มีโอกาสได้ไปงาน SCB EIC Conference 2016 งานดีมีสาระอะพวกเธอ เลยเปิดสมุดเลคเชอร์มาฝากนะจ๊ะ อย่างยาว แต่ถ้ามีเวลาก็ควรอ่าน เพราะอาจได้ไอเดียในลงทุนใหม่ๆ ^^ #SCBEIC
Session 1 #อนาคตไทยกับทศวรรษใหม่แห่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
***ปล. งดเว้นคอมเม้นวิจารณ์การเมืองกันเถิดเรา กลัวโดนเรียกไปพูดคุยทำความเข้าใจ
---------------------------------------
- เดือนที่ผ่านมามีข่าวดี 2 ข่าว
ข่าวแรก ประเทศไทยติดโผ 25 ประเทศที่ต่างชาติสนใจลงทุน จัดโดยสถาบันที่ปรึกษา A.T.Kearney โดยอยู่อันดับที่ 21 จากที่หลุดไปหลายปี
ข่าวที่สอง GDP 3.2% ไม่ใช่ unexpected growth นะ ตั้งใจทำ
- เรื่องการส่งออกควบคุมยาก ถ้าโลกยังทรงกับทรุด ต่างประเทศตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยโอเคกัน
--> USA กับ EU กระตุ้นเศรษฐกิจก็ทำได้แค่อัดเงินเข้าไป
--> ญี่ปุ่น นโยบายที่ญี่ปุ่นใช้ตอนนี้ คล้ายกับตอนที่เราเจอต้มยำกุ้ง คือใช้เฉพาะนโยบายการเงินเล่นกับดอกเบี้ย,แบงก์ แต่ Real sector และประชาชน ไม่มีความมั่นใจ ปัญหาของญี่ปุ่นตอนนี้ไม่ใช่การเงิน แต่เป็นการตลาด เพราะประชาชนไม่มีความมั่นใจ ยิ่งดอกเบี้ยติดลบ คนก็ยิ่งไม่มีรายได้ ไม่ใช้จ่าย และรัฐบาลกลัวหนี้สาธารณะ จึงไม่กล้าใช้นโยบายการคลัง ไม่ลงทุนเพิ่มอะไรทั้งสิ้น ลักษณะแบบนี้หวังอะไรจากญี่ปุ่นมากไม่ได้ แต่จริงๆ ญี่ปุ่นฐานยังแข็งแรงมากนะ ถ้าเปลี่ยนนโยบายก็น่าจะฟื้นได้
--> จีน กลับมองว่าจีนมีโอกาสฟื้นเร็ว เพราะไม่ได้พึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ และสินค้าราคาถูกๆ แบบสมัยก่อน แต่พึ่ง domestic growth-การเติบโตจากภายใน จีนสร้างธุรกิจเร็วมาก มีนวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดเวลา ผู้นำให้การสนับสนุน นโยบายเปลี่ยนแปลงเร็ว และมีประสิทธิภาพมาก ขออย่างเดียวคือจีนอย่าทรุด การส่งออกไทยก็ยังพอมีโอกาส
--> ตะวันออกกลาง ตลาดส่งออกใหญ่ของไทยคือตลาดรถยนต์ไปตะวันออกกลาง แต่ตะวันออกกลางเศรษฐกิจไม่ดี มีแต่รายจ่ายไม่มีรายได้
- แต่เราไม่ได้หวังพึ่งส่งออกหรอกนะ เราหวังพึ่งตัวเองก่อน ตัวขับเคลื่อนจากรัฐบาลเป็นสิ่งสำคัญ โครงการต่างๆ กำลังจะเริ่มคลอดออกมา เดือนมิถุนายนนี้ รถไฟฟ้า 3 สายจะเปิดประมูลแน่นอน และต้องเร่งขับเคลื่อนการลงทุนจากภาครัฐวิสาหกิจด้วย เช่น ปตท. ยังมีเงินลงทุน 2 แสนล้าน, EGAT 2 แสนล้าน ต้องทำให้เค้ามาลงทุน และใช้เงินการลงทุนเหล่านี้ในการขับเคลื่อน sector อื่นที่อ่อนแอ เช่นเกษตรกรรม
- IMD ประกาศปรับอันดับของไทยจาก 30 มา 28 แปลว่ากรอบการขับเคลื่อนดีขึ้น
- ตอนไป Conference ที่ญี่ปุ่นเขาถามว่า มีอะไรที่ทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้ ตอบไป 3 ข้อดังนี้
ข้อ 1. การปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง
คือต้องแก้ไขปัญหาหลักสองข้อของประเทศ คือความเหลื่อมล้ำ และความสามารถในการแข่งขัน
1.1) ปฎิรูปการเกษตร โดยต้องใช้ชุมชนเป็นตัวตั้ง ทำสินค้าชุมชน ท่องเที่ยวชุมชน ไรงี้ ซึ่งการปฏิรูปต้องใช้เวลา เพราะการจำนำข้าวเงินหมุนสะพัดจริง และชาวนาก็ชอบ แต่ไม่แฟร์กับคนรุ่นหลัง
