Ep.107 - จะเป็นผู้เสพย์หรือผู้สร้าง?
.
มีสองอย่าง
อย่างแรกคือผู้เสพย์
อย่างที่สองคือผู้สร้าง
ผู้เสพย์เนื้อหา
กับผู้สร้างเนื้อหาไม่เหมือนกัน
*****************************
ก็คนส่วนใหญ่เวลามาเรียนอะไรอย่างนี้
จะชอบบอกว่าไม่เห็นได้อะไรเลย
ไม่เห็นได้อะไรเลย
เพราะว่าเขาไปคาดหวัง
ที่จะได้ Hard Skill
.
แล้วพอได้มาเยอะ ๆ เนี่ยที่เคยเจอเลย
พอไปเรียนรู้มาปุ๊บเนี่ย
ไปได้รับ information มาเยอะ ๆ
ก็บอกว่า
“โอ้โห..ข้อมูลมันเยอะไปทำไม่ได้หรอก
ต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งมาใช้”
.
คนเรามันย้อนแย้งในตัวเองอย่างนี้
คือที่ Blair สอนเนี่ย
เวลาเรียนสัมมนาอะไรก็แล้วแต่
มันจะมี Tactical Development
Personal Development
แล้วก็ Spiritual Development
.
ซึ่ง Spiritual Development
มันเกิดจากการตกผลึกแบบเข้มข้น จริงจัง
คือ information กับ wisdom
ไม่เหมือนกันนะ
ถูกปะ?
.
information คือสิ่งที่เรารับรู้มา
แต่ wisdom คือสิ่งที่มันต้องผ่าน
ตัวกรองอะไรบางอย่าง
ถึงจะเกิดออกมาเป็น wisdom
ถึงจะเกิดมาเป็นปัญญาที่แท้จริง
.
แล้วเมื่อเราเอาปัญญาตรงนั้น
เอา wisdom ตรงนั้น
ไปประกอบกิจการการงานอะไรก็แล้วแต่
ไปทำอะไรก็แล้วแต่มันจะเกิดเป็น
เขาเรียกว่า ‘intelligence’
ก็คือ ความฉลาด
.
ความฉลาดมันเป็น
สิ่งที่ show up ออกมาให้คนเห็น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ย
ไม่ได้บอกว่า knowledge
หรือว่า information เป็นสิ่งไม่สำคัญ
.
สำคัญเหมือนกัน
แต่รับ information มาปุ๊บ
ต้องทำอะไรบางอย่างกับมัน
เพื่อให้มันตกตะกอน
พอมันตกตะกอนปุ๊บ
เราเอาไปลงมือทำ
.
จริง ๆ สิ่งที่มันออกมานั่น
มันคือความฉลาด คือ intelligence
ยิ่งพอมี google ข้อมูลต่าง ๆ
มันอัพเดททุกวัน
.
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
บางอย่างก็เป็นข้อมูลที่ใช่
บางอย่างก็เป็นข้อมูลที่ไม่ใช่
เพราะฉะนั้นแล้ว
รับมาเถอะข้อมูล
.
รับมา แต่ใช้ปัญญาของตัวเองเนี่ย
พิจารณาไตร่ตรองเอา
ว่าอะไรเวิร์คกับตัวเอง
อะไรไม่เวิร์คกับตัวเอง
แต่อย่ารับแค่
.
สิ่งที่มันเป็นแค่ความรู้
อย่ารับมาแค่สิ่งที่มันเป็นแค่ information
แค่ knowledge
จงรับมาแล้วก็ทำอะไรบางอย่าง
เกี่ยวกับความรู้ตรงนั้น
เพื่อให้เกิด wisdom
ให้เกิดปัญญาด้วย
.
สิ่งสำคัญไม่ใช่ความรู้หรอก
สิ่งสำคัญคือความคิด
มันต้องมีความคิด
เพราะฉะนั้นแล้ว
รากฐานสำคัญคือ mindset
.
