ชอบที่เขาว่า "หากเรานับถือใครเฉพาะจากความสำเร็จของเขา ถือว่าเรายังรู้จักเขาน้อยเกินกว่าจะนับถือเขา" เพราะนั่นเป็นเพียงปลายทาง ความสำเร็จเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง และถ้าได้นั่งจับเข่าคุยกัน เขาคงอยากเล่าให้เราถึง 'ความผิดพลาด' ที่เขาเคยทำมามากกว่า
ความผิดพลาดในชีวิตนั้นกว้างมาก ป้องกันแบบคร่าวๆได้แค่ด้วยใจ ใจที่เข้าใจว่าความล้มเหลวเป็นส่วนนึงของชีวิต , เราควบคุมทุกอย่างให้เป็นดังใจไม่ได้ อย่าประมาทกับอะไรก็ตามที่ทั้งควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใด ไม่โลกสวยไปมองว่ามันสวยงาม ไล่ยาวไปถึงไม่ให้ค่าว่ามันเป็นตราบาปที่จะติดตัวเราไปตลอดชีวิต ไม่ เงินมีมายังหมดได้ ความผิดพลาดก็มาๆไปๆเหมือนกัน - นั่นทำให้ฤดูฝนนี้ผมนึกชอบแอพพิเคชั่น "พยากรณ์อากาศ" บนมือถือของผมมากๆ
โดยไม่เคยลงไว้-มันมาเองพร้อมเครื่อง วันไหนแดดจ้าแอพนี้จะเงียบสนิท เหมือนมันเปิดเสรีให้ผมอยากจะเดินตากแดดจนหน้าแหก , ทาครีมอย่างที่ควรทา หรืออย่างน้อยๆก็ฉลาดพอจะกางร่มก็ได้ แล้วแต่เลย มันไม่เตือนอะไรทั้งนั้น ถ้ากดดูมัน มันจะบอก "วันนี้แดดออก ตาบอดหรือไง? ร้อนแบบนี้คิดว่าไฟสวรรค์เหรอ?" อะไรก็ว่ากันไป
แต่ในฤดูฝนแบบตอนนี้ มันขยันและจริงจังขึ้น คือถ้าวันไหน(มันคิดว่า)ฝนจะตก มันจะส่งข้อความแจ้งเตือน #ฝนจะตก มาบอกแต่เช้า พอกดดูจะเห็นการแจกแจงสภาพอากาศชนิดยิบรายชั่วโมง
7 โมงเช้าแดดออก
8 โมงเช้าแดดออก
9 โมงเช้าแดดมีแต่เมฆมา
10 โมงมามีโอกาส 51% ที่ฝนจะตก
ฯลฯ
อะไรก็ว่ากันไป ความเก๋คือหากมันคิดว่าฝนจะตก แอพจะขึ้นว่า "มีโอกาส 51%" เสมอ ไม่ 50-50 ไม่ 75% หรือมั่นใจฟันธงว่า 100% ไม่...จะแค่ 51% เสมอ ซึ่งบ่อยครั้งพอบอกฝนจะตกตอน 10 โมง - 10 โมงฝนก็ตกจริงๆ
แต่ที่สนุกกว่าคืออย่างวันนี้ แอพบอก "มีโอกาสที่ฝนจะตกช่วง 4 ถึง 5 โมงเย็น" แน่นอนว่าระบุว่าแค่ 51% เหมือนเดิม #ว่าแล้วฝนก็ไม่ตกตามเวลาที่ระบุไว้ เป็นแบบนี้บ่อย ผิดพลาดแบบนี้บ่อยพอๆกับที่มันระบุเวลาได้ถูกต้อง เป็นอะไรที่ "อ้ะ ก็บอกว่า 51%" เอามากๆ
ประเด็นคือในวันเดียวกันพอผ่านมาถึงตอนที่นั่งพิมพ์สเตตัสนี้(ตี 1)ปรากฏว่า #ฝนกำลังตก อ่า นึกแล้วเชียว ตรงนี้เป็นเหมือนอะไรที่รู้กันเฉพาะคนที่กดดูแอพนี้บ่อยๆ คือดูเรื่อยๆก็เริ่มจับทางได้ว่า "ถ้าฝนไม่ตกตามเวลาที่มันบอก-ก็มีโอกาสที่่ฝนจะมาตกหลังจากนั้นแทน" หลังจากนั้นแค่ไหนไม่รู้แต่ยังไงในวันนั้นให้ระวังไว้ โอกาสที่ว่าคือมากแค่ไหน? ถ้าจะให้เดาก็คง 51% ล่ะมั้ง
ถึงตรงนี้ , ถ้าใครที่มองเฉพาะความสำเร็จของแอพหรือตัดสินมันเฉพาะจากความผิดพลาด คงเลิกเชื่อถือแอพพยากรณ์อากาศนี้ไปนานแล้ว แต่ถ้าเราเรียนรู้ทั้ง 2 อย่างจากมัน เราจะได้เครื่องเตือนความจำชั้นดีที่จะช่วยเขย่าแขนไม่ให้เผลอประมาทกับชีวิต ไม่รอให้เบื้องบนต้องเป็นใจ จะเกิดอะไรให้ยืดหยุ่นปรับตัวไป และไม่โทษใครหรืออะไรรอบตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง โง่เองก็เปียกเอง ไม่ทาครีมก็แพ้ไป
ทุกวันชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องยากๆ แต่อย่างน้อยการนับถือแอพพิเคชั่นนี้ก็ช่วยให้ผมไม่ต้องพลาดออกไปเดินตากฝน , ในวันที่ไม่ได้มีอารมณ์อยากเล่นน้ำ การไม่ต้องตัวเปียกในที่สาธารณะก็ช่วยให้ชีวิตไม่ยากไปกว่าที่ควรจะเป็น
