หลายคนที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจากคนธรรมดาขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจน่าจะเคยมีประสบการณ์ที่เพื่อนที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน ทักหาหรือโทรมาขอ “ยืมเงิน”
.
คือ ตอนที่เราทำงานประจำรายได้ไม่ได้เยอะ ไม่ค่อยจะมีเพื่อนคนไหนอยากจะคุยด้วยเท่าไหร่ แต่พอเห็นเราเริ่มสร้างตัวได้ หรือ พูดง่ายๆ คือ ดูมีเงิน ก็มักจะมีเพื่อนหรือคนรู้จักทักมาหา ตอนแรกก็ถามสารทุกข์สุกดิบ แต่พอสักพักก็จะเริ่มเข้าเรื่อง นั่นก็คือ การขอ “ยืมเงิน”
.
พอเราทำท่าจะปฏิเสธก็มักจะพูดดักคอเราด้วยการพูดประมาณว่า ก็เห็นเดี๋ยวนี้เป็นเจ้าของธุรกิจ น่าจะมีเงินเหลือเยอะ เพื่อนกำลังเดือดร้อนก็แค่อยากขอความช่วยเหลือ เพราะไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใครแล้วจริงๆ ก็เห็นมีแต่เรานี่แหละที่ช่วยเขาได้
.
สิ่งที่ผมอยากจะให้ทำความเข้าใจก็คือ คนที่ทำธุรกิจเขาอาจจะมีรายได้และกำไรจากธุรกิจเยอะก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าจะหยิบเงินในธุรกิจมาใช้ได้ตามใจชอบ
.
เพราะคนที่ทำธุรกิจจริงๆ เขาจะกำหนดเงินเดือนตัวเองชัดเจนว่าจะจ่ายเงินเดือนตัวเองเท่าไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะจ่ายในอัตราที่เหมาะสมกับเขา ส่วนกำไรที่เหลือก็คือกำไรของธุรกิจที่จะเอาไปหมุนเวียนต่อยอดให้เติบโตต่อไปในอนาคต ไม่ใช่ว่าเห็นตัวเลขกำไรแล้วคิดว่าเขาจะมีเงินเหลือเฟือมาใช้จ่ายหรือมาแจกใครก็ได้
.
คำถาม คือ แล้วจะมีวิธีจัดการอย่างไรกับเพื่อนที่ชอบมาขอยืมเงิน
.
ส่วนตัวผมแยกบุคคลเหล่านี้ออกเป็น 2 ประเภท คือ เครดิตดี กับ เครดิตไม่ดี
.
ในส่วนของคนที่เครดิตดี คือ คนที่เรารู้จักนิสัยใจคอเป็นอย่างดี ไม่เคยมีประวัติไม่ดีกับเพื่อนคนอื่นๆ แล้วเวลาขอยืมเงินเราไปก็มักจะคืนตรงเวลา ซึ่งถ้าไม่ตรงเวลาเขาก็จะทักมาบอกกล่าวเราเอง โดยไม่ต้องให้เราลำบากใจไปทวงถาม
.
ซึ่งกลุ่มคนที่เครดิตดีเหล่านี้ ผมจะมีการตั้งวงเงินที่จะให้ยืมเงินไว้ เช่น ไม่เกิน 3,000 บาท ถ้าจะขอยืมเกินกว่านี้ก็จะไม่ให้ยืม หรือ ถ้าจำเป็นต้องยืมมากกว่านี้และมีเหตุผลที่ฟังขึ้นจริงๆ ก็ต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจน
.
ส่วนคนที่เครดิตไม่ดี คือ คนที่เราไม่ค่อยรู้จักนิสัยใจคอ ห่างหายไปนาน ไม่เคยติดต่อกันนอกจากเวลาจะยืมเงิน หรือ อาจจะมีประวัติไม่ดีกับเพื่อนคนอื่น ถ้าหนักไปกว่านั้นคือ เคยยืมเงินแล้วไม่คืน
.
ซึ่งกลุ่มคนที่เครดิตไม่ดีเหล่านี้ ผมจะเสนองานให้เขาทำ โดยดูจากทักษะความสามารถของเขา โดยอาจจะถามเขาว่าทำอะไรได้บ้าง เช่น ออกแบบกราฟฟิก เขียนบทความ ตอบแชทลูกค้า ส่งของ ฯลฯ แล้วกำหนดค่าจ้างให้เขา อาจจะมากกว่าค่าจ้างปกตินิดหน่อย
.
ซึ่งคำตอบก็จะมี 3 อย่าง คือ
1. ทำตามคำแนะนำของเรา โดยทำงานแลกเงิน
2. ไม่ทำแล้วหายไปเลย
.
ซึ่ง 2 ข้อแรกไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ปัญหามันมักจะเกิดขึ้นบ่อยในข้อที่ 3 นั่นก็คือ
.
ไม่ทำตามคำแนะนำโดยการไม่ทำงานที่เราเสนอให้ โดยอ้างว่าต้องรีบใช้เงิน ไม่ถนัด ทำไม่เป็น ไม่มีเวลา
.
ซึ่งส่วนตัวผมก็จะตอบไปตรงๆ ว่า ผมเป็นคน “ยื่นมือ ก่อนยื่นเงิน”
.
ถ้าเราเสนองานและให้ค่าตอบแทนเขาโดยที่เขาไม่ต้องคืนเงินเรา เขายังไม่ทำทั้งที่ร่างกายมีครบ 32 ประการ ไม่ได้พิการมีอะไรบกพร่อง แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนมาคืนเรา เพราะกว่าเราจะสร้างเนื้อสร้างตัว ทำงานหาเงินมาได้ เราต้องเสียหยาดเหงื่อแรงกายฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยตัวเอง
.
และถ้าเขาจะหาว่าเราได้ดีแล้วลืมเพื่อน หรือ พูดจาให้เรารู้สึกเสียน้ำใจยังไงก็ตาม
.
บอกได้คำเดียวเลยครับว่า “เรื่องของเขา”
.
.
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น
ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
.
แต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน
ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
.
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ #สมองไหล
ออกแบบกราฟฟิก 在 ไอเดีย ออกแบบกราฟฟิก 40 รายการ | ศิลปะ, ภาพวาด, กราฟิก 的美食出口停車場
15 ก.ค. 2020 - สำรวจบอร์ด "ออกแบบกราฟฟิก" ของ Thitiporn Rachakom บน Pinterest ดูไอเดียเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ศิลปะ, ภาพวาด, กราฟิก. ... <看更多>
ออกแบบกราฟฟิก 在 กลุ่ม ออกแบบ กราฟฟิก เว็บไซต์ - Facebook 的美食出口停車場
กลุ่มนี้สร้างขึ้นมาเพื่อค้นหาคนทำงาน และหางานออกแบบ กราฟฟิก เว็บไซต์ สติ๊กเกอร์ไลน์ Design, Graphic, Website, Sticker Line,โลโก้, มาสคอต, เว็บไซต์, ... ... <看更多>