พระพุทธเจ้าก็บอกไว้ว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำเนี่ย
เราต้องเริ่มจากอันดับแรกเลย
สัมมาทิฏฐิก่อน
เราต้องเห็นตรง เห็นชัดก่อน
ว่าเอ้ย…อันนี้
เราจะเอาสิ่งนี้ เราจะไปสิ่งนี้ จะทำสิ่งนี้
.
ภาษาอังกฤษ
เขาเรียกว่า vision
แล้วหลังจากนั้น หลังจากสัมมาทิฏฐิปุ๊บ
ก็จะเป็น สัมมาสังกัปปะ
สังกัปปะ แปลว่า ความคิด
แปลว่า mindset
.
แล้วค่อยไปสัมมาวาจา
สื่อสารชัดเจน สื่อสารทั้งกับตัวเอง
แล้วก็ผู้อื่น
.
ถึงจะไปสัมมากัมมันตะ
ไปลงมือทำ
คนส่วนใหญ่เวลาเข้าสัมมนา
เวลาอ่านหนังสือปุ๊บหาวิธีการลงมือทำ
แต่ไม่หาวิธีคิด
.
มันข้าม step ไป
มันต้องคิดให้เป็นก่อน
คิดให้ถูกคิดให้ใช่ก่อน
.
อย่างเรื่องการปลูกต้นไม้
เรื่องอะไรอย่างนี้
จริง ๆ แล้วการปลูกต้นไม้
ปลูกกันเป็นปะ?
.
การปลูกต้นไม้จริง ๆ
มันก็ง่าย ๆ มันไม่มีอะไร
แต่ปลูกแบบไหน
ปลูกด้วยความคิด
กับปลูกด้วยความไม่คิด
มันแตกต่างกัน
.
ตัวอย่างก็มีให้เห็นเยอะแยะ
บางคนปลูกป่า ปลูกป่ามันคือวิธีการ
คือวิธีการปลูกป่าแต่ปลูกป่าด้วยความคิด
.
อีกแบบนึงป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง
ปลูกป่าเพื่อเป็นบำนาญ
ปลูกป่าเพื่อกิน
ปลูกป่าเพื่อใช้ไม้เป็นประโยชน์
ปลูกป่าเพื่อตัดไม้
มันปลูกป่าเหมือนกัน
แต่มันคิดไม่เหมือนกัน
.
วิธีการมันแตกต่างมากมาย
แต่สิ่งสำคัญ
ที่เป็นรากฐานของทุกสิ่งทุกอย่าง
มันคือวิธีคิด
เพราะฉะนั้นวิธีคิด สำคัญกว่าวิธีการ
**************************
อย่างดูคลิปเนี่ย
เราตั้งกล้องอัดคลิปกันแบบนี้
จริง ๆ แล้วสิ่งที่มันออกไปสู่ผู้คน
มันคือ information ถูกปะ?
.
มันคือความรู้อะไรบางอย่าง
มันคือ message อะไรบางอย่าง
แต่คนที่คิดเป็นเนี่ย
เขาจะมองทะลุเห็นเบื้องหลัง
ว่าไอ้คนที่พูดอยู่เนี่ย
มันคิดยังไง
.
ไอ้คนที่ถาม ๆ ๆ อยู่ความคิดยังไง
เขาถึงถามคำถามแบบนี้
ทำไมมุมกล้องต้องเป็นอย่างนี้
ทำไมถึงต้องไม่มองกล้อง
ทำไมถึงต้องคุย
กับคนจำนวนมาก ๆ
เพื่ออะไร?
.
ถ้าเกิดว่าเขาดูคลิปแล้ว
เขาจับวิธีคิดไม่ได้จับแค่วิธีการ
ไม่ได้จับแค่information
หรือว่าสิ่งที่ออกไปในคลิป
เขาจะได้อะไรมากกว่า
แค่ดูคลิป
ได้อะไรมากกว่าที่มองเห็นคลิป
ใช่ปะ?
.
มันมีจิตวิทยาเบื้องหลัง
อะไรซ่อนอยู่
ทำไมผู้กองเบนซ์ถึง
ทำคลิปแล้วต้องเป็นแบบนี้
ทำไมถึงต้องวางกล้องมุมนี่
เนี่ยสิ่งนี้คือวิธีคิด
มันต้องมองให้ลึกลงไป
.
