ทีมงาน miHoYo เปิดตัวแพทช์ 2.0 ของ Genshin Impact แล้วอย่างเป็นทางการ โดยคราวนี้มาในชื่อ “สายฟ้านิรันดร์ กับความฝันอันว่างเปล่า” กำหนดอัปเดตในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้
.
วิดีโอตัวอย่าง (ภาษาญี่ปุ่น) :
https://youtu.be/H8NhrjsRBO4
วิดีโอตัวอย่าง (ภาษาอังกฤษ) :
https://youtu.be/gEOI-Ae_aaU
.
สำหรับแพทช์นี้ก็เรียกได้ว่าสิ้นสุดการรอคอยอันยาวนาน เพราะผู้เล่นจะได้เข้าไปสำรวจแผนที่ใหม่ "Inazuma" กันแล้ว พร้อมดำเนินเรื่องราวของทวยเทพลำดับที่ 3 ต่อไปอย่างเข้มข้น
.
ตัวละครที่จะเพิ่มเข้ามาในตู้กาชาของเวอร์ชันนี้ ประกอบไปด้วย Ayaka (ให้เสียงโดย Saori Hayami), Yoimiya (ให้เสียงโดย Kana Ueda), Sayu (ให้เสียงโดย Aya Suzaki) และมีตัวละครอื่น ๆ อย่าง Raiden Shogun กับ Yae Miko ที่จะยังมีบทบาทแค่ภายในเควสต์หลักเท่านั้น แต่ก็คาดว่าจะมาเป็นตัวละครให้เล่นได้ในอนาคตอย่างค่อนข้างแน่นอน
.
นอกจากนี้ ตัวเกมก็จะรองรับระบบ Cross-save เต็มรูปแบบ โดยสามารถเชื่อมต่อระหว่างบัญชี PSN และ miHoYo ได้ ทำให้ผู้เล่นบน PlayStation จะสามารถย้ายมาเล่นบน PC และมือถือได้แล้ว
.
ทั้งนี้ก็มีข้อจำกัดว่าผู้เล่นจะต้องมีความคืบหน้าของไอดีอยู่เพียงแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น แยกเป็น 2 กรณี ได้แก่
- เล่นบน PC / มือถือด้วยบัญชี miHoYo จะต้องผูกกับบัญชี PSN ที่ไม่เคยเข้าเล่นเกมมาก่อน
- เล่นบน PlayStation ด้วยบัญชี PSN จะต้องผูกกับอีเมลที่ยังไม่เคยลงทะเบียนกับทาง miHoYo มาก่อน
.
จึงหมายความว่าหากใครเคยเล่นเกมนี้ผ่านบัญชีทั้ง 2 แบบมาแล้ว จะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ว่าจะเก็บบัญชีใดไว้ และต้องสมัครอีกบัญชีขึ้นมาใหม่เพื่อนำมาผูกเข้าด้วยกัน
.
Genshin Impact เวอร์ชัน 2.0 จะอัปเดตในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ พร้อมกันทั้งบน PlayStation 5, PlayStation 4, PC, iOS และ Android
.
ที่มา : https://www.hoyolab.com/genshin/article/533188
https://blog.playstation.com/2021/07/09/genshin-impact-version-2-0-all-about-inazuma
.
#ข่าวเกม #GamingDose #GenshinImpact
同時也有7部Youtube影片,追蹤數超過6萬的網紅ANIBON,也在其Youtube影片中提到,สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเดิมและอัพเดทข้อมูลข่าวสารของรายการ และช่องทางในการอัพโหลดคลิปหลักปัจจุบัน คือได้ที่ Facebook Fanpage : https://www.facebook.co...
