Lenovo จากบริษัทไม่มีใครรู้จัก สู่แบรนด์คอมพิวเตอร์ ขายดีสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ผู้ที่ครองส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PC ได้มากที่สุดในโลกก็คือ “Lenovo” แบรนด์จากประเทศจีน ที่สามารถแซง HP และ Dell จากสหรัฐอเมริกา จนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลกได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2013 และยังคงรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ได้จนถึงปัจจุบัน
Lenovo ยังถือเป็นบริษัทจีนที่ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทระดับโลกได้เป็นบริษัทแรก ๆ ก่อนบริษัทระดับโลกในยุคปัจจุบันอย่างเช่น Alibaba, Tencent, Huawei และ Xiaomi
แล้ว Lenovo ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จากข้อมูลของ Gartner ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก จำนวน PC ที่ส่งมอบทั้งปี 2020 แบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดโลกได้มากที่สุดก็คือ
อันดับ 1 Lenovo จากจีน 24.9%
อันดับ 2 HP จากสหรัฐอเมริกา 21.2%
อันดับ 3 Dell จากสหรัฐอเมริกา 16.4%
อันดับ 4 Apple จากสหรัฐอเมริกา 8.2%
อันดับ 5 Asus จากไต้หวัน 6.0%
คำว่า PC ในความหมายของ Gartner จะแปลว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และแล็ปท็อป
แล้วก่อนจะกลายมาเป็นบริษัทที่ขาย PC ได้มากที่สุดในโลก Lenovo มีจุดเริ่มต้นอย่างไร ?
ย้อนกลับไปในปี 1984 หรือเมื่อ 37 ปีก่อน ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
“Liu Chuanzhi” เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ทำงานวิจัยอยู่ที่สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS)
ตอนนั้น คุณ Liu รู้สึกว่าสิ่งที่คิดค้น มักจะจบลงแค่ในห้องทดลองและไม่ได้ถูกต่อยอดนำไปใช้ประโยชน์กับคนหมู่มาก
คุณ Liu ในวัย 40 ปี จึงขอเงินทุนจาก CAS มาได้ 2 แสนหยวน หรือราว 1 ล้านบาท เพื่อเปิดบริษัทเกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยีเอง
หลังจากได้ทุนมาแล้ว เขาก็ได้รวบรวมทีมงานที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรคอมพิวเตอร์ชาวจีนอีก 10 คนและได้ก่อตั้งบริษัท ในตอนแรกชื่อว่า “Legend”
ในเวลานั้น ถือเป็นจังหวะที่ดี เพราะประเทศจีนกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จากยุคเหมาเจ๋อตง ที่ระบบเศรษฐกิจถูกวางแผนโดยรัฐและไม่ค้าขายกับต่างประเทศ มาเป็นยุคเติ้งเสี่ยวผิง ที่เริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจ
โดยให้ภาคเอกชนมีบทบาทมากขึ้นและเริ่มค้าขายกับต่างประเทศ
แต่ Legend มีอุปสรรคสำคัญก็คือ ด้วยความที่ทีมงานมีพื้นฐานมาจากการเป็นนักวิจัย การเลือกประเภทสินค้าจึงไม่ค่อยตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งก็ได้ทำให้บริษัทต้องลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง
โดย Legend เริ่มจากการนำเข้าโทรทัศน์สีมาขายแต่ล้มเหลว
จึงเปลี่ยนมาพัฒนานาฬิกาข้อมือดิจิทัล แต่ก็ล้มเหลว
พอเปลี่ยนมาให้บริการตรวจสอบคุณภาพคอมพิวเตอร์ก่อนถึงมือลูกค้า ก็ยังคงล้มเหลว
จนกระทั่ง Legend หันมาลงทุนพัฒนาแผ่นวงจรพิมพ์ หรือ PCB เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่นำเข้ามา ใช้งานเป็นภาษาจีนได้ ซึ่งก็ถือว่าได้ผลตอบรับดี
หลังจากนั้น Legend จึงได้เริ่มนำเข้าคอมพิวเตอร์จากต่างประเทศ แล้วขายระบบภาษาจีนพ่วงด้วย
ทำให้คอมพิวเตอร์ที่บริษัทนำเข้ามา ขายดีมาก ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนแรกที่สำคัญ เพราะ Legend ได้เริ่มเรียนรู้ความต้องการของตลาด จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าต่างประเทศ
