Search
ร้านขนมหวานในตำนาน After You ออกเมนูใหม่เก่งมาก
รอบนี้เป็น Honey Toast แช่แข็ง สามารถทำกินได้ง่ายๆที่บ้านเลย
มาดูกันว่าจะอร่อยหรือตรงปกไหม
Follow Nut in other channels at
IG: https://bit.ly/31VRV51
FB: http://bit.ly/2QN9f8f
#Afteryou #shibuyahoneytoast #ฮันนี่โทสต์แช่แข็ง #honeytoast #nutapiwich #ฮันนี่โทสต์ #อาฟเตอร์ยู #ขนมหวาน #รีวิวขนม
ข่าวประชาสัมพันธ์..
ดอลฟิน วอลเล็ท เปิดบริการสแกนจ่ายด้วย QR บัตรเครดิต ผ่านร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
ดอลฟิน วอลเล็ท กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยกลุ่มบริษัทเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค เปิดบริการสแกนจ่ายด้วย QR บัตรเครดิต พร้อมเพิ่มจุดรับชำระเงินที่ร้านอาหาร ร้านค้าปลีก และร้านค้าที่รับชำระด้วย QR บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด และวีซ่าทั่วประเทศ
การเปิดให้บริการครั้งนี้ทำให้ ดอลฟิน วอลเล็ทเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์รายแรก
ในอาเซียน ที่นำเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงจากสองผู้นำ
ในการให้บริการโซลูชั่นเพื่อการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก
อย่าง มาสเตอร์การ์ดและวีซ่า มาอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า
ในการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตด้วยการสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด
ที่ง่าย สะดวก ปลอดภัย ลดเสี่ยง เลี่ยงสัมผัส ผู้ถือบัตรเครดิตไม่จำเป็นต้องแสดงบัตรเครดิต ณ จุดรับชำระเงินอีกต่อไป เพียงแค่เปิดใช้งาน QR บัตรเครดิต
โดยการผูกบัตรเครดิตกับดอลฟิน วอลเล็ท
และเมื่อจ่ายเงินก็แค่สแกนจ่ายผ่าน QR บัตรเครดิตเท่านี้ก็เสร็จ
ที่สำคัญลูกค้าที่ชำระด้วยการสแกน QR บัตรเครดิตผ่านดอลฟิน วอลเล็ท
ยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เหมือนกับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต
รวมถึงการรับโบนัสเงินคืน คะแนนสะสมพิเศษจาก The 1 และโปรโมชั่นเสริมต่าง ๆ
ของบัตรเครดิตที่จัดโดยธนาคารผู้ออกบัตร ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการอีกด้วย
คุณอุษณีย์ เลาหะวรนันท์ ผู้อำนวยการแผนกการตลาด กลุ่มบริษัทเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค
กล่าวว่า “ทางดอลฟินรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นบริษัทฟินเทครายแรก
ที่ได้นำเทคโนโลยีชำระเงินรูปแบบใหม่นี้มาใช้กับบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเมืองไทย
ดอลฟินยังมุ่งมั่นพัฒนาเสนอทางเลือกและประสบการณ์ด้านการชำระเงินที่ดียิ่งขึ้น
ให้กับลูกค้าและบริการสแกนจ่ายด้วย QR บัตรเครดิตนี้ จะช่วยให้ลูกค้าใช้จ่ายปลอดภัย
และสะดวกยิ่งขึ้นกับจุดบริการรับชำระที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
โดยก่อนหน้าการออกบริการสแกนจ่ายด้วย QR บัตรเครดิต
ทางดอลฟิน วอลเล็ทผ่านการทดสอบแซนบ็อกซ์กับธนาคารแห่งประเทศไทย
ด้านเทคโนโลยี e-KYC (การยืนยันตัวตนลูกค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์)
เพื่อความปลอดภัยของขั้นตอนการพิสูจน์ตัวตน และข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ของผู้ใช้บริการ
โดยการชำระเงินด้วย QR บัตรเครดิต
มีการดำเนินการตามขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย
