#นวลดูหนัง : Coco
หนังเช็งเม้งน้ำตาแตก ไม่อยากร้องไห้อย่าไปดู
.
อีนี่ไม่สปอนเซอร์อีกแล้ว อีนวลกำตังค์ไปดูเอง แต่ประทับใจมากและนึกไม่ออกเลยว่าหนังดีขนาดนี้จะมีอะไรให้ต่อว่า มีแต่ของให้ชม คือดีก็ชมล่มจมก็ด่านะ ไม่ได้เป็นคนชอบสวนกระแสคิดจะแหกหนังเอามันส์อย่างเดียว
.
ทั้งนี้นี่ไม่ได้มาเล่าสรุปหนังย่อๆให้ฟัง แต่จะมาพูดถึงประเด็นที่นวลอยากจะพูดถึง โดยไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าคนอ่านแม่งจะอยากอ่านหรือเปล่า ใครอ่านประโยคเมื่อกี้แล้วคิดว่านวลแม่งเอาแต่ใจสัสแสดงว่าคุณเพิ่งเข้าใจคอนเซปท์ของเพจนี้ ยินดีด้วยนะฮะ ปะ ลุย
.
-SPOILER ALERT-
.
1. Powerful ทำด้วยความรัก
.
คุณเคยเห็นผลงานที่ศิลปะ ผลงานออกแบบสิ่งของเครื่องใช้ หรือเมนูอาหารที่ทำให้คุณคิดออกแต่คำว่า คนทำสิ่งนี้แม่งต้องรักอาชีพมันมากแน่ๆมั้ย Coco ทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นตลอดเวลา ภาพที่ปรากฏบนในภาพยนตร์มันทรงพลังมาก คือในโลกนี้มีสตูดิโอที่เก่งเรื่องการออกแบบ visual สวยๆมากมายหลายเจ้าแหละ แต่เบื้องหลังความ eye candy นั้นแล้ว ไม่ได้ทุกเจ้าที่สามารถทำให้ภาพที่ว่าสวยนั้น carry ความหมายที่สำคัญจนมันไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดออกมาได้ มันเป็นความหมายที่คนดูไม่สามารถจินตนาการได้เองมาก่อนด้วยซ้ำ จนกระทั่งได้เห็นภาพที่บรรจงทำออกมาให้เราดู Pixar เป็นมือหนึ่งของวงการโดยไม่ต้องสงสัย ภาพสะพานดอกไม้ที่ข้ามโลกคนเป็นไปยังโลกของคนตายแม่ง powerful มากและดูดผมเข้าไปสู่โลกของภาพยนตร์ในเสี้ยววินาทีนั้นทันทีเลย งาน A+
.
2. ละเมียด
.
งานละเอียดมากกก สมกับที่ทำมา 6 ปี (2011-2017) ทั้งในส่วนของวัฒนธรรม Mexican การจัดแสง การออกแบบสถานที่ให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้น ผมชอบห้องใต้หลังคาของมิเกลมาก ดูเป็นโลกส่วนตัวที่เด็กชายอายุสิบกว่าขวบพยายามฟูมฟักความฝันของตัวเอง ความ makeshift ของกีตาร์ (สังเกตดีๆ fretboard นั้นมิเกลทำเองจากตะปู) ชอบการตรวจ ตม. ของโลกคนตาย มันละลายไอเดียเรื่องนรกสวรรค์ ความน่ากลัวและความศักดิ์สิทธิ์ เรื่องบาปๆบุญๆ อันเป็นความเชื่อของคนที่ไม่ได้มาจากวัฒนธรรม Mexican หายออกไปหมดเลยด้วยการดีไซน์ให้เป็นแค่จุดที่คนเดินผ่านกันไปมาเหมือนในโลกจริงๆของเรา
.
3. บีตดีมาก
.
ไร้รอยต่อ ทอเต็มผืน เรียบเรียงเรื่องโคตรเก่งในการทำให้เรารู้สึกถึงความต่อเนื่องของเรื่องราวอยู่ตลอดเวลา ไม่มีช่วงที่รู้สึกว่ายาวเกินไป สั้นเกินไป ไม่มีช่วงที่รู้สึกว่าตัดจบห้วนๆ หรือเกิดความไม่เนียนในการนำคนดูจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งด้วยความจำเป็นของพล็อต ของแบบนี้มันต้องใส่ใจในการปรับรายละเอียดถึงระดับการเจียระไนเลือกมุกที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำให้คนดูรู้สึกไหลลื่นไม่ฝืดคอ มีฝีมืออย่างเดียวไม่พอ แม่งต้องทุ่มเทสัสๆ แถมนายทุนแม่งเข้าใจและยอมใช้เงินใช้เวลาเต็มที่เพื่อสิ่งนี้ด้วย ประเสริฐสุด กราบตีนที
.
