โมเดลคนไทยฉลาดการเงิน …
ท่านที่เคยเข้าร่วมสัมมนา MONEY LITERACY ที่จัดโดยพวกเราทีมงานคนไทยฉลาดการเงิน น่าจะเคยเห็นโมเดลสู่อิสรภาพทางการเงินดังแสดงในรูป
โมเดลนี้เป็นโมเดลที่ผมคิดขึ้นเอง จากประสบการณ์ในการสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีอิสรภาพทางการเงินในแบบของตัวเอง และเผยแพร่แนวคิดดังกล่าวให้กับผู้เข้าสัมมนากับผมและทีมงานในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
แนวคิดดังกล่าว มีรากฐานสำคัญบน 3 องค์ประกอบแห่งการพึ่งตนเอง เริ่มต้นจากการมี “ความรับผิดชอบทางการเงิน” (Money Responsibility) โดยเริ่มจากความเชื่อว่าอนาคตทางการเงินของตัวเรานั้น เราสามารถเป็นผู้กำหนด แก้ไข ทำให้เป็นจริง และดีขึ้นได้ด้วยตัวเราเอง
ถัดมาคือ การมี “ความรู้ทางการเงิน” (Money Literacy) ที่สมดุลทั้ง 4 ด้าน ทั้งในด้านการหารายได้ การบริหารการใช้จ่าย การออม และการลงทุน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนชีวิตและวางแผนการเงิน
และองค์ประกอบสุดท้าย คือ การมี “วินัยทางการเงิน” (Money Discipline) ซึ่งหมายถึง การนำความรู้ทางการเงินไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จนความรู้พัฒนากลายเป็นทักษะทางการเงิน และส่งผลลัพธ์เชิงบวกกับชีวิตอย่างเห็นได้ชัดเจน หรือที่เรียกกันง่ายๆว่ามี “สุขภาพการเงินที่ดี” (Money Fitness) ซึ่งสามารถสะท้อนออกได้ทาง 4 เสาหลัก อันได้แก่
1) การบริหารสภาพคล่องได้อย่างได้เหมาะสม: หมายถึง มีกิน มีใช้ มีเหลือเก็บ มีหนี้ในระดับที่บริหารจัดการได้ จ่ายภาษีให้กับประเทศได้อย่างถูกต้อง
2) การบริหารความเสี่ยง: หมายถึง มองเห็นภัยที่มีโอกาสเกิดกับชีวิตและทรัพย์สิน และเตรียมความพร้อมรับมือไว้อย่างเหมาะสมเพียงพอแก่เหตุ
3) วางแผนเกษียณรวย: หมายถึง รู้เป้าหมายการเงินในวันที่ต้องหยุดทำงาน และมีแผนเริ่มต้นสะสมทุนเกษียณตั้งแต่วันที่ยังทำงานอยู่ ผ่านช่องทางและเครื่องมือทางการเงินที่พาไปถึงเป้าหมายได้ ภายใต้ความรอบรู้ในการบริหารจัดการที่ถูกต้อง
4) วางแผนเกษียณเร็ว: หมายถึง มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน และรู้จักใช้เครื่องมือด้านการลงทุน ย่นระยะเวลาในการเกษียณอายุลงมา 10-20 ปี เพื่อมีเวลาใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการและแบ่งปันคืนสู่สังคมอย่างเต็มภาคภูมิ
ทั้งนี้ “สุขภาพการเงินที่ดี” สามารถท่องเป็นสโลแกนง่ายๆ ได้ว่า …
“สภาพคล่องดี ปลอดหนี้จน พร้อมชนความเสี่ยง มีเสบียงสำรอง สอดคล้องเกณฑ์ภาษี และบั้นปลายมีทุนเกษียณ”
ทั้งนี้ เมื่อคนเรามี Money Fitness หรือสุขภาพการเงินที่ดีแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะยกระดับสุขภาพการเงินดังกล่าวไปสู่ระดับที่เรียกได้ว่ามี “อิสรภาพทางการเงิน” ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งหมายถึง การเบาบางความกังวลทางการเงิน และมีความสุขตามรูปแบบที่ออกแบบไว้ได้ โดยมีเงินเป็นเครื่องสนับสนุนอย่างเหมาะสมเพียงพอ