「ได้ ภาษาอังกฤษ」的推薦目錄:
- 關於ได้ ภาษาอังกฤษ 在 GamingDose Facebook 的最佳貼文
- 關於ได้ ภาษาอังกฤษ 在 พี่ม้าพาเที่ยว ฮี่ฮี่เจแปน Facebook 的最佳貼文
- 關於ได้ ภาษาอังกฤษ 在 BeamSensei Facebook 的最佳貼文
- 關於ได้ ภาษาอังกฤษ 在 ANIBON Youtube 的最佳解答
- 關於ได้ ภาษาอังกฤษ 在 Shorty Bluejova Youtube 的最佳貼文
- 關於ได้ ภาษาอังกฤษ 在 NotIsGoD เบสไวน์ Youtube 的最佳貼文
- 關於ได้ ภาษาอังกฤษ 在 ได้ค่ะ/ได้ครับ สุภาพกว่าคําว่า YES คือ? - YouTube 的評價
- 關於ได้ ภาษาอังกฤษ 在 ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ภาษาอังกฤษไม่ใช่ “I don't think like that!” มี ... 的評價
- 關於ได้ ภาษาอังกฤษ 在 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน): หน้าหลัก 的評價
ได้ ภาษาอังกฤษ 在 พี่ม้าพาเที่ยว ฮี่ฮี่เจแปน Facebook 的最佳貼文
ขอบคุณญี่ปุ่น ต่อให้ต้องเลือกอีกกี่ครั้งก็ขอเลือกไปญี่ปุ่น😊😊😊
-
รีวิวการทำงานเป็นสถาปนิกที่ญี่ปุ่นและการลาออก
-
1. หางาน
ขอเริ่มที่การทำงานก่อนนะคะ เผื่อใครที่มีแพลน หรืออยากทำงานที่บริษัทญี่ปุ่น ม้าเรียนจบโท ถาปัตย์ ม.โตเกียว ปี 2016 ที่ญี่ปุ่นจะมีฤดูที่เรียกว่าหางาน จะเป็นช่วงต้นมค อันนี้แล้วแต่บริษัทเลยนะคะ บริษัทที่ม้าอยากจะเข้า เปิด1ครั้งต่อปี อันนี้ต้องดูดีๆและ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้นค่ะ ฤดูหางานคือช่วงเดือน มกรา - มีนา แต่ต้องศึกษาดีๆ แต่ละบริษัทไม่เหมือนกันค่ะ (รายละเอียดการสมัคร จะอยู่ในโพสนะคะ )ตอนนั้นหวังแค่อย่างเดียว ว่าต้องเข้าบริษัทนี้ เค้าก็จะมีสอบ5ขั้นตอน รอบแรก ส่งapplication,สอบตรรกะ ,สอบ ภาษาอังกฤษ,แล้วอีกประมาณ 1 เดือน สอบข้อเขียน ถ้าข้อเขียนผ่าน ก็ได้ไปต่อสัมภาษณ์กรรมการ 5ต่อ 1 ประกาศผลภายในวันเดียวกัน แต่อันนี้แล้วแต่บริษัทเลยนะคะ
ถ้าใครไปญี่ปุ่นช่วง มค-มีนา จะเห็นเลย หน้าเอ๊าะๆ ใส่สูท นี่เดินกันว่อน
กระเป๋าเหมือนๆกัน
----------------------------
2.การทำงาน เหนื่อยแต่สนุก กลับดึกเรื่องปกติ ขอแอบสรุปแล้วกันค่า
- ผู้หญิงในทีมคนเดียว หลายคนอาจจะกลัว แต่ไม่ต้องไปคิดมาก ทำในส่วนของเรา ทำเท่าที่ทำได้ วันที่เครียดมีอยู่แล้ว และวันที่เจ้านายเครียดเพราะมีเราก็ต้องมีอยู่แล้วค่ะ ;D
- ได้เรียนรู้เยอะมาก แย่สุดคือเรื่องสภาพอากาศ เพราะม้าเป็นคนขี้หนาว เคยขึ้นไปดูsite ตอน หน้าหนาว อุณหภูมิติดลบ จำได้ หนาวไปถึงจักกะแร้ แค่ตื่นมาบางวัน ตอนที่โตเกียว หิมะตกหนัก อื้อหือออ เดินฝ่าหิมะอย่างเดียวก็เหนื่อยแล้ว ช่วงนั้นหนักสุดคือหาซื้อเสื้อทำงานแบบไม่ยับ เพราะจะใส่เสื้อทำงานนอน ตอนเช้าตื่นมาแล้วไปเลย (อากาศเป็นเรื่องนึงที่ม้าไม่ชอบ เพราะเป็นคนขี้หนาวมาก คือถ้าขับรถเมืองไทย ก็เป็นคนไม่เปิดแอร์ในรถ ชอบอยู่ร้อนๆ แบบวันไหน อยู่ในห้องแอร์ จะหงุดหงิดมาก )ตอนไปญี่ปุ่น แรกๆเลยคือ ใส่5 ชั้นได้ ถ้าใครทนสภาพอากาศหนาวได้ ชีวิต ชอบ 4 ฤดู ชีวิตไม่น่าเบื่อ ญี่ปุ่นนี่เหมาะมากค่ะ
