กรณีศึกษา กระเป๋าเงินดิจิทัล เวียดนาม ที่เติบโตร้อนแรง /โดย ลงทุนแมน
ประเทศเวียดนาม มีสัดส่วนประชากรที่เข้าถึงสมาร์ตโฟนในปี ค.ศ. 2020 อยู่ที่ 63.1% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงในระดับเดียวกันกับประเทศจีน และเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนามจะเป็นรองแค่สิงคโปร์กับมาเลเซีย
แต่ถ้ามาดูจำนวนสาขาธนาคารต่อจำนวนประชากร รวมถึงสัดส่วนการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด
ประเทศเวียดนามกลับมีสัดส่วนเหล่านี้ เกือบจะน้อยที่สุดในภูมิภาค
นั่นจึงเป็นโอกาสของธุรกิจการให้บริการทางการเงินบนสมาร์ตโฟน ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีฐานลูกค้าที่พร้อมจะใช้งานอยู่เป็นจำนวนมาก และกำลังอยู่ในช่วงที่เติบโตเร็ว
ซึ่งนั่นก็ได้ดึงดูดให้บริษัทสตาร์ตอัปเข้ามาแข่งขันกันมากมาย โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่ม E-Wallet หรือ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ที่มีการแข่งขันกันรุนแรง
แล้วผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลในเวียดนามมีใครบ้าง และใครเป็นผู้นำอยู่ตอนนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จากข้อมูลของธนาคารกลางเวียดนาม รู้หรือไม่ว่าผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลมีมากถึง 34 ราย
แต่ส่วนแบ่งตลาดเกือบทั้งหมด กลับถูกครอบครองโดยผู้ให้บริการไม่กี่เจ้า
เมื่อดูจากมูลค่าบริษัท “VNPAY” คือสตาร์ตอัปด้านฟินเทคที่ถูกประเมินมูลค่าไว้มากที่สุด โดยมีมูลค่าราว 33,000 ล้านบาท
VNPAY เป็นยูนิคอร์นสตาร์ตอัปบริษัทที่ 2 ของเวียดนาม ต่อจากบริษัท VNG
โดย VNG ที่เป็นยูนิคอร์นรายแรกนั้น เป็นเจ้าของแอปพลิเคชันแช็ต ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศ ที่ชื่อว่า “Zalo”
อย่างไรก็ตาม VNPAY ที่เป็นยูนิคอร์นรายที่ 2 นี้ไม่ได้สร้างแอปพลิเคชันเป็นของตัวเองแบบฟินเทคเจ้าอื่น แต่จะให้บริการซอฟต์แวร์กับธนาคาร ที่อยากมีบริการแอปพลิเคชันชำระเงินบนสมาร์ตโฟน รวมถึงบริการทางการเงินดิจิทัลด้านอื่น ๆ
นอกจากนี้ VNPAY ยังให้บริการระบบชำระเงินผ่าน QR Code ให้กับร้านค้าต่าง ๆ เพื่อรับชำระเงินจากลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชันของธนาคารที่เลือกใช้ซอฟต์แวร์จาก VNPAY
VNPAY ได้ให้บริการซอฟต์แวร์กับธนาคารกว่า 40 แห่ง
มีร้านค้าที่ใช้บริการระบบ QR Code กว่า 150,000 ร้านค้า
คิดเป็นจำนวนผู้ใช้งานผ่านระบบของ VNPAY ทั้งหมด ราว 22 ล้านบัญชี
แต่ผู้ใช้งาน 22 ล้านบัญชีนี้ ก็ยังไม่ได้ทำให้ VNPAY เป็นผู้ชนะ เพราะแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมสูงและกำลังแข่งขันกันแย่งผู้ใช้งานในเวียดนาม มีทั้งหมด 3 ราย นั่นก็คือ MoMo, ZaloPay และ Moca ซึ่งก็น่าสนใจว่าทั้ง 3 รายเป็นแอปพลิเคชัน ที่ก่อตั้งโดยชาวเวียดนามทั้งหมด
3 แอปพลิเคชันนี้ มีบริการหลักที่ไม่แตกต่างกันมาก เพราะแต่ละบริษัทก็ได้ขยายช่องทางการชำระเงินให้หลากหลาย จนครอบคลุมความต้องการส่วนใหญ่ของชาวเวียดนามแล้ว
โดยบริการที่ชาวเวียดนามนิยมใช้มากที่สุดเรียงตามลำดับก็คือ เติมเงินเข้ามือถือ, โอนเงิน, จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟ, จ่ายเงินบนแอปพลิเคชันสั่งอาหาร, จ่ายเงินบนแอปพลิเคชันเรียกรถ และจ่ายเงินที่หน้าร้านค้า
จากความนิยมในการใช้งาน เราจะสังเกตได้ว่า ชาวเวียดนามยังไม่นิยมใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นช่องทางการจ่ายเงินซื้อของออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซ
ส่วนนี้ก็สอดคล้องกับข้อมูลที่ว่าสัดส่วนการซื้อของผ่านทางออนไลน์ในเวียดนาม ยังคงคิดเป็นเพียง 3% ของยอดค้าปลีกทั้งหมดในประเทศ
นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ ShopeePay ของ Shopee ได้รับความนิยมไม่มากเท่าที่ควร
ทั้ง ๆ ที่ Shopee เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ชาวเวียดนามใช้งานมากที่สุด
กลับมาที่ MoMo, ZaloPay และ Moca ที่แม้จะมีบริการหลักไม่ต่างกันมาก
แต่สิ่งที่ทั้ง 3 แอปพลิเคชันนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ก็คือ “กลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้า”
เริ่มจาก “Moca” ที่เปิดตัวแอปพลิเคชันในปี ค.ศ. 2013 เลือกใช้กลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าด้วยการเข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์กับ Grab เมื่อปี ค.ศ. 2018 เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าสั่งอาหารดิลิเวอรีและเรียกรถ
โดยปัจจุบัน Moca ได้เข้าไปเป็นทางเลือกหลักในการชำระเงิน บนแพลตฟอร์มของ Grab แล้ว
ในขณะเดียวกัน “ZaloPay” ที่เปิดตัวแอปพลิเคชันในปี ค.ศ. 2017 เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้พัฒนาแอปพลิเคชันแช็ต Zalo จึงมีข้อได้เปรียบที่สำคัญคือ ฐานผู้ใช้งาน
เพราะ Zalo เป็นแอปพลิเคชันแช็ตที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในเวียดนาม เป็นจำนวนกว่า 62 ล้านบัญชี หรือคิดเป็นเกือบ 2 ใน 3 ของประชากรเวียดนามทั้งประเทศ
จึงไม่แปลกเลยที่ ZaloPay สามารถขยายฐานลูกค้าผ่านผู้ใช้งานบน Zalo ได้ทันที
วิธีการนี้ก็ถูกพิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วจากหลายบริษัท เช่น Tencent เจ้าของแอปพลิเคชันแช็ต WeChat ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในจีน เมื่อตอนที่ได้เปิดตัวกระเป๋าเงินดิจิทัล ก็มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็น 1 ใน 2 ของกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศจีน เช่นกัน
แต่แม้จะมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่เป็นจุดแข็ง ZaloPay ก็ยังไม่ใช่ผู้ชนะในเวลานี้
เพราะแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด
คิดเป็นราว 60% ของการชำระเงินผ่านสมาร์ตโฟนในเวียดนาม ชื่อว่า “MoMo”
แล้ว MoMo มีกลยุทธ์ดึงผู้ใช้งานอย่างไร ?
MoMo เริ่มเปิดตัวในปี ค.ศ. 2013 แต่บริษัทผู้พัฒนา MoMo ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทขายบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งบริษัทเห็นโอกาสจากการที่คนใช้มือถือมากขึ้น
ทางบริษัทจึงได้เปลี่ยนธุรกิจมาเป็นให้บริการระบบชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือและสมาร์ตโฟนแทน
ผู้บริหาร MoMo ให้ความสำคัญกับข้อมูลยอดค้าปลีกในเวียดนาม ที่เกือบทั้งหมดยังมาจากช่องทางออฟไลน์
นั่นจึงทำให้ MoMo แม้ว่าจะมีพาร์ตเนอร์ที่เป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซ แต่ทางบริษัทก็ได้เน้นการเข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์กับเชนร้านสะดวกซื้อ เชนซูเปอร์มาร์เก็ต และเชนร้านกาแฟมากกว่า ซึ่งยังมีสัดส่วนการชำระเงินด้วยสมาร์ตโฟนที่น้อยอยู่ แต่เป็นบริการที่คนส่วนใหญ่ในเวียดนามใช้เป็นประจำอยู่แล้ว
โดยเฉพาะร้านกาแฟ ที่คนส่วนมากใช้บริการทุกวันและบางคนอาจจะมากกว่าวันละครั้ง