สิ่งหนึ่งที่ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากก็คือ ตอนเริ่มต้นวาดโมเดลดังกล่าว ผมนึกคิดองค์ประกอบต่างๆบนประสบการณ์ของตัวเองส่วนหนึ่ง ความรู้ทางการเงินที่ผมศึกษามาตลอดหลายปี จนแก้ปัญหาและมีอิสรภาพได้อีกส่วนหนึ่ง โดยมีกรอบใหญ่ใจความของหลักคิดและแนวทางมาจาก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของในหลวง 3 หลักการ 2 เงื่อนไข
“พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน” ภายใต้ 2 เงื่อนไขสำคัญ คือ “ความรู้ และคุณธรรม”
และทั้งหมดนี้ คือ โมเดลคนไทยฉลาดการเงิน หรือ โมเดลอิสรภาพทางการเงินแบบไทยๆ ที่เราจะยืนหยัดเผยแพร่ต่อไป เพื่อให้คนไทยเข้าใจเรื่องการเงินได้อย่างถูกต้อง และมีชีวิตที่ดีขึ้น
ติดตามรายละเอียดและกิจกรรมของพวกเราตลอดปี 2560 เร็วๆนี้
#TheMoneyCoachTH
วินัยทางการเงิน หมายถึง 在 Money Coach Facebook 的最佳解答
ผลการเรียน Vs ผลการรวย
น้องคนหนึ่งหลังไมค์มาคุยกันเมื่อวาน เธอถามผมว่า "หนูเรียนไม่เก่ง จะประสบความสำเร็จทางการเงินได้หรือเปล่า"
คำตอบง่ายๆ แบบไม่ต้องคิดของผมก็คือ "ได้ครับ"
ทั้งนี้เพราะการจะประสบความสำเร็จทางการเงิน หรือมีอิสรภาพทางการเงินได้นั้น มันไม่ต้องอาศัยผลการเรียนเลยครับ แต่อาศัยสิ่งที่ผมเรียกมันว่า "สามเสาหลักของการมีอิสรภาพทางการเงิน" อันประกอบด้วย
1) ความรับผิดชอบทางการเงิน - คือ การเชื่อมั่นว่าทุกสิ่งที่เราเป็นในวันนี้ เป็นผลจากตัวเราเองคนเดียวทั้งสิ้น และเราเองเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะกำหนดอนาคตทางการเงินของตัวเองได้ ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเราเอง
2) ความรู้ทางการเงิน - ความรู้ชนิดนี้เริ่มต้นเรียนกันใหม่ได้ทุกคน และไม่ต้องใช้คณิตศาสตร์ชั้นสูง แค่บวกลบคูณหาร หรืออย่างน้อยกดเครื่องคิดเลขเป็น ก็เรียนรู้กันได้แล้ว
3) วินัยทางการเงิน - เมื่อมีความรับผิดชอบและมีความรู้มากพอที่จะวางแผนการเงินให้ตัวเองได้แล้ว สุดท้ายก็เหลือแค่ว่าเราจะมีวินัยทำตามแผนการตัวเองอย่างเคร่งครัดหรือเปล่า เท่านั้นเอง
จะเห็นว่าทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับผลการเรียนในอดีต
หลายคนเรียนจบออกมาพร้อมกับฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนแบบไม่รู้ตัว ถูกระบบการศึกษาแบบบล๊อก ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อผลิตคนแบบเดียวกลุ่มเดียว เอามาตัดสินคนอีกหลากหลาย type หลากหลายประเภท โดยเฉพาะคนพิเศษอย่างพวกเรา
ผมเองก็เป็นคนเรียนไม่เก่ง จบมหาวิทยาลัยออกมาแบบเฉียดตาย ใช้เวลาตั้ง 6 ปีกว่าจะได้ปริญญา
เพื่อนสนิทในกลุ่มผมแทบทุกคนจบเกียรตินิยมบัณฑิต ส่วนผม "ปาฎิหารย์บัณฑิต" (หมายถึง เรียนอย่างมึงแม่งไม่น่าจบ)
แต่นั่นไม่เคยทำให้ "ความเชื่อมั่น" ในตัวผมจางหายไป ไม่ว่าจะเรียนได้เกรดเท่าไหร่ ผมยังเชื่อมั่นเสมอว่า ...