มีสองอย่างอย่างแรกคือผู้เสพย์
อย่างที่สองคือผู้สร้าง
ผู้เสพย์เนื้อหากับผู้สร้างเนื้อหา
ไม่เหมือนกัน
.
เวลาเราดูคลิป
ดูหนังสือหรือดูอะไรก็แล้วแต่
อ่านหนังสือหรือว่าดูกับคนอะไรก็แล้วแต่
อย่าเป็นแค่ผู้เสพย์
จงคิดเผื่อสมองของผู้สร้างด้วย
ผู้สร้างมันมีหลักคิดยังไง มีพื้นฐานยังไง
อะไรยังไง
มันถึงสร้างสิ่งนี้ออกมา
นึกออกปะ?
.
หนังสือเล่มนี้
มันเขียนมาได้ยังไง
คิดในฐานะผู้สร้าง คิดให้ถึงเบื้องหลัง
มองอะไรให้มันทะลุ ๆ ลงไป
มันจะได้อะไรมากกว่าที่
ที่ตาเห็น
#ผู้กองเบนซ์
.
ปล. วิธีคิด สำคัญกว่าวิธีการ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)
ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
IG : capt.benz
Line OA : @ captbenz
twitter : @ captbenz
「เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ」的推薦目錄:
- 關於เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ 在 Capt.Benz Facebook 的精選貼文
- 關於เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ 在 Un+ Chirdpong: อั๋น เชิดพงษ์ iclass CEO Facebook 的最佳解答
- 關於เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ 在 get แปลว่าอะไรได้บ้าง 9 ความหมายที่ควรรู้จัก เรียนภาษาอังกฤษ ... 的評價
- 關於เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ 在 Everyday Life (ชีวิตประจำวัน) - สื่อการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษ ป.4 的評價
- 關於เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ 在 not mince one's words แปลว่าอะไร #ภาษาอังกฤษ ... - Facebook 的評價
- 關於เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ 在 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน): หน้าหลัก 的評價
เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ 在 Un+ Chirdpong: อั๋น เชิดพงษ์ iclass CEO Facebook 的最佳解答
WHY มาก่อน WHAT เสมอ....
"ตัวอย่างของ เพื่อ เจ๋งๆ ของเป้าหมายเก่งภาษาอังกฤษ"
--------
อย่างที่ผมเคยย้ำเสมอ
สิ่งที่สำคัญที่สุดของเป้าหมาย
ที่จะทำให้เราไม่ท้อ ไม่เหนื่อย และลุกขึ้นมาสู้ได้ทุกครั้งที่ล้ม
นั่นก็คือ เราต้องหา "เพื่อ" เจ๋งๆ ให้เจอ
ข้างล่างนี้คืออีกตัวอย่างนึงของ เพื่อ ที่ดูไม่ยาก แต่ว่าเจ๋ง และ Inspire สุดๆ
นั่นก็คือ "เพื่อจะอยู่เหนือกว่าฝรั่ง .... จะต้องเก่งภาษาอังกฤษให้ได้"
จากนั้นจินตนาการว่าเราเป็นหัวหน้าฝรั่ง! มันเท่ห์ออกจะตาย (ประโยคนี้ผมเติมเอง ^^)
สำหรับผม คิดแบบนี้ มัน inspire กว่า เก่งภาษาอังกฤษ เพื่อใช้ทำงาน หรือเพื่อสอบ TOEFL เยอะ!
----
ลองดูนะครับ
หา เพื่อ เจ๋งๆ ให้กับเป้าหมาย!
เพื่อดึงเรา เพื่อฉุดเราขึ้นเวลาที่เราท้อแท้ เหนื่อย และหมดแรง
เมื่อเราหาเจอ
แล้วจะรู้ว่า
การเดินตาม และก้าวหน้าไปสู้เป้าหมายที่มีเพื่อ เจ๋งๆ
มันโคตรสนุกเลยจริงๆ
ให้ตายสิ!
