Hermistar กาแฟเปลี่ยนไซด์ของโปรดลูกจัน ✨ กาแฟคุมหิว อิ่มนาน ลดการทานจุกจิก 💕 แถมรสชาติยังกลมกล่อมสดชื่น 🌿 ช่วยกระชับสัดส่วน ลดไขมันสะสมทานแล้วหุ่นผอมเพียวแบบไม่โยโย่ และช่วยบำรุงผิวพรรณจากคอลลาเจน 🐟 ครบจบในตัวเดียวเลยค่ะ 🥰 ไม่มี ไขมันทรานส์ น้ำตาล และคอเลสเตอรอล อีกด้วย 🎉
🌈 เพียงทานวันละ1-2ซอง ชงน้ำร้อน 100-120ml (อยากผอมไวให้ทานครั้งละ 2 ซอง เห็นผลไวมาก 💪🏻
#Hermistarcoffeeกาแฟเปลี่ยนไซด์☕️🫖
同時也有8部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅FITWHEY,也在其Youtube影片中提到,https://fitwhey.com/promotion/BAAM-SET/ 100% WHEY PROTEIN 26 กรัมโปรตีนต่อช้อน - โปรตีนแท้ๆแบบปราศจาก AMINO SPIKING 1 กรัม น้ำตาล |40mg Cholesterol | ...
「ไขมันทรานส์」的推薦目錄:
- 關於ไขมันทรานส์ 在 Lugjun indy ( ลูกจัน อินดี้ ) Facebook 的最佳解答
- 關於ไขมันทรานส์ 在 หมอๆ ตะลุยโลก Facebook 的最讚貼文
- 關於ไขมันทรานส์ 在 BKreview - เรารีวิวทุกความอร่อย Facebook 的最佳貼文
- 關於ไขมันทรานส์ 在 FITWHEY Youtube 的精選貼文
- 關於ไขมันทรานส์ 在 Wongnai Youtube 的最佳解答
- 關於ไขมันทรานส์ 在 PHOLFOODMAFIA Youtube 的最佳解答
- 關於ไขมันทรานส์ 在 ไขมันทรานส์ (Trans-unsaturated fat)... - BDMS Wellness Clinic 的評價
- 關於ไขมันทรานส์ 在 อ.เจษฎา อธิบายไขมันทรานส์คืออะไร? วงการเบเกอรี่ปรับสูตรใหม่เพื่อ ... 的評價
- 關於ไขมันทรานส์ 在 ไขมันทรานส์ ช็อค “โรค” - Samitivej Hospital 的評價
ไขมันทรานส์ 在 หมอๆ ตะลุยโลก Facebook 的最讚貼文
เรื่องน่ารู้ ที่หลายคนอาจไม่รู้ กับ วิธีการอ่านฉลากอาหาร
ผมเป็นคนหนึ่งที่ก่อนจะเอาอะไรผ่านเข้าปากไปลงกระเพาะอาหาร ถ้าอาหารนั้นมีฉลากโภชนาการอยู่ อย่างน้อยต้องชายตามองสักเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจซื้อมันมาครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการอ่านฉลากอาหารแบบเข้าใจง่ายๆกันว่ามันมีประโยชน์ขนาดไหนครับ ยกตัวอย่างจากฉลากอาหารในภาพคือตัวอย่างอาหารชนิดหนึ่งที่ผมคิดว่าเห็นภาพเลย
ส่วนแรก คือ จำนวนหน่วยบริโภคต่อครั้ง และ ขนาดหนึ่งหน่วยบริโภคคือเท่าใด
อย่างในภาพคือ 1 หน่วยบริโภคเท่ากับ 310 ซีซี และ จำนวนหน่วยบริโภคต่อขวด = 1
นั่นแปลว่าฉลากอาหารที่เราจะเห็นในส่วนที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนั้น สามารถใช้อ้างอิงในการกิน 1 ครั้งจนหมดได้เลย
แต่ถ้าสมมติตัวเลขใหม่ จำนวนหน่วยบริโภคต่อขวด = 2 นั่นแปลว่า ฉลากโภชนาการในส่วนถัดไป ทุกอย่างต้องเอาไป "คูณสอง"ทั้งหมด อันนี้ระวัง tricky นิดนึง เพราะของกินหลายๆอย่างทำเป็นเหมือนจำนวนหน่วยบริโภคนั้นเยอะๆ เพื่อที่จะทำให้ตัวโภชนาการในส่วนต่อไปดูเหมือนเป็นขนมที่ healthy ไป (ทั้งๆที่อาจจะไม่ใช่)