ในเวลาต่อมา Legend จึงต่อยอดกิจการด้วยการไปตั้งบริษัทย่อยที่ฮ่องกง เพื่อผลิตและส่งออก PCB จนกระทั่งในปี 1990 บริษัทก็ได้เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ของตัวเองและสามารถนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ในปี 1994
ผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของ Legend ที่ประสบความสำเร็จคือเมนเฟรมคอมพิวเตอร์
ก่อนที่บริษัทจะเริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและแล็ปท็อปตามมา
จนในที่สุด Legend ก็มีรายได้หลักมาจากการขายคอมพิวเตอร์ที่เป็นแบรนด์ของตัวเองและได้กลายเป็นแบรนด์คอมพิวเตอร์ที่มียอดขายมากที่สุดในประเทศจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 43% ในปี 1998
ซึ่งนอกจากการวิจัยพัฒนาคอมพิวเตอร์แล้ว กลยุทธ์ที่ทำให้ Legend ครองตลาดจีนได้ก็คือการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากที่สุด รวมถึงการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจัดจำหน่าย
หลังจากประสบความสำเร็จในประเทศแล้ว Legend จึงตั้งเป้าหมายใหญ่ขึ้น
ด้วยการก้าวสู่ตลาดโลก ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ที่ชื่อว่า “Yang Yuanqing”
คุณ Yang เริ่มงานที่ Legend ตั้งแต่ตอนที่บริษัทเปิดรับสมัครพนักงานครั้งแรกเมื่อปี 1988 โดยเริ่มจากตำแหน่งพนักงานขาย ซึ่งก็สร้างผลงานได้โดดเด่น จนไปเข้าตาประธานบริษัทอย่างคุณ Liu
คุณ Yang จึงได้เลื่อนขั้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มธุรกิจ PC ในวัยเพียง 29 ปี
ก่อนที่จะรับตำแหน่ง CEO ในปี 2001 ขณะที่อายุ 37 ปี
เพื่อเตรียมก้าวสู่ตลาดโลก Legend จึงรีแบรนด์ในปี 2003 ด้วยการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Lenovo” ซึ่งมาจากคำว่า “Le” จากชื่อบริษัทเดิม Legend รวมกับคำว่า “Novo” ที่แปลว่า ใหม่ ในภาษาละติน
ต่อมาในปี 2004 บริษัท IBM ได้ประกาศขายธุรกิจคอมพิวเตอร์
ซึ่ง IBM เป็นบริษัทผู้นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จากสหรัฐอเมริกา โดยนับเป็นบริษัทแรก ๆ ในโลกที่เริ่มขาย คอมพิวเตอร์จนมีแล็ปท็อป “ThinkPad” ที่โด่งดัง และครองส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์เป็นอันดับ 3 ของโลกในขณะนั้น เป็นรองจาก Dell และ HP
แต่สาเหตุสำคัญที่ IBM ตัดสินใจขายธุรกิจคอมพิวเตอร์ เพราะมองว่าเทคโนโลยีเครื่องคอมพิวเตอร์ ถูกคู่แข่งเลียนแบบได้ง่าย แถมยังแข่งกันตัดราคาขาย ทำให้อัตราการทำกำไรต่ำ บริษัทจึงอยากโฟกัสธุรกิจที่สร้างกำไรได้ดี อย่างพวกซอฟต์แวร์และกลุ่มให้บริการ มากกว่า
ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งที่ Dell ก็เสนอซื้อเช่นกัน แต่ IBM กลับเลือกขายธุรกิจคอมพิวเตอร์ให้กับ Lenovo ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นบริษัทจากประเทศจีนที่แทบไม่มีคนรู้จัก
โดย IBM ให้เหตุผลว่าตอนนั้นรัฐบาลจีนกำลังผลักดันบริษัทจากจีนให้ได้เติบโตในระดับโลก
IBM จึงตอบสนองความต้องการของรัฐบาลจีน เพื่อเปิดโอกาสให้ IBM เข้าไปบุกตลาดจีนได้ง่ายขึ้น
Lenovo ที่อยากขายสินค้าไปทั่วโลก จึงตกลงซื้อธุรกิจคอมพิวเตอร์ของ IBM ในปี 2005 ด้วยมูลค่า 1.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทแรก ๆ ของจีน ที่มีดีลการเข้าซื้อกิจการต่างประเทศ
