สรุปประเด็นจากห้อง Clubhouse ทำไมคนไทยไม่ควรพลาด ในการลงทุนหุ้นเทคโนโลยี ?
BBLAM x ลงทุนแมน
หลังจาก ลงทุนแมน ได้ชวนผู้เชี่ยวชาญหุ้นเทคโนโลยีจากกองทุนบัวหลวง
มาร่วมพูดคุยในเรื่องหุ้นเทคโนโลยีกันแบบเจาะลึก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
โดยมี 2 Speakers มากประสบการณ์จากกองทุนบัวหลวง ได้เปิดเผยข้อมูลน่าสนใจมากมาย
- คุณเศรณี นาคธน AVP, Portfolio Management กองทุนบัวหลวง
- คุณมทินา วัชรวราทร CFA®, AVP, Portfolio Management กองทุนบัวหลวง
สถานการณ์ความท้าทาย, โอกาสในอนาคต รวมทั้งแนวทางการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้จะเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
คำถามที่ 1 : หุ้นเทคโนโลยีจะกลับมาอีกครั้งหรือยัง ?
สังเกตไหมว่าในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเทคโนโลยีให้ผลตอบแทนได้ดีมาโดยตลอด
โดยในปีนี้ ดัชนีที่รวบรวมบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Nasdaq ก็ให้ผลตอบแทน 12%
ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่านักลงทุนเริ่มกลับมาให้ความสนใจหุ้นเทคอีกครั้ง
อย่างในช่วงโควิดที่ผ่านมา เราก็คงได้มีโอกาสใช้บริการแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Grab, Lazada, Shopee หรือ Netflix
แต่ถ้าถามว่ามุมมองต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในอนาคตจะเป็นอย่างไร ?
แน่นอนว่า สิ่งที่จะทำให้โลกขับเคลื่อนต่อไปได้ก็คือเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้าหรือบริการ ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการพัฒนา ให้ถูกขึ้น ดีขึ้น และเร็วขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
รวมไปถึงเรื่องของสังคมผู้สูงวัยทั่วโลก ส่งผลให้แรงงานมีจำนวนน้อยลง จึงต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอย่าง หุ่นยนต์ หรือ AI เพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่แนวโน้มการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมกับการแพทย์อื่น ๆ เช่น การหาหมอออนไลน์, การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ, 3D printing ฯลฯ
ซึ่งถ้าถามว่าถึงเวลาของหุ้นเทคโนโลยีหรือยัง ก็จะเห็นได้ว่า ตลาดเริ่มส่งสัญญาณบวกแล้ว เพราะแม้จะมีความชัดเจนในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่หุ้นเทคในช่วงที่ผ่านมาก็ยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งคุณเอมได้เสริมว่า ทุกวันนี้ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นเทคโนโลยียังไม่เปลี่ยนแปลง และกำไรยังเติบโต อีกด้วย จากเหตุผลที่ว่ามานี้หุ้นเทคโนโลยีจึงเป็น Theme ลงทุนหลักของโลกในระยะต่อไปแน่นอน
คำถามที่ 2 : “เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย” ส่งผลต่อหุ้นเทคโนโลยีอย่างไร ?