ส่วนที่ 2 คือ พลังงานทั้งหมด ต่อ 1 หน่วยบริโภค
อันนี้ตรงไปตรงมาครับ คือ คำนวณจากสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และ ไขมัน เอามารวมกันว่ากี่แคลอรี่ โดยจะแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ พลังงานรวม และ พลังงานจากไขมัน
พลังงานรวม = คาร์โบไฮเดรต + โปรตีน + ไขมัน
ตัวอย่างในภาพ พลังงานรวม = 240 kcal แต่มีพลังงานจากไขมัน 120 kcal เท่ากับว่า เราจะได้พลังงานจากโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตอีก 120 kcal โดยมีที่มาจากคำนวณ ดังนี้
โดยคาร์โบไฮเดรต 1 กรัมจะให้พลังงาน 4 kcal
โปรตีน 1 กรัมจะให้พลังงาน 4 kcal
ไขมัน 1 กรัมจะให้พลังงาน 9 kcal
แล้วเราก็เอาตัวเลขของสารอาหารต่างๆไป คูณตามจำนวนกรัมที่มีนั่นเอง
ต่อมา ถามว่าทำไมต้องแยกพลังงานจากไขมันออกมาต่างหาก คำตอบก็คือ ค่าตัวเลขในส่วนนี้จะมีความจำเป็นมากสำหรับคนที่ทานอาหารเช่นกลุ่มคีโตจีนิค (ketogenic diet) ที่เน้นพลังงานจากไขมันมากกว่า 80% ของแหล่งอาหารทั้งที่ทานเข้าไป ถ้าเราไม่ได้สายคีโตก็ดูไว้ผ่านๆได้ครับ
ส่วนที่ 3 คือ คุณค่าทางโภชนาการ ส่วนนี้สำคัญที่สุด
จะมีตัวเลขแยก 2 ฝั่ง คือ ฝั่งที่อยู่ติดกับชื่อ สารอาหาร (ฝั่งซ้าย) และ ตัวเลข % ทางฝั่งขวา
ตัวเลขฝั่งซ้าย หน่วยจะเป็น กรัม ที่ได้ ถ้าเราทานสิ่งนั้นเข้าไป 1 หน่วยบริโภค
ตัวเลขฝั่งขวา หน่วยจะเป็น % เพราะเขาจะเอาไปอิงกับสารอาหารนั้นๆที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน โดยเทียบกับมาตรฐาน Thai RDI ที่คำนวณว่าคนไทยควรได้รับพลังงาน 2000 kcal ต่อวัน (โดยมาจาก คาร์โบไฮเดรต ทั้งหมด 300 กรัม / โปรตีน 50 กรัม /ไขมัน 65 กรัม)
แล้วคนไทยแต่ละคนต้องการพลังงาน 2000 kcal เท่ากันหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ใช่แน่ๆครับ ดังนั้นการดู % ในส่วนนี้ก็พอดูเป็นแนวทางได้ แต่ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ครับ คิดให้เห็นภาพง่ายๆ ผู้หญิงตัวเล็กๆ หนัก 45 กก. กับ ผู้ชายหนัก 90 กก. สัดส่วน % ไม่มีทางเท่ากันแน่นอน เพราะความต้องการพลังงานของสองคนนี้อาจจะอยู่ที่ 1800 กับ 2200 kcal ต่อวัน ตามลำดับ ประมาณนี้)
ดังนั้นแล้ว ให้สังเกตที่ตัวเลขทางฝั่งซ้ายนี้เป็นหลักครับ แต่ถ้าอยากรู้ว่าร่างกายเราต้องการพลังงานกี่ kcal ต่อวัน สามารถคำนวณได้จากสูตรที่ผมจะให้ไว้อีกทีครับ (สูตรนี้บอกก่อนว่ามีความไม่นิ่งพอสมควร แต่พอใช้เป็นแนวทางได้)