นั่นจึงทำให้ Lenovo ได้โรงงานผลิตคอมพิวเตอร์ของ IBM ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ได้ช่องทางการจัดจำหน่ายและฐานลูกค้าทั่วโลก รวมถึงได้ทีมงานจาก IBM ซึ่งทำให้บริษัทมีพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ที่สำคัญก็คือ ไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่ม “Think” ที่ขายดีที่สุดของ IBM อย่าง ThinkPad ที่เป็นแล็ปท็อป และ ThinkCentre ที่เป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ก็จะเปลี่ยนโลโกจาก IBM มาเป็น Lenovo
และนี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Lenovo ซึ่งแต่เดิมแทบไม่มียอดขายในต่างประเทศเลย สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดจากบริษัทคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก ขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ของโลก แทนที่ IBM ทันที
นอกจากนี้ การรวมพนักงานนานาชาติของทั้ง 2 บริษัท ทำให้ Lenovo ปรับโครงสร้างกรรมการบริษัทและทีมบริหารให้มีสัดส่วนชาวจีนและอเมริกันเท่า ๆ กัน
อีกมุมที่ Lenovo ให้ความสำคัญไม่แพ้การมีสินค้าขายไปทั่วโลก ก็คือการปรับวัฒนธรรมองค์กร ธรรมาภิบาล รวมถึงมาตรฐานบัญชี ให้มีความเป็นสากล
ยกตัวอย่างเช่น แม้ในตอนนั้นตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงจะกำหนดให้ส่งงบประมาณเพียงปีละ 2 ครั้ง แต่ CFO หญิงผู้วางรากฐานที่สำคัญให้ Lenovo อย่างคุณ Mary Ma เลือกให้บริษัทเปิดเผยงบประมาณปีละ 4 ครั้งเป็นรายไตรมาส ตามมาตรฐานสากล
จากการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ Lenovo จึงเปลี่ยนจากบริษัทท้องถิ่น มาเป็นบริษัทข้ามชาติ
ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทข้ามชาติแห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน Lenovo ก็ต้องเจอความท้าทายครั้งใหญ่ เพราะผลจากวิกฤติการเงินโลกในปี 2008 ทำให้ผลประกอบการปี 2009 ของบริษัทพลิกเป็นขาดทุนมากถึง 7.4 พันล้านบาท
ในปี 2009 คุณ Yang ที่ได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นประธานกรรมการบริษัทในปี 2004 ได้ขอกลับมารับตำแหน่งเป็น CEO อีกครั้งเพื่อนำบริษัทให้กลับมามีกำไร รวมถึงเร่งเพิ่มยอดขายและขยายส่วนแบ่งตลาด ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง แต่คุณ Yang ขอเวลา 4 ปี แล้วค่อยวัดผล
คุณ Yang เริ่มจากการฟื้นฟูตลาดเดิมที่ทำกำไรได้ดีอยู่แล้ว นั่นก็คือ ฐานลูกค้าเดิมจาก IBM อย่าง PC สำหรับลูกค้าองค์กร และฐานลูกค้าเดิมของ Lenovo อย่างตลาดในประเทศจีน
ขณะเดียวกันก็บุกตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตแรงและมีจำนวนประชากรมาก อย่างเช่น อินเดีย เพื่อขยายฐานลูกค้าไม่ให้พึ่งพาชาวจีน มากเกินไป
ซึ่งกลยุทธ์เชิงรุกนี้ช่วยเพิ่มรายได้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังต้องแลกกับการทุ่มงบประมาณก้อนใหญ่ เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และทำการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย
Lenovo จึงได้เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้นนอกเหนือจาก ThinkPad ที่เป็นแล็ปท็อปพรีเมียมราคาสูง อย่างเช่น IdeaPad ที่เป็นแล็ปท็อปราคาเข้าถึงง่าย รวมถึง Yoga ที่ฟังก์ชันการใช้งานเป็นได้ทั้งแล็ปท็อปและแท็บเล็ต
นอกจากนี้ Lenovo ได้เร่งขยายส่วนแบ่งตลาดจากการควบรวมกิจการมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
ปี 2011 Lenovo ซื้อบริษัทอิเล็กทรอนิกส์เยอรมันที่ชื่อ Medion ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ Lenovo ในเยอรมนีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทันที และ Lenovo ยังตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท NEC ของญี่ปุ่น ทำให้กลายเป็นบริษัท PC ที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น