ปกติแล้ว การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) จะส่งผลต่อหุ้นเทคโนโลยี 2 เรื่องสำคัญ นั่นคือ
- ต้นทุนในการกู้ยืมเงินของบริษัท เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ต้นทุนในการกู้ยืมเงินก็จะสูงตามไปด้วย
- การประเมินมูลค่าหุ้นแบบ Dividend Discount Model (DDM) เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น อัตราคิดลดก็จะเพิ่มขึ้น เมื่อคิดเป็นมูลค่าหุ้นกลับมา จึงทำให้มูลค่าหุ้นเทคโนโลยีลดลง
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหุ้นเทคโนโลยีค่อนข้างอ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ย นั่นเอง
ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว หลายประเทศเริ่มเปิดเมืองและมีการเร่งฉีดวัคซีน
จึงเป็นไปได้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น นักลงทุนจึงคาดว่า Bond Yield ต้องปรับตัวขึ้นอย่างแน่นอน
ซึ่ง Bond Yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ก็เคยปรับขึ้นไปสูงถึงเกือบ 1.8% จากเดิมที่มีตัวเลข 1%
แต่แล้ว.. เมื่อประกาศอัตราเงินเฟ้อออกมาสูงตามที่นักลงทุนคาดไว้จริง ๆ Bond Yield ที่ปรับขึ้นมารออยู่แล้ว จึงเริ่มกลับปรับตัวลดลง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แท้จริง หรือที่เรียกว่า Real Yield ที่คำนวณจาก Bond Yield หลังหักเงินเฟ้อคาดการณ์ ยังอยู่ในระดับต่ำ -0.8%
สะท้อนได้ว่า ผลตอบแทนพันธบัตรไม่น่าจะเอาชนะเงินเฟ้อได้
จึงส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นกลับมาน่าสนใจ จากนั้นมาหุ้นเทคโนโลยีก็เริ่มปรับตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ผ่านเครื่องมือ Dot Plot
ยังมองว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ (Fed Fund Rate) อาจเกิดขึ้น 2 ครั้งภายในปี 2023
ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เร็วกว่าที่นักลงทุนคาดไว้
นักลงทุนจึงมองว่า ยิ่งการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยมาเร็วมากขึ้น โอกาสที่จะเกิดอัตราเงินเฟ้อย่อมลดลง
ดังนั้น Bond Yield คงไปต่อได้ไม่ไกล จึงน่าจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น รวมทั้งหุ้นเทคโนโลยี อีกด้วย
คำถามที่ 3 : ปัจจัยใดส่งผลต่อ “การปรับฐานของหุ้นเทคโนโลยี” ในตอนนี้ ?
ปัจจัยแรกคือ Bond Yield
หากถามว่า Bond Yield เท่าไรถึงจะส่งผลต่อตลาดหุ้น คำตอบจากการสำรวจของ Bank of America นั้นอยู่ที่ 2.5% ซึ่งปัจจุบันนี้ อัตราดอกเบี้ยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ บวกลบไม่เกิน 1.5%
ดังนั้น กว่าที่ Bond Yield จะปรับตัวสูงถึงระดับนั้น อาจใช้เวลานาน ตลาดหุ้นถึงจะเริ่มปรับฐาน
ปัจจัยที่สองคือ Sector Rotation
เมื่อต้นปีเกิดแรงขายของหุ้นเทคโนโลยี ไปลงทุนในหุ้นวัฏจักรที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง
โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีราคาปรับสูง จนกลายเป็น Commodity Supercycle
สะท้อนได้ว่า สินค้าโภคภัณฑ์กลายเป็น Most Crowded Trade ที่อาจเข้าใกล้จุดสูงสุดไปแล้ว
ดังนั้น เมื่อนักลงทุนเริ่มคลายกังวลในเรื่องอัตราเงินเฟ้อ บวกกับผลประกอบการของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีที่ออกมาดี จึงเป็นเหตุผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมาลงทุนหุ้นเทคโนโลยีอีกครั้ง
ปัจจัยสุดท้ายที่หลายคนกังวลคือ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น คนยังจะพึ่งพาเทคโนโลยีอยู่หรือไม่ ?
ซึ่งต้องยอมรับว่า พฤติกรรมหลาย ๆ อย่างได้กลายเป็น New Normal ไปเรียบร้อยแล้ว
อาทิ Work From Home, การช็อปปิงออนไลน์, การสั่งอาหารแบบ Delivery
สิ่งเหล่านี้สะท้อนได้ว่า ปัจจัยพื้นฐานการใช้เทคโนโลยีจะยังคงอยู่ต่อไป ไม่เปลี่ยนแปลง
คำถามที่ 4 : “QE Tapering” กระทบหุ้นเทคโนโลยีหรือไม่ ?
การปรับลดวงเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ QE ของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า QE Tapering
แม้ว่าจะมีวงเงินลดลง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในสถานะอัดฉีดเงินอยู่ดี
โดย QE Tapering เป็นหนึ่งในสัญญาณชี้ว่า สภาวะเศรษฐกิจอาจดีขึ้นแล้วจริง ๆ
เพราะแม้ว่า FED จะลดวงเงินอัดฉีดเงิน แต่เศรษฐกิจและภาคธุรกิจก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้
สะท้อนได้ว่า เราอาจจะกำลังอยู่ในช่วง Mid-cycle ของวงจรเศรษฐกิจ
ซึ่ง Mid-cycle จะเป็นช่วงที่ระดับอัตราดอกเบี้ยไม่ได้สูงมาก และเศรษฐกิจยังโตต่อเนื่องได้
โดยปกติแล้วจะส่งผลดีต่อกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก
ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่าความกังวลเรื่องสภาพคล่องก็ถูก Price In ไปแล้วบางส่วน
เมื่อทุกอย่างชัดเจน เชื่อว่ากลุ่มหุ้นเทคโนโลยีก็พร้อมจะไปต่อได้
นอกจากนี้ ต้องให้เครดิตคุณเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ
ผู้เป็นสุดยอดนักสื่อสาร และเข้าใจตลาดการลงทุน ซึ่งการค่อย ๆ ออกมาพูด ทำให้ตลาดปรับตัวได้
ที่น่าสนใจคือ หุ้นเทคโนโลยีตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา มีเพียงปีเดียวที่ให้ผลตอบแทนที่เป็นลบ คือปี 2018 ที่ให้ผลตอบแทน -1.1% จากมรสุมลูกใหญ่ อาทิ Trade War, ทรัมป์ ทวีต และการประกาศขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีเดียว ส่วนปีอื่นๆ ล้วนให้ผลตอบแทนในอัตราเลขสองหลัก
สะท้อนได้ว่า หุ้นเทคโนโลยีเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ และให้ผลตอบแทนที่ดีได้
คำถามที่ 5 : ถ้าอนาคตเกิด “การดูดกลับสภาพคล่อง” หุ้นเทคโนโลยีจะยังไปต่อไหม ?
ก่อนหน้านี้ สภาพคล่องได้กระจายตัวไปทั่วตลาดหุ้น แม้แต่ในหุ้นที่ขาดทุนไม่มีกำไร
ดังนั้น เมื่อสภาพคล่องลดลง หุ้นที่มีคุณภาพและมีกำไร เชื่อว่าจะยังไปต่อได้
ต่างจากหุ้นพื้นฐานไม่ดี ยังไม่มีกำไร คงยากที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในปีนี้
ทีนี้น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า ไม่ใช่หุ้นเทคทุกตัว ที่จะน่ากลัวเสมอไป
หนึ่งวิธีที่จะช่วยเฟ้นหาหุ้นเทคในช่วงเวลานี้คือ วิธี Bottom Up
ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์หุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐานจากตัวธุรกิจ ไปยังกลุ่มอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจ
ตัวอย่างเช่น Shopify ธุรกิจ E-commerce แบบครบวงจรสัญชาติแคนาดา ทั้งในด้านการตลาด โกดังเก็บของ และบริการขนส่งสินค้า แม้จะมี P/E สูงมาก แต่ก็สร้างกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเท่าตัว และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องได้ นักลงทุนจึงได้เข้าไปลงทุนจนราคาหุ้นปรับตัวสูง 150% ในปีที่ผ่านมา
ดังนั้น คำตอบของคำถามที่ว่าหุ้นเทคโนโลยีจะยังไปต่อไหม จึงขึ้นอยู่กับการเลือกหุ้น นั่นเอง
โดยลักษณะหุ้นที่มีโอกาสไปต่อก็คือ หุ้นที่ยังไม่แพง หุ้นที่มีกำไรสม่ำเสมอ และเป็นหุ้นใหญ่
อาทิ หุ้นกลุ่ม FAANG, หุ้นกลุ่ม Software-as-a-Service (SaaS) ที่ให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ที่มี Recurring Income หรือมีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ และราคาหุ้นยังไม่แพง ก็น่าจะยังไปต่อได้
คำถามที่ 6 : หุ้นเทคโนโลยี “ลงทุนระยะยาว” ได้ไหม ?
หลายคนอาจจะยังไม่กล้าถือหุ้นเทคโนโลยีในระยะยาวเพราะกลัวปัจจัยเรื่องดอกเบี้ย
ซึ่งคำถามสำคัญคือ หากมีการขึ้นดอกเบี้ยจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้น ?