4. ทวิสต์ในทวิสต์
.
คือหลังจากดูหนัง Pixar มาหลายเรื่อง คิดว่าคนส่วนใหญ่ก็คงพอเดาได้แหละว่า อีตาเดอลาครูซนี่ตอนจบคงไม่ใช่คนดีแน่ๆ (เหมือน Charles Muntz ใน Up) แต่ผมไม่ได้เดาเผื่อไปถึงว่าจริงๆแล้วเดอลาครูซจะไม่ใช่คนในรูปด้วย พอหนังจบมานั่งไล่เรียงเรื่องในหัวแล้วก็ทำให้เกิดสงสัยขึ้นมาว่าทำไมผมถึงมองไม่ออกวะ น่าจะเป็นเพราะบีตหนังมันดีมากกกก ดีจนผมรู้สึกติดตามแต่มิเกล ลุ้นไปกับมิเกล คือตอนที่ดูนี่ผมไม่ได้เป็นแค่คนนั่งดูหนัง แต่ผมกลายเป็นมิเกลไปแล้ว ก็เลยเห็นแต่สิ่งที่หนังอนุญาตให้มิเกลเห็นได้เท่านั้น ไม่ได้มองเรื่องจากบุคคลที่สามเหมือนเวลาดูหนังอื่นๆทั่วๆไป ซึ่งถือว่าหนังทำได้ยอดเยี่ยมมากเลยนะที่ดูดเราเข้าไปในเนื้อหนังได้ขนาดนี้
.
5. hide in plain sight ซ่อนเมสเสจในที่แจ้ง
.
ทั้งๆที่หนังเริ่มต้นมาอย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องของครอบครัว แต่ตัวละครมิเกลนั้นจริงใจและดึงดูดมากจนทำให้รู้สึกว่านี่เป็นหนังที่พูดถึงความฝันและความพยายามของหนุ่มน้อยที่ต้องการเป็นนักดนตรีด้วยการข้ามผ่านอุปสรรคที่น่าเบื่ออย่างการขัดขวางของคนแก่ๆ ทั้งๆที่แท้จริงแล้วหนังเรื่องนี้มีเมสเสจหลักคือคุณค่าของครอบครัว โดยมีเสียงดนตรีช่วยดึงเอาความรู้สึกที่ขาดหายไปในใจของคนในครอบครัวนี้กลับคืนมา ผมว่ามันเป็นกระบวนท่าที่เบสิกมากในการเล่าเรื่อง แต่ execution โคตรจะเหนือชั้น หนังแม่งเทพมากในการดึงเอาความรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของคนที่ดูหนังเรื่องนี้ทุกคนเข้ามาเป็นโน้ตสุดท้ายของเรื่อง
.
ใครๆก็มีครอบครัว ไม่ว่าจะเกี่ยวพันกันทางสายเลือดหรือไม่ มีพ่อมีแม่ มีปู่ย่าตายาย มีคนที่เรารักทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และจากไปแล้ว คุณเห็นภาพบนจอที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเหล่านั้น อันไม่ได้มีที่มาแค่เพราะคุณแคร์มิเกลมากเท่านั้น แต่เพราะคุณเห็นเงาของส่วนหนึ่งของชีวิตคุณซ้อนอยู่กับมิเกลและโคโค่ หนังสร้าง intertextuality ขึ้นระหว่างคนดูและเมสเสจของหนังได้อย่างงดงามไร้ที่ติ ตอนผมดูผมร้องไห้เพราะคิดถึงอาม่าตัวเองอะ แค่นี้ดีกว่า
.
ถึงแม้มันจะมีไอ้แมวบินเป็นตัวแก้ปัญหาทุกอย่างในเรื่องเหมือนนกอินทรีใน The Lord of the Rings แต่เราก็ไม่ติดอะไรอะ คือดูแล้วอิ่มสุด อิ่มตาอิ่มใจ พล็อทโฮลหรือคลีเชใดๆก็ให้ผ่านหมดแหละ
.