ปี 2012 Lenovo ซื้อบริษัทคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่สุดในบราซิลที่ชื่อ CCE ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเจาะตลาดอเมริกาใต้
ปี 2018 Lenovo ซื้อกิจการคอมพิวเตอร์ของ Fujitsu ประเทศญี่ปุ่น
ผลลัพธ์จากแผนงานที่นำทีมโดยคุณ Yang หลังจากวิกฤติการเงินโลก ก็ถือว่าเกินความคาดหมาย
เพราะ Lenovo สามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้จากประเทศอื่น ๆ และลดสัดส่วนจากจีนลงได้ จาก 46% ในปี 2010 เหลือเพียง 23% ในปัจจุบัน โดยรายได้ของ Lenovo กว่า 80% ยังมาจากธุรกิจคอมพิวเตอร์
ในด้านของส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ Lenovo สามารถชนะ Dell จนขึ้นมาเป็นที่ 2 ของโลกได้เป็นครั้งแรกในปี 2011 ก่อนที่จะแซง HP ขึ้นมาเป็นที่ 1 ของโลกในอีก 2 ปีถัดมา และยังครองอันดับ 1 มาจนถึงปัจจุบัน
ความสำเร็จของการปลุกปั้นธุรกิจคอมพิวเตอร์ของ Lenovo ก็ได้ทำให้ คุณ Yang ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน CEO ที่เก่งที่สุดในโลก รวมถึงผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Liu ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ไฮเทคฮีโรแห่งประเทศจีน”
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
คุณ Liu Chuanzhi ผู้ก่อตั้ง Lenovo มีลูก 2 คน
หนึ่งในนั้นคือลูกสาวที่ชื่อว่า Liu Qing หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “Jean Liu”
หลังจากที่ Jean Liu จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และทำงานที่ Goldman Sachs มา 12 ปี
เธอก็ย้ายมารับตำแหน่งเป็น COO ให้กับบริษัทสตาร์ตอัปของจีนที่ชื่อ Didi Dache
เธอมีบทบาทสำคัญในการควบรวมกิจการระหว่าง Didi Dache กับบริษัทคู่แข่งอย่าง Kuaidi Dache ในปี 2015 ที่เปลี่ยนมาใช้ชื่อใหม่เป็น “Didi Chuxing” แอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่และส่งอาหารอันดับ 1 ของจีน
ปัจจุบัน เธอดำรงตำแหน่งประธานบริษัท ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของ Didi Chuxing ร่วมกับผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Cheng Wei ที่ดำรงตำแหน่งเป็น CEO และประธานกรรมการ จนถูกจัดอันดับจากนิตยสาร Time ให้เป็น 1 ใน 100 คน ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกเมื่อปี 2017
ซึ่งก็เรียกได้ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.economist.com/business/2013/01/12/from-guard-shack-to-global-giant
-https://www.economist.com/business/2001/09/13/legend-in-the-making
-https://www.ft.com/content/2bb25562-4ae0-11d9-a0ca-00000e2511c8
-https://www.cnbc.com/2016/12/01/china-based-lenovos-ride-to-top-spot-of-pc-business.html
-https://www.marketwatch.com/story/why-ibm-selling-server-unit-to-lenovo-is-bad-news-for-hp-1390500250
-https://www.wsj.com/articles/the-worlds-largest-pc-maker-is-no-longer-a-bargain-11550742853
-https://www.theverge.com/2012/1/3/2677691/ex-ibm-ceo-revisits-selling-pc-business-samuel-palmisano
-https://en.wikipedia.org/wiki/Lenovo
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Market_share_of_personal_computer_vendors
-https://investor.lenovo.com/en/financial/results.php
同時也有608部Youtube影片,追蹤數超過12萬的網紅prasertcbs,也在其Youtube影片中提到,เชิญสมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้ได้ที่ ► https://www.youtube.com/subscription_center?add_user=prasertcbs สอน MySQL ► https://www.youtube.com/playlist?lis...