ต่อเนื่องกับส่วนที่ 3 คราวนี้เราต้องมาไล่ดูกันไปทีละตัวเลยครับ
ตัวแรก : ไขมัน
ไขมัน จะแสดงผลรวม ไขมันทั้งหมด และจะแยกย่อยอีกออกเป็น ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat) ไขมันทรานส์ (Trans fat) และ คอเรสเตอรอล (Cholesterol) ผมมีทริคง่ายๆเลยเวลาดูฉลากไขมัน
• ไขมันทรานส์ (Trans fat) ไขมันทรานส์คือพวกของกลุ่มไขมันกลายร่างที่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่ากินแล้วจะทำให้ตายด้วยโรคหัวใจเร็วขึ้น อันนี้ควรต้องเป็น 0 g ศูนย์กรัม เท่านั้น ห้ามมีหลงมาอย่างเด็ดขาด
• คอเรสเตอรอล (Cholesterol) อันนี้ทุกคนคงรู้จักกันดีแล้ว ไม่มีไว้ก่อนดีที่สุดครับ คือ ศูนย์
• ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) คือ ไขมันที่แข็งตัวในอุณหภูมิห้อง จะพบได้เยอะในเช่น น้ำมันจากสัตว์ หนังสัตว์ น้ำมันหมู และไขมันอิ่มตัวมักจะมากับอาหารที่คอเลสเตอรอลสูง ดูเผินๆเหมือนจะไม่ดี แต่จริงๆก็ต้องมีข้อยกเว้นไว้บางเช่น ในคนที่ทานน้ำมันมะพร้าวที่มีกรดไขมันอิ่มตัวบางชนิด เช่น กลุ่มของ MCT oil กลุ่มนี้จะเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีมากๆสำหรับสายคีโตจีนิก เพราะสมองจะนำไขมันอิ่มตัวชนิดนี้ไปใช้พลังงานได้อย่างรวดเร็ว
แต่ขอย้ำอีกครั้ง ถ้าอาหารนั้นไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะไปด้านคีโต ไขมันอิ่มตัวเยอะๆในฉลาก เราควรต้องให้ความระมัดระวังครับว่าอาหารนั้นมันคืออะไร แล้วก็สุดท้าย ไขมันอิ่มตัวจะบอกว่าแย่อีกก็ไม่ได้ เนื่องจากการที่มันทนความร้อนได้สูงมากพวกน้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำมันปาล์มจึงเป็นน้ำมันทีเหมาะกับมาทำอาหารผัดๆทอดๆแบบร้อนๆน้ำมันท่วมแบบอาหารไทยแบบนี้ครับ ดังนั้นเวลาดูต้องแยกกันว่า อาหารชนิดนั้นคืออะไร
• ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat) คือ ไขมันที่ไม่แข็งตัวในอุณหภูมิห้อง ตรงกันข้ามกับอันเมื่อกี้ เรื่องของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นเรื่องใหญ่มาก ขอเล่าสั้นไว้ตรงนี้ก่อนครับ อันนี้ดูเผินๆ ก็เหมือนว่าถ้ามีเยอะก็จะดี เช่น การทานมะกอกจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ เพราะมะกอกมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงมาก แต่ในขณะเดียวอาหารบางอย่างมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงมาก เช่น กลุ่มของ industrial seed oil กลับอาจจะไม่ดีมากเท่ากับในกรณีแรก เพราะว่ามีความแตกต่างของมันอยู่นั่นเอง เราน่าจะเคยได้ยินคำว่า omega-3 หรือ omega-6 มานานแล้ว นั่นละครับ มันคืออันเดียวกันและมันก็อยู่ในกลุ่มของกรดไขมันไม่อิ่มตัว และในฉลากอาหารส่วนมากจะไม่ได้บอกว่า ไขมันไม่อิ่มตัวในนั้นเป็นชนิดไหน วิธีการที่จะรู้ได้อย่างเดียวคือ ต้องดูว่าอาหารนั้นเป็นอาหารอะไรประกอบด้วยครับ เรื่องนี้ผมขออธิบายละเอียดในคราวหน้า
