ลองจินตนาการถึงความบันเทิงของการที่ต้องทำงานร่วมกันกับคนที่เราไม่เชื่อใจ ในขณะเดียวกันเค้าก็ไม่เชื่อใจเราด้วยเหมือนกัน แต่มีเป้าหมายเพื่อต้องเอาชนะอะไรบางอย่างร่วมกันนั้นจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อต้องร่วมพลังกัน
พอจะจินตนาการออกมั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น มองออกมั้ยว่าเราต้องไปเดินไปเช็คงานเค้ากี่ครั้งว่าเฮ้ยทำยังวะ ทำอย่างที่เราตกลงกันไว้หรือเปล่าวะ จะหักหลังแล้วโบ้ยความผิดให้เรามั้ยวะเนี่ย
ในขณะเดียวกัน อีกฝั่งก็คิดและทำเหมือนที่เราคิดเลย
ผมคือหนึ่งคนที่หงุดหงิดกับสถานการณ์แบบนี้นะ หลายครั้งที่ก็หลุดอารมณ์เสียออกมาเวลาที่ต้องทำงานกับใครก็ตามที่ไม่เชื่อใจกัน ไม่เชื่อใจผม ไม่เชื่อใจทีม คอยจับผิดแล้วก็มาแทรกกลางระหว่างการทำงานอยู่บ่อย ๆ แน่นอนว่าการแสดงอาการนั่นก็อาจจะไม่ใช่วิธีของมืออาชีพ ก็มันหงุดหงิดนี่หว่า
แล้วหลายครั้งผมก็ลืมไปว่า ตอนที่ผมไม่ไว้ใจใครผมก็ทำแบบที่เค้าทำกับผมเหมือนกัน 555 เวรกรรมแท้ ๆ
ปัญหาของผมคือไม่อยากทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ไว้ใจกัน อย่างนึงเลยนะ ยิ่งไม่ไว้ใจยิ่งเดินไปข้างหน้าได้ช้า ก้าวข้างหน้าหนึ่ง เดินถอยหลัง เค้าไปถึงไหนแล้วทางนี้ยังรำกลองยาวอยู่เลย แค่คิดก็หงุดหงิดแล้ว ยิ่งในสถานการณ์ธุรกิจแบบนี้ ยิ่งช้าก็ยิ่งพังได้เหมือนกัน
เราเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องไม่เชื่อใจหรือเปล่า
เราเป็นลูกน้องที่หัวหน้าไม่เชื่อใจหรือเปล่า
เราเป็นเพื่อนร่วมงานที่เพื่อนร่วมงานไม่เชื่อใจหรือเปล่า
แล้วที่เค้าไม่เชื่อใจเพราะเราไม่เคยมีให้เค้า หรือเคยมีแต่มันพังเพราะเราเองที่ทำพลาด เหมือนเวลาที่เราเองไม่เชื่อใจใครอีกเมื่อเราเห็นเค้าทำพลาดซ้ำในเรื่องเดิม ๆ
การกู้คืนความเชื่อใจมันยากกว่ากว่าสร้างความเชื่อใจจากศูนย์ซะอีกนะ
แล้วปัญหาน่าจะหนักที่สุดถ้าหากเราเป็นหัวหน้าแล้วลูกน้องไม่เชื่อใจ เป็นผู้นำที่ผู้ตามยังยืนงงอยู่ว่า ที่พูดมาเนี่ยเอาจริงใช่มั้ย หรือพูดเล่น ผมต้องไปทางซ้ายหรือทางขวา พี่จะหลอกให้ผมเดินไปเสียเวลาเปล่า ๆ ป่ะวะ
หัวหน้าต้องเช็คตัวเองกันหน่อยนะว่าเราเป็นแบบนี้กับลูกน้องรึเปล่า นี่ใช่มั้ยคือปัญหาใหญ่ที่ทำให้ทีมของเราไปต่อหรือแก้ปัญหาไม่ได้ซักที
และบ่อยครั้งเลยที่หัวหน้าหลายคนมาพลาดเรื่องความเชื่อใจเพราะไม่สื่อสารกับทีม หรือสื่อสารในข้อมูลที่ผิดพลาด แล้วก็พลาดอยู่บ่อย ๆ จนเกิดความเสียหาย ความเก่งของหัวหน้าอาจจะไม่ได้น้อยลงไป แต่ความเชื่อใจสิที่ลดลง แล้วมันส่งผลต่อการทำงานของทั้งทีม
เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดข้อผิดพลาดจนทำให้ความเชื่อใจลดลงไป ในครั้งถัดไปทุกอย่างต้อง Perfect
นี่คือประสบการณ์การแก้ตัวของผมไม่ว่าผมจะอยู่ในบทหัวหน้า ลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานก็ตาม ถ้าผมรู้ว่าผิดแล้วยังมึนไม่รับรู้ ไม่พยายามที่จะกลับตัวให้เร็วให้ทัน ความเชื่อใจก็จะยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ
ที่สำคัญลดอีโก้ลง จะช่วยให้ความเชื่อใจกลับมาได้เร็วขึ้น
อีกอย่างนึง ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะเชื่อใจใครแล้วจะมีใครอยากจะเชื่อใจเรา เราเชื่อใจคนเป็นใช่มั้ย ถามใจตัวเองดู
#HRTheNextGen
#มนุษย์เงินเดือน #HR2021