2016 server 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
'INETREIT' ครั้งแรกในประเทศไทยกับโอกาสการลงทุนกองทรัสต์ในธุรกิจดิจิทัลของไทย
INETREIT x ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันข้อมูลต่าง ๆ ในโลกดิจิทัลมีความจุรวมกัน 2,600 EB
โดย 1 EB = 1 ล้านล้านล้านไบต์
ความน่าสนใจของเรื่องนี้ก็คือ หากเราย้อนกลับไปในปี 2016
ความจุข้อมูลดิจิทัลทั่วโลกรวมกันแค่ 663 EB
ตัวเลขนี้กำลังบอกกับเราว่า ในเวลาแค่ 5 ปี ความจุข้อมูลดิจิทัลทั่วโลกเพิ่มขึ้น 292%
เหตุผลก็เพราะปัจจุบันเกือบทุกอย่างบนโลกใบนี้กำลังขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล
ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตประจำวันของแต่ละคน หรือการทำงานของบริษัทและหน่วยงานต่าง ๆ
แล้วการเติบโตของโลกดิจิทัลนี้ จะเป็นโอกาสการลงทุนของเราได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เมื่อดิจิทัลคือเทรนด์ของโลก ประเทศไทยเองก็เดินตามเทรนด์นี้เช่นกัน
โดยหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตได้อย่างน่าจับตามองก็คือ “ธุรกิจคลาวด์”
ที่ถูกประเมินว่าในประเทศไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 19.40%
ซึ่งก็จะทำให้อีก 2 ปีข้างหน้า ตลาดนี้ในประเทศไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 27,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
การเติบโตนี้ ทำให้บริษัทผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย
จำเป็นต้องมีศูนย์ Internet Data Center เพิ่มขึ้น
เพื่อให้บริการลูกค้าในการจัดเก็บข้อมูล และรองรับการเติบโตในอนาคต
โดยเฉพาะบริษัทต่าง ๆ จนถึงหน่วยงานภาครัฐที่หันมาใช้บริการคลาวด์กันมากขึ้น
บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือ INET
คือ ผู้ทำธุรกิจให้บริการคลาวด์มานาน 26 ปี มีภาครัฐถือหุ้น 49%
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ 70% มาจากธุรกิจให้บริการคลาวด์ โดยศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต (INET-IDC)
และสัดส่วนรายได้ 30% มาจากธุรกิจบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และบริการ Co-location หรือการให้เช่าพื้นที่สำหรับวาง server โดยศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต (INET-IDC) เช่นกัน
เมื่อคนไทยเริ่มหันมาใช้บริการคลาวด์ จนถึงการใช้ข้อมูลดิจิทัลกันมากขึ้น
จึงเป็นโอกาสของธุรกิจ Internet Data Center ของ INET
ที่ปัจจุบันมี 3 แห่งคือ INET-IDC1 อาคารบางกอกไทย ทาวเวอร์, INET-IDC2 อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ที่กรุงเทพฯ และ INET-IDC3 ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
โดยล่าสุด กำลังจะมีการจัดตั้งกองทรัสต์ที่มีชื่อว่า INETREIT
ซึ่งจะเข้าลงทุนในทรัพย์สินโครงการ INET-IDC3 เฟส 1
โดยมีมูลค่าลงทุนรวม 4,000 – 4,500 ล้านบาท
คำถามก็คือ แล้วการลงทุนใน INETREIT น่าสนใจแค่ไหน ?
ศูนย์ INET-IDC3 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 19 ไร่ ในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
ซึ่งก่อนจะลงมือก่อสร้าง ก็มีผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินศักยภาพทำเลแห่งนี้ ไว้อย่างน่าสนใจ
โดยพบว่า เป็นทำเลที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 42 เมตร
ทำให้ไม่เคยมีน้ำท่วมมานานกว่า 100 ปี จนถึงไม่เคยเกิดภัยธรรมชาติอื่น ๆ ห่างไกลพื้นที่อุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเคมี ขณะเดียวกันก็เป็นทำเลที่มีความพร้อมด้านสาธารณูปโภค
พอได้ยินแบบนี้ ก็น่าจะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ที่สนใจจะลงทุนในทรัสต์ INETREIT ได้
ทีนี้ บางคนอาจยังไม่เข้าใจว่า กองทรัสต์คืออะไร
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ การระดมทุนอย่างหนึ่งจากนักลงทุน
เพื่อนำเงินที่ได้ไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
