#ทีมเดียวกัน_ไม่ต้องทำสิ่งที่เหมือนกัน
#challenging_parenting_behavior
#บทความนี้เพื่อ #ทีมพ่อ
พ่อกับแม่
ก็คล้ายๆ กับนักกีฬาประเภททีม
มีเป้าหมายเดียวกัน
คือต้องการให้ทีมชนะเมื่อลงแข่ง
แต่ในการแข่งขัน ไม่ต้องทำหน้าที่เดียวกัน
.
มันคงวุ่นวาย ถ้านักกีฬาวอลเลย์บอล
ทุกคนมาแย่งกันตบลูก
นักกีฬาฟุตบอล ไล่ตามลูกทุกคน
เพราะอยากเป็นคนแตะบอลเข้าประตู
.
การเลี้ยงลูกก็เช่นกัน
ปัญหาทะเลาะกันเรื่องเลี้ยงลูกที่ classic
ที่พบบ่อยยุคนี้คือ....
แม่ผู้อ่านมาเยอะ ทั้งหนังสือ ทั้งเพจแนะนำเลี้ยงลูก
พ่อต้องทำตามที่ #แม่รู้สึกว่าถูกต้อง
- พ่อชวนลูกเล่นเกมส์....ผิด
- พ่อทำตัวไม่เรียบร้อย...เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี...ผิด
-พ่อเล่นกับลูกแรงๆ...หวาดเสียว ลูกอันตราย...ผิด
-วันหยุดต้องสละเวลาพาลูกไปเที่ยวนอกบ้าน หาประสบการณ์ชีวิต
- จะต้องเลี้ยงลูกภายใต้การควบคุม QC ของภรรยา
.
ไม่มีใคร happy ที่ต้องทำอะไรภายใต้การควบคุม
(แบบไม่ไว้ใจและจับผิด)ของคนอื่นหรอกนะคะ😅
.
ถามหน่อยว่า...
การต้อง เป็น พ่อ เป็น แม่
เราต้องถึงขั้นเปลี่ยนเป็นอีกคนเลยหรือไม่?
.
เราเป็นตัวเราที่พัฒนาให้ดีขึ้นได้
แต่ต้องไม่ใช่...
การเป็นพ่อแม่ ต้องทำให้เราเปลี่ยนเป็นคนอื่น
วันที่ลูกเกิด..คือวันที่เราต้องละทิ้งความเป็นตัวเอง อย่างนั้นหรือ?
เด็กเรียนรู้ได้ดี....
จากผู้เลี้ยงที่จริงใจและเป็นตัวของตัวเอง
เด็กรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เราทำ เป็นเรื่องจริง หรือ fake
เช่น ตำราบอกให้ชื่นชมลูก ปากพูดชื่นชม แต่แววตาไม่ได้แสดงความรู้สึก
แบบนี้ลูกจะสับสนและไม่ไว้ใจคำพูดของเรา
ดังนั้น ถ้าเราพยายามจะทำทุกอย่าง
ตามสิ่งที่เราคิดว่ามันถูกต้อง
แต่ลูกรับรู้ได้ว่าเราไม่คิดเช่นนั้นจริง
ก็จะเป็นอันตรายต่อพัฒนาการของลูกเช่นกัน
และจะเกิดเหตุการณ์นี้มากขึ้น
#หากคนที่เราบังคับให้ทำอะไร
#เค้าไม่ได้มีความรู้สึกร่วมกับสิ่งที่เราอยากให้เค้าทำ
(บางครั้งการ tag มาอ่านบทความ ก็เหมือนการตำหนิกลายๆนะคะ)
เราทำได้เพียง เปลี่ยนแปลงตัวเราเองให้ดีมากขึ้น
จนคนรอบข้างยอมรับ
เค้าจึงอยากทำตาม
.
