ตลาดอสังหา EEC ยังมีหวังแค่ไหน หากรัฐบาลผ่านกฎหมายให้ต่างชาติซื้อบ้าน-ที่ดินได้?
อ่านเพิ่ม https://wp.me/p1YZB1-39fv
.
EEC เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปี 2561 ต่อยอดมาจาก แผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) โดยเป็นโครงการภายใต้พรบ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 13,000 ตร.กม. เกิดขึ้นหลังจากเข้าร่วม AEC ในปี 2558 มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุน และยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งมีหลายธุรกิจให้ความสนใจเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าอสังหาริมทรัพย์ ก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น
.
พื้นที่ EEC กลายเป็น Blue Ocean ที่หลายบริษัทอยากเข้าไปลิ้มลอง ทำให้เกิดการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ขึ้นมามากมายเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มีทั้งคอนโดมิเนียม, บ้านจัดสรร, Service Apartment และโรงแรม ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับทั้งชาวไทยและต่างชาติที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้ แต่ด้วยความล่าช้าของโครงการ ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ หนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มสูง อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ การประกาศใช้ LTV ทำให้อสังหาริมทรัพย์ใน EEC นั้นไปไม่ไกลอย่างที่คิด และก็มาถึงคลื่นลูกล่าสุดที่ไม่มีใครคาดคิด อย่าง Covid-19 ซึ่งกินระยะเวลายาวนานเกือบ 2 ปี ส่งผลให้มูลค่าของบ้าน-คอนโด เปิดขายใหม่ใน EEC ลดลงกว่า 35%
.
จากข้อมูลของ REIC ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ EEC ทั้ง 3 จังหวัด ชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา มีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์สูงสุด เป็นอันดับ 2 รองจากกทม.-ปริมณฑล และในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 มีอสังหาริมทรัพย์เหลือขายทั้ง 3 จังหวัด 63,279 หน่วย คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 214,525 ลบ. หรือราว 38% ของอสังหาฯ ที่เหลือขายในกทม-ปริมณฑล โดยเฉพาะชลบุรีซึ่งมีจำนวนโครงการบ้าน-คอนโดสูงถึง 19% ของประเทศ มีหน่วยรอเสนอขาย 39,984 หน่วย มูลค่า 153,245 ลบ.
.
จะเป็นอย่างไรหากเปลี่ยนพื้นที่อุตสาหกรรม ให้เป็นบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติ?
.
ในปี 2563 สัดส่วนการโอนคอนโดของชาวต่างชาติในชลบุรี อยู่ที่ 24.9% คิดเป็นอันดับที่สองของทั้งประเทศ ซึ่งหลังจากมีประเด็น #รัฐบาลเตรียมเปิดช่องให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านและที่ดินในไทย ได้มีเสียงตอบรับจากตัวแทนอสังหาฯ ใน EEC ที่ค่อนข้างเห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว เนื่องจากมองว่า มีความเป็นไปได้ที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของไทยอาจลดลงในระยะยาว รัฐบาลจำเป็นต้องหาฟันเฟืองใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อสังหาริมทรัพย์ใน EEC อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเสนอให้ ขยายเพดานเพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้มากขึ้น ซึ่งอาจช่วยดึงดูดกำลังซื้อต่างชาติ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนอสังหาให้ไปต่อได้
-------------------------------------------
ติดตามกันต่อได้ผ่านทาง Line Official Account คลิก > https://lin.ee/svACOxc
คอนโด ฉะเชิงเทรา 在 ThinkofLiving.Com Facebook 的精選貼文
เดิมที #EEC เป็นความหวังของวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เกิดการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ขึ้นมามากมายเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ >> https://wp.me/p1YZB1-34wC
ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ EEC ทั้ง 3 จังหวัด ชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สูงสุด เป็นอันดับ 2 รองจากกทม.-ปริมณฑล แต่ด้วยความล่าช้าของโครงการ และภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมไปถึงการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้ตลาดบ้าน-คอนโด ในพื้นที่ EEC นั้น ไปไม่ไกลอย่างที่คิด
---------------------------------
ถ้าไม่อยากพลาด Content ดีๆแบบนี้ ติดตามกันต่อได้ผ่านทาง Line Official Account คลิก > https://lin.ee/svACOxc
คอนโด ฉะเชิงเทรา 在 ThinkofLiving.Com Facebook 的最佳貼文
#EEC พื้นแห่งความหวังของอสังหาริมทรัพย์ จะกลายเป็นแค่ความหลังได้หรือไม่?
อ่านเพิ่ม https://wp.me/p1YZB1-34wC
.
EEC (Eastern Economic Corridor ) หรือ “โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” เป็นแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ ไทยแลนด์ 4.0 ต่อยอดมาจาก แผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) โดยเป็นโครงการภายใต้พรบ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 13,000 ตร.กม. เกิดขึ้นหลังจากเข้าร่วม AEC ในปี 2558 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุน และยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศ
.
แล้ว EEC สำคัญต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างไร?
.
โครงการ EEC เป็นความหวังของวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เกิดการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ขึ้นมามากมายเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และปริมาณของผู้คนที่จะหลั่งไหลเข้ามาทำงานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้ มีทั้งคอนโดมิเนียม, บ้านจัดสรร, Service Apartment และโรงแรม ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับทั้งชาวไทยและต่างชาติที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่ EEC แต่ด้วยความล่าช้าของโครงการ และภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมไปถึงการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้ตลาดบ้าน-คอนโด ในพื้นที่ EEC นั้น ไปไม่ไกลอย่างที่คิด
.
จากข้อมูลของ REIC ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ EEC ทั้ง 3 จังหวัด ชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สูงสุด เป็นอันดับ 2 รองจากกทม.-ปริมณฑล ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 มีจำนวนที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างเสนอขายใน 3 จังหวัด 75,362 หน่วย คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 254,832 ลบ. หรือราว 28% ของมูลค่าอสังหาฯ ที่เหลือขายในกทม-ปริมณฑล โดยเฉพาะชลบุรีซึ่งมีจำนวนโครงการบ้าน-คอนโดสูงถึง 8.3% ของประเทศ มีหน่วยรอเสนอขาย 48,384 หน่วย มูลค่า 183,289 ลบ.
.
ซึ่ง...หากสถานการณ์ Covid-19 ยังไม่คลี่คลาย และเศรษฐกิจยังไม่กระเตื้อง เราอาจต้องใช้เวลานานกว่า 4 ปี ถึงจะสามารถระบายสต็อกที่เหลืออยู่ได้
---------------------------------
ติดตาม Content อื่นๆ ผ่านทาง ThinkofLiving Line Official Account คลิก > https://lin.ee/svACOxc