วันสุดท้ายของเดือนแล้ว เงินเดือนที่ได้มาบริหารกันดี ๆ อะไรตอนนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้อยู่หลายเรื่อง ถ้าบางเรื่องพอจะมีความแน่นอนก็ควบคุมและบริหารให้ดี ๆ จะได้ไม่มาเสียใจทีหลัง
พูดถึงเรื่องความไม่แน่นอน ช่วงนี้ได้คุยกับผู้บริหารหลาย ๆ คน คุยกันเรื่องนี้แล้วก็โยงกันไปเรื่องการวางแผนการทำงาน วางแผนบริษัท 3-5 เดือนคือตัวเลขเฉลี่ยที่คุยกันว่า นี่แหละ คือภาพที่เราพอมองเห็นได้ชัดหน่อย การปรับเป้าหมาย การวางกลยุทธ์ ก็จะอยู่สั้น ๆ แบบนี้ ลูปของการทำงานก็อาจจะเปลี่ยนเร็วไปตามความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น คนทำงานเองก็อาจจะหัวหมุนหน่อยเพราะต้องปรับตาม ๆ กันให้ทัน
ทีนี้มันก็อาจจะส่งผลกระทบต่อผลการทำงาน หรือ Performance ของบางคนที่ เฮ้ย ทำไม่อยู่ ๆ มันถึงได้แย่ลง แต่ก่อนเราเคยทำงานได้ดีกว่านี้ ทำไมตอนนี้มันแป้กถี่ ๆ เลย หรือบางคนอาจจะไม่เคยมีงานที่สำเร็จเลย ยิ่งเปลี่ยนบ่อย ๆ ยิ่งไปกันใหญ่
"หรือเราไม่เหมาะกับงานนี้นะ"
คำถามนี้อาจจะแว้บ ๆ เข้ามาในหัวของเราเวลาที่เราทำงานแล้วไม่เป็นไปตามที่หวัง ซึ่งผมก็เคย เคยบ่อยด้วย
ก่อนจะตัดสินใจอะไรต่อหลังจากที่ตั้งคำถามกับตัวเองแบบนั้น ลองค่อย ๆ คิดไปพร้อม ๆ กับประเมินด้วยว่า เราถือไพ่แบบไหนอยู่ในมือบ้าง มีโอกาสให้เราเปลี่ยนไพ่ มากน้อยแค่ไหน มีเงื่อนไขในชีวิตที่ทำให้เรากล้าหรือไม่กล้าลองเสี่ยงอยู่เปล่า
ลองเริ่มต้นอย่างนี้นะครับ
Performance หรือผลการทำงาน ถ้าจับแยกปัจจัยหลักออกเป็นสองก้อนใหญ่ ๆ คือ Ability หรือความสามารถที่จะทำงานนั้นให้สำเร็จ กับ Motivation หรือความอยากที่จะทำงานนั้นให้สำเร็จ ลองเขียนเป็นสมการเท่ ๆ ดู
Performance = Ability x Motivation
ถ้าเรามีครบทั้งสองอย่างชีวิตก็จะง่าย ถ้าตัดปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ออกไปก่อน งานเราออกมาดีแน่ ๆ แต่ถ้าปัจจัยภายนอกเยอะ แล้วเรามี Motivation ที่เหนือกว่าปัจจัยภายนอกนะ ยังไงงานของเราก็มีแนวโน้มจะออกมาดี
เราคือคนกลุ่มไหนในตอนนี้ ลองแบ่งออกเป็น 2x2 เมตริกซ์ดู
กลุ่ม 1 ความสามารถมีเต็มที่ ความอยากทำก็เต็มร้อย
กลุ่ม 2 ความสามารถเต็มที่ แต่ไม่มีใจอยากจะทำ
กลุ่ม 3 ความสามารถยังไม่มี แต่พี่ผมผมโคตรอยากทำเลย
กลุ่ม 4 ความสามารถก็ไม่มี ใจก็ไม่มีด้วยเหมือนกัน
ก่อนจะบอกว่าเราเหมาะไม่เหมาะกับงาน อย่างแรกลองวางตัวเองลงให้ชัดก่อนว่าอยู่กลุ่มไหน อย่าหลอกตัวเองนะ เพราะเราก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกใครเรื่องนี้
