วันที่ ๗ แล้วจ้า
เช้าเมื่อพวกเราตื่นขึ้นก็พลัดกันเข้าห้องนํ้าหลังจากนั้นเราก็มีดำรัสว่าจะไปกรวดน้ำที่ใต้ต้นโพธ์ที่แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ น้องบอกว่าไม่ทานข้าวเช้าก็ได้ เราเลยไปกันหมด ซึ่งงานนี้หนุ่มๆเราน่ารักมาก พวกเราก็ไปกรวดน้ำกันที่นั้น ตอนขากลับเห็นขี้ตากแห้งเพียบ คิดแล้วรู้สึกแปลกๆ เพราะไม่อยากจะบอกเลยว่า มองกันดีดี คนที่นี่รู้จักอยู่กับธรรมชาติมากๆนะ ผักสดหวานอร่อย แปลกตรงที่เค้าเอาขี้วัวควายมาทำเป็นแผ่นแล้วเอามาตากไว้กับกำแพงของสิ่งปลูกสร้างทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรืออะไรที่มันมีกำแพง
มีน้องบอกว่าเค้าจะเอามาทำโรตีให้เรากิน อร่อยด้วย แต่กินดีไหมเนี่ย? ???
เมื่อกลับมาพวกเราก็ยังได้กินข้าวเช้าทันเลย ได้อร่อยอีกมื้อ ขอบอกว่าอาหารวัดเนี่ยสุดๆเลย หลังจากนั้นเราก็ไปลาท่านเจ้าอาวาสเพื่อออกเดินทาง ซึ่งอย่างที่เล่ามา ทุกวัดพวกน้องๆจะให้พวกเราได้ร่วมทำบุญด้วย เนื่องจากน้องเขาเป็นเด็กที่เรียนอยู่อินเดียและเรียกได้ว่าเป็นเด็กวัดเก่า ดังนั้นทุกครั้งที่น้องเค้าจัดทริปไปอินเดีย เค้าจะมีเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ทำบุญ ซึ่งเมื่อถึงเวลาทำ พวกเราก็สามารถทำได้อีก อย่างที่บอก เงินที่ทุกคนฝากมาทำบุญจึงกระจายอยู่ทั่วทุกวัดที่พวกเราไปเลย ไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจมากับน้องเค้า น่ารักมาก
พวกเราเข้าไปทำบุญพร้อมทั้งลา ท่านก็บอกว่าเดี๋ยวพวกเราจะไปส้วมกันแล้วให้พวกเราทำบุญคนละหนึ่งรูปี เป็นค่าส้วม เพื่อที่ให้เอาอะไรที่ไม่ดีไปกับส้วม ตอนฟังนั้นงง เล็กน้อย ว่าทำไมต้องไปส้วม จนเมื่อเราออกเดินทางเพื่อที่จะข้ามไปสังเวชนียสถานที่ ๓ “ชาตสถาน,สถานที่ประสูติ” ซึ่งไม่ได้อยู่ในอินเดีย มีคนขู่เราว่าใช้เวลานานมากกกกกกกกสาหรับการผ่านด่านเข้า เนปาล ซึ่งพวกเราก็กลัวกันมากเลย ซึ่งจากวัดไทยกุสินาราใช้เวลาประมาณ ๕-๖ ชัวโมง หลังจากผ่านการเดินทางยาวนานเมื่อวันก่อนสบายมาก นั่งคุยกันไปแป็บเดียวก็ถึง และแล้วเราก็มาถึง ส้วม ที่หลวงพ่อพูด เชื่อไหมตอนที่หลวงพ่อพูดว่าพวกเราอย่าเอาหมอนกับผ้าห่มไปนอนในส้วมละกัน ยังคิดว่าใครจะบ้า แต่ขอโทษ อยากทำจริงๆนะ เพราะส้วมชื่อเพราะว่า พุทธวิหาร สาลวโนยาน ๙๖๐ เป็นห้องส้วมที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในโลก อาหารอร่อย ของกินเล่นอร่อยและเป็นที่แรกที่เราเรียกได้เต็มปากว่า “ห้องน้ำ” สะอาด สวย กว้างขวาง เราได้ทานอาหารกันที่นี่ และได้กินของกินเล่นกันที่นี่ คนที่นี่น่ารักมากๆ ขณะที่พวกเรากำลังอร่อยและเริ่มต้องออกเดินทางนั้น เราก็ออกมาด้านหน้า เจอเข้ากับผู้หนึ่งที่เป็นผู้ออกทุนสร้างห้องนํ้าคือ ภรรยาคุณประวิทย์ มาลีนนท์ และดาราช่องสาม เยอะแยะเลย งานนี้พี่อ๋อกับน้องๆเจอโจทย์เยอะเลย กำลังจะหันหลังกลับเพื่อที่จะได้เข้าไปด้านใน แต่ช้าไปเลยต้องมาเป็นดาวกลางดารา (สะงั้น)
