อีก 7 ปี เชียงใหม่ กำลังจะมี รถไฟฟ้า /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงเรื่องการเดินทางในเชียงใหม่
สิ่งแรกๆ ที่หลายคนจะคิดถึง คงจะเป็น “รถแดง”
แต่เรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ
อีก 7 ปีข้างหน้า เชียงใหม่ กำลังจะมี “รถไฟฟ้าสายสีแดง”
เรื่องราวของรถแดงเป็นอย่างไร
แล้วทำไมเชียงใหม่ต้องมี รถไฟฟ้าสายสีแดง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
พบกับ หนังสือ ลงทุนแมน 13.0 ที่อัดแน่นไปด้วยกรณีศึกษาและมุมมองธุรกิจที่น่าสนใจ
พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/130-i1587474257-s4309842746.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือลงทุนแมน-13.0-i.116732911.7453767586
╚═══════════╝
ถ้าถามว่ารถแดงเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ก็ต้องย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2518
ในตอนนั้น กลุ่มของผู้ขับรถรับจ้างในเมืองเชียงใหม่รวมตัวกันจัดตั้งสหกรณ์ ที่มีชื่อว่า นครล้านนาเดินรถ
เวลาต่อมา สหกรณ์แห่งนี้ได้รับสัมปทานทั้งหมด 21 เส้นทางภายในเขตเมืองเชียงใหม่
และได้กำหนดให้สีแดง เป็นสีของรถรับจ้างที่จะวิ่งบริการในเส้นทางดังกล่าว
นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ “รถแดง” ที่เรารู้จักกัน
หน้าตาของรถแดง ไม่ต่างจากรถสองแถวรับจ้างทั่วไป
แต่รูปแบบบริการกลับสร้างความแตกต่างจากรถสองแถวที่เราเคยเจอ
คือรถแดง เป็นรถรับจ้างไม่ประจำทาง คล้ายกับรถแท็กซี่
แต่สามารถจอดแวะรับผู้โดยสารรายใหม่ได้ตลอดทาง คล้ายกับรถประจำทาง
โดยผู้ขับจะสามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางไปตามจุดหมายของผู้โดยสารทุกคน เพื่อส่งผู้โดยสารยังจุดหมายตามที่ตกลงกัน
ด้วยความที่เชียงใหม่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย จึงทำให้เชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางไปเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสายตลอดเกือบทั้งปี
ในปี 2562 เชียงใหม่ มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาทั้งหมด 10.8 ล้านคน
มากเป็นอันดับ 4 ของไทย เป็นรองเพียง กรุงเทพฯ ชลบุรี และภูเก็ต
พอนักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก จำนวนรถโดยสารสาธารณะก็มีมากตามไปด้วย
โดยปัจจุบันเชียงใหม่มีจำนวนรถโดยสารสาธารณะ คิดเป็น 40% ของจำนวนรถโดยสารสาธารณะทั้งหมดในภาคเหนือ
นอกจากรถโดยสารสาธารณะแล้ว
จำนวนรถยนต์ในเชียงใหม่ก็มีจำนวนมากเช่นกัน
โดยปัจจุบันจำนวนรถยนต์ในเชียงใหม่มีทั้งหมดประมาณ 1.5 ล้านคัน
คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของจำนวนรถยนต์ทั้งหมดในภาคเหนือ ซึ่งถือว่ามากกว่าจังหวัดอื่นอยู่มาก
จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บวกกับจำนวนรถยนต์ที่มีจำนวนมาก
ทำให้หลายปีที่ผ่านมา เชียงใหม่ กำลังประสบปัญหาการจราจรที่ติดขัดมากขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งพอการจราจรติดขัดหนักขึ้น การเดินทางด้วยรถยนต์และรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะ รถแดง ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
พอเรื่องเป็นแบบนี้ โครงการที่ถูกคิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้ก็คือ “รถไฟฟ้าเชียงใหม่” นั่นเอง
ซึ่งผู้ที่เป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้
คือการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.