ซึ่งจะยิ่งทำให้ผู้ใช้งาน MoMo มีโอกาสเปิดแอปพลิเคชันเป็นจำนวนครั้งที่มากขึ้น
อย่างเมื่อไม่นานมานี้ MoMo ได้จับมือกับเชนร้านกาแฟท้องถิ่น ซึ่งรวมถึง Highlands Coffee เชนร้านกาแฟที่มีส่วนแบ่งตลาดมากสุดในเวียดนาม ที่มีอยู่ราว 300 สาขา เพื่อให้ส่วนลดค่ากาแฟเมื่อจ่ายผ่าน MoMo ซึ่งลูกค้ายังสามารถสั่งกาแฟผ่านแอปพลิเคชันแล้วเลือกเวลาไปรับได้ด้วย
นอกจากนี้ MoMo ยังได้ต่อยอดแอปพลิเคชันให้เป็นแบบออลอินวัน หรือการให้บริการที่หลากหลายนอกเหนือไปจากการชำระเงิน
อย่างเช่น บริการซื้อตั๋วภาพยนตร์ สั่งอาหารดิลิเวอรี จองตั๋วเครื่องบิน บริการเกม ไปจนถึงซื้อประกันและขอสินเชื่อส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันกันของกระเป๋าเงินดิจิทัลในเวียดนามยังคงดุเดือด เพราะที่ผ่านมา ทุกแอปพลิเคชันต่างแข่งขันกันอัดโปรโมชันแบบไม่มีหยุด
ทั้งการให้ส่วนลด บัตรกำนัล เครดิตเงินคืน และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อเร่งกอบโกยลูกค้าให้ได้มากที่สุดก่อน
ซึ่งนอกจากจะต้องแลกมาด้วยการขาดทุนมหาศาลแล้ว โปรโมชันเหล่านี้ยังทำให้ลูกค้าไม่มีความภักดีต่อแบรนด์ สอดคล้องกับผลสำรวจที่ว่า แม้ชาวเวียดนามจะใช้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลอยู่ไม่กี่แอปพลิเคชัน แต่ก็มักเลือกเจ้าที่ให้ส่วนลดมากที่สุดในเวลานั้น
ดังนั้นนอกจากการอัดโปรโมชันแข่งกันแล้ว เสียงสะท้อนจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่บอกว่า แอปพลิเคชันที่จะรักษาลูกค้าไว้ได้ในระยะยาว ก็คือผู้ที่เร่งเพิ่มจำนวนจุดรับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันของตัวเองให้ได้มากที่สุดก่อน โดยเฉพาะในสถานที่ที่ชาวเวียดนามส่วนใหญ่ใช้บริการบ่อย ๆ อย่างเช่นตลาดสดและร้านอาหาร
ซึ่งกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าแบบ MoMo ก็ดูจะมาถูกทางที่สุด เพราะทางบริษัทได้โฟกัสไปที่แหล่งชุมชนตั้งแต่เชนร้านสะดวกซื้อไปจนถึงร้านกาแฟ
แต่ถ้าจะฟันธงเลยว่า MoMo คือแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เป็นผู้ชนะแบบขาดลอยในเวียดนามคล้ายกับ GrabPay ของ Grab ในสิงคโปร์ หรือ GoPay กับ OVO ของ GoTo ในอินโดนีเซีย ก็อาจจะเร็วเกินไป
แต่ที่พอจะบอกได้ ก็คือ MoMo ติดกระดุมเม็ดแรกเสร็จแล้ว และกำลังได้เปรียบผู้เล่นกระเป๋าเงินดิจิทัลรายอื่นในเวียดนามอยู่ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://asia.nikkei.com/Business/Business-Spotlight/Vietnam-emerges-as-Southeast-Asia-s-next-fintech-battleground
-https://asia.nikkei.com/Business/Startups/Vietnam-s-fintech-VNLife-says-valuation-now-well-over-1bn
-https://www.techinasia.com/vietnams-ewallet-momo-announced-series-led-warburg-pincus-goodwater-capital
-https://vir.com.vn/e-wallet-groups-take-on-losses-to-get-ahead-84419.html
-https://vir.com.vn/e-wallets-promotion-programmes-see-less-appetising-82422.html
-https://vir.com.vn/e-wallet-services-start-to-gain-momentum-in-vietnam-75067.html
-https://data.worldbank.org/indicator/FB.CBK.BRCH.P5?locations=VN-TH-ID-PH-SG-MY
-https://www.statista.com/statistics/539395/smartphone-penetration-worldwide-by-country/
同時也有64部Youtube影片,追蹤數超過6萬的網紅KEI D CHANNEL-けいDちゃんねる-,也在其Youtube影片中提到,#けいDちゃんねる #東京ディズニーランド #ディズニーハロウィーン ーーーーーーーーーーーーー ディズニーハロウィーンのグッズ https://www.tokyodisneyresort.jp/treasure/halloween2021/goods01.html ーーーーーーーーーーーーー 00...