สรุปห้องน้ำดารา หลังจากทานอาหาร น้ำ,ปัสสวะ พวกเราก็ได้เวลาเดินทาง ไปทางไหนก็เจอคนไทย
ขับรถออกมาอีกไม่ถึง สิบนาทีเราก็มาถึงด่าน เชื่อไหมรถจอดอยู่เต็มเลย มีเริ่มขู่อีกว่าพี่ดูสิคราวที่แล้วผมใช้เวลาเป็นชั่วโมง เราบอกไม่เอานะเราอยากเดินทางไปให้ถึงก่อนมืดเพราะอยากเข้าไปที่ประสูติวันนี้ บอกว่าคงยากแล้วต่อโชค เอ้าเอาเข้าไปพี่อ๋อเลยเริ่มขอให้เทวดาช่วย เพราะอยากไปถึงก่อน ๕ โมงด้วยเหตุผลบางประการ แล้ว มหัศจรรย์ก็มีจริง พวกเราใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชม.ด้วยซ้ำ แต่งานนี้ขอยอมรับฝีมือขับรถของคนอินเดีย คิดนะถนน ๒ เลน เลนหนึ่งมีรถจอดเต็มยาวมากกว่า ๒ กม. แต่อีกเลนมีรถสวนตลอด แต่เชื่อไหมเค้าสามารถขับรถสวนเลนที่ขับเข้ามาได้ เวลามันสวนกันห่างกันไม่เกิน ๓ นิ้ว พอช่วงที่มีกระจกมันจะยิ่งติดกัน หัวใจแทบวาย หลังจากเราผ่านด่านมาได้เราก็รีบออกเดินทางไปที่ประสูติก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน เราเดินทางมาถึงประมาณ ๕ โมง ซึ่งบริเวณนั้นมีรั้วกั้น เมื่อลงรถ พี่อ๋อก็ทำแบบเดิมอีก คือไม่รอให้มีคนพาไป แต่ขอให้เทพแถวนั้นพอไป แต่พอเดินเข้าไปกำลังจะเดินตามเค้า
หลวงพี่ดันพูดบอกว่า โยมเวลาเดินต้องเดินเวียนซ้ายนะ แต่ตอนที่หลวงพี่บอกพี่อ๋อเดินมาทางขวาและกำลังจะถึง ตอนนั้นกำลังคิดว่า ฉันจะเชื่อใครดีระหว่างพระกับเทพ สรุป เราเลยไม่สนแล้วไปเลยดีกว่า เมื่อเข้าไปด้านในก็จะมีสถานที่ประสูติเป็นเหมือนบ่อหินหรือกำแพงอธิบายไม่ถูก เอ้ามาย้อนอดีตกันสักรอบนะ ขอย้อนความไปเมื่อ ๒๖๘๐ ปี เมื่อคราวที่พระนางสิริมหามายาทรงพระสุบินนิมิตว่า มีท้าวมหาพรหมทั้งสี่มายกแท่นบรรทมของพระนางไปวางไว้ภายใต้ต้นสาละใหญ่ ณ ป่าหิมพานต์ เหล่าเทพธิดานาพระนางไปสรงสนานในสระอโนดาด ซึ่งอยู่ข้างๆ ต้นสาละนั้น เพื่อชำระล้างมลทิน ขณะนั้นมีลูกช้างเผือกเชื่อกหนึ่งถือดอกบัวขาวลงมาจากภูเขา ร้องเสียงลั่น เข้ามาทาประทักษิณ ๓ รอบ แล้วเข้าสู่อุทรทางเบื้องขวาของพระนาง นับแต่นั้นมา พระนางก็เริ่มทรงพระครรภ์ เมื่อพระครรภ์ของพระนางแก่ ตามธรรมเนียม มีความเชื่อว่าฝ่ายหญิงต้องเดินทางไปคลอดบุตรที่บ้านพ่อแม่ ซึ่งตามพุทธประวัติ ลุมพินีตั้งอยู่กึ่งทางระหว่างทางที่พระนางจะเดินทางไป กรุงเทวทหะนคร