สรุป
.
หนังดีสัส พาครอบครัวไปดูได้เลย รับรองกู๊ดไทม์ นวลแอพพรูฟ
.
10/10
โปรโมทน้อยสัส คุณคิดว่ามันรู้อยู่แล้วว่าคนต้องพูดปากต่อปากเลยไม่ค่อยอัดงบโปรโมทปะวะ ถ้าเป็นงั้นนี่โคตรเหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้นเลยนะ 555+
「นวลดูหนัง」的推薦目錄:
- 關於นวลดูหนัง 在 นวล Facebook 的最佳解答
- 關於นวลดูหนัง 在 นวล Facebook 的精選貼文
- 關於นวลดูหนัง 在 นวล Facebook 的最佳貼文
- 關於นวลดูหนัง 在 นวล - #นวลดูหนัง : Coco หนังเช็งเม้งน้ำตาแตก ไม่อยาก ... - Facebook 的評價
- 關於นวลดูหนัง 在 หนังเก่า นวลฉวี 2528 Thai /泰國電影 หนังไทย หนังบู๊ หนังตลก 的評價
- 關於นวลดูหนัง 在 บ้านผีสิง | หนังไทยเต็มเรื่อง - YouTube 的評價
- 關於นวลดูหนัง 在 อุเทน นวลแก้ว (bnp2533boy) - Profile - Pinterest 的評價
นวลดูหนัง 在 นวล Facebook 的精選貼文
#นวลดูหนัง : Justice League
ให้พี่ตูนวิ่งรอบโลกก็คงจะช่วย DC ไม่ได้
.
อีนี้ไม่สปอนเซอร์นะจ๊ะนายจ๋า อีนวลกำตังค์ไปดูเอง เพราะฉะนั้นฉันจะด่าสิ่งที่ไม่พอใจอย่างไร้ความปรานี เข้าใจตรงกันนาจา
อีนี้เข้าไปดูอย่างไม่คาดหวังอะไร ขนาดไม่คาดหวังนะ คุณเคยมีแฟนที่แม่งทำให้คุณผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่คุณก็ยังยอมให้โอกาสมันเรื่อยๆเพราะไม่เข้มแข็งพอจะเป็นฝ่ายเดินจากไปเองไหม ผมรู้สึกแบบนั้นแหละกับพี่แซ็ค สไนเดอร์ ผมคิดว่าพี่เค้าทำเต็มที่แล้ว แต่พี่ควรยกตำแหน่งผู้กำกับให้คนที่มีสกิลเซ็ตเหมาะสมกว่าพี่แล้วไปนั่งแท่นซูเปอร์ไวเซอร์เรื่องแอ็คชั่นซีน จะดีกับประวัติ imdb ของพี่มากกว่านะครับนวลว่า
.
-SPOILER ALERT-
1. ตายซาก
.
ปัญหาหลักของภาพยนตร์ในจักรวาล DC ตอนนี้คือมันขาดความมีชีวิตอย่างสาหัสมาก ความมีชีวิตไม่ได้มาจากการเล่นมุกตลกรัวๆแบบที่มาร์เวลเชี่ยวชาญ แต่เป็นการอนุญาตให้คนดูรู้สึกเห็นใจตัวละคร เข้าใจ struggle เชื่อในอุดมการณ์ที่เขาพยายามจะ overcome อะไรบางอย่าง หรือเชื่อในความสัมพันธ์ที่ตัวละครมีต่อกันและกัน คุณเคยดู watchmen กันป่าว อันนั้นก็ฮีโร่เต็มเรื่องเลยนะ แต่ทุกคนแม่งเป็นมนุษย์มาก หนังอนุญาตให้คุณเห็นใจ Rorschach ทั้งๆที่แม่งเป็นคนบ้าชัดๆ หรือกระทั่ง sympathize กับตัวละครหลุดโลกอย่าง Dr. Manhattan แต่ในจัซติซลีกนี้ตัวละครแต่ละตัวแบนมาก ออกมาพ่นไดอะล็อกโดยไม่มีการกระทำใดๆที่ทำให้เราเชื่อในคำพูดของเค้า ไม่มีฉากสร้างความสัมพันธ์หรือแสดงความขัดแย้งทางอุดมการณ์ซึ่งกันและกันทั้งระหว่างคนในทีมหรือทีมกับตัวร้าย แม่งคือการรวมตี้ไปตีบอสที่จืดชืดที่สุด นวลกด quick play ยังได้ลุ้นมากกว่านี้ ความเหี้ยคือไอ้ watchmen ที่ผมคิดว่าทำได้ดีกว่าเนี่ย พี่แซ็คก็เป็นคนทำไม่ใช่หรอครับบบ
.