- จันทร์-ศุกร์ทำงาน ถามว่าเลิกดึกไหม ก็ไม่มีไม่ดึก 9โมง- 3ทุ่ม คือปกติ กลับบ้านแล้วสลบ เสาร์อาทิตยนั่งทำคอนเทนต์ ระหว่างอยู่บนรถไฟนั่งเขียนรีวิว ชีวิตวนแบบนี้ไปตั้งแต่ ปี2014 สมัยก่อนทำงานเยอะกว่านี้ อันนี้บอกน้องรุ่นใหม่ๆเลยว่า ทำงานให้เยอะที่สุด แล้วเราจะหาตัวเองเจอ ให้ทำงานที่หลากหลายนะคะ ม้าไปตั้งแต่ปี2014 (ตอนนั้นอายุ23) ไปถึงวันที่2 ก็ไปสมัครเป็นครูภาษาไทย ให้คนญี่ปุ่น ฟังสัมภาษณ์ยังไม่รู้เรื่องเลย แน่นอนค่ะ ตกค่ะ จากนั้นก็ทำงานร้านอาหาร ทำเซเว่น ทำcall center ที่ดองกี้ 7.00-9.00 ทำเซเว่น ทำเสร็จไปเรียน เรียนเสร็จ กลับมาทำงานร้านอาหารต่อถึง 5ทุ่ม พอได้ภาษาแล้วก็ค่อยๆขยับ ไปทำล่าม แปลงานบ้าง งาน food expo แล้วก็ไป intern บริษัทถาปัตย์ 3บริษัท ระหว่างทำโท แต่เวลาทำงานต้องมีจุดมุ่งหมาย ของม้าตอนที่ไปทำเซเว่น หรือร้าน อาหาร ก็คือ อยู่แค่ที่ละ 3เดือนพอ อยู่จน อ๋อ มันเป็นแบบนี้ อย่าให้เงินเป็นปัจจัยหลัก เงินน้อย งานดี ทำให้ได้นานๆ เงินดี แต่งานไม่ได้รู้อะไร ต้องพิจารณาดีๆนะคะ
- ที่ทำงานที่ ญป ข้อดีเลย คือหัวหน้าก็ไม่มีห้อง ต้องระดับ CEO หรือสูงมากๆถึงจะมีห้อง เพราะฉะนั้น ม้านั่งขนาบ หัวหน้าโปรเจค กับ หัวหน้าแผนก จามทีคือได้ยินกันทั้งชั้น นั่งเรียงกันเป็นตับเลย ใกล้ชิดเหลือเกิน ข้อดีคือการทำงานเเบบส่งอีเมลล์ อย่างเดียว ไม่มีการใช้ไลน์ ชีวิตที่ทำงานกับ ชีวิตส่วนตัวแยกออกจากกันเลย
- เพื่อนที่ทำงานค่อนข้างดีมากจริงๆค่ะ รู้จักคนให้เยอะ หลากหลายอาชีพ ตัวเราอาจจะโชคดี ม้าเจอแต่เพื่อนดีๆ ถ้า100 คน จะมีเเบบ ที่ไม่ค่อยอยากเป็นเพื่อนด้วยสัก1 คน ส่วนมากจะสนิทกับเพื่อนต่างชาติแทน เข้าใจกันหัวอกเดียวกัน
- การทำงานกับคนญี่ปุ่น ที่แน่ๆ คือได้ความละเอียดขึ้น คติมีอยู่อย่าง ถ้าเวลาไม่ได้จำกัด ให้ทำงาน ไปเรื่อยๆ แล้วถามตัวเองว่า อันนี้ดีที่สุดหรือยัง ถ้ายังไม่ดี ดีกว่านี้ได้ไหม แต่ถ้าในเวลาที่จำกัด ทำงานให้ได้เร็วที่สุด บางครั้งการตัดสินใจช้า ทำให้เราพลาดไปไกล คิดเร็วทำให้เร็วกว่าพลาดแล้วเรียนรู้ วนเป็นลูปไป อย่างน้อยก็ต้องได้อะไร
-สมัยที่ทำงานแรกๆ ก็คืองง ม้าตัดโมเดลแล้วทำหลังคาผิดไป 2 องศา แล้วนายเดินมาบอก ว่าผิดไป ดูยังไงก็ผิด นายขยับๆ แป๊ปเดียว slope เป๊ะเลย คือเค้าละเอียดแบบที่ โอ้วมายกู้สเนส แรกๆจะแอบหงุดหงิด แต่พอย้อนเวลากลับไป ก็นึกขอบคุณทุกวัน
----------------------------
การลาออก
จริงๆเรื่องลาออกคิดทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ไม่คิด แต่ตอนนั้นรู้สึกว่า อยู่ที่นี่ก็สบายดี เงินเดือนดี สวัสดิการดี ที่พักก็ฟรี เสาร์อาทิตย์ก็ไปเที่ยว อยากไปไหนก็ไป แต่เรารู้ตัวเองว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นสถาปนิกไปตลอดชีวิต คืออยากกลับไปทำอะไร แต่ก็ยังไม่รู้จะทำอะไร รู้แต่ว่าชอบเดินซื้อของ แต่ซื้อไปขายนะคะ เวลาม้าไปเดินห้าง จะไม่ซื้อของ แต่จะดูแล้วก็ดู ว่าเค้าทำอะไร อันนี้จะขายได้ไหม อันนี้ดีไซน์ดี แต่ไม่ได้ซื้อนะคะ แค่รู้สึกว่าอันนี้น่าเอาเข้าไทย แล้วก็ค่อยๆทำพรีออเดอร์ คู่กับงานประจำ ทำรีวิววันเสาร์-อาทิตย์