โดยรถไฟฟ้าเชียงใหม่ที่ว่านี้ จะมีทั้งหมด 3 เส้นทาง
ซึ่งแบ่งเป็น 3 สี ประกอบด้วย สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน
โดยสายที่จะดำเนินการแรกสุด คือ รถไฟฟ้าสายสีแดง
รถไฟฟ้าสายสีแดง จะมีระยะทางเกือบ 16 กิโลเมตร
มีเส้นทางเดินรถระหว่างอำเภอแม่ริมไปสู่อำเภอเมืองเชียงใหม่
และจะมีสถานีให้บริการทั้งหมด 16 สถานี
ซึ่งคาดว่าจะมีค่าโดยสารเริ่มต้น 14 บาทต่อเที่ยว
ก่อนหน้านี้ รถไฟฟ้าสายสีแดง ถูกคาดการณ์ว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ. 2566
แต่แล้วก็เกิดความล่าช้าของโครงการ จนต้องถูกเลื่อนกำหนดเปิดออกไปอีก 4 ปี
โดยล่าสุด คาดว่าจะสามารถให้บริการได้ในปี พ.ศ. 2570
ความล่าช้าที่เกิดขึ้น เป็นเพราะว่า
รถไฟฟ้าสายสีแดง มีเส้นทางบางช่วงตัดผ่านเขตพื้นที่เมืองเก่า
ซึ่งการก่อสร้างจำเป็นต้องมีการสำรวจทางโบราณคดีเสียก่อน
โดยที่ผ่านมามีการประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนมาแล้ว 2 ครั้ง
เพื่อหารือข้อสรุปที่ดีที่สุดในการบริการของรถไฟฟ้าสายสีแดง
ซึ่งหลังจากนี้ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนแล้ว
รถไฟฟ้าสายสีแดง จะถูกนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ภายในปี พ.ศ. 2564 และจะเริ่มการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2565
ก็ต้องติดตามโครงการนี้กันต่อไปว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ตรงตามการคาดการณ์หรือไม่
แต่ก่อนที่รถไฟฟ้าสายสีแดงในเชียงใหม่จะเริ่มให้บริการได้
ก็คงต้องใช้รถแดงกันไปก่อน ในตอนนี้..
╔═══════════╗
พบกับ หนังสือ ลงทุนแมน 13.0 ที่อัดแน่นไปด้วยกรณีศึกษาและมุมมองธุรกิจที่น่าสนใจ
พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/130-i1587474257-s4309842746.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือลงทุนแมน-13.0-i.116732911.7453767586
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-http://www.smartgrowththailand.org/chiangmai-smart-bus-grand-opening-april/
-http://rtccitybus.com/en/home/
-https://www.voicetv.co.th/read/466896
-กลุ่มสถิติการขนส่ง กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก
-https://www.facebook.com/GrabTH
-https://www.dailynews.co.th/article/741094
-http://www.chiangmai-transitredline.com/PDF/Paper_M2.pdf?fbclid=IwAR2cYyUpuzF6xlGHVfwFuBioNxSmC_7ZU5GfNziTXJpZk3L7vt4O7mTkHoc
รฟม คือ 在 Ceemeagain Facebook 的最佳貼文
ตั๋วร่วม BTS, MRT เลื่อนเป็นปีหน้าแล้ว !!
จากก่อนหน้านี้ที่ทางปลัดกระทรวงคมนาคมได้ออกมาเปิดเผยถึงรายละเอียดและความคืบหน้าโครงการตั๋วร่วมออกมาก็ทำให้หลายคนดีใจกันไปไม่น้อย เพราะด้วยระยะที่วางแผนไว้ในเดือนตุลาคมนี้เราก็จะได้ใช้บัตรใดก็ได้ขึ้นได้หมดทั้ง BTS และ MRT
เนื่องจากหากจะใช้ระบบตั๋วร่วมได้ตามเฟสแรกที่วางแผนจะต้องใช้บัตรใดก็ได้ของ MRT และ BTS ในการใช้บริการของทั้งสองระบบจะต้องมีการปรับปรุงในเรื่องของระบบหัวอ่านที่มีค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งยังมีเรื่องของอัตราค่าธรรมเนียมการใช้บัตรโดยสารข้ามระบบอีกด้วยที่ยังไม่ได้ข้อสรุปในตอนนี้เนื่องจากแต่ละที่ก็จะมีอัตราค่าใช้บริการที่แตกต่างกันออกไป
โดยที่ทางด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดเผยออกมาว่าการปรับปรุงหัวอ่านให้รองรับบัตรข้ามระบบได้นั้นยังมีประเด็นในการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการใช้บัตรโดยสารข้ามระบบที่ยังไม่ได้ข้อสรุป อีกทั้งการใช้งานอาจทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวก และไม่เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น กรณีเงินในบัตรไม่เพียงพอ จะยังไม่สามารถเติมเงินข้ามระบบได้ ทำให้ผู้โดยสารจะต้องจ่ายเงินสดร่วมด้วย
หรือกรณีบัตรโดยสารสำหรับเด็ก ซึ่ง MRT กำหนด 3 อัตรา คือ เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 90 ซม. และอายุไม่เกิน 14 ปี ใช้บริการฟรี เด็กที่มีความสูงตั้งแต่ 91-120 ซม. และอายุไม่เกิน 14 ปี ได้รับส่วนลดค่าโดยสาร 50% ส่วนรถไฟฟ้า BTS ไม่มีบัตรส่วนลดสำหรับเด็ก 50% เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากปรับปรุงหัวอ่านรองรับบัตรข้ามระบบ ซึ่ง รฟม.และ BTS จะต้องลงทุนหลายร้อยล้านบาทแล้ว ในระยะต่อไปจะต้องลงทุนเพื่อปรับปรุงเป็นระบบเป็น Account Based Ticketing หรือ ABT ระบบเปิด (Open Loop) ซึ่งใช้งานผ่านบัตร EMV (Euro/ Master/ Visa Card) และรองรับไปถึงระบบคิวอาร์โค้ด การสแกนใบหน้าอีก เท่ากับเป็นการลงทุนซ้ำซ้อนและสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุหรือไม่ ซึ่งฝ่ายนโยบายควรต้องทบทวนในเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกและประโยชน์สูงสุด
แล้วคุณล่ะมีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ยังไงบ้าง คิดว่าปีหน้าเราจะได้ใช้บัตรเดียวขึ้นได้ทุกขนส่งสาธารณะหรือไม่ ?