2. ปัญหาเดิมจาก Bat v Sup
.
พี่แซ็คแกหมกมุ่นกับการทำ Moment ที่ดูยิ่งใหญ่ ดูคูล ดู biblical จนหนังเรื่องที่แล้วของแกดูแทบไม่รู้เรื่อง เพราะแกห่วงแต่การออกแบบ Moment เท่ๆ แพนกล้องช้าๆ สายตามองออกไปยังจุดปลายตาพร้อมเร่งสกอร์เร้าให้อารมณ์คนดูรู้สึกทึ่งกับภาพบนจอ คือเท่จริง วิชวลจริง แต่มันก็ดูไม่รู้เรื่องไง เพราะหนังทั้งเรื่องกลายเป็นการเอา Moment มาโปะๆเรียงกัน คั่นด้วย scene สั้นๆที่ไม่ได้ทำหน้าที่เล่าเรื่อง แค่รอเวลาให้เราไปทึ่งกับ Moment ถัดไปที่พี่บรรจงรังสรรค์ scene ที่ดีจะอนุญาตให้คนดูรู้สึก immerse เข้าไปกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครกับสถานที่ สถานการณ์ที่เขาเผชิญอยู่ ให้เราได้มีโอกาสเข้าใจและเชื่อในการกระทำของตัวละครจริงๆ นวลรู้สึกว่าในจัซติซลีกคนดูไม่ได้รับโอกาสนี้จากหนังเลย หนังเอาข้อมูลโยนใส่เราแบบไร้ชั้นเชิงมาก ใครคิดว่านวลเป็นแฟนบอยมาร์เวล ให้มองตานวลแล้วบอกทีว่าซีนที่แบทแมนไปตามหาอะควาแมนที่หมู่บ้านชาวประมงนั้นทำได้สมเกียรติการเปิดตัวเจสันโมมวาแล้ว สำหรับเรามันงาน อบต มาก เสียของชิบหาย
.
3. ฉากสนุกไปอยู่ในเทรลเลอร์หมดแล้ว
.
คำพูดแสบๆของอัลเฟรด ความน่ารักกุ๊กกิ๊กของเดอะแฟลช ฉากน้ำกระเซ็นของพี่หมีทะเลอะควาแมน กรุปช็อตของทีม สิ่งที่ทำให้แฟนๆร้องกรี๊ดได้ 80% อยู่ในเทรลเลอร์หมดแล้ว ยกเว้นฉากต่อสู้กับสเตพเพนวูล์ฟที่เก็บไว้ไม่ได้อยู่ในเทรลเลอร์ แต่ก็ไม่ได้น่าชื่นชมอะไรเพราะน่าเบื่อสัดๆ มีกระทั่งฉากที่มีแต่ในเทรลเลอร์แต่ไม่มีในหนัง! (Let us HOPE that you're not too late. ของอัลเฟรด) อันเดียวที่ให้คะแนนได้คือ "Do you BLEED" ของพี่ซุปเค ทำเอานวลขนลุกตั้งชูชัน
.
4. ตัวร้ายห่วย
.
อันนี้คือจุดตัดสินคุณค่าของหนัง genre ซุปเปอร์ฮีโร่เลย หนังฮีโร่จะดีจะเลวยังไงแม่งอยู่ที่ตัวร้าย แล้วอีสเตพเพนวูล์ฟนี่ก็เป็นตัวร้ายที่ถ่มขากซากอ้อยเป็นอย่างมาก เพราะมันไม่ตอบโจทย์เหี้ยไรเลย เป็นตัวร้ายที่ไม่มีเหี้ยไรให้จดจำ ไม่มีชื่อเสียงให้คนดูรู้จักมาก่อน ไม่มีโมทิเวชั่น ไม่มีลูกน้องเท่ๆ ไม่มีท่าไม้ตาย สรุปมึงมีเหี้ยไรมั่งเนี่ย ตัวร้ายที่ประสบความสำเร็จมากจนไม่มีใครทำได้เทียบเท่าของหนังซุปเปอร์ฮีโร่ในตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคือ The Joker ของพี่ฮีธ เลดเจอร์ผู้ล่วงลับไปแล้ว เรามาวิเคราะห์ดูดีกว่าว่าทำไมโจ๊กเกอร์ของพี่ฮีธถึงอยู่ในใจคนดูตลอดกาลขนาดนี้
.