อิงจากสถิติตั้งแต่ช่วงปี 1990 จนถึงปัจจุบัน FED ได้มีการขึ้นดอกเบี้ยทั้งหมด 7 ครั้ง บวกการทำ QE Tapering อีก 1 ครั้ง
ผลปรากฏว่า Sector ที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้มาโดยตลอดก็คือ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และยังให้ผลตอบแทนเป็นบวกมากที่สุดเมื่อเทียบกับ Sector อื่น ๆ
หรืออย่างในปัจจุบันเอง ที่มีปัจจัยมากระทบมากมาย อย่างเรื่อง Sector Rotation, ภาษีนิติบุคคลฉบับใหม่, กฎหมายเรื่องการผูกขาด แต่กองทุน B-INNOTECH ยังคงเติบโตกว่า 17%
ดังนั้น ทางกองทุนบัวหลวงก็มองว่า อาจไม่จำเป็นต้องดู Timing มาก แต่ให้เน้นจัดพอร์ตการลงทุนโดยให้คงสัดส่วนหุ้นเทคโนโลยีไว้ เพราะถือเป็น Sector ที่มีโอกาสเติบโตได้ดี เมื่อเทียบกับ Sector อื่น ๆ ในตลาด
คำถามที่ 7 : ตอนนี้ “ควรเลือกลงทุน” หุ้นเทคโนโลยี อย่างไรดี ?
หุ้นเทคโนโลยีในช่วงนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็นหลัก ๆ 3 ประเภท คือ
1. กลุ่ม Hardware เช่น อุปกรณ์ไอที คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร อย่างบริษัท HP หรือ Logitech
2. กลุ่ม Software as a Service หรือว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้ในบริษัทองค์กรใหญ่ ๆ เช่น Microsoft Office, Salesforce (CRM) และ ServiceNow
3. กลุ่ม Semiconductor เช่น ชิปเซต การ์ดจอ อย่าง TSMC และ NVIDIA
ซึ่งกลุ่มที่ 2 และ 3 นั้นตลาดจะให้ P/E ค่อนข้างสูง เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของกำไรที่สูง ต่างกับกลุ่มที่ 1 ที่อาจเติบโตได้ดีแค่ในช่วงโควิด แต่เป็นสินค้าที่คนไม่ได้ซื้อบ่อย ทำให้ตลาดยังให้ราคาค่อนข้างต่ำ
อย่างบริษัท NVIDIA ผู้ผลิตการ์ดจอ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของนักขุดเหรียญคริปโทฯ ที่มี P/E สูงถึง 76 เท่า แต่ก็มีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น ในไตรมาสที่ผ่านมาสูงถึง 100% ในขณะที่กลุ่ม Hardware อย่าง HP หรือ Logitech นั้นจะมี P/E อยู่ที่ประมาณ 20 เท่า เท่านั้น
จะเห็นได้ว่า หุ้นเทคโนโลยีแต่ละกลุ่มนั้น ให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น การเลือกกองทุนที่มีนโยบายบริหารแบบ Active Management หรือ กองทุนที่มีเป้าหมายเพื่อเอาชนะดัชนีอ้างอิง จึงเป็นนโยบายที่เหมาะกับการลงทุนใน Theme เทคโนโลยีนี้ เพราะจะช่วยให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในการคัดเลือกหุ้นมากขึ้น โดยสามารถเลือกลงทุนในหุ้นที่เห็น Upside ได้เยอะกว่าได้ เมื่อเทียบกับแบบ Passive Management ที่ลงทุนอิงตามดัชนีเท่านั้น
คำถามที่ 8 : แล้ว “B-INNOTECH” เลือกหุ้นเทคโนโลยีเข้าพอร์ตอย่างไร ?