รฟม คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
ภูเก็ต กำลังจะมีรถไฟฟ้า /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ภูเก็ต มีโครงการที่จะสร้างรถไฟฟ้า
โดยโครงการรถไฟฟ้านี้ถูกผลักดันให้เกิดขึ้น
เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ซึ่งโครงการนี้ มีมูลค่าสูงถึง 34,000 ล้านบาท
และผู้ที่รับผิดชอบในโครงการนี้ คือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
โครงการรถไฟฟ้าในจังหวัดภูเก็ตดังกล่าว แบ่งเส้นทางการให้บริการออกเป็น 2 ระยะ
ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทาง 42 กิโลเมตร รวม 21 สถานี
ระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น-เมืองใหม่ ระยะทาง 16.5 กิโลเมตร
หลายคนคงเริ่มสงสัยว่า
รถไฟฟ้าที่กำลังจะสร้างในภูเก็ต หน้าตาเป็นอย่างไร
ซึ่งอธิบายให้เห็นภาพก็คือ
รถไฟฟ้าภูเก็ต จะเป็นรถไฟฟ้ารางเบา ที่มีระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือศีรษะ
โดยในเบื้องต้น โครงการระยะแรก
มีกำหนดจะเปิดให้บริการภายในปี 2567
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด รฟม. ประกาศว่า โครงการในระยะที่ 1 จะล่าช้าออกไปจากกำหนดเดิมอีก 2 ปี
หมายความว่า การเปิดให้บริการ จะถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2569
ซึ่งสาเหตุ ที่ทำให้โครงการนี้ต้องล่าช้าก็คือ
พื้นที่ในบางช่วงของเส้นทางเดิมที่วางไว้ มีการจราจรติดขัดอย่างหนัก
เช่น บริเวณสามแยกสนามบินภูเก็ต
ซึ่งถ้าหากมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่กินเวลาหลายปี
อาจทำให้การจราจรในบริเวณนั้นๆ ยิ่งติดขัดมากขึ้น
พอเป็นแบบนี้ รฟม. จึงต้องปรับแก้แบบการก่อสร้างโครงการใหม่
โดยการปรับเส้นทาง สร้างสถานียกระดับ และสร้างอุโมงค์ในบางจุด
เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ก่อสร้าง ที่จะทำให้การจราจรติดขัด
ซึ่งทำให้มีต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท
และอีกประเด็นที่สำคัญก็คือ
เส้นทางการวิ่งของรถไฟฟ้า ไม่ผ่านอำเภอกระทู้ และหาดป่าตอง
ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของภูเก็ต
นอกจากนั้นแล้ว คนในพื้นที่ภูเก็ต ยังนิยมใช้รถจักรยานยนต์ในการเดินทาง
จากสถิติการจดทะเบียนพาหนะ ในจังหวัดภูเก็ต
ปี 2559 มีพาหนะจดทะเบียน 4.41 แสนคัน เป็นรถจักรยานยนต์ 64%
ปี 2560 มีพาหนะจดทะเบียน 4.52 แสนคัน เป็นรถจักรยานยนต์ 63%
ปี 2561 มีพาหนะจดทะเบียน 4.69 แสนคัน เป็นรถจักรยานยนต์ 63%
ซึ่งทั้งเรื่องของเส้นทางที่ไม่ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
และเรื่องของพฤติกรรมการเดินทางของคนในพื้นที่
อาจส่งผลทำให้จำนวนผู้ใช้บริการไม่ถึง 39,000 คนต่อวัน ตามที่ รฟม. คาดการณ์ไว้
ทำให้ รฟม. ต้องกลับมาทบทวนโครงการนี้ให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง
ซึ่งจากทั้งหมดที่ว่ามา
ก็เลยเป็นเหตุให้โครงการนี้ ต้องล่าช้าออกไปอีก 2 ปี
และก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ โครงการรถไฟฟ้าในภูเก็ต จะต้องเลื่อนการเปิดให้บริการออกไปอีก หรือไม่..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://thailand-property-news.knightfrank.co.th
-https://www.facebook.com/phuket.pkcd/posts/2740321946009264/
-https://www.prachachat.net/local-economy/news-343855
-https://www.thebangkokinsight.com/253141/
-https://www.thansettakij.com/content/Macro_econ/446785
-https://www.dlt.go.th/site/phuket/m-download/5060/
-http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/08.aspx