"กูแม่งเก่งที่สุดในโลก และวันหนึ่งกูจะประสบความสำเร็จในแบบของกู ... โอเค้"
อยากให้กำลังใจน้องที่คุยกันเมื่อวานครับ จำเอาไว้ "ผลการเรียน ไม่เกี่ยวข้องอะไร กับผลการรวย"
เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ ... เราทุกคนเกิดมาเพื่อประสบความสำเร็จครับ ...
#TheMoneyCoachTH
วินัยทางการเงิน หมายถึง 在 Money Coach Facebook 的最讚貼文
ผลการเรียน Vs ผลการรวย
น้องคนหนึ่งหลังไมค์มาคุยกันเมื่อวาน เธอถามผมว่า "หนูเรียนไม่เก่ง จะประสบความสำเร็จทางการเงินได้หรือเปล่า"
คำตอบง่ายๆ แบบไม่ต้องคิดของผมก็คือ "ได้ครับ"
ทั้งนี้เพราะการจะประสบความสำเร็จทางการเงิน หรือมีอิสรภาพทางการเงินได้นั้น มันไม่ต้องอาศัยผลการเรียนเลยครับ แต่อาศัยสิ่งที่ผมเรียกมันว่า "สามเสาหลักของการมีอิสรภาพทางการเงิน" อันประกอบด้วย
1) ความรับผิดชอบทางการเงิน - คือ การเชื่อมั่นว่าทุกสิ่งที่เราเป็นในวันนี้ เป็นผลจากตัวเราเองคนเดียวทั้งสิ้น และเราเองเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะกำหนดอนาคตทางการเงินของตัวเองได้ ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเราเอง
2) ความรู้ทางการเงิน - ความรู้ชนิดนี้เริ่มต้นเรียนกันใหม่ได้ทุกคน และไม่ต้องใช้คณิตศาสตร์ชั้นสูง แค่บวกลบคูณหาร หรืออย่างน้อยกดเครื่องคิดเลขเป็น ก็เรียนรู้กันได้แล้ว
3) วินัยทางการเงิน - เมื่อมีความรับผิดชอบและมีความรู้มากพอที่จะวางแผนการเงินให้ตัวเองได้แล้ว สุดท้ายก็เหลือแค่ว่าเราจะมีวินัยทำตามแผนการตัวเองอย่างเคร่งครัดหรือเปล่า เท่านั้นเอง
จะเห็นว่าทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับผลการเรียนในอดีต
หลายคนเรียนจบออกมาพร้อมกับฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนแบบไม่รู้ตัว ถูกระบบการศึกษาแบบบล๊อก ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อผลิตคนแบบเดียวกลุ่มเดียว เอามาตัดสินคนอีกหลากหลาย type หลากหลายประเภท โดยเฉพาะคนพิเศษอย่างพวกเรา
ผมเองก็เป็นคนเรียนไม่เก่ง จบมหาวิทยาลัยออกมาแบบเฉียดตาย ใช้เวลาตั้ง 6 ปีกว่าจะได้ปริญญา
เพื่อนสนิทในกลุ่มผมแทบทุกคนจบเกียรตินิยมบัณฑิต ส่วนผม "ปาฎิหารย์บัณฑิต" (หมายถึง เรียนอย่างมึงแม่งไม่น่าจบ)
แต่นั่นไม่เคยทำให้ "ความเชื่อมั่น" ในตัวผมจางหายไป ไม่ว่าจะเรียนได้เกรดเท่าไหร่ ผมยังเชื่อมั่นเสมอว่า ...
"กูแม่งเก่งที่สุดในโลก และวันหนึ่งกูจะประสบความสำเร็จในแบบของกู ... โอเค้"
อยากให้กำลังใจน้องที่คุยกันเมื่อวานครับ จำเอาไว้ "ผลการเรียน ไม่เกี่ยวข้องอะไร กับผลการรวย"
เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ ... เราทุกคนเกิดมาเพื่อประสบความสำเร็จครับ ...