ความเป็นแม่ บางทีเราก็เข้าใจเอาเองว่า เราเลี้ยงลูกเก่งที่สุด
แต่เชื่อเถอะว่า...คุณพ่อ เค้าก็มีบางอย่างที่แม่ไม่มีมาเติมเต็มให้กับลูกได้
.
หมอคิดว่าแนวทางการเลี้ยงดูลูกแต่ละครอบครัว
คงต้องคุยกันในเรื่องสำคัญๆ ตั้งกติกา ร่วมกันก่อน เป็นกรอบกว้างๆ
ที่แต่ละคนจะต้องมีพื้นที่ส่วนตัว
และต้องคุยกันบ่อยๆในระหว่างทาง
เพื่อจูนว่ามีเป้าหมายระยะสั้น
ในช่วงเวลานั้นๆ คืออะไร
แต่วิธีปฏิบัติ...ก็ต้องแล้วแต่ละคน
#ให้เกียรติกันและเชื่อใจกันนะคะ
.
คุณพ่ออาจจะทำอะไรที่ผิดจากที่คุณแม่ทำ
หรือ ผิดจากความรู้ที่คุณแม่รู้มาบ้าง
หมอไม่ได้บอกว่าการให้ลูกดูจอ หรือ การเล่นหวาดเสียวกับลูกเป็นเรื่องดี
แต่อยากจะสื่อว่า....ถ้าลูกอยู่กับคุณแม่มากกว่า
คุณแม่ทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้องและดี....
ดังนั้นส่วนใหญ่ของพฤติกรรมของลูก
ย่อมมาจากตัวคุณแม่เอง...
มากกว่าที่จะโทษว่า คนอื่นทำให้ลูกเสียนิสัย
เช่น ตอนอยู่กับพ่อ อาจจะได้ดูจอ
แต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ และเมื่อแม่บอก
เค้าสามารถหักห้ามใจตัวเองให้หยุดได้
นี่ต่างหากคือสิ่งที่ดี
(ห้ามเด็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบดูจอ
ถ้าลูกเกินสองขวบแล้ว ไม่ดูดีสุด แต่ถ้าจะมีบ้าง
ก็ไม่ต้องเป็นหัวข้อในความขัดแย้งนะคะ )
.
เคยมีการศึกษาเรื่อง "challenging parenting behavior"
หรือ "พฤติกรรมการเลี้ยงดูแบบท้าทาย"
พบว่าพ่อสามารถทำหน้าที่นี้ได้ดีกว่าแม่
เพราะพ่อมักเปิดโอกาสให้เด็ก
ได้พบกับสิ่งใหม่ๆที่ท้าทาย
อุ้มลูกโยนสูงๆ, ปีนให้สูงอีก, ทำเลยลูก ไม่เห็นเป็นไรเลย ฯลฯ
.
สิ่งที่คุณพ่อทำ....คุณแม่อาจจะนึกไม่ถึงว่าเกิดประโยชน์ในระยะยาว
แต่ในสังคมปัจจุบัน ที่ลูกจะต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
หากเค้าคุ้นเคยกับความท้าทายในวัยเด็ก
เค้าก็จะกังวลกับความท้าทายทางสังคมที่จะเกิดขึ้นน้อยลง
และเค้ากล้าที่จะเผชิญหน้ากับมัน
.