- โจมตีจุดอ่อนของฮีโร่ โจ๊กเกอร์สร้างสถานการณ์ที่จุดแข็งของฮีโร่ไร้ความหมาย กลายเป็นจุดอ่อน แบทแมนที่มีความสามารถในการต่อสู้ทางร่างกาย การวางแผนรับมือ ถูกโจ๊กเกอร์เอากลับมาใช้เป็นอาวุธตลบหลังตัวแบทแมนเองด้วยการซ้อนแผนล่อหลอก แบทแมนกลายเป็นง่อยไปเลยเพราะไม่ว่าจะเตะจะต่อยโจ๊กเกอร์ยังไงก็ยังเต้นอยู่บนฝ่ามือของโจ๊กเกอร์ที่วางแผนให้ตัวเองถูกจับได้
.
- บังคับให้ฮีโร่ต้องตัดสินใจที่ยากขึ้นเรื่อยๆ โจ๊กเกอร์กดดันแบทแมนด้วยการไล่ฆ่าคนในก็อทแธมอย่างไม่มีใครหยุดได้เพื่อบีบให้แบทแมนเปิดเผยตัวจริง
.
- ตัวร้ายที่เจ๋งคือตัวร้ายที่บังคับให้ฮีโร่เผชิญหน้ากับตัวเอง (ตัวเองในที่นี้หมายถึงฮีโร่) แบทแมนของคริสเตียนเบลคิดว่าโจ๊กเกอร์เป็นแค่อาชญากรธรรมดาที่แบทแมนสามารถปราบได้ แต่โจ๊กเกอร์พิสูจน์ให้แบทแมนเห็นว่าเขาคิดผิด และโลกนี้มีสิ่งที่เขาไม่อาจเข้าใจได้ แบทแมนของเบลคิดจะยอมแพ้และเปิดตัวกับสาธารณะเพราะหมดหนทางจะหยุดยั้งโจ๊กเกอร์
.
- แข่งขันกันเพื่อจุดประสงค์เดียวกันกับฮีโร่ แบทแมนไม่ได้สู้เพื่อหยุดยั้งการทำลายล้างโลก แต่เขาสู้เพื่อพิสูจน์ว่าก็อทแธมไม่ได้เน่าหนอนอย่างที่โจ๊กเกอร์พยายามจะทำให้ทุกคนเชื่อ แบทแมนและโจ๊กเกอร์ต่อสู้เพื่อสิ่งเดียวกัน คือ Soul of Gotham
.
- Believable Stakes ในฉากสุดท้ายที่ประชาชนและนักโทษบนเรือโดยสารต่างถือรีโมทระเบิดของกันและกัน มันเป็นเดิมพันที่คนดูไม่มีทางรู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย เพราะไม่ว่าเรือลำไหนจะระเบิด มันก็สามารถเป็นแรงกระเพื่อมไปสู่หนังภาคสามที่ดีได้ทั้งนั้น เราเลยลุ้นสุดตัวกับ outcome ของสถานการณ์นี้ แบทแมนไม่ได้ต่อสู้เพื่อหยุดเครื่องยนตร์ทำล้างล้างโลกอย่าง World Engine แบบพี่ซุปใน Man of Steel ที่คนดูแม่งรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องทำลายได้ โลกไม่แตกหรอก เพราะหนังต้องมีภาคต่อ
.
- มีอิมแพคกับตัวฮีโร่ ข้อสุดท้ายนี้แถมให้ เมื่อแบทแมนปราบโจ๊กเกอร์ลงได้ มันมีผลต่อการเติบโตของตัวแบทแมนเองมากๆ ปิดตำนานตัวร้ายผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในใจคนดูด้วยความดีงามดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นดังฉะนี้
.
