Push Me Again ปกที่สอง
อัลบั้มแรกของพอสเดิมทีเป็นปกสีแดง หน้าปกเป็นผู้ชายนอนหันหลัง มีสาวสวยนั่งข้างๆเตียง
ไม่มีพวกเราที่หน้าปก แต่มีด้านใน
ใครมีปกนี้คือจำนวนจำกัดมาก
เพราะ หลังจากวางแผงได้ไม่นาน เราขายไม่ดี
เพลงที่ว่างก็เหมือนติดขัดอะไรบางอย่าง จะดังก็ไม่ดัง
เบเกอรี่มิวสิคเลยสั่งเปลี่ยนปก,เพิ่มเพลง
เราเลยทำ มีเพียงเรา,ที่ว่าง(อคูสติก) เข้าไปเพิ่ม ถ้าใครมีปกแรกจะสังเกตได้ว่า สองเพลงนี้ไม่มีนะ
ถ่ายรูปใหม่ เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่
ก็ตามรูปเลย เพียงแต่ เอ จะเปลี่ยนเยอะหน่อย เพราะวันที่ถ่ายปกนี้เอตัดผมสั้น สาเหตุน่าจะมาจาก ตอนนั้นเอยังเรียนอยู่ปีสี่ ซึ่งต้องไปฝึกสอน ยังไงก็ต้องตัดผมอยู่ดี ถ้าใครมีรูปเอผมยาว นั่นคือก่อนหน้าเปลี่ยนปก เพราะเอไปผมยาวอีกทีตอนอยู่สิบล้อโน่นเลย ตอนอยู่กับพอสเอผมยาวแค่ช่วงแรกๆก่อนเปลี่ยนปกเท่านั้น
สถานที่ เป็นร้านชื่อ Brew House สุขุมวิท 26 ก่อนถึงผับดัง Taurus หน่อยนึง ปัจจุบันไม่มีแล้ว
และก็ได้ผล หลังเปลี่ยนปก ยอดจำหน่ายดีขึ้นจริงๆ
แต่เพลงที่ขึ้นชาร์ทวิทยุก็เป็นเพลงที่ว่าง เวอร์ชั่นแรกนั่นแหละ
…ยี่สิบกว่าปีผ่านมาแล้ว
#นรเทพมาแสง
#เรื่องเล่าของนายนอ
「เรื่องเล่าของนายนอ」的推薦目錄:
เรื่องเล่าของนายนอ 在 Facebook 的最佳解答
บ้านเก่า
ปี พศ.2517 ผมเกิดที่เชียงใหม่ ตอนนั้นพ่อแม่เป็นอาจารย์ที่ มช.
ครอบครัวเรามีบ้านเช่าอยู่ในซอยข้างวิทยาลัยครู ผมโตที่นั่น จำบ้านหลังนั้นได้ดี
"จริงๆมีบ้านหลังก่อนหน้านั้นอีกนะ"พ่อบอก
"อยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามวิทยาลัยครูนั่นแหละ"
แม่เถียงว่า"นอมันจะไปรู้เรื่องอะไร ตอนอยู่บ้านหลังนั้นนอยังอยู่ในท้อง แล้วเราอยู่หลังนั้นแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น"
แล้ววันหนึ่งเราก็ตัดสินใจไปดูบ้านหลังที่ว่า ผมขับรถ พ่อแม่ก็สลับกันบอกทาง ระหว่างทางก็เล่าว่า...
เมื่อปี พศ.2511 คณะศึกษาศาสตร์ มช.เพิ่งก่อตั้ง พ่อเพิ่งจะ 20 ต้นๆเท่านั้น พ่อมาเป็นอาจารย์ที่นี่
แม่เป็นนักศึกษา
"จริงๆเคยได้ยินชื่ออาจารย์คนนี้มาตั้งแต่สวนสุนันทาแล้ว แต่เราไม่เจอกัน"แม่เล่าบ้าง
"มาเจอกันที่เชียงใหม่นี่แหละ"พ่อเล่ายิ้มๆ
พ่อซื้อที่ดินในซอยตรงข้ามวิทยาลัยครู แถวๆข่วงสิงห์
ซื้อไม้จากบ้านเก่าแถวเชียงดาวมาราคา 6,000 บาท มาปลูกบ้านตรงนี้ ปลูกกับปู่
"พ่อออกแบบเอง หลังคามันจะประหลาดหน่อยนะ"พ่อเล่า
"เค้าเคยจัดงานลีลาศที่ชั้นล่างในบ้านนี้ด้วยนะ"แม่สำทับ
"ชวนแม่มาเปิดฟลอร์เต้นรำ ตอนนั้นแม่เป็นนักศึกษา"แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะขึ้นพร้อมๆกัน
หลังจากนั้นทางอเมริกาตอบรับให้พ่อไปศึกษาต่อที่ฟลอริดา
ไปทำด็อกเตอร์
แม่ไปเรียนต่อปริญญาโทที่มิชิแกน อเมริกาเหมือนกัน
พ่อเลยขายบ้านหลังนี้...