----------------------------
จุดพลิกก็คือ เริ่มรู้สึกว่า ไปทำงานทำไม เหมือนมันไม่มีใจอีกต่อไปแล้ว เราไม่ได้อยากออกแบบ สนามบินไปตลอดชีวิต ทีมที่ม้าทำคือ ทำ Airport เป็น specialist ด้านการออกแบบสนามบิน และถ้ากลับไทยไป จะไปทำงานอะไร แล้วเราก็ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่นี่จนตาย คืออยากกลับเมืองไทยมาตลอด แค่รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา แต่พอชีวิตมันเริ่ม Routine ขึ้นก็เลยขอลอง take leave
----------------------------
ที่ญี่ปุ่น take leave ได้ 3-6 เดือน หรือ1 ปี (แล้วแต่บริษัทนะคะ) ม้าเลือกที่จะ take leave ก่อน และยังได้เงินเดือน 50% ตอนแรกบอกแม่ ขอtake leave สัก 6 เดือน แม่บอก take ขนาดนั้นไปลาออกเถอะ ก็เลยคุยกันได้ว่า งั้นขอ3เดือน กลับไทย กลับไปเครียล์ตัวเอง ว่าอยากทำอะไรต่อ หรือ จะกลับมาทำงานต่อที่ญี่ปุ่น สุดท้ายคำตอบก็คือ จะอยู่เมืองไทย พอผ่านไป 3 เดือน กลับไปญี่ปุ่น เพื่อกลับไปลาออกค่ะ ม้ายื่นซองขาว ตอนยื่นเสร็จ น้ำตาก็คลอๆ แต่ทุกคนในทีม ก็เข้ามาบอก ว่าสภาพเราดีมาก ดูแฮปปี้ มาก ดูมีความสุขกว่าตอนที่อยู่ที่นี่อีก ก่อนจะออกม้าก็ถามหัวหน้าว่า ไม่รู้เหมือนกัน ว่าการตัดสินใจของเรานั้นถูกไหม เค้าตอบม้าว่า ไม่มีใครรู้ แต่ถ้าเราเลือกแล้ว มันคือสิ่งที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น แล้วก็เลยกลับมาไทย ทำบริษัทอสังหาที่ไทยอีกปีนึงค่ะ และสุดท้ายก็คิดว่าน่าจะเป็นการลาออกครั้งสุดท้าย
----------------------------
ลาออกครั้งสุดท้าย
ม้าว่าทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง When to Jump ของแต่ละคนไม่เท่ากัน และไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่น วันที่เลิกเป็นสถาปนิกแล้วไปขายของออนไลน์ กลัวไหมกลัว อยากทำไหม อยากทำ แต่ที่แน่ๆมีความสุขเยอะขึ้นค่ะ เป็นสิ่งที่เราชอบ มาตั้งแต่เด็กๆ ตอนเด็กๆชอบอยู่2 อย่างคือ เล่นsims กับ ขายของ แต่ตอนนั้นที่บ้านบอกให้เลือกที่เป็นวิชาชีพ ก็เลยเลือกถาปัตย์ แต่ก็ยังชอบขายอยู่เรื่อยๆ
อย่าเพิ่งลาออก ถ้ายังคิดไม่ออก
ม้าว่าชีวิตคนเราควรมีหลายๆตัวเลือกนะคะ คนเราไม่จำเป็นต้องทำอย่างเดียว พูดได้คำเดียวว่าให้ขยัน และอดทน แต่อยากให้เริ่มเลย เริ่มกระเตาะกระแตะ อยากทำอะไรให้ทำ ดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลัง
IG pmahpmahh มันชอบกินข้าว มันเกิดมาเพื่อกิน
IG pmahshop เผื่อวันไหนอยากช็อปปิ้ง คิดถึงม้าบ้างก็ดี
ด้วยรักค่ะ
ได้ ภาษาอังกฤษ 在 BeamSensei Facebook 的最佳貼文
Beam’s Story เรื่องของบีมและญี่ปุ่น (EP22)🌸⛩
【สอบเข้ามหาลัย เตรียมตัวยังไง เลือกมหาลัยอะไรบ้าง !!!】
ปล.นานแล้วนะ เกิน 10 ปี ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 📚
แต่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับน้องๆและผู้อ่านค่ะ 🏫