「html next line」的推薦目錄:
- 關於html next line 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於html next line 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於html next line 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於html next line 在 KEI D CHANNEL-けいDちゃんねる- Youtube 的最佳貼文
- 關於html next line 在 KEI D CHANNEL-けいDちゃんねる- Youtube 的最佳貼文
- 關於html next line 在 KEI D CHANNEL-けいDちゃんねる- Youtube 的最佳解答
- 關於html next line 在 Learn HTML code: line break - YouTube 的評價
html next line 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
Google Maps ธุรกิจที่สะสมข้อมูล โลกทั้งใบ ไว้ในมือ /โดย ลงทุนแมน
สมาร์ตโฟน คือสิ่งประดิษฐ์ที่เข้ามาทำให้พฤติกรรมการดำเนินชีวิตของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและหนึ่งในนั้นก็คือวิธีการดูแผนที่
แอปพลิเคชันแผนที่ดิจิทัล ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ “Google Maps” ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้บอกเส้นทาง หรือแม้แต่ดูสภาพการจราจรเรียลไทม์
จนหลายคนอาจจินตนาการไม่ออกแล้วว่าในยุคที่แผนที่ยังเป็นกระดาษ
เราเดินทางไปสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยกันอย่างไร
แล้วเส้นทางการรวบรวมข้อมูลโลกทั้งใบไว้ในมือของ Google Maps มีความเป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปเมื่อ 18 ปีก่อน หรือในปี 2003 ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
คู่พี่น้องชาวเดนมาร์กที่ชื่อ Lars และ Jens Eilstrup Rasmussen กับเพื่อนชาวออสเตรเลียอีก 2 คน
ได้ร่วมกันก่อตั้งสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับแผนที่ดิจิทัล ที่มีชื่อว่า “Where 2 Technologies”
ในปีถัดมา Where 2 Technologies ได้เข้าไปนำเสนอไอเดียธุรกิจของพวกเขา
ให้กับบริษัท Search Engine ยักษ์ใหญ่ของโลก นั่นคือ Google
และนี่คือจุดเริ่มต้นของ Google Maps
Google ตัดสินใจซื้อกิจการ Where 2 Technologies ในปี 2004
และในปีเดียวกัน Google ยังซื้อกิจการเพิ่มเติมอีก 2 บริษัท
บริษัทแรกคือ Keyhole ที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านการสร้างแผนที่ 3 มิติ
โดยใช้ดาวเทียมและภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งต่อมาก็คือ Google Earth
และอีกบริษัทคือ ZipDash บริษัทที่พัฒนาระบบให้บริการข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์
หลังจากใช้เวลาพัฒนาต่อไประยะหนึ่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2005 Google ก็ได้เปิดตัว Google Maps
ซึ่งเป็นความตั้งใจของ Google ที่จะให้บริการแผนที่ดิจิทัลบนเว็บไซต์ เพื่อทำให้การหาเส้นทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งทำได้ง่าย สามารถค้นหาสถานที่ได้ ซูมเข้าออก และเลื่อนแผนที่ได้เอง
ที่มากกว่านั้นก็คือ Google ต้องการสะสมข้อมูลของโลกทั้งใบไว้ด้วย
แม้ในตอนนั้นจะมี MapQuest และ Yahoo! Maps ที่ให้บริการแบบนี้มาก่อนแล้ว
แต่ความนิยมของ Google Maps ก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนกลายมาเป็นผู้ชนะได้
จาก 3 การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในปี 2007
จุดเปลี่ยนแรกก็คือ การเริ่มให้บริการ Google Street View
แม้จะเป็นฟีเชอร์ที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์สูง ในเรื่องความเป็นส่วนตัวของภาพถ่าย ซึ่งในตอนหลัง Google ได้แก้ไขแล้ว แต่ Street View ก็เป็นฟีเชอร์ที่ถูกใจผู้ใช้งาน และทำให้ Google Maps ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาก
Street View มีขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้งาน Google Maps ได้เห็นภาพสถานที่จริงประกอบด้วย ช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาสถานที่ทำได้สะดวกขึ้น
โดยภาพ Street View เหล่านี้ Google Maps จะใช้รถยนต์ที่ติดกล้องซึ่งพัฒนาขึ้นมาเอง และให้คนขับรถออกไปบันทึกภาพ
แต่ถ้าเป็นในพื้นที่ที่รถเข้าไม่ถึง อย่างเช่น ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นภูเขา ก็จะเป็นคนแบกกล้องเดินไปบันทึกภาพแทน
Google Maps เริ่มต้นรวบรวมภาพ Street View ใน 5 เมืองของสหรัฐอเมริกา
จนในปัจจุบันมีข้อมูลกว่า 187 ประเทศ และสามารถดูภาพ Street View แบบ 360 องศาได้
จุดเปลี่ยนที่สองก็คือ เริ่มให้บริการบนโทรศัพท์มือถือ