ในการศึกษาส่วนใหญ่พบว่า เมื่อเด็กพบกับความท้าทายใหม่
คำพูดของพ่อ จะทำให้เค้าคลายความกังวล
สิ่งที่น่าสนใจคือ หากเป็นแม่พูด
นอกจากจะไม่ช่วยลดความกังวลแล้ว
ยังทำให้เด็กกังวลมากขึ้น😅😅😅
ดังนั้น....พยายามอย่าแทรกแซงตอนลูกเล่นกับพ่อเลยค่ะ
คำแนะนำคือ ให้คิดแบบนี้ค่ะ
1.ลูกของแม่ ก็เป็นลูกของพ่อด้วยเหมือนกัน
เค้าก็รักและหวังดีกับลูกไม่น้อยกว่าแม่
2.หลีกทางให้ลูกได้อยู่กับพ่อ
แบบไม่ต้องมีแม่มาคอยตรวจตราบ้าง ต้องให้เกียรติ เป็นสิทธิ์ขาด
พ่อจะทำอะไร....หากเราทนดูไม่ได้....ออกไปเที่ยว หรือหางานอดิเรกส่วนตัวทำซะ จะได้ไม่ต้องเห็น
3.ท่องไว้ว่า...เราเปลี่ยนแปลงคนอื่นไม่ได้
ถ้าเค้าไม่อยากเปลี่ยนด้วยตัวเอง
การเปลี่ยนคนอื่นในทางที่ดี
ที่ได้ผลมากที่สุด คือ #เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นก่อน
แค่การพัฒนาตัวเองของความเป็นแม่
ก็หนักมากอยู่แล้ว
ไม่ต้องไปกังวล หรือเอาการเปลี่ยนแปลงของพ่อ (รวมไปถึง ปู่ ย่า ตา ยาย) มาเป็นภาระ....พูดให้ตรงกว่านั้นคือ #เอาตัวเองให้รอดก่อน
4.การให้เกียรติอย่างแท้จริง...คือการยอมรับตัวตนของคนคนนั้น
.
อยู่ทีมเดียวกัน...ไม่ต้องเล่นตำแหน่งเดียวกันก็ได้ค่ะ
ครอบครัว คือ คนต่างกัน มาอยู่ร่วมกัน
แบบให้เกียรติกันและกัน...นะคะ
.
หมอแพม
การเลี้ยงลูกก็เช่นกัน 在 หมอแพมชวนอ่าน Facebook 的最佳貼文
#พ่อแม่เกรดA???
พ่อแม่มักถามและเป็นกังวล เรื่องที่ตัวเองทำผิดพลาด
หรือ กังวลในสิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้
“วันนั้นเผลอตวาดลูกไป 1 ครั้ง จะเป็นอย่างไรบ้างคะ”
“กลับมาจากที่ทำงาน 2 ทุ่ม อ่านหนังสือให้ลูกได้แค่ไม่เกินวันละ 20 นาทีเองค่ะ จะพอมั้ยคะ”
“เผลอตีลูกไป 1 ครั้ง จะมีผลต่อจิตใจมากมั้ยคะ”
ฯลฯ
และความคิดนี้ ก็จะวนเวียน คิดซ้ำไปมา
จนทำให้เกิดความทุกข์
อยากให้ใครสักคน มาตอบคำถามในใจ
.
เวลาใครถาม หมอเลยถามกลับว่า
“ตอนคุณพ่อคุณแม่เป็นนักเรียน ดีใจมั้ยคะเวลาได้เกรด A”
ทุกคนก็ต้องตอบดีใจ
“งั้น เห็นคะแนนแล้วเครียดมากมั้ยที่ได้เกรด A ด้วยคะแนน 80 ไม่ใช่ 100 เต็ม”
ส่วนใหญ่ตอบว่าไม่
ประเด็นคือตรงนี้
พ่อแม่ที่ดี คือ พ่อแม่ที่ทำถูกต้องเป็นส่วนใหญ่
แต่ไม่จำเป็นต้อง ถูกต้องทั้งหมด
.
ลูก ก็จำเหตุการณ์ที่มีความถี่มากกว่าอยู่แล้ว
เหตุการณ์ซ้ำกัน 100 ครั้ง
แม่ตอบสนองเหมือนเดิม 80 ครั้ง
จะเป็นไรไป ถ้าอีก 20 ครั้ง
เป็นไปตามสถานการณ์ ตามอารมณ์ของแม่บ้าง
#ให้อภัยตัวเองบ้างเถอะค่ะ
เพราะเราแก้ไขสิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่ได้
เราทำได้แค่ ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ในอนาคต
ส่วน moment ปัจจุบัน เมื่อเรารู้ตัวว่าเราทำผิดพลาด
ยอมรับซะ...แล้วจะได้ไปต่อ
.