• ถามว่าสัดส่วนไขมันควรทานวันละกี่กรัม ถ้ายึดตาม Thai RDI คือ ไขมันทั้งหมดต่อวันไม่เกิน 65 กรัม โดยต้องเป็นไขมันไม่อิ่มตัวอย่างน้อย 45 กรัม และ สัดส่วนนี้จะเปลี่ยนไปในกลุ่มของคนที่ทานคีโตครับ แต่คนทั่วไปอาจจะยึดตามแนวทางของ Thai RDI ไว้ก่อน บวกลบ เล็กน้อยตามพลังงานขั้นต่ำของร่างกายครับ ถ้าจะเอาให้เป๊ะขึ้น พลังงานจากไขมันควรเป็น 20 - 35% ของพลังงานรวมทั้งหมด และมีสัดส่วนของ กรดไขมันไม่อิ่มตัว : กรดไขมันอิ่มตัวคือ เท่ากับ 2.2 : 1 โดยคร่าวๆ (เริ่มเครียดเลย ทำไมยากจัง 55)
• ในฉลากส่วนใหญ่จะระบุเฉพาะปริมาณไขมันอิ่มตัว เราก็ต้องเอา ไขมันทั้งหมด - ไขมันอิ่มตัว จะได้เท่ากับปริมาณไขมันไม่อิ่มตัวนั่นเองครับ (อย่าพึ่งงงนะครับ)
ตัวที่สอง : คาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรต สารอาหารหลักที่พวกเราชอบกัน ไม่ว่าจะเป็น แป้ง น้ำตาล เส้นพาสต้า ล้วนมีพลังงานหลักมาจากส่วนนี้ ในฉลากมักจะแยกออกไว้ 2 อย่าง
• ใยอาหาร หรือ Fiber ขั้นต่ำประมาณ 25 กรัมต่อวัน อาหารที่ไฟเบอร์สูง จะช่วยเรื่องระบบการย่อยอาหารขับถ่าย และ ยังช่วยทำให้เราอิ่มได้นาน
• น้ำตาล (sugar) ต้องดูว่าน้ำตาลอันนั้นคือน้ำตาลตามธรรมชาติที่อยู่ในอาหาร (natural sugar) เช่น น้ำตาลฟลุกโตสในผลไม้ หรือเป็น น้ำตาลที่ใส่เพิ่มเข้าไป (added sugar) เช่น น้ำอัดลม โดยเราจะสนใจหลักๆคือ น้ำตาล added sugar ไม่ควรมีหรือมีให้น้อยที่สุดจะเยี่ยมครับ คนเราไม่ควรได้น้ำตาลเกิน 24 กรัมต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ อาหารในธรรมชาติที่มี natural sugar อยู่ ถ้าไม่นับผลไม้แล้วก็น่าจะหาได้ยากมาก
• ส่วนที่เหลือก็คือ แป้งที่เราเข้าใจกันนั่นเอง แต่เขาจะไม่ได้บอกตรงๆก็ต้องเอามาบวกลบกันออกมา
• พลังงานจากคารโบไฮเดรตต่อวัน ค่าเฉลี่ยโดยประมาณคือ 300 กรัมต่อวัน แล้วก็บวกลบเอาตามขนาดตัวครับ ถ้าไม่เคร่งก็ให้เน้นที่พลังงานมาจากแป้ง ที่ไม่ใช่น้ำตาล โดยมีไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้จริงๆแล้ว แป้งยังแยกเป็น คารโบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวหอมมะลิที่สีมาแล้วอย่างสวยงาม กับ ข้าวกล้องที่ยังไม่ผ่านการขัดสี (Complex carbohydrate) สองอย่างนี้ แคลอรีต่อกรัมเท่ากัน แต่ผลต่อร่างกายไม่เหมือนกัน ดังนั้นต้องดูชนิดของคาร์โบไฮเดรตที่ทานด้วยครับ