โดยในแต่ละปี ผู้ลงทุนก็จะได้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผล
ซึ่งอัตราเงินปันผลจะมากน้อยเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ไปลงทุนนั้น มีความสามารถในการหารายได้ ได้ดีแค่ไหน
สำหรับโมเดลธุรกิจของ INET-IDC3 ก็มีวิธีการหารายได้อย่างน่าสนใจ เลยทีเดียว
รู้หรือไม่ว่า ศูนย์แห่งนี้นอกจากมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยสุดล้ำแล้ว
ระบบทำงานยังถูกขับเคลื่อนอย่างน้อย 99.98% ซึ่งเกือบจะตลอดเวลา
พูดง่าย ๆ ก็คือ ใน 1 ปี ศูนย์แห่งนี้จะหยุดทำงานได้มากที่สุดแค่ 1.6 ชั่วโมงเท่านั้น
ทั้งหมดก็เพื่อการมอบบริการคุณภาพให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ นั่นเอง
โดยกองทรัสต์ INETREIT จะระดมทุนเพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 รวมถึงอาคารส่วนกลาง และอาคารควบคุมสถานีไฟฟ้าย่อยของโครงการ
โดย INET จะเช่ากลับทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อประกอบธุรกิจ
INET จะจ่ายค่าเช่าเฉลี่ยเดือนละ 31 ล้านบาท หรือปีละ 372 ล้านบาทให้แก่กองทรัสต์ และค่าเช่าจะปรับขึ้นทุกปี ปีละ 2%
โดยกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการ INET ก็จะเป็นบริษัทชั้นนำและหน่วยงานรัฐ
นั่นหมายความว่า กองทรัสต์ INETREIT จะสามารถสร้างรายได้สม่ำเสมอและมั่นคงได้ นั่นเอง
ปัจจุบัน INETREIT ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตหรือ Filing เพื่อเสนอขายหลักทรัพย์และแบบหน่วยทรัสต์ให้แก่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนั่นแปลว่า INETREIT จะเป็นกองทรัสต์กองแรก ๆ ที่เข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในธุรกิจดิจิทัลในประเทศไทย
โดยในส่วนของผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับนั้น ประมาณการผลตอบแทนในปีแรกจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี โดยมีสมมติฐานเงินกู้ยืมที่ 1,000 ล้านบาท ดังนี้
กรณีมูลค่าเข้าลงทุนต่ำสุด 4,000 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนต่อหน่วยจะอยู่ที่ 9.99%
และกรณีมูลค่าเข้าลงทุนสูงสุด 4,500 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนต่อหน่วยจะอยู่ที่ 8.47%
สรุปแล้ว INETREIT ถือว่าเป็นหนึ่งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อย
ในวันที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เกือบทุกอย่างในชีวิตประจำวัน ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
หนึ่งในการลงทุนที่จะสร้างความอุ่นใจ และโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดี
ก็คือ การลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา นั่นเอง
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน
Reference
-ข่าวประชาสัมพันธ์และเอกสารข้อมูล บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือ INET
2016 server 在 OSSLab Geek Lab Facebook 的最讚貼文
怎樣狀況會花到做一個手機數位鑑識花上NT 2100萬.
這要說說FBI如何解鎖2016年聖貝納迪諾射手所使用的iPhone 5C?根據《華盛頓郵報》的報導,它求助於一間澳洲Azimuth資安公司.
因為iPhone OS 9中增強的安全措施提供了一種新的策略,超過一定密碼輸入錯誤會擦除手機內密鑰。
FBI認為手機可能存在與恐怖襲擊有關的重要信息,FBI試圖強迫蘋果幫助解鎖手機。但蘋果拒絕了,CEO Tim Cook表示,就安全性和法律先例而言,創建後門程序可能既“令人震驚”又“危險”。
最後FBI怎解決的?是找到了azimuth資安公司.
Azimuth創始人Mark Dowd在2015 發表
iOS 8.4.1 AirDrop Exploit Demo ,在手機上鎖狀況下,
接受攻擊方任意文件.且自動安裝執行.
https://www.youtube.com/watch?v=j3JODDmk2Hs
其同事David Wang @planetbeing 應該是負責應用漏洞提權程式,然後會再安裝ssh server,就開通usb ssh 傳送出關鍵資料...
此專案總共花了 FBI US 70萬美金. FBI之後有請David Wang到FBI做解密專家,不過Wang拒絕了最後成立corellium.
(應該不是如同台灣某單位找手機破密專家開價月薪nt 58K吧?)
其實還有一些方法
1.https://www.osslab.com.tw/iphone-5c-nand/
2.使用checkm8
https://blog.elcomsoft.com/2020/08/iphone-5-and-5c-passcode-unlock-with-ios-forensic-toolkit/
最後八卦是 當初不是某以色列C公司說他做的嗎? 😁
不過館長槍手手機真的是C公司解的.