"เรียนจบกลับมาก็แต่งงาน"พ่อเล่า
พ่อจบด็อกเตอร์ แม่จบปริญญาโท
"ถ้าไม่แต่งงานแม่ก็ด็อกเตอร์"แม่เล่าบ้าง
แต่งงานแล้วมาอยู่เชียงใหม่ พ่อกลับมาสอนต่อที่ศึกษาศาสตร์ที่เดิม
แม่ก็มาสอน ที่เดียวกัน
แล้วมาเช่าบ้านหลังเดิมที่ตัวเองปลูกไว้...
หลังจากนั้นไม่นานแม่ท้องได้สองเดือนก็ย้ายไปเช่าบ้านในซอยฝั่งตรงข้าม
"หลังนี้มันเปลี่ยว"พ่อว่างั้น
พ่อบอกทางลัดเลาะมาจนถึง...
แต่บ้านถูกรื้อไปแล้ว...
น่าจะเพิ่งไม่นานมานี่ น่าเสียดาย
พ่อกับแม่ลงไปเดินดูที่ดินเปล่าๆที่เคยเป็นบ้านเก่า...ที่พ่อเคยเต้นรำกับแม่...
#นรเทพมาแสง
#เรื่องเล่าของนายนอ
เรื่องเล่าของนายนอ 在 Facebook 的最佳貼文
“หกสิบปีผ่านไป”
วันหนึ่งได้มีโอกาสพาพ่อไปวัดโพธิ์
พ่อบอกว่าสมัยก่อนเคยเป็นเด็กวัดอยู่วัดนี้ มาอยู่กับลุง พี่ชายของพ่อ คนที่นั่งหันข้างขวาสุดแหละ
ในรูป บางคนยังอยู่ บางคนไม่อยู่แล้ว ลุงก็คนหนึ่งที่ไม่อยู่แล้ว...
ปู่ย่าอยู่สุพรรณฯ พ่อเข้ามาเรียนหนังสือที่เมืองกรุง
พ่อบอกว่า”เด็กบ้านนอกก็มาอยู่วัดโพธิ์กัน”
แล้วพ่อก็เล่าชีวิตเด็กวัดสมัยก่อนให้ฟัง
เรามาถึงวัดโพธิ์ พ่อจำเลขกุฏิที่เคยนอนสมัยก่อนได้ดี
“มันก็ไม่เปลี่ยนเท่าไหร่นะ”พ่อพูดแล้วยิ้ม แต่ก็หยุดยืนมองกุฏินี้อยู่นานทีเดียว
แล้วพ่อก็ยิ้ม เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างคนเดียว
สักพักเราก็กลับ
“ไว้มาใหม่”พ่อว่างั้น
แล้วก็กลับมาเล่าถึงชีวิตสมัยก่อนให้ฟัง
พ่อไปไหนมาไหนด้วยรถราง เคยโดดลงรถหัวขะมำมาแล้ว
จากสุพรรณฯมากรุงเทพด้วยเรือ แม่น้ำเจ้าพระยา
จากนั้นก็ดั้นด้นจนไปจบด็อกเตอร์ถึงอเมริกาโน่น แล้วไปเป็นอาจารย์ที่ มช.
ผมเลยเกิดที่เชียงใหม่
เสียดายที่วันนั้นพ่อไม่กล้าเข้าไปในกุฏิ
พระที่อยู่ปัจจุบันน่าจะจำวัดอยู่”แค่นี้ก็พอแล้ว”พ่อว่างั้น
ความทรงจำดีๆมีค่าเสมอ
#นรเทพมาแสง
#เรื่องเล่าของนายนอ