วิธีคัดเลือกหุ้นของผู้จัดการกองทุน Fidelity ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ B-INNOTECH
จะประกอบไปด้วย 3 ปัจจัยสำคัญ นั่นคือ
- Growth คือ หุ้นบริษัทที่เน้นการสร้างนวัตกรรมทันสมัย มีแนวโน้มเติบโต และเป็นผู้นำได้ในระยะยาว
- Cyclical คือ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และที่จะเติบโตไปตามสภาพเศรษฐกิจได้
ตัวอย่างเช่น หุ้นผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ Semiconductor ที่จะยังเติบโตต่อไปได้
- Special Situation คือ หุ้นบริษัทคุณภาพในช่วงเวลาไม่ปกติ
เมื่อกองทุนเห็นบริษัทคุณภาพที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
หากบริษัทนั้น มีโอกาสฟื้นตัวได้สูง น่าสนใจในอนาคต ก็จะเข้าไปลงทุนเก็บสะสมไว้
ดังนั้น การเลือกหุ้นเทคโนโลยีของกองทุน B-INNOTECH ที่มักจะลงทุนในหุ้นใหญ่
ลักษณะไม่หวือหวา เช่น Alphabet, Microsoft
ด้วยพื้นฐานของการประเมินมูลค่าหุ้นที่เหมาะสม เป็นธุรกิจผู้นำในกลุ่ม
รวมทั้งเป็นธุรกิจมีรายได้และกำไรที่มีคุณภาพ และต้องเติบโตต่อเนื่องในอนาคตด้วย
ซึ่งการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีขนาดใหญ่, ธุรกิจเทคโนโลยีพื้นฐาน และเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน
ที่มีแนวโน้มผลการดำเนินการค่อยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังส่งผลให้ B-INNOTECH เป็นกองทุนที่มีความผันผวนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับกองทุนเทคโนโลยีและ Innovation อื่น ๆ อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ สะท้อนได้ว่า B-INNOTECH เป็นอีกหนึ่งกองทุนหุ้นเทคโนโลยีที่น่าสนใจเลยทีเดียว ในตอนนี้..
คำเตือน:
การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้อนู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
同時也有9部Youtube影片,追蹤數超過23萬的網紅OverclockZoneTV,也在其Youtube影片中提到,ในงบประมาณ สามหมื่นต้นๆ และต้องการ Notebook เอาไว้เล่นเกม และแคร์ภาพลักษณ์ด้วย ROG STRIX G15 รุ่นใหม่นี้ เป็นทางเลือกอันดับแรกแน่นอน กับค่าตัว 32,990 ...
「การ์ดจอ คือ」的推薦目錄:
- 關於การ์ดจอ คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於การ์ดจอ คือ 在 Overclockzone Facebook 的精選貼文
- 關於การ์ดจอ คือ 在 คอมคร้าบ Facebook 的最佳解答
- 關於การ์ดจอ คือ 在 OverclockZoneTV Youtube 的最讚貼文
- 關於การ์ดจอ คือ 在 OverclockZoneTV Youtube 的精選貼文
- 關於การ์ดจอ คือ 在 PTRn_ official Youtube 的最讚貼文
- 關於การ์ดจอ คือ 在 การ์ดจอ (Graphic Card) คืออะไร? ต่างกันยังไง? เลือกอย่างไร? 的評價
- 關於การ์ดจอ คือ 在 การ์ดจอคืออะไร!!! | NEXTSTEPGO - YouTube 的評價
- 關於การ์ดจอ คือ 在 iHAVECPU - ไขข้อสงสัย ตัวเลขและรหัสบนการ์ดจอ AMD (ฉบับ ... 的評價
การ์ดจอ คือ 在 Overclockzone Facebook 的精選貼文
ในงบประมาณ สามหมื่นต้นๆ และต้องการ Notebook เอาไว้เล่นเกม และแคร์ภาพลักษณ์ด้วย ROG STRIX G15 รุ่นใหม่นี้ เป็นทางเลือกอันดับแรกแน่นอน กับค่าตัว 32,990 บาท แต่ให้ฟีเจอร์มาไม่ต่างกับ ROG รุ่นบน ทั้งเรื่องดีไซน์ งานประกอบ และ ระบบภายใน แต่ก็แลกมาด้วยสเปกที่อาจจะไม่ได้อลังการซักเท่าไหร่ การ์ดจอ RTX3050Ti ที่เหมาะกับการเล่นเกมออนไลน์ ส่วนเกม Offline กินสเปกจัดๆ ถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องปรับสุด เปิด Ray Tracing มันก็ตอบโจทย์ให้คุณได้แน่นอน .. ทีนี้ก็เหลืออยู่เรื่องเดียว คือ สินค้ามีไม่มาก หาซื้อยากซักหน่อย
การ์ดจอ คือ 在 คอมคร้าบ Facebook 的最佳解答
🔥 มาหลังแรงกว่า ! Intel โชว์ผลทดสอบซีพียูโน้ตบุ๊คตัวท็อปรุ่นใหม่เทียบกับ AMD เอามาเล่นเกม เผยแรงกว่าสูงสุด 26%
.