เมื่อมาถึงลุมพินี พระนางทรงเจ็บพระครรภ์ โปรดให้หยุดขบวนใต้ต้นสาละ ทรงยืนเหนี่ยวกิ่งสาละ ณ วันวิสาขปุรณมี เวลาสายใกล้เที่ยง เจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นพร้อมทั้ง มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการครบสมบูรณ์ อันเป็นลักษณะแห่งองค์พุทธางกูรโดยเฉพาะ เมื่อพระองค์เสด็จออกจากพระครรภ์ก็ทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ก้าวพระบาทไปได้ ๗ ก้าว เป็นบุพนิมิตหมายความว่า พระพุทธองค์ประสูติบริสุทธิ์ ไม่เปรอะเปื้อน พระองค์ด้วยครรภ์มลทิน มีหมู่เทวดามาคอยรับและมีธารน้ำร้อนเย็นเพื่อสรงพระวรกาย
สำหรับการประสูติ พระพุทธองค์ได้ตรัสเล่าให้พระอานนท์ฟังว่า ดูก่อนอานนท์ หญิงอื่นๆ ย่อมนั่งคลอดบ้าง นอนคลอดบ้าง ส่วนมารดาแห่งพระโพธิสัตว์หาเป็นอย่างนั้นไม่ มารดาแห่งโพธิสัตว์ย่อมยืนคลอด ในกาลใดโพธิสัตว์ออกมาจากครรภ์แห่งมารดา กาลนั้นเป็นผู้สะอาดหมดจด ไม่เปื้อนด้วยเมือก เปื้อนด้วยเสมหะ ไม่เปื้อนด้วยเลือด หนองของไม่สะอาดอย่างใด เป็นผู้สะอาดบริสุทธิ์ โพธิสัตว์คลอดแล้วเช่นนี้เหยียบพื้นดินด้วยฝ่าเท้าอันสม่ำเสมอ ผินพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ ก้าวไปเจ็ดก้าว มีฉัตรขาวกั้นอยู่เบื้องบน ย่อมเหลียวดูทิศทั้งหลายแล้วทรงเปล่งวาจาประกาศความสูงสุดว่า
“เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุด และเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก การเกิดของเราครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ภพต่อไปไม่มีอีก”
และนั้นคือการเริ่มต้นของพระผู้ประเสริฐ
กลับมาจ้า กลับมาสู่ปัจจุบัน หลังจากเราออกจากวิหาร เราก็เดินตามหลวงพี่ เพราะเริ่มนำสวดมนต์แล้วอยู่บริเวณหน้าเสาอโศก ซึ่งพวกเราสวดมนต์กันจนพระอาทิตย์ตกดินเลย ไม่น่าเชื่อเพราะเมื่อมองนาฬิกาพึง ๖ โมงเอง เชื่อไหมขณะที่เราสวดมนต์นั้นมีเทวดามาด้วยนะ รู้สึกดีมากๆ แต่หลังจากนั้นก็เริ่มลงนรก อย่างงเลย เรื่องของเรื่องคือ หลวงพี่ให้เราเดินเท้าเพื่อที่จะได้ไปดูไฟแห่งสันติภาพที่ญี่ปุ่นมาสร้างไว้และไม่เคยดับเลย เราเดินไปโดยหลวงพี่บอกว่าเดี๋ยวคนรถจะไปรอรับเราก็เดินกันออกมา สักพัก เราก็ได้ยินเสียงเหมือนเสียงกรีดร้อง พวกเราเริ่มมองหน้ากัน หลวงพี่เริ่มเล่าว่า ไม่มีอะไรหรอก (หรือหลอกน้า) หมานะที่นี่ต้องไม่เดินคนเดียวนะคอยมองไปที่พงหญ้าสิ ตอนที่ว่านี้พวกเราใช้ไฟฉายส่องกันอยู่นะเพราะฟ้ามืดมาก หลวงพี่เล่าต่อว่า ถ้าเดินมาคนเดียวจะมีหมาออกมาเป็นสิบเป็นร้อย มันเคยออกมากัด เพราะมันจะหากิน เฮ้ย หมากินคน แม่เจ้า