บีมเตรียมอ่านหนังสือสอบเข้ามหาลัยตั้งแต่ช่วงปิดเทอมเล็กม.4 แต่ตอนนั้นอ่านแต่ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียวนะ คือมีเวลาว่างก็พยายามอ่านทบทวน ท่องศัพท์ เอาข้อสอบเก่าๆมาทำ ทำทุกปิดเทอมเลย
ก็ยอมรับว่าขยันมากมาย ที่ขยันไปก็ไม่ใช่อะไร
นอกจากภาษาญี่ปุ่นกับคอมพิวเตอร์คือบีมไม่มีอะไรเรียนได้ดีเลยอะ 555
จนประมาณปลายเทอมม.5มั้งถึงเริ่มเรียนพิเศษวิชาที่จำเป็นต้องใช้ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคม
ใจนึงบีมแอบเสียดายนะ กับความรู้(ที่ไม่ค่อยเข้าหัว555)ในสายวิทย์ที่บีมเรียนมา หลายๆคนคิดว่าถ้าบีมเรียนภาษาก็ได้ ไปทางสายวิทย์ก็ได้มันน่าจะต่อยอดออกไปได้หลายอย่าง ได้ทั้งวิชาสายวิทย์ แล้วก็ยังได้ภาษาอีก
ซึ่งบีมก็เคยคิดแบบนั้นแหละ บีมถึงเลือกเรียนสายวิทย์มา แต่พอมาเทียบกับความสุขในอนาคตที่น่าจะไม่มี เพราะทรมานกับการเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบแล้ว
ก็เลยตัดสินใจ "เท" ทุกอย่างไปหมด เป้าหมายอย่างเดียวคือ “ฉันต้องเข้ามหาวิทยาลัยภายได้ภาควิชาเอกภาษาญี่ปุ่นให้ได้”
สมัยรุ่นที่บีมสอบเป็นรุ่นที่เรียกว่า Admission โดยใช้ผลสอบ Anet-Onet +คะแนน Gpax ที่โรงเรียนรวมกัน บอกตรงๆว่าคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องจริงๆ คุยกับใครไม่รู้เรื่องด้วย เพราะรอบตัวเราไม่มีใครเป็นเหมือนเราเลย เพราะเราตัดใจแบบทิ้งทุกสิ่งอย่างแล้วเบนไปสายภาษา 100%
อาจารย์แนะแนวก็ช่วยแนะนำมากไม่ได้ นอกจากบอกว่าให้พยายามเข้านะ เธอน่าจะทำได้แหละ
สุดท้ายก็ช่วยกันดูกับแม่อย่างเดียวว่าเราจะเลือกที่ไหนบ้าง ใช้คะแนนสอบของอะไรบ้าง สรุปก็คือ เอกภาษาญี่ปุ่นที่บีมจะเลือกมี
1.อักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
2.ศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์
3.มนุษย์ศาสตร์ เกษตร
4.อักษรศาสตร์ ศิลปากร
สมัยบีมให้เลือกได้ 4 อันดับค่ะ ซึ่งบีมเลือกตามนี้ เรียงลำลับตามนี้เลย วิชาที่ใช้สอบคือ
A-net ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษาญี่ปุ่น
O-net ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคม
บีมถึงได้เทเลขกับวิทย์ได้ด้วยประการฉะนี้ 555
เทนี่คือ เทหมดหน้าตักนะคะ คือไม่แตะ ไม่อ่าน ไม่ทบทวน ไม่อะไรทั้งสิ้น
บีมขอไม่พูดถึงมหาลัยอื่นเพราะบีมจำข้อมูลไม่ได้ 555 จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า บางมหาลัยทุกคนต้องเริ่มเรียนนับ 1 ใหม่หมด บางมหาลัยต้องใช้คะแนนญี่ปุ่นเท่านั้นถึงเข้าได้ สามารถเข้าไปเรียนต่อระดับกลางได้เลย ซึ่งบีมขอยกตัวอย่างธรรมศาสตร์
ธรรมศาสตร์ในตอนนั้นหากจะเข้าเอกญี่ปุ่นรับ 2 แบบ คือ
1. มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ใช้คะแนนญี่ปุ่นยื่น ถ้าติดก็เข้าไปเลย 25 คนของประเทศ
2. ไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ใช้คะแนนอื่นที่ไม่ใช่ญี่ปุ่นยื่น ห้ามมีคะแนนญี่ปุ่น เข้าไปเอกรวม ลงเรียนวิชาญี่ปุ่นแล้วไปแข่งกันเข้าเอกทีหลัง