เรียกได้ว่าสาวกค่ายฟ้าถูกใจสิ่งนี่แน่นอนสำหรับผลทดสอบซีพียู Intel Gen 11 Tiger Lake-H TDP 45W สถาปัตยกรรม 10nm รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งทาง Intel ได้ทำสไลด์เปรียบเทียบกับซีพียูคู่แข่งอย่าง AMD ด้งบว่าเป็นยังไงบ้าง
.
🖼 จากรูปจะเป็นการเปรียบเทียบระหว่าง i9-11980HK (8C/16T) กับ Ryzen 9 5900HX (8C/16T) ที่เป็นรุ่นท็อปของซีพียูโน้ตบุ๊คทั้งคู่ เอามาทดสอบเล่นเกมโดยใช้การ์ดจอ RTX 3080 คล้ายกัน คือ
.
- เครื่อง Intel ใช้เป็นเครื่อง OEM ใช้การ์ดจอ RTX 3080 ~155W
- เครื่อง AMD ใช้เป็น Lenovo Legion R9000K การ์ดจอ RTX 3080 ~165W
.
🎨 โดยจากในกราฟที่ทดสอบจะให้เห็นได้ว่า ซีพียู Intel Core i9-11980HK ทำได้ดีกว่าทั้งหมด โดยมีประสิทธิภาพการสูงกว่า 11-26% แล้วแต่เกม รวมถึงในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ ก็มีมาขิงด้วยคือ
.
- AE ซีพียู i9-11980HK ทำ Video Creation Workflow ได้ดีกว่า 18%
- Photo Processing ซีพียู i9-11980HK ทำได้ดีกว่า 24%
- MS Office Productivity Workflow ซีพียู i9-11980HK ทำได้ดีกว่า 19%
.
🧧 ยังไม่พอ Intel ยังเอา i5-11400H (6C/12T, TDP 45W) มาขิงเกทับ Ryzen 9 5900HS (8C/16T, TDP 35W) ด้วย ว่าสามารถเล่นเกมได้ดีกว่าสูงสุดถึง 12% โดยแต่ละเครื่องใช้สเปคดังนี้ (แปะรูปในคอมเมนต์)
.
- เครื่อง i5-11400H ใช้โน้ตบุ๊ค OEM การ์ดจอ RTX 3060 Max-Q ~65W
- เครื่อง Ryzen 9 5900HS ใช้โน้ตบุ๊ค ASUS Zephyrus G14 การ์ดจอ RTX 3060 ~80W
.
เรียกได้ว่าซีพียู Intel Gen 11 รหัส H TDP 45W ตัวใหม่นี้ จากที่ Intel บอกถือว่าแรงขึ้นกว่าเดิมเยอะอยู่เหมือนกัน ซึ่งถ้าหากเทียบกันระหว่าง Gen 10 กับ 11 ในรุ่นเดียวกันแล้ว ทาง Intel เคลมว่าประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 19% เลยทีเดียว ส่วนผลทดสอบรีวิวจริงจะเป็นยังไงบ้างต้องรอติดตามกันต่อไปครับ
.
ที่มา : https://www.notebookcheck.net/Intel-Tiger-Lake-H-now-official-first-benchmarks-indicate-Intel-finally-closing-the-multithread-performance-gap-with-AMD-Ryzen-5000.537971.0.html
.
ป.ล. อยากได้มารีวิวสักเครื่องแล้วเนี่ย... ตอนนี้ในไทยที่เปิดตัวมามีแค่ MSI กับ ASUS เท่านั้นที่มีโน้ตบุ๊ต Intel Gen 11 รหัส H TDP 45W ส่วนแบรนด์อื่นๆ เงียบกริ๊บจ้า...