Google Maps ได้พัฒนาให้ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถืออย่าง BlackBerry และ Palm ได้
นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่ทำให้ Google Maps สามารถพกติดตัวไปใช้งานที่ไหนก็ได้
จุดเปลี่ยนที่สามและเป็นครั้งสำคัญที่สุดก็คือ เริ่มให้บริการในรูปแบบ “แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน”
ในปี 2007 ยังเป็นปีที่ iPhone รุ่นแรกของโลกเปิดตัว และแอปพลิเคชันแผนที่บน iPhone
ทาง Apple ได้ร่วมกันพัฒนากับ Google และใช้ฐานข้อมูลทั้งหมดจาก Google Maps
ต่อมาในปี 2012 Apple ได้หยุดการใช้ฐานข้อมูลจาก Google Maps และหันมาพัฒนาแอปพลิเคชัน Maps ด้วยตัวเอง
แต่กลับกลายเป็นว่า Apple Maps ได้กลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่ Apple ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ
โดยได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่ถูกต้องของข้อมูล และปัญหาข้อผิดพลาดทางเทคนิค
จนถึงขั้นที่ CEO ของ Apple อย่าง Tim Cook ต้องออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ
จุดอ่อนของ Apple Maps ก็คือการไม่ได้เป็นเจ้าของข้อมูลเองแบบ Google
แต่ใช้วิธีนำข้อมูลจากพาร์ตเนอร์ทั่วโลกมาใช้ต่ออีกที
หลังจากประเด็นร้อนของ Apple Maps เพียง 1 วัน
Google Maps ก็เริ่มพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS ทันที
ต่อยอดจากเวอร์ชันของ Android ที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว
และ 3 เดือนหลังจากนั้น แอปพลิเคชัน Google Maps
ก็เปิดตัวบน App Store อย่างเป็นทางการ
ซึ่งภายในเวลาเพียง 2 วันก็ถูกดาวน์โหลดไปกว่า 10 ล้านครั้ง
แต่นอกเหนือจาก MapQuest และ Yahoo! Maps แล้ว
Google Maps ก็ต้องเผชิญกับคู่แข่งใหม่อย่าง Waze
ที่มีจุดเด่นคือเป็นแอปพลิเคชันแผนที่ ที่เป็น Social Network ด้วย
นั่นจึงทำให้ผู้ใช้งาน สามารถแชร์และอัปเดตข้อมูลได้เองแบบเรียลไทม์ เช่น จุดนี้เพิ่งเกิดอุบัติเหตุทำให้รถติด
Google จึงเข้าซื้อกิจการ Waze ปี 2013 และนั่นทำให้ Google Maps สามารถแสดงข้อมูลเรียลไทม์อย่างจุดที่มีการปิดถนนหรือซ่อมถนนได้
Google Maps ยังได้ต่อยอดการบริการที่ใช้ประโยชน์จากแผนที่ไปอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
- การแสดงจุดที่กำลังเกิดภัยธรรมชาติ
- การรีวิวร้านค้าหรือโรงแรมของผู้ที่ไปใช้บริการ
- ข้อมูลจำนวนผู้ใช้บริการในสถานที่ต่าง ๆ ในแต่ละช่วงเวลา สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการหลีกเลี่ยงช่วงที่มีผู้คนแออัด
หรืออย่างช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ก็เพิ่มตัวเลือก COVID-19 Info
ที่ใช้แสดงสถิติเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต่าง ๆ อีกด้วย
ด้วยการใช้งานที่สะดวก ข้อมูลมีความแม่นยำ และยังมีฟีเชอร์การใช้งานที่เป็นมากกว่าแผนที่
จึงทำให้ปัจจุบัน Google Maps กลายเป็นแอปพลิเคชันแผนที่ อันดับหนึ่งของโลก
ที่มีผู้ใช้งานหลักพันล้านคนต่อเดือน ในกว่า 220 ประเทศทั่วโลก
แล้ว Google Maps มีรายได้จากอะไรบ้าง ?
ได้ชื่อว่า Google ก็แน่นอนว่ารายได้ทางแรกคือจากค่าโฆษณา
ซึ่งในความจริงแล้ว Google Maps ให้บริการฟรีแบบยังไม่เริ่มเก็บค่าโฆษณามาตลอด
โดยทางบริษัทอธิบายว่า ได้ใช้เวลาทดลองอยู่นานว่าจะเริ่มสร้างรายได้จากโฆษณาอย่างไร
ไม่ให้กระทบประสบการณ์ของผู้ใช้งาน
จนกระทั่งปี 2019 Google Maps เริ่มให้บริการโฆษณาบนแพลตฟอร์มอย่างจริงจัง
ซึ่งก็มีอยู่หลายรูปแบบ อย่างเช่น Promoted Pins และ Nearby
โดยปกติ ตำแหน่งที่ตั้งใน Google Maps จะมีไอคอนมาตรฐานแสดงถึงกิจการแต่ละประเภท
เช่น รูปแก้วกาแฟสำหรับร้านกาแฟ หรือรูปเตียงสำหรับโรงแรม ซึ่ง Google Maps ได้ให้ธุรกิจหรือร้านค้าใช้ Promoted Pins หรือคือการใช้โลโกของแบรนด์ตัวเอง แทนไอคอนเหล่านั้นได้
ยกตัวอย่างเช่น ตำแหน่งของ Starbucks แสดงด้วยโลโกนางเงือกสีเขียว หรือโรงแรม Hilton แสดงด้วยโลโกตัวอักษร H สีแดง
ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มการจดจำให้กับแบรนด์เองแล้ว ผู้ใช้งาน Google Maps ยังสะดวกมากขึ้นจากการใช้กิจการชื่อดังที่ทุกคนรู้จักเป็นจุดอ้างอิงในการหาเส้นทางได้
หรืออย่างฟีเชอร์ Nearby ที่ให้ผู้ใช้งานใช้ค้นหาสถานที่ใกล้ตัว อย่างร้านอาหาร ร้านกาแฟ ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ หรือโรงแรม ซึ่งกิจการที่จ่ายค่าโฆษณา ก็จะปรากฏขึ้นมาเป็นอันดับแรก ๆ
