและเอเชียมาก ทำให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
และเมื่อรวมกับการที่สหรัฐอเมริกาสะสมความมั่งคั่งจากการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศมาก่อนหน้านี้ ทำให้สุดท้ายสหรัฐอเมริกาสามารถก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 แทนที่อังกฤษที่ครองตำแหน่งอยู่ก่อนหน้านั้นได้แบบเต็มตัว
รู้ไหมว่า ในปี 1820 เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนเพียง 2% ของเศรษฐกิจโลก
แต่ในปี 2020 สัดส่วนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็น 24%
ทำให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน
ตลอดเวลามากกว่าครึ่งศตวรรษ ที่สหรัฐอเมริกาครองบัลลังก์มหาอำนาจของโลก
มาวันนี้ ดูเหมือนว่าขั้วอำนาจทางด้านเศรษฐกิจที่สหรัฐอเมริกาถือครอง กำลังถูกทำให้สั่นคลอน และถูกท้าทายด้วย “ดาวรุ่งพุ่งแรง”
ซึ่งดาวรุ่งที่ว่า ก็คือ “ประเทศจีน”
จุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจจีนเกิดขึ้นในปี 1978 ภายใต้การนำของอดีตผู้นำประเทศที่ชื่อว่า “เติ้ง เสี่ยวผิง”
ในตอนนั้น จีน เริ่มมีการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และเปิดประเทศเพื่อรับการลงทุนจากต่างระเทศ โดยมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับการลงทุนของต่างชาติที่ เชินเจิ้น, จูไห่, เซี่ยเหมิน และซัวเถา
การปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนในครั้งนั้น ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากหน้ามือเป็นหลังมือ
โดยก่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจในช่วงระหว่างปี 1950-1973 GDP ของจีนเติบโตเฉลี่ยปีละ 2.9%
แต่หลังการปฏิรูปเศรษฐกิจในช่วงระหว่างปี 1978-2013 GDP ของจีนเติบโตเฉลี่ยสูงถึงปีละ 9.5%
จีน เร่งการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยการดูแบบอย่างประเทศอื่นๆ ที่มีการพัฒนามาก่อนแล้วอย่างยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ญี่ปุ่น
เศรษฐกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ชนชั้นกลางของจีน จำนวนมากสามารถยกระดับความเป็นอยู่ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนอีกหลายร้อยล้านคนได้หลุดพ้นจากความยากจน ทำให้ความต้องการจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
ในปี 1960 เศรษฐกิจของจีนมีสัดส่วนเพียง 4% ของเศรษฐกิจโลก
แต่ในปี 2020 สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 17%
ทำให้จีนกลายมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในโลก แซงหน้าญี่ปุ่นไปตั้งแต่ปี 2010 และไล่ตามสหรัฐอเมริกา เบอร์หนึ่งของโลกด้านเศรษฐกิจได้มากขึ้นทุกที
ปัจจุบัน มูลค่า GDP ของจีนอยู่ที่ประมาณ 447 ล้านล้านบาท
ขณะที่สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ประมาณ 624 ล้านล้านบาท
ซึ่งถ้าเราให้เศรษฐกิจจีนเติบโตปีละ 5.5% และสหรัฐอเมริกาเติบโตปีละ 2%
ในปี 2030 เศรษฐกิจจีนจะมีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
และจะขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก
นอกจากเรื่องเศรษฐกิจแล้ว อีกเรื่องที่น่าจับตาคือ
จีน ยังกำลังก้าวขึ้นมาท้าทายสหรัฐอเมริกาในเรื่องเทคโนโลยีด้วยเช่นกัน
สหรัฐอเมริกามี Amazon บริษัทเทคโนโลยีและเจ้าของแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังระดับโลก
ปี 2019 Amazon มีรายได้ 8.4 ล้านล้านบาท กำไร 348,000 ล้านบาท
จีนก็มี Alibaba Group บริษัทเทคโนโลยีและเจ้าของแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังระดับโลกเช่นกัน
ปี 2019 Alibaba Group มีรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท กำไร 594,000 ล้านบาท
สหรัฐอเมริกามี ซิลิคอนแวลลีย์ ศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีสุดล้ำ และนวัตกรรมของโลก ทั้งยังเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกเช่น Apple, Microsoft, Google
จีนก็มี เชินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับอีกแห่งโลก ถึงขนาดมีชื่อว่า ซิลิคอนแวลลีย์ของจีน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีที่ระดับโลกเช่น Huawei, Tencent, Baidu
ดูเหมือนว่าวันนี้หลายอย่างที่สหรัฐอเมริกาทำได้ จีนก็ทำได้
จากที่เมื่อก่อนที่เราเคยตั้งคำถามกันว่า
จีน จะสามารถแซง สหรัฐอเมริกา ขึ้นเป็นมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจของโลกได้หรือไม่
ในวันนี้ เราอาจต้องเปลี่ยนคำถามใหม่
เป็นถามว่า จีน จะขึ้นเป็นมหาอำนาจของโลก ในอีกกี่ปีข้างหน้า? ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://en.wikipedia.org/wiki/Colonialism
-https://en.wikipedia.org/wiki/Chinese_economic_reform
-http://www.tcdc.or.th/articles/business-industrial/20275/#Mass-Production
-https://knoema.com/mhrzolg/historical-gdp-by-country-statistics-from-the-world-bank-1960-2018?country=China
-https://www.macrotrends.net/countries/WLD/world/gdp-gross-domestic-product
-https://www.bbc.com/news/business-12427321#:~:text=China%20has%20overtaken%20Japan%20as,trillion%20in%20the%20same%20period.