------
(((เพิ่มเติม)))
สังเกตนะครับ
คนที่ต้องการจะเก่งภาษา.... เพื่อ มีแฟนฝรั่ง เพื่อติดตามนักร้องที่รัก!
แบบนั้นก็เก่งภาษารวดเร็วแบบก้าวกระโดดได้
เพราะฉะนั้น...
ความลับมันอยู่ตรงนี้นี่เอง
เหตุผลเจ๋งๆ ของเป้าหมาย
ว่าเราอยากได้ อยากเป็น สิ่งนั้นไป "เพื่อ" อะไร!!!!
สวัสดีตอนเย็นๆ ครับ
Un+ Chirdpong (อั๋น เชิดพงษ์)
!#&$*$(#)@(&$^&*#($)%#_#_$)$(*&^%%
.
นี่คือสิ่งที่ผมเห็นเมื่ออ่านภาษาอังกฤษเมื่อ 15 ปีที่แล้ว
.
จากคนๆ หนึ่งที่ภาษาอังกฤษแทบจะเป็นศูนย์ จากคนที่ไม่เคยมั่นใจเวลาที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ
มาวันนี้ ผมทำงานอยู่บริษัทต่างชาติที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน ทั้งการเขียนอีเมล์ ทั้งการประชุม และการนำเสนอ
.
จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของผมคือ ผมค้นพบว่าผมเรียนภาษาอังกฤษไป “เพื่ออะไร”
และเหตุผลนั้นมันใหญ่พอที่จะทำให้ผมเปลี่ยน
.
ตอนเรียนมัธยม ภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในวิชาที่ผมไม่เคยได้เกรดดี และมันก็ลามมาถึงตอนที่ผมเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย
.
เคยไปลงคอร์สเรียนราคาแพงๆ แต่ก็ไม่ได้ผล
.
จนมารู้ตอนหลังว่าคำว่า “ทำไปทำไม” ของผมมันเล็กเกินไป
.
ตอนนั้นผมเรียนภาษาอังกฤษ เพียงเพราะว่าต้องการให้ได้เกรดดีๆ
พอสอบเสร็จก็จบกัน ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา
.
พอได้คะแนนไม่ดีก็ ก็มีคนมาบอกว่าไม่ต้องคิดมาก
ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาพ่อ ภาษาแม่ ไม่ต้องสนใจมากก็ได้ ดูอย่างญี่ปุ่นซิ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เค้ายังเจริญได้เลย
.
เพิ่งมารู้ตอนหลังครับว่ามันคือ “คำปลอบใจ”
.
“คำปลอบใจ” ที่ทำให้เรารู้สึกดีในระยะสั้นๆ แต่บางครั้งก็ไม่ต่างกับยาพิษ ที่เรากินไปเรื่อยๆ จนเป็นเหมือนยาเสพย์ติด
.
และผมก็อยู่กับความรู้สึกแบบนี้มาหลายปี
.
จนวันนึงผมไปเรียนภาษาอังกฤษที่ Fast English กับอาจารย์บุญชัย ซึ่ง อ. บุญชัยนี้ได้รับทุนให้ไปศึกษาต่อประเทศอเมริกา
.
สิ่งที่ผมได้ยินอาจารย์เน้นย้ำคือ คนไทยเราเก่งกว่าฝรั่งมาก เพียงแต่คุณต้องสื่อสารให้ได้
.
หลังจากนั้นสิ่งที่มันขึ้นมาในหัวผมคือ “ผมจะต้องเก่งกว่าฝรั่งให้ได้”
.
แต่ถ้าวันนี้ผมยังฟังไม่ออกว่าฝรั่งคิดอย่างไร ผมไม่มีทางจะก้าวไปถึงจุดนั้นได้เลย
.
หลังจากที่ผมเริ่มเอาจริงเอาจัง ฟังคลิปภาษาอังกฤษ ท่องศัพท์วันละหลาย 10 คำ ซึ้อหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษมาอ่าน
.
ทำแบบนี้อยู่ประมาณปีนึง ผมก็เริ่มฟังออก อ่านออก เขียนได้บ้าง
.
แล้วมันน่าตกใจมากที่หลังจากนั้น ก็เริ่มมีโอกาสดีๆ วิ่งเข้ามาหา
.