นอกจากค่าโฆษณาแล้ว รายได้อีกทางของ Google Maps ก็คือการให้บริการแพลตฟอร์มแผนที่
เพื่อเป็นข้อมูลเชื่อมต่อไปยังแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้แผนที่ดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชันเรียกรถ หรือดิลิเวอรี ซึ่งในปัจจุบัน มีกว่า 5 ล้านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ใช้ Google Maps เป็นฐานข้อมูล
ถ้ามองไปถึงโอกาสในการสร้างมูลค่าจาก Google Maps ในอนาคต ก็ต้องบอกว่ายังมีอยู่อีกมาก
อย่างพวกข้อมูลเส้นทาง ถนน การจราจรจำนวนมหาศาลที่ Google Maps สะสมมา จะเป็นคลังข้อมูลที่สำคัญในการพัฒนา Waymo หรือยานพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Alphabet ได้
หรือจะเป็นการเติบโตไปกับเทรนด์ Augmented Reality หรือ AR อย่างเช่น เกม Pokémon GO ที่ร่วมพัฒนาโดย Nintendo, Pokémon และ Niantic
ซึ่ง Niantic ก็คือบริษัทเกม AR บนสมาร์ตโฟน ที่แยกออกมาจาก Google และอยู่ในเครือ Alphabet
ถึงตรงนี้คงจะพอเดาได้ว่า แผนที่ในเกม Pokémon GO ก็มาจากฐานข้อมูลของ Google Maps นั่นเอง
Google Maps ที่เพิ่งสร้างรายได้อย่างเป็นทางการให้ Google ได้เพียง 2 ปี จึงยังคิดเป็นสัดส่วนเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของ Google และ Alphabet เท่านั้น
แต่นั่นจึงทำให้น่าจับตามองต่อไปว่า
Google Maps ที่ครอบครองข้อมูลของโลกทั้งใบ
จนเปรียบได้กับทรัพย์สินล้ำค่าที่ Google สะสมมานาน
จะสร้างรายได้ให้กับ Google มากขนาดไหนในอนาคต..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.cnbc.com/2020/12/05/how-google-maps-came-to-dominate-navigation-.html
-https://www.cnbc.com/2021/05/18/how-does-google-make-money-advertising-business-breakdown-.htm
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-04-10/google-flips-the-switch-on-its-next-big-money-maker-maps?sref=i3mD6rA5l
-https://www.theguardian.com/technology/2015/feb/08/google-maps-10-anniversary-iphone-android-street-view
-https://medium.com/@lewgus/the-untold-story-about-the-founding-of-google-maps-e4a5430aec92
-https://www.investopedia.com/articles/investing/061115/how-does-google-maps-makes-money.asp
html next line 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
รู้จัก Foxconn บริษัทที่จับมือกับ ปตท. ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า /โดย ลงทุนแมน
เดือนที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้าในไทย
เมื่อ ปตท. ได้ประกาศร่วมลงทุนกับบริษัท Hon Hai Precision Industry Co., Ltd.
หรือที่เรารู้จักกันในนาม Foxconn Technology Group
ในการร่วมมือกันครั้งนี้ เป็นการช่วยกันผลักดันแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า MIH
ที่คาดว่าจะมาเป็นอนาคตของการสร้างยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งในไทยและทั่วโลก
แล้วแพลตฟอร์ม MIH ที่ว่านี้ คืออะไร และน่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Foxconn มีชื่อเสียงในฐานะ ผู้นำการผลิต
และประกอบชิ้นส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก
ที่มีลูกค้ารายสำคัญ เช่น Apple, PlayStation, Nintendo, Huawei และ Xiaomi
เมื่อหลายคนได้ยินว่า Foxconn จะรุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้า
หลายคนคงเริ่มตั้งคำถาม ว่าจากบริษัทรับประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างไร
นี่คือสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนทั่วทุกมุมโลก ตั้งคำถามกับ Young Liu ผู้ที่เป็นซีอีโอ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Foxconn Group
ซึ่ง Young Liu ตอบคำถามนี้ด้วยการเปิดตัว
แพลตฟอร์มสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า “MIH”
ในเดือนตุลาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา
โดยเขาแถลงวิสัยทัศน์ในวันเปิดตัว MIH ว่า
“การดำเนินกิจการรับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มากว่า 40 ปีของบริษัทนั้น ถึงเวลาแล้วที่จะต้องปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจ แม้ว่าศักยภาพในการรับจ้างผลิตจะมีการพัฒนาปรับปรุงให้ทันสมัยตลอดเวลา แต่เราเริ่มสร้างการเติบโตได้ยากขึ้นทุกที”
ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วน จะต้องผลิตในปริมาณมาก และลดต้นทุนในการผลิตลงให้ได้มากด้วย ถึงจะสามารถทำกำไรได้ในระดับที่น่าพอใจ
ยกตัวอย่างเมื่อ 20 ปีที่แล้ว Foxconn รับจ้างผลิตโน้ตบุ๊กให้แบรนด์ Compaq และ Dell ซึ่งในช่วงแรกบริษัทก็ทำกำไรจากการรับจ้างผลิตได้ดี
แต่เมื่อตลาดของสินค้าเหล่านั้น เริ่มมีคู่แข่งเข้ามามาก
และเกิดการแข่งขันกันในเรื่องราคา จนแบรนด์ต้องมาต่อรองกับ Foxconn เพื่อลดต้นทุนในการผลิต
ก็ทำให้อัตรากำไรของ Foxconn ค่อย ๆ ลดลง
Foxconn จึงเริ่มมองหาอะไรใหม่ ๆ มาต่อยอดธุรกิจเดิม
และก็ได้มองเห็นว่า ผู้ครอบครองระบบปฏิบัติการ iOS อย่าง Apple
และระบบ Android อย่าง Google มีโมเดลที่น่าสนใจ
โดยเฉพาะระบบ Android ที่เป็นระบบแบบเปิดทำให้มือถือหลากหลายยี่ห้อสามารถเข้าถึงและนำไปพัฒนาได้ง่าย
และนี่ก็คือแนวคิด ที่ Foxconn กำลังนำมาพัฒนาเป็น MIH ที่จะทำหน้าที่เป็น
“แพลตฟอร์มที่รวบรวมผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และซอฟต์แวร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก”
สำหรับให้ผู้พัฒนา เข้ามาใช้เป็นศูนย์กลางในการออกแบบยานยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง
โดยที่มาของคำว่า MIH มาจากคำว่า “Made in Hon Hai”
หมายถึงผลิตจากบริษัทหงไห่ หรืออีกชื่อเรียกของ Foxconn
ที่ปัจจุบันมีบริษัทในเครืออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทั้งในไต้หวัน ฮ่องกง จีน เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา
และมีโรงงานตั้งอยู่ใน 11 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกา
ตอนนี้ แพลตฟอร์ม MIH มีบริษัทประกาศเข้าร่วมแล้วกว่า 1,700 แห่ง
เป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ 67% และเป็นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องมือสื่อสารและอุตสาหกรรม Internet Software 25%
แพลตฟอร์ม MIH ยังได้สองผู้บริหารคนสำคัญ
คนแรกคือ Jack Cheng ในตำแหน่ง CEO ของแพลตฟอร์ม MIH ผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ กว่า 40 ปี เคยทำงานให้กับ Ford, Fiat
และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมปลุกปั้น NIO บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน
ผู้บริหารคนที่สอง คือ William Wai
ที่ดูแลรับผิดชอบในส่วนการพัฒนาซอฟต์แวร์ของแพลตฟอร์ม MIH
William Wai มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ มากว่า 20 ปี
เขาเคยร่วมงานกับสตีฟ จอบส์ ที่บริษัท NeXT, Inc.
และเคยเป็นหนึ่งในทีมงานที่ร่วมพัฒนาระบบปฏิบัติการ iOS และ macOS
นอกจากผู้บริหารที่มีศักยภาพแล้ว
บริษัทที่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม MIH ก็มีหลายบริษัทที่น่าสนใจ
เช่น
- Innolux บริษัทผู้ผลิตจอแสดงผลรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model X และ S ของ Tesla
- Foxconn Tech ในเครือ Foxconn Technology Group ที่ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยอาศัยเทคโนโลยีการหล่อฉีดอะลูมิเนียมอัลลอย ที่ทำให้ตัวรถยนต์แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบา ซึ่งปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อจาก BMW ในการผลิตตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า
อีกสิ่งที่เป็นเหมือน “หัวใจ” ของรถยนต์ไฟฟ้าก็คือ “แบตเตอรี่”
ซึ่งในรายชื่อบริษัทพันธมิตรของแพลตฟอร์ม MIH
มีชื่อของ “CATL” หนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ Tesla และครองส่วนแบ่งในตลาดกว่า 24% ของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน
นอกจากบริษัทผลิตชิ้นส่วนหลักในตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมในแพลตฟอร์มนี้แล้ว
ก็ยังมีบริษัทในอุตสาหกรรมผลิตชิป อย่าง TSMC, MediaTek, ARM หรือบริษัทที่กำลังพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่าง AWS (Amazon Web Services) และ Tier IV จากญี่ปุ่นเข้าร่วมด้วย
แพลตฟอร์ม MIH ตั้งเป้าหมายแรก คือต้องการมีสัดส่วน 10% ในตลาดของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ภายในปี 2025 และภายในสิ้นปี 2021 มีแผนจะผลิตรถบัสไฟฟ้าออกสู่ตลาด
ย้อนกลับมาที่การจับมือกันระหว่าง Foxconn Technology Group และ ปตท.