-https://www.imf.org/external/datamapper/NGDP_RPCH@WEO/OEMDC/ADVEC/WEOWORLD/USA/CHN
-https://www.vox.com/2015/5/20/8615345/america-global-power-maps
-https://en.wikipedia.org/wiki/Amazon_(company)
-https://en.wikipedia.org/wiki/Alibaba_Group
huawei wiki 在 Mawardi Yunus Youtube 的最佳貼文
How To Make Baklava | Bila tengok pada rupa dan teksturnya, saya dapat teka bahawa manisan #Baklava ini mesti berasal dari #TimurTengah. Apa yang saya suka mengenai manisan ini ianya bukanlah manisan biasa yang kita pernah makan kerana ianya merupakan manisan yang mempunyai 40 lapisan.
Saya sendiri berpeluang untuk melihat bagaimana rumitnya cara pembuatannya kerana, dohnya digiling sehingga nipis senipisnya mengikut standart tertentu dan dilapis sebanyak 40 lapisan sebelum di potong dan dibentuk menjadi kecil.
Intinya pula menggunakan pelbagai jenis kekacang berkualiti tinggi dan di bakar di dalam ketuhar. Baklava yang dikeluarkan daripada oven mampu bertahan selama 6 bulan jadi memang sesuai la kalau nak dijadikan hadiah atau sebagai hamper untuk rumah terbuka atau sebagainya. #dessert
Terima kasih
Beli Baklava di sini : https://t.productlink.io/a5ia3
________________________________
Don't forget to Share, Like & SUBSCRIBE !!
________________________________
Record : Huawei P10
Editing video: Final Cut Pro
Editing thumbnails: Adobe Photoshop & Adobe Illustrator
Ikuti saya di social media berikut :-
Instagram : @mawardiyunus (https://www.instagram.com/mawardiyunus/)
Facebook : Mawardi Yunus
Twitter : mawardiyunus
Blog : www.mawardiyunus.com
For Business / Inquiry : mawardiyunus@gmail.com
[ Arab Trap Background Music ] [No Copyright Sound] Inova - Desert
License: https://creativecommons.org/licenses/by/3.0/
Free Music : https://www.youtube.com/channel/UC0OhxFhmWSIiVqXUbqoG57Q
huawei wiki 在 TTMつよし【国際政治ニュースch】白メガネ Youtube 的最讚貼文
世界のニュース紹介している別チャンネルもみてみて下さい(^^)
■国際ニュースピックアップch : https://bit.ly/2VaUA6b
■チャンネル登録よろしくお願いします(^^) : https://bit.ly/2y19xkI
■Twitter : http://twitter.com/@ttmtsuyoshi
■過去動画一覧 : https://bit.ly/2zMHALh
■問合せ先(仕事以外) : thetravelingmarketer@gmail.com
効果音素材:ポケットサウンド – https://pocket-se.info/
効果音素材:「 BGM : MusMus 」)
How far can I go?
ー・ー・ー・ー・ー・ー・ー・ー・ー・ー・ー
■ファンレター・プレゼントの宛先はこちら
〒153-0042
東京都目黒区青葉台3-6-28 住友不動産青葉台タワー2F
株式会社Kiii cube TTMつよしチャンネル 宛
※冷蔵・冷凍が必要な、なま物の受付はできません。
■お仕事のご依頼等 cube@kiii.co.jp
■Kiii HP https://kiii.co.jp/cube/
■Kiii YouTubeチャンネル https://www.youtube.com/c/KiiiJAPAN
=====================================
引用URL
https://flic.kr/p/4u4t32
https://flic.kr/p/ESiXZ4
https://flic.kr/p/pEF2Sk
https://flic.kr/p/SL6EuY
https://www.youtube.com/watch?v=79aXL07iB9U
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:ARM-Cambridge.jpg#/media/File:ARM-Cambridge.jpg
ー・ー・ー・ー・ー・ー・ー・ー・ー・ー・ー
#ファーウェイ #米中経済戦争 #ファーウェイスマホ
huawei wiki 在 ThinkView Youtube 的精選貼文
Giải thích cách hoạt động của Camera trên Huawei P30 Pro. AE yêu thích series Giải thích Công nghệ như thế này thì hãy like và sub channel nha
Còn chất lượng camera ra sao? AEchờ đợi bài đánh giá nhé
Hưng Khúc: http://fb.com/hungquockhuc
_
THEO DÕI:
Page: http://fb.com/ThinkView.VN
Web: http://thinkview.vn
Group: http://fb.com/groups/ThinkView
ĐỘI NGŨ:
Quốc Hưng: http://fb.com/hungquockhuc
Tuấn Anh: http://fb.com/tuananh.phansy
Trần Long: http://fb.com/tranvanlong
Minh Việt Lê: http://fb.com/vietmle
LIÊN HỆ:
Phone: 0918 660 468 - 0986 469 681 (Tuấn Anh)
Email: hi@thinkview.vn
huawei wiki 在 華為到底是一家甚麼樣的公司? | DW一看你就懂 - YouTube 的美食出口停車場
對 華為 的不信任,很大程度上是外界對中國政府的不信任。這家自稱是百分之百員工持股的通訊技術和設備巨頭,和中國政府甚至軍方到底有何種關係? ... <看更多>
huawei wiki 在 Huawei makes hundreds of billions a year! Can't stop Biden? 的美食出口停車場
(00:00:00)拜登追殺「不死 華為 」4G、wifi都封鎖? 美舉國之力殲滅「中國最聰明的一群人」!?(00:18:41)美封鎖ARM新產品「中國科技到此為止」? ... <看更多>