เหล่านี้คือคุณสมบัติของตัวร้ายที่ดี ที่เลือกพูดถึงตัวอย่างที่ดีเพราะขี้เกียจจะด่า คือมึงไม่ต้องครบทุกข้อก็ได้ ถ้าทำได้ก็เป็นตำนาน ปัญหาคือสเตพเพนวูล์ฟสอบตกหมดทุกข้อเลย มันเลยไม่ได้เป็นบอสด้วยซ้ำ มันคือครีพตัวใหญ่ๆที่มีลูกน้องเป็นครีพกระจอกจำนวนมาก
.
5. เซ็ตติ้ง boss fight ห่วยแตก
.
หนังมาร์เวลเรื่องที่เซ็ตติ้งบอสไฟท์ห่วยก็มีเยอะ (Thor 1-2/Ironman 2-3) แต่เราก็ยังเห็นความพยายามในการทำเซ็ตติ้งให้ดูน่าสนใจเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการสู้ในฉากย่อส่วนของ Ant-man การพาเราขึ้นสูงลงต่ำมุดอุโมงค์ปีนตึกสลับไปหลายๆแบบของหลายๆฮีโร่ใน The Avengers แอร์พอร์ตซีนของ Captain America : Civil War ที่ใช้สิ่งต่างๆของสนามบินเข้ามาในฉากแอคชั่นได้ลงตัว หรือใน Avengers : Age of Ultron ที่ไปสู้กันจนโซโคเวียที่เป็นเซ็ตติ้งแหลกระเบิด ก็มีการใช้พล็อตเรื่องรับผิดชอบผลที่ตามมาของการต่อสู้นั้นใน Civil War แต่สิ่งที่ DC เลือกทำกลับเป็นการไปสู้ในเซ็ตติ้งโล่งๆที่ไม่ได้น่าสนใจอะไร เพื่อให้พล็อตดำเนินสะดวก (Wonder Woman/Bat v Sup) อย่างในจัซติซลีกนี้ก็คือไปสู้กันในที่ที่ตัวโกงจัดไว้ให้ ไล่ผู้บริสุทธิ์ออกไปให้หมดแล้วด้วย คือเราไม่รู้สึกว่าคนดูจะได้อะไรเลยในเชิงเนื้อเรื่องจากไฟท์นี้เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าตัวโกงต้องโดนปราบ และมันจะมีผลกระทบอะไรต่อเรื่องได้อีกในเมื่อมึงเลือกมาฆ่าครีพกันไกลปืนเที่ยงขนาดนี้อะ
.
6. no chemistry in the team
.
ถามจริงว่าจะต้องรวมทีมไปเพื่ออะไรในเมื่อชุบซุปเคขึ้นมาคนเดียวก็โซโล่บอสได้ สรุปทีมนี้คือทีมชุบซุปใช่ปะ เออต่อให้มันเป็นแบบนั้นจริงเราก็ยังให้อภัยได้ถ้าเคมีในทีมมันสนุก หรือแม่งปล่อยคอมโบกันระหว่างสมาชิกในการต่อสู้ได้ คือเราให้อภัยได้หมดแหละเพราะเรารู้ว่าเรามาดูหนังฮีโร่ไง แต่จัซติซลีกไม่ให้อะไรแบบนั้นกะคนดูเลยอะ คือคุณไม่รู้จริงๆหรือว่าแฟนบอยเนิร์ดๆทั้งหลายมันอยากดูอะไร จำตอนที่ไอรอนแมนยิงแสงใส่โล่กัปตันเพื่อสะท้อนใส่ครีพใน Avengers ได้ปะ โคตรจะไม่เมคเซนส์เลย มึงยิงเองก็ได้จะสะท้อนทำเตี่ยไร แต่มันเท่ไง เท่ชิบหาย คือกุอยากดูแค่นี้แหละ แต่ DC ให้เราได้แค่ไซบอร์กหิ้วอะควาแมนกลางอากาศ และอะควาแมนติดรถแบทแมนไปลงอนุสาวรีย์ อีสัส ทำไมทำกับกูแบบนี้ กูก็มีหัวใจนะ บางทีกุก็คิดนะว่าพี่แซ็คแม่งรู้ว่าเราอยากดูอะไร แต่แม่งจงใจไม่ให้เราดูว่ะคุณ พูดแล้วอารมณ์ขึ้น
.
สรุป.
.