ตัวที่สาม : โปรตีน
• ถ้าไม่ได้กินนมชนิดต่างๆแล้ว หรือกลุ่มของเวย์โปรตีน ผมว่าส่วนนี้เราน่าจะไม่เคยสังเกตมันบนฉลากแน่ๆครับ
• คนทั่วไปๆก็ทานโปรตีนประมาณ 0.8 – 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว ถ้าหัก 60 กก. ก็ทาน 60 กรัมโปรตีนนั่นเอง
• ไขขาว 1 ฟอง มีโปรตีนประมาณ 5 กรัม ลองกะดูครับ
• ถ้าคนเล่นกล้ามก็ต้องการมากกว่านี้อีกมาก เช่น 2-3 กรัมต่อน้ำหนักตัว
จากจุดนี้ก็น่าจะพอเข้าใจภาพได้เลยว่า ตัวเลข % อาจจะไม่มีผลอะไรกับการวางแผนอาหารในกลุ่มคนเฉพาะที่ต้องการผลลัพธ์ที่พิเศษ แต่สำหรับคนทั่วไปก็ใช้ตาม % อ้างอิงก็ไม่เสียหายครับ
ส่วนที่ 4 : โซเดียม
ไม่ควรเกิน 2300 มิลลิกรัมต่อวัน เรามักจะเจออาหารที่โซเดียมสูงๆในบรรดาจำพวกซอสและขนมขบเคี้ยวทั้งหมด
เป็นอย่างไรกันบ้างครับเอาแค่ 4 ส่วนนี้ก็ลายตามากแล้วครับ 555+ อันนี้ยังไม่นับถึงพวก วิตามิน เกลือแร่ หรือ ส่วนประกอบของอาหารที่เราต้องมาเพ่งพิจารณากันจริงๆเลยครับ
เอาตรงๆ มันดูเหมือนจะยากมากครับในครั้งแรก ทำไมต้องซีเรียสขนาดนี้ แต่เชื่อผม มันยากแค่ครั้งแรกตอนที่เราหยิบมันขึ้นมา เพราะส่วนใหญ่เราก็กินอะไรไม่ได้ต่างจากเดิมมาหรอกครับในแต่ละวัน อ่านสักครั้งสองครั้งพอจำได้แล้ว เราก็จะหยิบมากินโดยที่ไม่ต้องดู เพราะว่าเราจำคุณค่าทางโภชนาการได้หมดแล้วนั่นเอง และการดูสัดส่วนโภชนาการผมคิดว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญมากชนิดหนึ่งในการดูแลสุขภาพร่างกายของเราเอง
ถ้ามีคำถามใดๆก็ฝากไว้ได้นะครับ ผมจะพยายามมาตอบให้ถ้าสามารถทำได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งที่อ่านมาจนจบครับ 😊
ไขมันทรานส์ 在 BKreview - เรารีวิวทุกความอร่อย Facebook 的最佳貼文
#พาทำ #พุดดิ้งโกโก้สไตล์เกาหลี Cube Cocoa Pudding 🍓🍫 ทำง่าย เนื้อเด้งได้รสโกโก้เข้มข้น ดีงามเหมือนอยู่คาเฟ่ฮงแดเลยจ้า
ไม่ได้ไปเกาหลีก็ทำขนมง่ายๆกินที่บ้านไปก่อน สูตรนี้อยู่หอ อยู่คอนโดก็ทำได้ พุดดิ้งเนื้อเด้งหวานกำลังดี 🍮🍮 มีความเข้มข้นของโกโก้ กินเพลินมาก คนชอบหนมสายเกา ต้องกรี๊ด ที่สำคัญใช้ของไม่กี่อย่าง
#วิธีทำ ✨
-นำเนยเค็ม 12 กรัม มาละลายด้วยไฟอ่อน เมื่อเนยละลายปิดไฟ ใส่นมสด 200 ml น้ำตาล 20 กรัม ผง Cocoa Dutch 30 กรัม แป้งข้าวโพด 20 กรัม คนให้เข้ากัน
-เปิดไฟอ่อนใส่ มิลล์ช็อกโกแลต 20 กรัม (ใครไม่ชอบหวานไม่ต้องใส่ก็ได้จ้า) เคี่ยวจนเนื้อพุดดิ้งเริ่มข้นขึ้นแล้วปิดไฟ ทาน้ำมันที่พิมพ์ ใส่เนื้อพุดดิ้งลงไป พักให้เย็น จากนั้นนำไปแช่เย็น 2 ชม.