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม MIH ในครั้งนี้
ก็คงเหมือนเป็นการเปิดประตูสู่การส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยให้กว้างขึ้น
จากนี้ก็ต้องติดตามต่อไปว่า อุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ของไทย
จะสามารถปรับตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าได้มากน้อยแค่ไหน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://udn.com/news/story/7240/5343496
-https://iknow.stpi.narl.org.tw/Post/Read.aspx?PostID=17615
-https://baike.baidu.com/item/%E9%83%91%E6%98%BE%E8%81%AA/20386059
-https://baike.baidu.com/item/%E9%AD%8F%E5%9B%BD%E7%AB%A0
-https://ctee.com.tw/news/tech/417144.html
-https://www.bnext.com.tw/article/60624/foxconn-mih-logo-wall-mtk-mooly
html next line 在 KEI D CHANNEL-けいDちゃんねる- Youtube 的最佳貼文
#けいDちゃんねる #東京ディズニーランド #ディズニーハロウィーン
ーーーーーーーーーーーーー
ディズニーハロウィーンのグッズ
https://www.tokyodisneyresort.jp/treasure/halloween2021/goods01.html
ーーーーーーーーーーーーー
00:00 オープニング
00:52 ぬいぐるみバッジ
02:58 ハンドパペット
04:13 チャームコレクション
05:35 カトラリーセット
06:30 光るおもちゃ
07:54 ぬいぐるみ肩乗せ
09:43 ポストカードと巾着
10:43 クッキー
12:31 エンディング
ーーーー生配信NEXTーーーー
09.19 20時
09.26 20時
ーーーーーーーーーーーーーー
当チャンネルへのご依頼等
こちらからご連絡をお願いします。
[email protected]
ーーーーーーーーーーーーーー
①【プレゼントの送り先】
https://bitstar.tokyo/prebo/prebo/senders/top
②【けいDさんの隠し部屋】
BLOG、ラジオ、限定絵文字など
有料で楽しめるメンバーシップ
https://www.youtube.com/channel/UCx9DX7Z2BwY5hiXhqFLHgNA/join
③【けいカモさんのLINEスタンプ登場!】
https://line.me/S/sticker/14843053
④【けいDちゃんねる公式グッズ】
https://keid.official.ec
⑤【YouTuber向けオンラインサロン】
https://community.camp-fire.jp/projects/view/399230
ーーーーーーーーーーーーー
Twitter、Instagram
チャンネルの概要欄のリンク先に
URL貼ってあります。
https://www.youtube.com/channel/UCx9DX7Z2BwY5hiXhqFLHgNA/about?disable_polymer=1
TikTok
https://www.tiktok.com/@keid32
ーーーーーーーーーーーーー
html next line 在 KEI D CHANNEL-けいDちゃんねる- Youtube 的最佳貼文
#けいDちゃんねる #東京ディズニーランド
ーーーーーーーーーーーーーー
ハロウィーンのメニュー
https://www.tokyodisneyresort.jp/treasure/halloween2021/menu01.html
ーーーーーーーーーーーーーー
00:00 オープニング
00:28 チキンとアップルサンド
02:48 紫芋ムースとパンプキンムース
03:43 オレンジチョコムース&ホワイトチョコムース
04:34 スパークリングゼリードリンク
06:41 チュロス(メイプル&パンプキン)
07;47 ハートの女王のパンケーキ
09:53 エンディング
ーーーー生配信NEXTーーーー
09.12 20時
09.19 20時
09.26 20時
ーーーーーーーーーーーーーー
当チャンネルへのご依頼等
こちらからご連絡をお願いします。
[email protected]
ーーーーーーーーーーーーーー
①【プレゼントの送り先】
https://bitstar.tokyo/prebo/prebo/senders/top
②【けいDさんの隠し部屋】
BLOG、ラジオ、限定絵文字など
有料で楽しめるメンバーシップ
https://www.youtube.com/channel/UCx9DX7Z2BwY5hiXhqFLHgNA/join
③【けいカモさんのLINEスタンプ登場!】
https://line.me/S/sticker/14843053
④【けいDちゃんねる公式グッズ】
https://keid.official.ec
⑤【YouTuber向けオンラインサロン】
https://community.camp-fire.jp/projects/view/399230
ーーーーーーーーーーーーー
Twitter、Instagram
チャンネルの概要欄のリンク先に
URL貼ってあります。
https://www.youtube.com/channel/UCx9DX7Z2BwY5hiXhqFLHgNA/about?disable_polymer=1
TikTok
https://www.tiktok.com/@keid32
ーーーーーーーーーーーーー
html next line 在 KEI D CHANNEL-けいDちゃんねる- Youtube 的最佳解答
#けいDちゃんねる
ーーーーーーーーーーーー
東京ディズニーシー20周年公式サイト
スーベニア商品について
https://www.tokyodisneyresort.jp/treasure/tds20th/menu/menu03.html
ーーーーーーーーーーーー
00:00 オープニング
01:07 スーベニアランチケース
03:22 スーベニアカップ
04:17 スーベニアプレート
05:12 スーベニアタンブラー
05:50 スーベニアグラス
06:32 スーベニアスプーン
07:07 カプセルトイ
09:49 エンディング
ーーーー生配信NEXTーーーー
09.12 20時
09.19 20時
09.26 20時
ーーーーーーーーーーーーーー
当チャンネルへのご依頼等
こちらからご連絡をお願いします。
[email protected]
ーーーーーーーーーーーーーー
①【プレゼントの送り先】
https://bitstar.tokyo/prebo/prebo/senders/top
②【けいDさんの隠し部屋】
BLOG、ラジオ、限定絵文字など
有料で楽しめるメンバーシップ
https://www.youtube.com/channel/UCx9DX7Z2BwY5hiXhqFLHgNA/join
③【けいカモさんのLINEスタンプ登場!】
https://line.me/S/sticker/14843053
④【けいDちゃんねる公式グッズ】
https://keid.official.ec
⑤【YouTuber向けオンラインサロン】
https://community.camp-fire.jp/projects/view/399230
ーーーーーーーーーーーーー
Twitter、Instagram
チャンネルの概要欄のリンク先に
URL貼ってあります。
https://www.youtube.com/channel/UCx9DX7Z2BwY5hiXhqFLHgNA/about?disable_polymer=1
TikTok
https://www.tiktok.com/@keid32
ーーーーーーーーーーーーー
html next line 在 Learn HTML code: line break - YouTube 的美食出口停車場
The HTML tag br will insert a line break into your text without starting a new paragraph.http://www ... ... <看更多>