เหมือนฟังหลวงพี่บอกเราก็เริ่มมองเข้าพงหญ้าซึ่งก็เห็นเป็นดวงตาจริงๆน่ากลัวมาก หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปสู่วัดไทยลุมพินี ซึ่งเราได้เห็นว่าวัดที่นี่ปลูกผักเอง อร่อยมากมันสดและกรอบจริงๆนะ พี่อ๋อไม่กินข้าวเย็น ยังอดลองไม่ได้เลย แต่หลังจากที่เรากินเสร็จ เราก็ต้องออกเดินทางไปสู่วัดเกาหลีที่เราต้องไปนอนที่นั้นเพราะวัดไทยเต็มไม่มีที่นอน แล้วความน่ากลัวจริงๆก็เกิดขึ้น เราเดินทางมาที่วัดเกาหลีซึ่งอยู่ไม่ห่างจากวัดไทยสักเท่าไหร่ เมื่อรถขับเข้ามาในบริเวณวัด พี่อ๋อเห็นแล้วแต่ไม่ได้พูดอะไร มีคนพูดขึ้นมาว่า พี่ถึงพี่ไม่พูดก็รู้สึก ผีดุมาก พี่อ๋อเลยเริ่มหน้าเสียเพราะเห็นมากกว่านะ ที่เห็นนะเป็นผีอยู่รอบๆเรามีเต็มไปหมดเลย พวกเค้ายังคงอยู่อยู่มาประมาณ ๒๐๐ ปีได้ พี่อ๋อบอกทุกคนตั้งแต่อยู่ในรถว่า ที่นี่เคยเป็นหมู่บ้านแล้วพวกเค้าป่วยตายมากคนเลยอพยพ ซึ่งเพื่อความแน่ใจพวกเราเดินเกาะกลุ่มกันมากๆ คิดนะมันมืดมากและขอบอกว่ามีเสียงหมาหอนด้วย เสียงกรีดร้องของหมาไน และยังรู้สึกวังเวงด้วย คิดเอานะว่ามันแค่ไหน หลังจากพวกเราเดินกันอย่างรักกันมาก เราก็เดินเข้าไปรับกุญแจเพื่อที่จะหาห้องนอน น้องบอกว่าเราไปปักกลดที่วัดไทยก็ได้นะ อย่านอนที่นี่เลย แต่เราไม่มีทางเลือกหลังจากนั้น เมื่อเราได้ห้องพี่อ๋อก็ถามหลวงพี่ขึ้นมาว่า “หลวงพ่อค่ะที่นี่เคยเป็นอะไรมาก่อนค่ะ ท่านบอกว่าเป็นสวน พี่อ๋อเลยถามว่าแล้วก่อนหน้านั้นละค่ะ ท่านก็บอกว่า เมื่อประมาณ ๒๐๐ ปีก่อนนะ เป็นหมู่บ้านหลายหมู่บ้านเลยประมาณ ๓๐ กว่าหมู่บ้าน แต่ไม่รู้เพราะอะไรพวกเค้าก็อพยพออกไปกันหมด” เท่านั้นละทุกคนคงนึกหน้าลูกศิษย์ที่รักของพี่อ๋อออกใช่ไหม ซีดกันเป็นแถบๆเลย แล้วหน้าพวกเราก็ซีดมากกว่าเดิมเมื่อเห็นห้องพักและห้องน้ำในห้องพัก ห้องที่พวกเราได้ใหญ่มากและเค้าก็ปูผ้าให้พวกเรานอนมีห้องน้ำอยู่ริมซ้ายแต่ประตูห้องน้ำอยู่กลางห้องเลยซึ่งเมื่อตกลงกันได้ว่าพวกเราจะนอนที่นี่เราก็ได้เหยื่อเพิ่มมาอีก แต่มันไม่ช่วยเลยนะ เพราะหลังจากเราเข้าไปดูในห้องน้ำแล้วถึงขนาดทำให้เรามีความรู้สึกตรงกันว่า ไม่อาบเลยก็ได้นะ ซึ่งผู้ชายทั้งสองก็ปฏิบัติตามนั้นอย่างเคร่งครัด แต่ผู้หญิงเรานี่สิ พี่อ๋อจิตตกมาก ตอนนี้ยังถามตัวเองเลยว่า “กูกลัวทำไมวะก็เห็นจนชินแล้ว แต่ขอบอกว่าตอนนี้ชินไม่ลงงะ” คิดเอาสิพี่อ๋ออาบน้ำโดยที่มีลูกศิษย์มายืนหันหลังเป็นเพื่อนอยู่ในห้องน้ำงะ คิดเอาว่ามันน่ากลัวแค่ไหน หลังจากนั้นก็นอนโดยพวกเค้าไปจัดที่นอนห่างจากเราโดยพวกเรามานอนเบียดกันที่ด้านหน้าแล้วเว้นตรงบริเวณประตูห้องน้ำไว้ ซึ่งไม่รู้ว่าแกล้งกันหรือเปล่าปกติทุกคนจะทำเสียงดนตรีนะแต่งานนี้นอนกันเงียบเลย ตกกลางคืน เท่าที่รู้มีคนเดียวที่นอนไม่หลับเลยนอนคลุมโปง ประมาณ ตี ๒ ก็มีเสียงเหมือนเสียงกรีดร้องและมีเสียงเหมือนเสียงเคาะประตูด้วย ยิ่งทำเอาคนนอนไม่ได้ และด้วยความที่พี่อ๋อพูดเสมอว่ากลางคืนห้ามพูดไม่ว่าได้ยินเสียงอะไรห้างทัก คนเลยนอนกลัวจนเช้า แต่พอตอนเช้าพวกเราจะต้องเดินทางไปกินข้าวที่วัดไทยไ ด้ออกมาเจอพวกลูกทัวร์คนอื่นๆทุกคนได้ยินเสียงกรีดร้องหมาหอนกันทั้งคืนด้วย และมีเสียงเคาะประตูด้วย แต่เป็นช่วงเวลาประมาณตี ๒ เช่นกัน สรุป ผีแต่ละท่าน น่ารักมากกกก
แต่ยังไรมันก็เป็นความตื่นเต้นอีกแบบนะสำหรับคืนหนึ่งในอินเดีย
「สถานที่ประสูติ」的推薦目錄:
- 關於สถานที่ประสูติ 在 Aur's Diary - อ๋อ ไดอารี่ Facebook 的最讚貼文
- 關於สถานที่ประสูติ 在 TAS19 คำนวณผลประโยชน์พนักงาน โดยนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ABS Facebook 的最佳解答
- 關於สถานที่ประสูติ 在 Danai Chanchaochai Facebook 的最讚貼文
- 關於สถานที่ประสูติ 在 ลุมพินีวัน : สถานที่ประสูติแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 的評價
- 關於สถานที่ประสูติ 在 สถานที่ประสูติ ณ สวนลุมพินี เนปาล Lumbini Nepal - YouTube 的評價
- 關於สถานที่ประสูติ 在 ลุมพินีวัน สถานที่ประสูติเจ้าชายสิตธัตถะ - Facebook 的評價
- 關於สถานที่ประสูติ 在 สถานที่ประสูติ ณ สวนลุมพินี เนปาล Lumbini Nepal - YouTube 的評價
- 關於สถานที่ประสูติ 在 สถานที่ประสูติ ณ สวนลุมพินี เนปาล Lumbini Nepal - YouTube 的評價
สถานที่ประสูติ 在 TAS19 คำนวณผลประโยชน์พนักงาน โดยนักคณิตศาสตร์ประกันภัย ABS Facebook 的最佳解答
• #วันวิสาขบูชา Visakha Bucha Day •
...วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญที่สุดทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
- - - - - - - - - - - - - - -
...สถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญมีดังนี้
- - - - - - - - - - - - - - -
#สถานที่ประสูติ
...ใต้ต้นสาละ สวนลุมพินีวัน กึ่งกลางระว่างกรุงกบิลพัสดุ์และกรุงเทวทหะ
ปัจจุบัน คือ รุมมินเด ประเทศเนปาล
- - - - - - - - - - - - - - -
#สถานที่ตรัสรู้
...ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ
ปัจจุบัน คือ ควงไม้พระศรีมหาโพธิ์ ตำบลพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
- - - - - - - - - - - - - - -
#สถานที่ปรินิพพาน
...ป่าสาละ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ
ปัจจุบัน คือ เมืองกาเซีย จังหวัดโครักขปูร์ ประเทศอินเดีย
.
