หรืออนาคตโลกจะเป็นของผู้ชาย?
เมื่อผู้หญิงอาจหายไป 4.7 ล้านคน ภายในปี 2030
จากการ ‘ทำแท้งเลือกเพศ’😢
.
นักวิจัยพบว่าภายในปี 2030 โลกจะสูญเสียประชากรเพศหญิง 4.7 ล้านรายจากการทำแท้งเลือกเพศและการฆ่าทารกหญิง จากค่านิยมที่มีอคติทางเพศและให้ค่ากับลูกชายมากกว่า โดยเฉพาะในจีนและอินเดีย มี 12 ประเทศที่สัดส่วนเพศของทารกเกิดใหม่ผิดธรรมชาติอย่างชัดเจน และอาจส่งผลเสียต่อเสถียรภาพในระยะยาว
.
ปัจจุบันโลกของเรามีประชากรเพศหญิง และชาย ในค่าเฉลี่ยที่ค่อนข้างเท่ากัน แต่ในอีกหนึ่งทศวรรษข้างหน้า โลกนี้อาจมีประชากรเพศชายมากกว่าอย่างชัดเจน
.
ตามสถิติแล้วมนุษย์กำลังเผชิญหน้ากับการหดตัวของประชากรเพราะเรามีคนเกิดน้อยกว่าตายมาตั้งแต่ปี 2010 แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ หลายชาติในเอเชียยังอยู่ในสภาวะประชากรขยายตัวอยู่ แต่ในการขยายตัวนั้นอาจมีแนวโน้มจะเป็นผู้ชายมากกว่า เพราะหลายประเทศวิถีการ ‘ทำแท้งเลือกเพศ’ และการฆ่าทารกหญิงตั้งแต่แรกคลอดในวัฒนธรรมที่มีอคติทางเพศค่อนข้างรุนแรงและนิยมลูกชายมากกว่า โดยเฉพาะในประเทศจีนและอินเดีย
.
12 ประเทศมีสัดส่วนเพศของทารกที่ผิดปกติ
.
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร BMJ Global Health คาดการณ์โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากการเกิดของทารก 3,260 ล้านคน จาก 204 พื้นที่ พบว่าภายในปี 2030 โลกเราจะต้องศูนย์เสียเด็กผู้หญิงและตัวอ่อนหญิงในครรภ์ไป ถึง 4.7 ล้านคน และพบว่ามี 12 ประเทศที่มีสัดส่วนการเกิดของเพศชายและเพศหญิงแตกต่างกันอย่างผิดธรรมชาติชัดเจน คือ จีน อินเดีย แอลเบเนีย อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน และเวียดนาม และมีอีก 17 ประเทศมีแนวโน้มจะเดินรอยตามในอนาคต
.
หากอัตราการเกิดยังเป็นเช่นนี้ต่อไปนักวิจัยคาดการณ์ว่าในปี 2100 จะมีการทำแท้งตัวอ่อนหญิงหรือทารกหญิงที่ถูกฆ่าตั้งแต่แรกคลอดอีก 5.7 ล้านคน และจะส่งผลถึงความเสถียรภาพทางประชากรโลกที่อาจมีผู้ชายมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน
.
เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อให้ทราบเพศของทารกก่อนเกิดเกิดขึ้นราว 50 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นคือในบางประเทศเลือกที่จะทำแท้งลูกในครรภ์เมื่อตัวอ่อนถูกระบุว่าเป็นเพศหญิงเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน และในครึ่งทศวรรษที่ผ่านมานี้ เชื่อว่ามีผู้หญิงที่ไม่ได้เกิดมาราว 25-45 ล้านคน
.
การทำแท้งเลือกเพศส่วนใหญ่อยู่ในจีนและอินเดีย
.
รายงานกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ในปี 2020 ระบุว่า มีการทำแท้งทารกเพศหญิงราว 1.18 ล้านคนต่อปี โดย 666,300 รายอยู่ในประเทศจีน และ 461,500 อยู่ในอินเดีย
.
และกรณีที่เกิดขึ้นในจีนและอินเดียอยู่ในอัตราที่สูงมาก คิดเป็น 95% ของการทำแท้งเลือกเพศทั่วโลกเลยทีเดียวจนทำให้ปัจจุบันทั้ง 2 ประเทศประสบปัญหาผู้ชายขาดแคลนคู่แต่งงาน และนำไปสู่ปัญหาสังคมด้านอื่นๆ สาเหตุที่หลายวัฒนธรรมให้ค่ากับผู้ชายมากกว่าเนื่องจากระบบการ ‘สืบสกุล’ และเชื่อว่าผู้ชายจะเป็นคนเลี้ยงดูครอบครัวในขณะที่ผู้หญิงเมื่อแต่งงานแล้วต้องไปอยู่ที่บ้านอื่น ในอินเดียฝ่ายหญิงยังต้องจ่ายสินสอดก้อนโตให้กับผู้ชายด้วยเมื่อแต่งงานออกไป ครอบครัวจึงให้ความสำคัญกับการมีลูกชายมากกว่า แม้ว่าปัจจุบันรัฐบาลจีนจะพยายามออกนโยบายเพื่อจูงใจให้คนมีลูกสาวมากขึ้นแต่ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ
.
ไม่ใช่เฉพาะ 2 ชาตินี้เท่านั้น ในปี 2020 มีรายงานพบว่าในเวียดนามมีการทำแท้งตัวอ่อนหญิงกว่า 40,800 รายต่อปี และยังพบปัญหาความไม่สมดุลทางด้านประชากรที่ชัดเจนขึ้นตั้งแต่ปี 2005 และไม่ใช่การทำแท้งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ค่านิยมที่ให้ความสำคัญกับลูกชายยังทำให้หลายครอบครัวเลือกผสมเทียม ฝังตัวอ่อนในมดลูก และคัดเลือกสเปิร์มสำหรับเด็กหลอดแก้วโดยเลือกให้เป็นเด็กผู้ชายโดยเฉพาะ
.
ถ้าหากในอนาคตโลกนี้จะมีอัตราผู้ชายมากกว่าผู้หญิงอย่างไม่สมดุล นี่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการค้าประเวณีผิดกฎหมาย การแสวงหาประโยชน์ทางเพศ การแต่งงานกับเจ้าสาวเด็ก และการคุกคามทางเพศอาจเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
จากการ 在 ผมขอลาออกจากการเป็น CEO ครับ… - YouTube 的美食出口停車場
... กดซับ กดกระดิ่งให้ด้วยเด้อ กด ... ผมขอลาออก จากการ เป็น CEO ครับ… 772K views · 3 months ago ...more ... ... <看更多>