-นำจานมาโรยผง Cocoa Dutch ลงบนให้สวยงาม ตัดพุดดิ้งเป็นสี่เหลี่ยมวางลงบนผงโกโก้เสร็จพร้อมเสริ์ฟแล้วจ้า
🍫🍫 บอกเลยว่าเมนูนี้เข้มข้นเพราะใช้ Cocoa Dutch เลยจ้า ใครสายโกโก้รู้ดีแบรนด์นี้เค้าเข้มข้นมาก เป็นโกโก้แท้ 100% จากเนเธอร์แลนด์เลย กลิ่นอย่างหอม รสกลมกล่อมสไตล์โกโก้แท้ 0% คอเลสเตอรอล 0% ไขมันทรานส์ แถมยังอุดมด้วยโพลีฟีนอลและฟลาโนวอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
🍽 : Cocoa Dutch
📍พิกัดหาซื้อได้ที่ : ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้าทั่วไปทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
#BKreview #เมนูคาเฟ่ #CafeAtHome #CubeCocoaPudding #PuddingCocoa #CocoaDutch
ไขมันทรานส์ 在 FITWHEY Youtube 的精選貼文
https://fitwhey.com/promotion/BAAM-SET/
100% WHEY PROTEIN
26 กรัมโปรตีนต่อช้อน - โปรตีนแท้ๆแบบปราศจาก AMINO SPIKING
1 กรัม น้ำตาล |40mg Cholesterol | 0กรัม ไขมันทรานส์ – เพิ่มกล้ามเนื้อ ไม่เพิ่มไขมัน
Whey Protein blend MATRIX™ - การดูดซึมแบบ 3 ขั้นตอนเพื่อการดูดซึมสูงสุด
UNDENATURED TRIPLE COLD MICROFILTRATION – ผ่านกรรมวิธีผลิตแบบไม่ใช้สารเคมี รักษาคุณภาพโปรตีน
ปราศจาก FILLER – วัตถุเจือปนไร้ประโยชน์ ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึก “คุ้มเกินจริง”
7 รสชาติ ละลายง่าย - หอมหวาน ทานง่าย รสไม่เลี่ยน
100% PURE CREATINE 5000
เพิ่มพละกำลังกล้ามเนื้อมากถึง 10% ภายในเวลาน้อยกว่าหนึ่งอาทิตย์
คุณสมบัติ Nutrient retention ช่วยการกักเก็บสารอาหารในเซลล์
ลดอาการล้าทางสมอง
SUPER MICRONIZED FORM อนุภาคเล็กกว่าเดิม 17เท่าดูดซึมได้ไว
Fine Powder ผงละเอียดเนียนดูดซึมง่าย ปราศจากเกล็ด
Pharmaceutical Grade ความบริสุทธิ์สูงถึง 99.99% (เกรดอุตสาหกรรมยา) ปราศจาก Filler และโลหะหนัก
100% PURE BCAA 6500
เป็นตัวช่วยในการจุดชนวนการสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยในการสังเคาระห์โปรตีน
ป้องกันกล้ามเนื้อสลายตัว ช่วยเร่งการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
อัตราส่วน 2:1:1 รองรับโดยงานวิจัย
กรดอะมิโนเพียงตัวเดียวที่ย่อยสลายในกล้ามเนื้อ
6,500mg ต่อ serving แบบปราศจาก Filler
Pharmaceutical grade (เกรดการแพทย์) ปราศจากโลหะหนัก
Instantized ละลายง่าย ด้วยผงแบบ Fine Powder
ไขมันทรานส์ 在 Wongnai Youtube 的最佳解答
กินไป ดูซีรีส์ไป คือความฟินขั้นสุด! ? ตามมาดู '5 เมนูกินคู่ซีรีส์ อร่อยเด็ด! ? Netflix ไม่ได้แนะนำ โดย Jejuvita แต่รับรองว่าอิ่มฟินแน่นอน!