#TAS19 #รับคำนวณผลประโยชน์พนักงาน #เกษียณ #เลิกจ้าง #เงินชดเชยสำรอง
.
- www.actuarialbiz.com -
สถานที่ประสูติ 在 Danai Chanchaochai Facebook 的最讚貼文
ผู้ใดระลึกถึงพระพุทธองค์ พึงจาริกไปยังสังเวชนียสถานทั้งสี่นี้
เชิญอธิษฐานจิต ร่วมบันทึกบุญใหญ่ ด้วยการลงชื่อนามสกุลของตนเอง ตลอดจนครอบครัว วงศ์ตระกูล บุพการี และผู้เคารพนับถือ
ลงบนผ้าห่มต้นพระศรีมหาโพธิ์
ณ ดินแดนแห่งการตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พร้อมทั้งร่วมน้อมจิตถวาย ผ้าไตรจีวรพระพุทธเมตตา (พุทธคยา) หลวงพ่อองค์ดำ (นาลันทา) พระพุทธปรางมหาปรินิพพาน (กุสินารา) และผ้าห่มเสาอโศกมหาราช (ลุมพินีวัน)
สังเวชนียสถาน สถานที่ที่ทำให้เกิดความรู้สึกระลึกถึงพระพุทธเจ้า เกิดความแช่มชื่น เบิกบาน เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำความดี เมื่อได้ไปพบเห็น
สังเวชนียสถาน มี 4 แห่ง คือ
สถานที่ประสูติ
สถานที่ตรัสรู้
สถานที่แสดงปฐมเทศนา
สถานที่ปรินิพพาน
สังเวชนียสถาน 4 แห่งนี้ ท่านว่าเป็นสถานที่ควรไปเคารพสักการะ ควรไปแสวงบุญ เพื่อให้เกิดความสังเวช และเกิดพุทธานุสติ อันจักนำมาซึ่งบุญกุศลและความปลาบปลื้มแช่มชื่นใจ
ในการนี้ คณะธรรมดีทัวร์ จะเดินทางไปเเสวงบุญบนเส้นทางแห่งศรัทธา กราบนมัสการสี่สังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย และเนปาล ระหว่างวันที่ 15 ถึง 23 ธันวาคม ศกนี้
จึงขอเชิญชวนท่านที่สนใจมาร่วมลงนามได้ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม ศกนี้
สำนักงาน มูลนิธิธรรมดี
ชั้น 22 อัมรินทร์พลาซ่า
BTS ชิดลม
☎️ 02-685-2255
092-956-1145
061-354-9459
อนุโมทนาสาธุครับ
มูลนิธิธรรมดี
ธรรมดีทัวร์
สถานที่ประสูติ 在 สถานที่ประสูติ ณ สวนลุมพินี เนปาล Lumbini Nepal - YouTube 的美食出口停車場
![影片讀取中](/images/youtube.png)
Comments • 235 · สวนลุมพินี สถานที่ประสูติ ของพระพุทธเจ้า (ฉบับเต็ม) : Lumbini Nepal · บทสวดบูชาองค์พระพิฆเนศปางมหาเศรษฐี 【ganesh mantra】 · แห่ ... ... <看更多>
สถานที่ประสูติ 在 ลุมพินีวัน สถานที่ประสูติเจ้าชายสิตธัตถะ - Facebook 的美食出口停車場
ประกาศจัดบูชาพุทธสถานทั้ง๔ #เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี๒๕๖๔ โดยแอดมิน ให้กดติดตามเพจ5เพจดังนี้เพื่อชมภาพงานวันที่26ก.พ.นี้ เพจทั้ง4พุทธสถาน มีดังนี้... ... <看更多>
สถานที่ประสูติ 在 ลุมพินีวัน : สถานที่ประสูติแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 的美食出口停車場
... และ สถานที่ประสูติ นี้ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนอินเดีย-เนปาลประมาณ ๓๒ กิโลเมตร ปัจจุบันสังเวชนียสถานแห่งนี้ ภาษาทางราชการเรียกว่า "ลุมมินเด" ... ... <看更多>