ซึ่งบีมเลือกแบบแรก บีมก็ใช้คะแนนญี่ปุ่นยื่นไปเลย แต่มาคิดย้อนหลังก็ใจกล้ามากนะ ไม่ได้เรียนศิลป์ญี่ปุ่นมาด้วย เรียนพิเศษเป็นงานอดิเรก แต่ประเมินตัวเองจากเพชรยอดมงกุฎที่ผ่านมา ถ้าพยายามมากขึ้นก็น่าจะติดจุฬาได้อยู่
พูดตามตรงว่า คณะที่บีมใฝ่ฝันคืออักษรศาสตร์จุฬา เพราะด้วยความที่เราได้รับอิทธิพลจากสังคมรอบข้าง ใครๆก็พูดว่าจุฬาๆๆๆ บีมต้องเข้าจุฬาให้ได้
แต่บีมไม่ได้คิดว่ามหาลัยอื่นไม่ดีนะ เพียงแต่ไม่มีข้อมูลในหัวเลยตอนนั้น ไม่มีอิมเมจเลยว่ามหาลัยอื่นเป็นยังไง รู้จักแค่อักษรจุฬาจริงๆ บีมอยากจะไปยืนจุดที่บีมคิดว่าบีมน่าจะพอใจถ้าบีมทำได้
จะพูดเรื่องการเตรียมตัวสอบ ทำไมมันยาวขนาดนี้ได้ 555
บีมค่อนข้างเป็นเด็กที่มีระเบียบกับชีวิต นอกจากการเขียนบันทึกแล้วบีมจะตั้งเวลาและตารางไว้เลยว่าวันนี้บีมจะทำอะไรบ้าง ต้องเสร็จกี่โมง และบีมจะภูมิใจมากถ้าวันนั้นการใช้ชีวิตของบีมเป็นไปตามตารางที่บีมตั้งไว้ ซึ่งทุกวันนี้บีมก็ยังมีนิสัยอย่างนั้นอยู่นะ 555 มันถึงทำเพจมาได้นานขนาดนี้อะทุกคนนน
ตั้งแต่เด็กๆพ่อแม่ไม่เคยบังคับให้บีมอ่านหนังสือเลย บีมจะอ่านเอง คือเป็นคนไม่เครียดเรื่องอะไรในชีวิตเลย ยกเว้นอย่างเดียวคือเรื่องเรียน เกรดบีมจะตกกว่า 3.8 ไม่ได้ เคยแค่เทอมเดียว ได้ 3.76 บีมร้องไห้ไม่หยุดเลย 555555 บ้าบออออออออออออออ
คือเราก็มีเป้าหมายของเราอะเนอะ เราเป็นคนที่มีนิสัยตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้สูงมากตั้งแต่ตอนเด็กๆ เป้าหมายสูงๆเพื่อทำให้ตัวเราพยายามก้าวไปให้ถึง แต่พอร่วงนี่เจ็บปวดรวดร้าวมากจ้า
ที่บ้านไม่เคยพูดว่าถ้าแกสอบไม่ได้เกิน 3.8 จะไม่ได้ค่าขนมไรงี้ ไม่มีเลย เป็นคนที่กดดันตัวเองเอง ทำตัวเองล้วนๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ดังนั้นตอนปลายๆม.5 บีมก็เริ่มจริงจังละ บีมตั้งไว้เลยว่าวันนี้บีมจะอ่านทบทวนวิชาอะไร กี่โมงถึงกี่โมง ต้องนอนกี่โมงตื่นกี่โมง
บีมวางหนังสือเรียงไว้เลย ทำตารางไว้เลยของทั้งปี คนส่วนมากทำตารางเป็นวันเป็นสัปดาห์เนอะ ของบีมคือ มีเขียนไว้ตั้งแต่ วัน สัปดาห์ เดือน ปี บ้าไปแล้ว
วางหนังสือเรียงไว้เต็มห้อง
อันนี้สำหรับอ่านวันนี้ อันนี้พรุ่งนี้ แยกชัดเจน แบ่งเวลาชัดเจน เทคนิคของบีมคือ
1. ใช้เวลาครึ่งปีอ่านทบทวนทั้งวิชาที่จะใช้ทั้งหมดก่อน ให้มีข้อมูลวนไปวนมาให้อยู่ในหัว
2. ไปอ่านที่ไหนมาไม่รู้ว่าไม่ควรอ่านหนังสือดึกๆ ควรอ่านเช้าๆเพราะจะจำได้ดี บีมทำขนาดที่ว่าบีมนอนสอง-สามทุ่ม แล้ว ตื่นตี3 ตี4 ทุกวันเพื่ออ่านหนังสือ 555 แล้วพอตี 5 ก็แต่งตัวไปโรงเรียน บังคับให้พ่อซื้อแบรนด์ซื้อวีต้ามากินด้วย ทำแบบนี้อยู่หลายเดือนเลยนะ
จริงๆบีมว่าอาหารเสริมไม่น่าช่วยอะไรหรอกมั้ง แต่ช่วยทางจิตใจได้มากเลย 55555555
3. หลังจากอ่านทบทวนทุกอย่างเสร็จ ก็เริ่มทำข้อสอบเก่าย้อนหลัง 10 ปี ของทุกวิชาที่ต้องใช้