-------------------------------------------------
ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
YouTube : https://www.youtube.com/c/comcraftds
กรุ๊ป FB : https://web.facebook.com/groups/25947512441121807
การ์ดจอ คือ 在 OverclockZoneTV Youtube 的最讚貼文
ในงบประมาณ สามหมื่นต้นๆ และต้องการ Notebook เอาไว้เล่นเกม และแคร์ภาพลักษณ์ด้วย ROG STRIX G15 รุ่นใหม่นี้ เป็นทางเลือกอันดับแรกแน่นอน กับค่าตัว 32,990 บาท แต่ให้ฟีเจอร์มาไม่ต่างกับ ROG รุ่นบน ทั้งเรื่องดีไซน์ งานประกอบ และ ระบบภายใน แต่ก็แลกมาด้วยสเปกที่อาจจะไม่ได้อลังการซักเท่าไหร่ การ์ดจอ RTX3050Ti ที่เหมาะกับการเล่นเกมออนไลน์ ส่วนเกม Offline กินสเปกจัดๆ ถ้าไม่ซีเรียสว่าต้องปรับสุด เปิด Ray Tracing มันก็ตอบโจทย์ให้คุณได้แน่นอน .. ทีนี้ก็เหลืออยู่เรื่องเดียว คือ สินค้ามีไม่มาก หาซื้อยากซักหน่อย
การ์ดจอ คือ 在 OverclockZoneTV Youtube 的精選貼文
Intel NUC คือ Mini PC คอมจิ๋วที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เพราะเจาะกลุ่มตลาดได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน หรือ เล่นเกม .. และวันนี้เราอยู่กับ NUC รุ่นที่อลังการที่สุดอย่าง Intel NUC Extreme 9 หรือชื่อรหัสว่า Ghost Canyon ภายในออกแบบมาให้อัพเกรดได้ตามใจเจ้าของ CPU เดิมเป็น Core i9-9980HK ส่วนการ์ดจอก็สามารถใส่ได้เหมือนกับ Desktop เพราะเป็นช่อง PCI-e มาตรฐาน .. คอนเซปต์และดีไซน์จะเป็นยังไง ตามมาดูกันเลยจ้า
* การ์ดจอ, Memory, และ SSD ผู้ใช้งานต้องซื้อมาติดตั้งเองทั้งหมด
การ์ดจอ คือ 在 PTRn_ official Youtube 的最讚貼文
อย่าลืมกดติดตามหรือ Follow ที่ช่องTwitch ด้วยน้ะครับๆ
https://www.twitch.tv/tktwobrothers
----------สนับสนุนผมได้ทาง----------
True Wallet:099-0630-746
kasikornbank:112-2-31816-6
------ช่องทางการติดตามผลงาน------
Twitch https://www.twitch.tv/tktwobrothers
Youtube https://www.youtube.com/channel/UCpOM44VqrcOoaErkPMe9WBA/featured?disable_polymer=true
Facebook https://www.facebook.com/profile.php?id=100008053960084
---------------สเปคคอม---------------
GPU: GeForce GTX 1060 6GB
CPU: Intel(R) Core(TM) i5-7400 CPU @ 3.00GHz
Memory: 16 GB RAM (15.93 GB RAM usable)
Current resolution: 1920 x 1080, 60Hz
Operating system: Microsoft Windows 10 Pro
การ์ดจอ คือ 在 การ์ดจอคืออะไร!!! | NEXTSTEPGO - YouTube 的美食出口停車場
ร้าน Nextstep Reborn จำหน่ายอุปกรณ์ IT รับประกอบคอมพิวเตอร์ตามงบประมาณและความเหมาะตามที่คุณต้องการพร้อมให้คำแนะนำสนใจติดต่อ ☎ Tel ... ... <看更多>
การ์ดจอ คือ 在 iHAVECPU - ไขข้อสงสัย ตัวเลขและรหัสบนการ์ดจอ AMD (ฉบับ ... 的美食出口停車場
AMD Radeon RX คือการ์ดจอที่ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ทั่วสำหรับการเล่นเกม โดยจะมาพร้อมตัวอักษท้ายรุ่นอย่าง XT เเละ OC โดย XT จะใช้เพื่อจำเเนกความเเรงของการ์ดจอ ยก ... ... <看更多>
การ์ดจอ คือ 在 การ์ดจอ (Graphic Card) คืออะไร? ต่างกันยังไง? เลือกอย่างไร? 的美食出口停車場
เทปที่ 4 ของ Back to Basic the Series สำหรับในช่วงของ Get Smart by TT Premium จะเป็นการมาพูดคุย ทำความเข้าใจกันกับเรื่องของ Graphic Card ... ... <看更多>