ส่วนประเด็นเรื่อง ทำร้ายจิตใจลูกมากมั้ย ลูกจะเป็นอะไรมั้ย
คงจะโกหกถ้าบอกว่าไม่เป็นอะไรเลย
แต่ก็เหมือนกับเราตอนเด็กๆ
พ่อแม่เรา ก็มีผิดพลาดบ้าง
บางครั้งเราอาจจะโกรธท่าน
บางครั้งเรารู้สึกว่า ไม่ได้รับความยุติธรรม
แต่ท้ายที่สุด
เราจะรู้จักพ่อแม่เราดีที่สุด
และหากเด็ก #รับรู้ถึงความรักที่ได้รับ
เค้าก็ให้อภัยแก่เราได้เช่นกัน
คนรักกัน ก็ต้อง ให้ และ ได้รับ
เด็กตัวเล็กๆ เค้าก็รู้จักให้อภัยได้เช่นกัน
.
ผิดไปซักครั้ง 2 ครั้ง ไม่ได้หมายถึงเราเป็นพ่อแม่ที่ไม่ได้เรื่อง
ส่วนเรื่องที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ก็ไม่ต้องเก็บมาเครียด
เช่น ถ้าเราคิดว่าเราเปลี่ยนงานไม่ได้ อยู่กับลูกช่วงก่อนนอนได้แค่ 1-2 ชม.
ก็จงทำ 1-2 ชม.นั้น ให้เป็นเวลาที่มีคุณค่า
เด็กไม่ได้ต้องการเวลาทั้งหมดจากเรา
แต่เราต้องให้เค้ามากที่สุดเท่าที่สุดเท่าที่เราจะให้ได้
.
หมอคิดว่า คำพูดนี้ สามารถใช้ได้ในทุกๆสถานการณ์นะคะ
“คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาด คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย”
การเลี้ยงลูกก็เช่นกัน
เราไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด เราไม่ได้ดีไปซะทุกเรื่อง
เราผิดพลาดกันได้
.
เป็นพ่อแม่ไม่ใช่ ทำผิดไม่ได้เลย
แต่เอาเป็นว่า ส่วนใหญ่เราทำได้ทุกต้อง
และตั้งมั่นว่า จะไม่เกิดความผิดพลาดแบบเดิมๆอีก
แค่นี้เราก็ได้เกรด A จากลูกแล้วค่ะ
.
หมอแพม
การเลี้ยงลูกก็เช่นกัน 在 หมอแพมชวนอ่าน Facebook 的最讚貼文
#พ่อแม่เกรดA???
พ่อแม่มักถามและเป็นกังวล เรื่องที่ตัวเองทำผิดพลาด
หรือ กังวลในสิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้
“วันนั้นเผลอตวาดลูกไป 1 ครั้ง จะเป็นอย่างไรบ้างคะ”
“กลับมาจากที่ทำงาน 2 ทุ่ม อ่านหนังสือให้ลูกได้แค่ไม่เกินวันละ 20 นาทีเองค่ะ จะพอมั้ยคะ”
“เผลอตีลูกไป 1 ครั้ง จะมีผลต่อจิตใจมากมั้ยคะ”
ฯลฯ
และความคิดนี้ ก็จะวนเวียน คิดซ้ำไปมา
จนทำให้เกิดความทุกข์
อยากให้ใครสักคน มาตอบคำถามในใจ
.
เวลาใครถาม หมอเลยถามกลับว่า
“ตอนคุณพ่อคุณแม่เป็นนักเรียน ดีใจมั้ยคะเวลาได้เกรด A”
ทุกคนก็ต้องตอบดีใจ
“งั้น เห็นคะแนนแล้วเครียดมากมั้ยที่ได้เกรด A ด้วยคะแนน 80 ไม่ใช่ 100 เต็ม”
ส่วนใหญ่ตอบว่าไม่
ประเด็นคือตรงนี้
พ่อแม่ที่ดี คือ พ่อแม่ที่ทำถูกต้องเป็นส่วนใหญ่
แต่ไม่จำเป็นต้อง ถูกต้องทั้งหมด
.