4. การทำข้อสอบของบีมบีมไม่ได้ทำในหนังสือเลย บีมซื้อกระดาษคำตอบมาแบบที่ใช้สอบที่โรงเรียน อิใบเขียวๆอะ 555
แล้วเขียนชื่อวิชา เขียนปีของข้อสอบ แล้วกาในกระดาษคำตอบเลย (บีมยังเก็บซากไว้อยู่นะ)
5. ข้อสอบฉบับเดียวไม่ได้ทำครั้งเดียว เพื่อไม่ให้เบื่อ บีมทำสลับไป สามวิชา อังกฤษไทยสังคม ย้อนหลังประมาณ 10 ปี ข้อไหนผิดเราก็ไปอ่านเฉลยดูว่าผิดได้ยังไง จำที่เราผิดพลาด แล้ววนทำใหม่อีกนะ
สุ่มเอาว่าจะได้ทำฉบับไหน
6. ภาษาญี่ปุ่นก็เช่นกัน บีมท่องศัพท์ในหนังสือได้ทุกคำ เพราะบีมคิดว่าเรียนมาแล้วมันไม่ควรลืม โอ๊ย 555
แล้วบีมเรียนด้วยหนังสือ Minna no Nihongo นะตอนนั้น ซึ่งเด็กที่เรียนศิลป์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่เรียนด้วย Akiko to Tomodachi
ด้วยความที่บีมคิดว่าบีมอาจจะสู้เด็กศิลป์ญี่ปุ่นไม่ได้ เพราะหนังสือแบบเรียนสองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน บีมไปหาซื้อ Akiko to Tomodachi มาหมด 6 เล่มเลย แล้วอ่านตั้งแต่แรกยันจบ ลิสต์คำศัพท์และรูปไวยากรณ์ที่ไม่มีในหนังสืออีกเล่มที่บีมใช้เรียน
7. ในส่วนของข้อสอบชุดนึงบีมทำหลายรอบเหมือนกัน ทำวนไปโดยการสุ่ม จะได้จำไม่ได้ว่าทำไปแล้วหรือยังไม่ได้ทำ พยายามดูว่าเราผิดตรงไหน ต้องหาคำตอบให้ได้ บีมตั้งเป้าไว้ว่าบีมต้องทำคะแนนภาษาญี่ปุ่นให้ได้เกิน 90 เต็ม 100 ทุกฉบับย้อนหลัง (ตอนทำก็ได้บ้างไม่ได้บ้างนะ แต่ไม่เคยได้ 100 เต็ม ฮ่าๆๆ)
8. สามเดือนหลังบีมก็เลิกอ่านหนังสือแล้ว ทำข้อสอบเก่าๆอย่างเดียว อันไหนไม่เข้าใจค่อยไปเปิดอ่านทบทวน ซึ่งชีวิตม.6 บีมก็วนอยู่แค่นี้แหละ จนถึงวันสอบ
------------------------
เป็นไงสาวอึดมั้ย
ยอมรับว่าเป็นคนมีวินัยในตัวเองมากจริงๆ
ใครมาชมก็คือจะไม่ถ่อมตัวเลย เพราะเรารู้ว่าตัวเองมีนิสัยแบบนั้น
ก็ภูมิใจว่าความมีวินัยของเราคือสิ่งที่ทำให้เรามีวันนี้นะ ควรภาคภูมิมากกว่าถ่อมตัว 555555555555555555
อยากรู้แล้วใช่มั้ยวันสอบเป็นยังไง
น้ำตาแตกหลายรอบเลยจ้า
รออ่านตอนต่อไปนะ
*ตอนเก่าๆไถหาเอานะ*
BeamSensei
ได้ ภาษาอังกฤษ 在 ANIBON Youtube 的最佳解答
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเดิมและอัพเดทข้อมูลข่าวสารของรายการ และช่องทางในการอัพโหลดคลิปหลักปัจจุบัน คือได้ที่
Facebook Fanpage : https://www.facebook.com/phuboatanibon
งานพากษ์เก่าๆ : http://www.dailymotion.com/AnibonOfficial
ตารางคะแนนอนิเมะของรายการอนิบ่น สามารถเข้ามาดูได้ที่นี้ : https://goo.gl/hdZScU
หรือทางบัญชี MyAnimeList ได้ที่ : https://myanimelist.net/profile/AnibonOfficial
ท่านสามารถติดตามรายละเอียดในการ Donate (บริจาคเงิน) สนับสนุนรายการ ได้ ณ ตรงนี้เลยครับ คือ
ช่องทางที่ 1 : ผ่านการให้รหัสบัตรทรูมันนี่หรือโอนผ่านบัญชี True Wallet ได้ที่ลิ้ง : https://tmstreamlabs.cupco.de/ANIBON
ช่องทางที่ 2 : ผ่านธนาคาร ไทยพาณิชย์, เลขที่บัญชี : 406-314195-4, ชื่อบัญชี : นาย ศุภกร จันทร์งาม