กลุ่มที่่ 1 ชีวิตไม่น่ามีปัญหา น่าจะเป็นลูกรักเลยด้วยซ้ำ ชีวิตเราจะเริ่มมีปัญหาถ้าเราอยู่ กลุ่ม 2 หรือ กลุ่ม 3 นี่แหละ
เพิ่มความสามารถกับเพิ่มความอยากจะทำ อันไหนอยากกว่ากัน ผมตอบเลยว่า ยากทั้งคู่ และหลายครั้งเลยที่เราไม่สามารถเพิ่มได้ด้วยตัวของเราเอง แต่อย่างน้อยที่สุดต้องลองเพิ่มด้วยตัวเองให้ได้ซะก่อน ไม่งงนะ
กลุ่ม 2 อยู่ ๆ ก็รู้สึกไม่มีใจจะทำขึ้นมาซะงั้น หาให้เจอว่าเราเป็นอะไร อกหัก แฟนทิ้ง ป่วย กังวลเรื่องลูก อย่างน้อยที่สุดหาให้เจอก่อน แล้วเราอาจจะหาทางแก้ได้ หรือถ้าไม่ได้ เราอาจจะปล่อยวางได้ แต่ถ้าไม่หาเลย มันก็จะอึน ๆ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทบกับงาน
กลุ่มที่ 3 ต้องเริ่มจากการยอมรับตัวเองก่อนว่า เราไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ ต้องรู้จักตัวเองมากขึ้นไปอีกว่า เราเรียนรู้ด้วยวิธีไหนได้ดีและรวดเร็วที่สุด แล้วก็มองคนรอบข้างโดยเฉพาะหัวหน้าเราด้วยว่าจะ Matching วิธีการเรียนรู้ระหว่างเรากับเค้ายังไง ปัญหาหลายครั้งเกิดจากอีโก้ของเราเองด้วย หัวหน้ารู้ดีว่าเรายังไม่เจ๋งพอในเรื่องนี้ ไม่แปลกถ้าเค้าจะจ้ำจี้จำไช Micro-Management กับเรา เราก็ต้องอดทนและคิดให้่ได้ว่านี่คือการเรียนรู้เพื่อไปต่อให้ได้ เรากำลังทำเพื่อตัวของเราเอง ฝืน ๆ หน่อยแต่ผลลัพธ์ก็น่าจะดีอย่างที่เราหวัง
ส่วนกลุ่มสุดท้าย ถ้าเรามาตกอยู่ตรงกลุ่มนี้ ก็เป็นไปได้ว่าเราอาจจะไม่เหมาะกับงานนี้จริง ๆ
เแต่ครับแต่ อย่าเพิ่งใจร้อนด่วนตัดสินเพราะเราก็อาจจะเสียโอกาสดี ๆ ไปได้
ผมเองก็เคยเป็นคนนึงที่ตั้งคำถามกับตัวผมเองว่า "งาน HR ไม่น่าจะใช่งานที่เหมาะกับผมแน่ ๆ " แต่บังเอิญว่าผมก็ไม่ได้มีทางเลือกในตอนที่ตั้งคำถาม แล้วบังเอิญอีกว่า ผมมีเวลาทำความเข้าใจในสิ่งที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับงาน HR เลยทำให้ผมเจอว่า เฮ้ย ผมขยับจากกลุ่ม 4 มาเป็นกลุ่มที่ 3 ได้ แล้วความอยากจะทำนี่แหละที่เข็นให้ผมเรียนรู้กับมันมากขึ้น จนผมก็เปลี่ยนใจว่า
ผม = HR นี่แหละที่ใช่สำหรับผม
บางทีการไม่รู้ในเรื่องที่เราไม่รู้ ก็อาจจะพาเราเดินเป๋ ๆ ไปได้ ก็ต้องรีบรู้ซะ จะได้เดินได้ตามทางที่เราอยากจะเดิน แต่ก็นั่นล่ะครับ ชีวิตมันก็ไม่ง่ายเนอะ ให้เวลากับมันหน่อยละนะ
#HRTheNextGen
#มนุษย์เงินเดือน #HR2021
อกหัก คือ 在 อกหัก Move on ต่อไม่ไหว ทำอะไรได้อีกบ้าง | R U OK EP.248 的美食出口停車場
17:12. Go to channel · เอาชนะตัวเองไปทำไม ในเมื่อคนที่แพ้ก็ คือ ตัวเราเอง | R U OK EP.247. THE STANDARD PODCAST•20K views · 50:09. Go to channel · DLTV ... ... <看更多>