ลูก ก็จำเหตุการณ์ที่มีความถี่มากกว่าอยู่แล้ว
เหตุการณ์ซ้ำกัน 100 ครั้ง
แม่ตอบสนองเหมือนเดิม 80 ครั้ง
จะเป็นไรไป ถ้าอีก 20 ครั้ง
เป็นไปตามสถานการณ์ ตามอารมณ์ของแม่บ้าง
#ให้อภัยตัวเองบ้างเถอะค่ะ
เพราะเราแก้ไขสิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่ได้
เราทำได้แค่ ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ในอนาคต
ส่วน moment ปัจจุบัน เมื่อเรารู้ตัวว่าเราทำผิดพลาด
ยอมรับซะ...แล้วจะได้ไปต่อ
.
ส่วนประเด็นเรื่อง ทำร้ายจิตใจลูกมากมั้ย ลูกจะเป็นอะไรมั้ย
คงจะโกหกถ้าบอกว่าไม่เป็นอะไรเลย
แต่ก็เหมือนกับเราตอนเด็กๆ
พ่อแม่เรา ก็มีผิดพลาดบ้าง
บางครั้งเราอาจจะโกรธท่าน
บางครั้งเรารู้สึกว่า ไม่ได้รับความยุติธรรม
แต่ท้ายที่สุด
เราจะรู้จักพ่อแม่เราดีที่สุด
และหากเด็ก #รับรู้ถึงความรักที่ได้รับ
เค้าก็ให้อภัยแก่เราได้เช่นกัน
คนรักกัน ก็ต้อง ให้ และ ได้รับ
เด็กตัวเล็กๆ เค้าก็รู้จักให้อภัยได้เช่นกัน
.
ผิดไปซักครั้ง 2 ครั้ง ไม่ได้หมายถึงเราเป็นพ่อแม่ที่ไม่ได้เรื่อง
ส่วนเรื่องที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ก็ไม่ต้องเก็บมาเครียด
เช่น ถ้าเราคิดว่าเราเปลี่ยนงานไม่ได้ อยู่กับลูกช่วงก่อนนอนได้แค่ 1-2 ชม.
ก็จงทำ 1-2 ชม.นั้น ให้เป็นเวลาที่มีคุณค่า
เด็กไม่ได้ต้องการเวลาทั้งหมดจากเรา
แต่เราต้องให้เค้ามากที่สุดเท่าที่สุดเท่าที่เราจะให้ได้
.
หมอคิดว่า คำพูดนี้ สามารถใช้ได้ในทุกๆสถานการณ์นะคะ
“คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาด คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย”
การเลี้ยงลูกก็เช่นกัน
เราไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด เราไม่ได้ดีไปซะทุกเรื่อง
เราผิดพลาดกันได้
.
เป็นพ่อแม่ไม่ใช่ ทำผิดไม่ได้เลย
แต่เอาเป็นว่า ส่วนใหญ่เราทำได้ทุกต้อง
และตั้งมั่นว่า จะไม่เกิดความผิดพลาดแบบเดิมๆอีก
แค่นี้เราก็ได้เกรด A จากลูกแล้วค่ะ
.
หมอแพม
การเลี้ยงลูกก็เช่นกัน 在 #เพราะเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน... - เลี้ยงลูกตามใจหมอ | Facebook 的美食出口停車場
เพราะเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน #การเลี้ยงลูกในแต่ละบ้านจึงแตกต่างกัน อย่าเอามาตรฐานเราหรือของใครในการเลี้ยงลูกไปเปรียบเทียบกัน... ... <看更多>