ช่องทางที่ 3 : ผ่านบัญชี Paypal, อีเมล์ " anibonofficial@gmail.com ", ชื่อ Supagorn Channgam
ได้ ภาษาอังกฤษ 在 Shorty Bluejova Youtube 的最佳貼文
Spiritwish (스피릿위시) เกมมือถือ MMO กราฟิกคล้ายๆ Tree of Savior แต่ระบบการเล่นไม่เหมือนกันนะ
- DOWNLOAD http://appair.biz/Game/1564
- ภาษาอังกฤษ https://appair.biz/Game/1911
- เกมนี้เล่นใน PC ได้ http://appair.biz/Pages/AndroidPC
- เกมนี้ต้องใช้เน็ตขณะเล่น (ออนไลน์)
- เกมนี้ใช้เนื้อที่ประมาณ 2.71GB (ส่วนใหญ่อยู่ใน SD Card)
ข้อมูลสำคัญ
- ดูเกมมือถืออื่นๆ ได้ที่ http://appair.biz
- มือถือที่ใช้ปัจจุบัน iPhone X และ Huawei Mate 9
- PC ที่ใช้ปัจจุบัน https://notebookspec.com/pc/4659573
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
- Fanpage1 https://www.facebook.com/shortybluejovaofficial/
- Fanpage2 https://www.facebook.com/nngamingtv
#shortybluejova
ได้ ภาษาอังกฤษ 在 NotIsGoD เบสไวน์ Youtube 的最佳貼文
ต้นฉบับ พายุเข้าแต่คุณก็ต้องไปเรียน :
https://www.facebook.com/pollosus/videos/1629776803966089/
ต้นฉบับ หน้าหนาว :
https://www.facebook.com/pollosus/videos/1937975059812927/
ต้นฉบับ ความหวังตอนสอบ :
https://www.facebook.com/pollosus/videos/1655472341396535/
ต้นฉบับ พรีเซ็นท์ วิชา ภาษาอังกฤษ :
https://www.facebook.com/pollosus/videos/1998786140398485/
---------------------------------
ติดตามผลงาน
กด Subscribe เพื่อเป็นกำลังใจ ให้ด้วยนะครับ
https://www.youtube.com/channel/UC5Mv_dFDqla-rP7RDwtoznQ?sub_confirmation=1
และสามารถ ดูผลงานอื่นๆ ได้
------------------------------------------------------------
Fanpage กดไลท์ไม่พลาด คลิปใหม่ๆ
https://www.facebook.com/pages/Notisgod-Maso/242424675928285?ref=hl
------------------------------------------------------------
****แค่ 1 Sub หรือ 1 ไลค์ ผมก็โคตรดีใจแล้ว
ได้ ภาษาอังกฤษ 在 ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ภาษาอังกฤษไม่ใช่ “I don't think like that!” มี ... 的美食出口停車場
ฉันไม่ ได้ คิดแบบนั้น ❌ ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ “I don't think like that!” ❌ มีวิธีการพูดหลายแบบมากๆ ใครมีประโยคไหนในใจ ลองพิมพ์ไว้ที่เม้นต์เลยค่ะ. ... <看更多>
ได้ ภาษาอังกฤษ 在 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน): หน้าหลัก 的美食出口停車場
ปลูกป่า ได้มากกว่าต้นไม้ · ส่งเสริมเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ... อเมริกันซามัว, ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, อังกฤษ (สหราชอาณาจักร) ... ... <看更多>
ได้ ภาษาอังกฤษ 在 ได้ค่ะ/ได้ครับ สุภาพกว่าคําว่า YES คือ? - YouTube 的美食出口停車場
คำว่า “Yes” พูด ได้ หลายแบบเป็น ภาษาอังกฤษ #english #เรียนออนไลน์ #learning #ความรู้. David William. David William. ... <看更多>