ผมได้รับทุนหลักแสนสำหรับเรียนปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ
.
จบมา ก็ได้เข้าทำงานกับบริษัทต่างประเทศ เงินเดือนเริ่มต้นเกือบสี่หมื่นบาท
.
และสิ่งที่ผมค้นพบระหว่างทางการเรียนรู้ภาษาอังกฤษคือ ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งความรู้ที่มีอยู่ทั่วโลกทุกแขนงวิชา และสิ่งเหล่านี้ถูกเขียนเป็นภาษาอังกฤษกว่า 90%
.
ภาษาอังกฤษ เป็นเหมือนกุญแจประตู ที่ไขไปสู่ความรู้ทุกๆ แขนงในโลกนี้
.
ถ้าวันนี้มีใครมาถามผมว่าวิชาที่สำคัญที่สุดคือวิชาอะไร ผมจะบอกอย่างไม่คิดเลยครับว่ามันคือ ภาษาอังกฤษ
.
วิชาอื่นเรียนมา อาจจะเอามาใช้บ้าง ไม่ได้ใช้บ้าง จบออกมาบางคนอาจจะทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา แต่ภาษาอังกฤษ คุณเอามาใช้ 100% แน่นอนครับ
.
วันนี้ไม่มีข้ออ้างแล้วครับ ว่าไม่มีเงินไปเรียนภาษาอังกฤษ ในขณะที่ตอนนี้ความรู้ฟรีมีอยู่ทั่วไป
.
อาจารย์กู (Google) อาจารย์ยู (Youtube) กวักมือเรียกให้เราไปเรียนอยู่ตลอด ทีนี้อยู่ที่ตัวคุณแล้วล่ะครับว่าจะเดินไปหาเค้าหรือเปล่า
.
เมื่อไหร่ที่คุณเจออุปสรรคที่รู้สึกว่าลำบาก ลองคิดดูให้ดีครับว่าคุณทำ “เพื่ออะไร”
.
ถ้าคำว่า “เพื่ออะไร” ของคุณใหญ่พอ ไม่ว่าอุปสรรคที่คุณต้องเจอมันใหญ่แค่ไหน คุณจะผ่านมันไปได้
.
=======================================
.
ผมเคยได้ฟังคุณเอเท็น เจ้าของเพจ Aten+ Arnon ในระหว่างไปสัมมนา Speak to Grow Rich ของคุณบัณฑิต พูดเรื่อง “เพื่อ” แล้วทำให้ผมกลับมานึกถึงเรื่องนี้ครับ
.
ตอนนั้นผมค้นพบคำว่า “เพื่ออะไร” โดยบังเอิญ และวันนั้นมันก็เป็นจุดเปลี่ยนหนึ่งในชีวิตผม
บทความนี้ผมให้เครดิตคุณเอเท็นครับ :)
เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ 在 Everyday Life (ชีวิตประจำวัน) - สื่อการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษ ป.4 的美食出口停車場
สื่อการเรียนการสอน วิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง Everyday Life (ชีวิตประจำวัน)- วันนี้เราจะเรียนรู้ เรื่องเกี่ยวกับ ... ... <看更多>
เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ 在 not mince one's words แปลว่าอะไร #ภาษาอังกฤษ ... - Facebook 的美食出口停車場
not mince one's words แปลว่า อะไร # ภาษาอังกฤษ # ภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสาร #ese #ภาษาเปลี่ยนชีวิต #เรียน ภาษาอังกฤษ #slang #ESL #Englishlearner. ... <看更多>
เพื่ออะไร ภาษาอังกฤษ 在 get แปลว่าอะไรได้บ้าง 9 ความหมายที่ควรรู้จัก เรียนภาษาอังกฤษ ... 的美食出口停車場
get แปลว่า อะไร ได้บ้าง 9 ความหมายที่ควรรู้จัก เรียน ภาษาอังกฤษ ออนไลน์กับESEหลายคนที่ฝึก ภาษาอังกฤษ มักจะสงสัยในการใช้คำว่า get ... ... <看更多>