หนังให้ความรู้สึกเหมือนคุณตีดอทแล้วแครี่ตาย รอเกิดสองนาที แล้วทีมก็ดันทุรังเข้าไปบวกโดยไม่มีแครี่ แท้งสองคน (Wonder Woman & Aquaman) โดนนวดเละ แก๊งเก้อ (The Flash) ไร้ประโยชน์ ซัพสองคน (Cyborg & Batman) เข้าไม่รอเพื่อน โดนดันมาถึง throne megacreep แตกแต่แครี่เกิดพอดี (Superman) แล้วมีหกเรเปียร์ เล่นไงก็ชนะ ไม่ต้องลุ้น อะไรทำนองนี้นะคุณ
.
4/10
เทรลเลอร์สนุกกว่าหนัง
นวลดูหนัง 在 นวล Facebook 的最佳貼文
#นวลดูหนัง : Spider-Man Homecoming
สนุกดี วัยรุ่นดี สดใหม่ดี กรุบกรอบไม่ซ้ำซาก มีรสชาติที่คุ้นลิ้น แต่ไม่น่าเบื่อ ยอมรับเลยมาร์เวลให้ความสำคัญและเข้าใจฐานผู้ชมของตัวเองดีมาก
แม้ฉากแอ็คชั่นจะถูกสปอยไปใน trailer สี่ซ้าห้าอันล่วงหน้า เนื้อหนังก็ยังมีอะไรให้เพลิดเพลินอีกเรื่อยๆ เป็นหนังที่เป็นหนังจริงๆ ไม่ได้เอา moment เท่ๆมาแปะต่อๆกัน แล้วเรียกว่าภาพยนตร์ (ปรายตามอง Bat v Sup)
ต่อจากนี้อาจมีสปอย
ส่วนที่ชอบ
- ความเด็กน้อยของ Peter Parker คือมันเด็กมาก มีความกะหล่งป๊งในทุกการกระทำของมัน ซึ่งจำเป็นมากในการคลี่เนื้อแท้ของ Spider-Man ออกมาให้คนดูได้ โดยส่วนตัวนวลชอบที่เวลาเห็นตัวละครแล้วเราไม่ได้รู้สึกว่าตอนนี้กูกำลังดู Peter Parker อยู่ ตอนนี้กำลังดู Spider-Man อยู่ เพราะ Peter Parker ของ Tom Holland ก็คือ Spider-Man อยู่ตลอดเวลา ความไม่เท่ ความต้องวิ่งข้ามสนามกอล์ฟเพราะไม่มีอะไรให้ยิงใย การที่ทุกคอนฟลิคในเรื่องเกิดขึ้นจากตัวมึงเองนี่แหละ (ระเบิดในอนุสาวรีย์/ระเบิดบนเรือ)
- ความน่ากลัวของ Michael Keaton แม่งเป็นตัวร้ายที่เท่มาก ชอบการตีความให้ต้องคอยเก็บซากเศษเหลือจากผู้มีอันจะกินเหมือนเป็นอีแร้งจริงๆ (Vulture) และหนังเล่าให้เรารู้สึกเห็นใจตัวละครว่าไม่ได้ลุกขึ้นมาทำเรื่องร้ายต่างๆเพื่อครองโลก แต่ยอมมือสกปรกเพื่อปกป้องครอบครัวตัวเอง แถมตอนจบยังไม่ยอมขายพระเอกอีก เรียกว่าเป็นตัวเอกในเรื่องของตัวเองได้เลย แผ่ไอความ Heroic ออกมาเบาๆจนบางทีปกคลุมตัว Spider-Man ที่แรงกระตุ้นคือเพียงทำเพื่อพิสูจน์ตัวเองไปเสียด้วยซ้ำ