1.2) ปฏิรูปอุตสาหกรรม ทั้งการสร้างอุตสาหกรรมเก่าให้มี content ใหม่เพื่อให้มีราคาสูงขึ้น เช่น การแปรรูปอาหาร และการผลักดันอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ไฮเทค
ซึ่งรัฐบาลต้องการทำ Cluster base คือ เอาบริษัท มหาวิทยาลัย นักวิจัย มาอยู่ใกล้ๆ กัน ทำงานร่วมกันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นโมเดลมาจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
ปัจจุบันเอกชนไทยยังไม่ค่อยกล้าลงทุน ในขณะที่การลงทุนจากเมืองนอกเริ่มมีเข้ามาแล้ว เพราะต่างชาติมองยาวว่าอีกหน่อยไทยจะเป็น Gateway แน่ๆ ตัวเลขการลงทุนจากภาคเอกชนยังมีเพียง 19% ของ GDP ในอดีตก่อนปี 40 มีมากกว่า 35% ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงเพิ่งออกนโยบายมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ให้ค่าใช้จ่ายในการลงทุนสามารถหักภาษีได้ 2 เท่า เอกชนไทยแทนที่จะเอาเงินไปฝากแบงก์ดอกเบี้ยต่ำๆ ก็ควรนำเงินไปลงทุนแทนนะ
ข้อ 2. โครงการ Infrastructure
2.1) คมนาคม เช่น ถนน,รถไฟ,สนามบิน ฯลฯ เกิดแน่นอน!
2.2) พลังงาน งบลงทุน 2.5 ล้านล้าน ใกล้เคียงคมนาคมเลย
2.3) ดิจิตอล งบลงทุนอย่างน้อย 5 แสนล้าน (ปีนี้ลงทุนแน่ๆ 15,000 ล้าน)
ซึ่งโครงการเหล่านี้จะมีการจัดซื้อจัดจ้างจากเอกชน เงินก็จะหมุนไป
แต่ Infrastructure ไม่ได้หมายความแค่นั้น ยังมีโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาคนด้วย ซึ่งต้องผลักดันงบประมาณไปทางนั้นด้วย
2.4) Social Infrastruture โครงสร้างพื้นฐานทางสังคม เช่น การศึกษา โรงเรียน พิพิธภัณฑ์ โรงพยาบาล
2.5) Political Infrastructure : มีสองส่วนคือทางเศรษฐกิจและการเมือง
ทางเศรษฐกิจ - หมายถึง สิ่งแวดล้อมที่เกื้อหนุนการลงทุนจากต่างชาติ เช่น ความโปร่งใสของศุลกากร,การเปิดเผยข้อมูล,การทำ E-payment เพื่อให้ไม่สามารถหลบเลี่ยงภาษีได้,ธรรมาภิบาล ซึ่งไทยเรามองข้ามสิ่งเหล่านี้มาตลอดในขณะที่สิงคโปร์กินเราขาด
การเมือง - หัวใจคือภาคประชาสังคม (ประชาชน-เอกชน-ราชการ) ที่แข็งแรง มีจิตสำนึก คนไม่ยอมรับการคอรัปชัน เช่นประเทศเกาหลีใต้ สิงคโปร์ ในขณะที่ของไทยยังอ่อนมาก
ข้อ 3. แรงหนุนส่งจากภายนอก มี 2 แรงหนุน
3.1) ประชารัฐ การเอาภาคเอกชน ประชาชน รัฐบาล ทุกภาคส่วน มาทำงานเชื่อมโยงกันเป็น networking
3.2) AEC จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าประเทศอื่นจะเจริญกว่า เพราะจากการทำนโยบาย IHQ (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ) เมื่อต้นปีที่แล้ว มีบริษัทต่างประเทศมาจดทะเบียน 49 แห่ง เช่นหัวเหว่ย เพราะ นโยบายด้าน Digital ของภาครัฐชัดเจน และการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้านสูงมาก ซึ่งหัวเหว่ยมองว่าไทยคือ Gateway เพื่อจะขยายไปยังประเทศข้างเคียงอื่นๆ ต่อไป
#สรุปคือตอนนี้ไม่หวังส่งออกเน้นโตจากภายใน
---------------------------------------
ไม่พลาดสาระมีอยู่จริง ติดตามได้ในไลน์นะจ๊ะ
Line: @maoinvestor
ท่องเที่ยวชุมชน คือ 在 "การท่องเที่ยวโดยชุมชน" คือ? - YouTube 的美食出口停車場
"การ ท่องเที่ยว โดย ชุมชน " คือ ? ... 38K views · 6 years ago ...more. Dasta Cbt. ... <看更多>