.
แถมไม่ต้องกลัวอ้วน ? เพราะเมนูของหวานอย่าง 'ชานมบราวน์ชูการ์' ของ 'Jejuvita' ช่วยเผาผลาญ, ดักจับไขมันทั้งเก่าใหม่, ลดความอยากอาหาร, คุมหิวอิ่มนาน 0% น้ำตาล/ไขมันทรานส์ และ 0% คอเลสเตอรอล ? ให้พลังงานแค่ 70 แคลฯ ต่อซอง ปังมากค่ะซิส❗️ ดื่มได้ทั้งร้อนทั้งเย็น ฟินได้ไม่รู้สึกผิดกันไปเลย ⁓ ?
.
'Jejuvita' มีให้เลือกกันถึง 3 ขนาด ✨
? แบบซอง 39 บาท หาซื้อได้ที่ 7-11
? แบบ 1 กล่อง (6 ซอง) ราคา 234 บาท
? แบบ 1 กล่อง (15 ซอง) ราคา 525 บาท
.
สามารถหาซื้อได้ที่ 7-11, watsons และ Karmart ทุกสาขา
.
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ ??
FB : @Jejuvita.supplement
IG : jejuvita_supplement
Line : @JejuvitaOfficial
Website : https://bit.ly/36O1VQS
________________________
#Wongnai ค้นหาข้อมูลร้านอาหารจากทั่วประเทศ และ แบ่งปันรีวิวกันได้ที่แอป Wongnai ▶️ ดาวน์โหลดฟรีที่นี่ http://bit.ly/2U0bdn
ไขมันทรานส์ 在 PHOLFOODMAFIA Youtube 的最佳解答
พี่พล และอาจารย์เรวดีผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ จะชวนมาทำความเข้าใจเรื่อง
ไขมันทรานส์ (Transfat) เมื่อเราเลือกบริโภคอาหารจะสังเกตอย่างไรว่ามีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบหรือไม่
เรามารับชม ไปพร้อมๆ กันเลยครับฝากติดตามรายการใหม่ที่ตั้งใจมามอบสาระดี ๆ ให้กับแฟนพลพรรคนักปรุงกันด้วยนะครับ
#pholfoodmafia #pholfoodmafianetwork #gooddiet
ไขมันทรานส์ 在 อ.เจษฎา อธิบายไขมันทรานส์คืออะไร? วงการเบเกอรี่ปรับสูตรใหม่เพื่อ ... 的美食出口停車場
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความรู้เกี่ยวกับ ไขมันทรานส์ หลังกระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งห้ามผลิต ... ... <看更多>
ไขมันทรานส์ 在 ไขมันทรานส์ ช็อค “โรค” - Samitivej Hospital 的美食出口停車場
ไขมันทรานส์ มีผลเสียต่อสุขภาพ โดยไปเพิ่มไขมันไม่ดีในร่างกาย กระตุ้นการอักเสบ เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจในอนาคต. ... <看更多>
ไขมันทรานส์ 在 ไขมันทรานส์ (Trans-unsaturated fat)... - BDMS Wellness Clinic 的美食出口停車場
ไขมันทรานส์ (Trans-unsaturated fat) เป็นกรดไขมันอีกชนิดที่พบได้ในอาหารที่เรารับประทานเป็นประจำ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 1.)ไขมันทรานส์ธรรมชาติ (natural... ... <看更多>