參考出處.
https://www.washingtonpost.com/technology/2021/04/14/azimuth-san-bernardino-apple-iphone-fbi/
2016 server 在 prasertcbs Youtube 的最讚貼文
เชิญสมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้ได้ที่ ► https://www.youtube.com/subscription_center?add_user=prasertcbs
สอน MySQL ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GFmJDsZipFCrY6L-0RrBYLT
สอน PostgreSQL ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GGi_NqmIu43B-PsxA0wtnyH
สอน Microsoft SQL Server 2012, 2014, 2016, 2017 ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GH8gYuxpp-jqu5Blc7KbQVn
สอน SQLite ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GHjYJA4pfG38M5BcrWKf5s2
สอน SQL สำหรับ Data Science ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GGq8M6HO8xrpkaRhvEBsQhw
การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล (SQL Server, MySQL, SQLite) ด้วย Python ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GEdZtHwU3t9k3dBAlxYoq59
การใช้ Excel ในการทำงานร่วมกับกับฐานข้อมูล (SQL Server, MySQL, Access) ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GGA2sSqNRSXlw0OYuCfDwYk
#prasertcbs_SQL #prasertcbs #prasertcbs_MySQL #MySQL
2016 server 在 prasertcbs Youtube 的最佳貼文
เชิญสมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้ได้ที่ ► https://www.youtube.com/subscription_center?add_user=prasertcbs
สอน PostgreSQL ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GGi_NqmIu43B-PsxA0wtnyH
สอน MySQL ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GFmJDsZipFCrY6L-0RrBYLT
สอน Microsoft SQL Server 2012, 2014, 2016, 2017 ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GH8gYuxpp-jqu5Blc7KbQVn
สอน SQLite ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GHjYJA4pfG38M5BcrWKf5s2
สอน SQL สำหรับ Data Science ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GGq8M6HO8xrpkaRhvEBsQhw
การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล (SQL Server, MySQL, SQLite) ด้วย Python ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GEdZtHwU3t9k3dBAlxYoq59
การใช้ Excel ในการทำงานร่วมกับกับฐานข้อมูล (SQL Server, MySQL, Access) ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GGA2sSqNRSXlw0OYuCfDwYk
#prasertcbs_SQL #prasertcbs #prasertcbs_PostgreSQL
2016 server 在 prasertcbs Youtube 的最佳解答
ดาวน์โหลด PostgreSQL script ไฟล์ที่ใช้ในคลิปได้ที่ ► https://bit.ly/3oo4iSf
เชิญสมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้ได้ที่ ► https://www.youtube.com/subscription_center?add_user=prasertcbs
สอน PostgreSQL ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GGi_NqmIu43B-PsxA0wtnyH
สอน MySQL ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GFmJDsZipFCrY6L-0RrBYLT
สอน Microsoft SQL Server 2012, 2014, 2016, 2017 ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GH8gYuxpp-jqu5Blc7KbQVn
สอน SQLite ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GHjYJA4pfG38M5BcrWKf5s2
สอน SQL สำหรับ Data Science ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GGq8M6HO8xrpkaRhvEBsQhw
การเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล (SQL Server, MySQL, SQLite) ด้วย Python ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GEdZtHwU3t9k3dBAlxYoq59
การใช้ Excel ในการทำงานร่วมกับกับฐานข้อมูล (SQL Server, MySQL, Access) ► https://www.youtube.com/playlist?list=PLoTScYm9O0GGA2sSqNRSXlw0OYuCfDwYk
#prasertcbs_SQL #prasertcbs #prasertcbs_PostgreSQL
2016 server 在 在Microsoft Evaluation Center 試用Windows Server 2016 的相關結果
Microsoft Evaluation Center 為您提供了完整功能的Microsoft 產品評估軟體(可直接下載或在Microsoft Azure 上試用)。 ... <看更多>
2016 server 在 Windows Server - PChome 24h購物 的相關結果
看此分類的人也看了... ... C-Windows Server CAL 2019 繁中5 Clt User CAL 隨機版 ... 更多相關商品:. microsoft · server 2012 · windows server · server 2016 ... ... <看更多>
2016 server 在 Windows Server 2016 - 維基百科,自由的百科全書 的相關結果
Windows Server 2016(前稱Windows Server vNext)是微軟推出的第七個Windows Server系列作業系統,它是Windows 10的伺服器版本。它的第一個早期預覽版本(技術預覽 ... ... <看更多>