- หนังเหมือนจะแอบกระซิบเมสเสจเรื่องการที่คนใหญ่คนโตหรือผู้มีอำนาจ ไม่เห็นหัวคนตัวเล็กอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่ Toomes โดน Stark บังคับให้เสียกรรมสิทธิ์การเก็บกวาดขยะอย่างไม่เป็นธรรม, Peter พยายามโทรไปกี่ที Happy ก็ไม่สนใจ, MJ ประชดว่าอนุสาวรีย์สร้างโดยแรงงานทาส, Tony ยึดชุดคืนจาก Peter แค่เพียงเพราะไม่ได้ดังใจ (ซึ่งจริงๆเป็นความผิดของ Tony ที่ไม่อธิบายอะไรให้เด็กมันรู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ แค่พลิกลิ้นง่ายๆว่าเดี๋ยวมีไรจะติดต่อกลับไปเอง) ซึ่งตัวละครหลักสองตัวของเรื่อง (Spider-Man และ Vulture) เลือกที่จะต่อสู้กับแรงกดดันจากอำนาจที่ใหญ่กว่าตนเองนี้ด้วยวิธีที่แตกต่างกัน
ส่วนที่ไม่ชอบ
- จริงๆคือเริ่มจากชอบมาก และกลายเป็นไม่แน่ใจว่าชอบดีไหมวะ คือตอนที่ Peter โดนตึกทับติดอยู่ใต้ก้อนหิน นวลชอบความเรียล ความแพนิค ความไร้ทางสู้และยอมรับความไร้ความสามารถของตนเองในตอนนั้นมาก มันดูจริงสำหรับเด็กที่คิดว่ากุทำได้ทุกอย่าง แต่โดนความจริงตบหน้าว่าโลกมันไม่ง่ายอย่างที่มึงคิด ส่วนที่ไม่แน่ว่าจะชอบดีไหมคือพี่แกแค่ฮึดสู้แล้วก็งัดตึกขึ้นมาได้เฉยเลย เออก็เข้าใจแหละว่าคงมีพลัง radioactive spider อยู่ในตัว แต่หนังไม่ได้โชว์ให้ดูตรงนั้นเลยรู้สึกลืมๆไปนิดนึงว่าจริงๆ Peter แม่งโคตรแข็งแรงนะ พอมันยกตึกได้เลยรู้สึกเหมือนโดนโกงนิดหน่อย จริงๆคือเราลืมเองแหละ
- ความ techy ของชุดใหม่ ซึ่งจริงๆแล้วก็มีทั้งส่วนที่ชอบและไม่ชอบ ชอบตรงที่มันจะเปิดช่องว่างให้สร้างสรรค์ฉากแอคชั่นแปลกใหม่ในอนาคตได้อีกมากมาย แต่ในใจแอบคิดว่าแม่งก็คือ Ironman เปลี่ยนสกินเท่านั้นเอง ยิ่งมี AI คุณ Karen คอยชวนคุยตบมุกอยู่ด้วย (ซึ่งตลกนะ) แต่มันก็ซ้ำกับ Friday อีกนั่นแหละ
8/10
นวลรักป้าเมย์
อนึ่ง Tony ขาย Avengers Tower แล้วใช่มั้ย เอาตับซ้ายนวลเดิมพันเลยว่าแม่งจะกลายเป็น Oscorp Tower แน่นอน
อสอง กรุณาเอาอี Toby Maguire มาเล่นเป็นลุงเบ็นที จิเป็นแฟลชแบ็คที่เลอค่ามาก ได้โปรด
นวลดูหนัง 在 หนังเก่า นวลฉวี 2528 Thai /泰國電影 หนังไทย หนังบู๊ หนังตลก 的美食出口停車場
นวล ฉวี คือชื่อภาพยนตร์ไทยที่สร้างและออกฉายในปี พ.ศ. 2528 อ้างอิงเหตุการณ.นำแสดงโดย: สมบัติ เมทะนี, ไชยยัณห์ สรไกร, รสลิน จันทรา, ... ... <看更多>
นวลดูหนัง 在 บ้านผีสิง | หนังไทยเต็มเรื่อง - YouTube 的美食出口停車場
บ้านผีสิง #หนังไทยเต็มเรื่อง #หนังดังช่อง8#ใครๆก็ดูช่อง8กดเลข27 #โตมากับหนังอาร์เอส ... ... <看更多>
นวลดูหนัง 在 นวล - #นวลดูหนัง : Coco หนังเช็งเม้งน้ำตาแตก ไม่อยาก ... - Facebook 的美食出口停車場
อีนี่ไม่สปอนเซอร์อีกแล้ว อีนวลกำตังค์ไปดูเอง แต่ประทับใจมากและนึกไม่ออกเลยว่าหนังดีขนาดนี้จะมีอะไรให้ต่อว่า มีแต่ของให้ชม คือดีก็ชมล่มจมก็ด่านะ ... ... <看更多>