เช่นเดียวกับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตตามปกติ
อย่าง ระบบ Mastercard SecureCode และ Visa Secure
ที่ใช้เทคโนโลยีมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่าง EMV® 3-D Secure protocol
ในการเสริมความแข่งแกร่งเพื่อป้องกันการฉ้อโกง
ดังนั้นสถาบันการเงินและร้านค้าจึงมั่นใจเรื่องความถูกต้องและความปลอดภัยของธุรกรรมที่เกิดขึ้น
ซึ่งระบบความปลอดภัยที่ว่านี้จะช่วยลดการเสียโอกาส
ในการขายสินค้าหรือบริการของร้านค้า อันเนื่องมากจากรายการชำระเงินนั้นถูกปฏิเสธ
และยังช่วยสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคอีกด้วย
คุณไอลีน ชูว ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด
กล่าวว่า ผลสำรวจกลุ่มผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก
พบว่า กลุ่มมิลเลนเนียลชาวไทยเป็นกลุ่มที่มีการยอมรับการชำระเงินดิจิทัลแบบใหม่มากที่สุด
อ้างอิงผลสำรวจการจับจ่ายวิถีใหม่ของมาสเตอร์การ์ด เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่า
82% ของผู้บริโภคชาวไทยวางแผนที่จะใช้คิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงินในปีหน้า
89% ยังคาดหวังว่าจะสามารถช้อปปิ้งสิ่งที่เขาต้องการได้ทุกเมื่อ
อีกทั้งผู้บริโภคยังมองหาทางเลือกการใช้จ่ายที่ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน
ซึ่งนั่นแปลว่า ประสบการณ์ผู้บริโภคคือกุญแจหลัก
ในการสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน
มาสเตอร์การ์ด จึงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ ดอลฟิน วอลเล็ท
ที่มีความเชื่อเช่นเดียวกับเราในการผลักดันให้เกิดการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ดีที่สุด
เพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ปลอดภัยให้กับผู้บริโภค
สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า
เมื่อธุรกิจการค้าก้าวสู่รูปแบบดิจิทัลเพิ่มขึ้น
ภาคอุตสาหกรรมหลายแขนงได้ก้าวสู่การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่
ที่ผู้บริโภคมองหาวิธีการชำระเงินที่สะดวกที่สุดสำหรับพวกเขา
จากผลสำรวจฉบับล่าสุดของเราเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภค
ชี้ให้เห็นว่า 82% ทดลองใช้ชีวิตแบบไร้เงินสด
และเมื่อพูดถึงการรับรู้เรื่องวิธีการชำระเงินดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ
ผู้บริโภคชาวไทยคุ้นเคยกับการสแกนเพื่อจ่ายผ่านคิวอาร์ถึง 94%
ตามด้วยการชำระผ่านสมาร์ทโฟน 92%
และแตะเพื่อจ่ายอีก 89%
เราเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับ ดอลฟิน วอลเล็ทจะเป็นการมอบอีกหนึ่งช่องทางการชำระเงินที่ดีที่สุด
ให้แก่ผู้บริโภค ผ่านโซลูชั่นการชำระเงินแบบดิจิทัลให้แก่ร้านค้า
เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่การเป็นสังคมไร้เงินสด
สำหรับบริการสแกนเพื่อจ่ายผ่าน QR บัตรเครดิตของดอลฟิน วอลเล็ท
สามารถใช้ได้ ณ ร้านค้ามากมายที่รับชำระด้วย QR บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด และวีซ่า
อาทิ สตาร์บัค, อาฟเตอร์ยู, ไดโซ, ซานตาเฟ่, เดอะมอลล์ กูร์เมต์ มาร์เก็ต, โลตัส, โฮมโปร, วิลล่า และเอสโซ่
โดยผู้ใช้ดอลฟิน วอลเล็ทชำระเงินผ่านการสแกน QR บัตรเครดิต
จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น รับโบนัสเงินคืน 1.5%
เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมตั้งแต่ 2,000 แต่ไม่ถึง 5,000 บาทต่อเดือน
หรือรับโบนัสเงินคืน 3% สูงสุด 300 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายสะสมตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน รับคะแนนสะสมพิเศษ The 1 ทุก ๆ การใช้จ่าย 100 บาท
รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มเติมจากบัตรเครดิต ณ ร้านค้า
ที่รับ QR บัตรเครดิต ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 – 30 ก.ย. 2564
บริการสแกนจ่ายด้วย QR บัตรเครดิตผ่านดอลฟิน วอลเล็ทนี้สามารถใช้ได้กับผู้ที่ถือบัตรเครดิตวีซ่าธนาคารกสิกรไทย หรือบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดหรือวีซ่าธนาคารไทยพาณิชย์ และจะเปิดให้บริการสำหรับบัตรเครดิตธนาคารอื่นเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้
สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดอลฟินได้แล้ววันนี้ บน Google Play และ App Store หรือเข้าไปที่ https://dolfin.onelink.me/T2xS/DolfinxLTM
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://dolfinthailand.com/
#Dolfin #DolfinWallet #คิดให้ใช้ฟิน #ContactlessPayment #HygienePayment #QRpayment
เราอยู่ในยุคที่คนหันมาทำธุรกิจบนออนไลน์กันเต็มไปหมด เพราะการจะนำสินค้าสักอย่างมาขายบนออนไลน์นั้นง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก แค่กดเปิดเพจบน Facebook หรือ Instagram ก็ถือว่าได้ขายออนไลน์แล้ว
.
แต่คำว่า “ได้ขาย” ไม่ได้หมายความว่าจะ “ขายได้” ที่สำคัญคนที่ขายได้ และ ขายดี จริงๆ ก็มีอยู่แค่หยิบมือเท่านั้น
.
คำถาม คือ ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเป็นเพียงคนที่ “ได้ขาย” ล่ะ มันเป็นเพราะตอนนี้ตลาดออนไลน์นั้นเต็มแล้ว แถมคู่แข่งก็เยอะ คนที่ขายได้ก็มีแต่คนที่เริ่มก่อนอย่างที่หลายคนบ่นกันหรือเปล่า
.
ถ้าคุณลองหันไปดูคนที่ทำธุรกิจออนไลน์ได้ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น คุณพิมรี่พาย ขายทุกอย่าง, บังฮาซันอาหารทะเลตากแห้ง จ.สตูล หรือ ที่รักของกะฟาร์ สินค้าแฟชั่น แห่ง Makee Shop จะพบว่าพวกเขาทุกคนไม่ใช่คนที่เริ่มขายออนไลน์เป็นคนแรกๆ เสียหน่อย
.
แต่สาเหตุที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ก็เพราะกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์อยู่
.
และนี่คือ 3 เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดครับ
.
1. คิดว่าการทำออนไลน์ คือ การเปิดเพจแล้วโพสต์ขาย
.
สิ่งที่คนกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ในตลาดออนไลน์ทำ คือ การเปิดเพจแล้วถ่ายรูปสินค้า จากนั้นก็โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เช่น เสื้อแขนยาว ไซส์ M ราคา 199 บาท หรือ รองเท้าหุ้มส้น สีแดง ไซส์ 32 ราคา 250 บาท ซึ่งคนที่ทำแบบนี้ร้อยทั้งร้อยจะเป็นได้แค่คนที่ “ได้ขาย” แต่ไม่อาจเป็นคนที่ “ขายได้”
.
คุณลองนึกภาพตอนตัวเองไปเดินซื้อของในตลาดนัด แล้วจู่ๆ ก็มีแม่ค้าคนหนึ่งเรียกคุณแล้วพูดว่า “เสื้อแขนยาว ไซส์ M ราคา 199 บาท ค่ะ” ถ้าเป็นคุณ คุณจะอยากซื้อไหมครับ ?
.
เพราะคุณไม่ชอบให้ใครมาขาย แต่คุณชอบที่จะสืบหาข้อมูล ถ้าอยากรู้จะถามเอง ถ้าอยากได้ เดี๋ยวซื้อเอง ไม่ต้องมาเร่ง จริงไหม ?
.
คำถาม คือ วันนี้คุณมีคอนเทนต์ดีๆ ให้ลูกค้าสืบหรือยังครับ หรือเปิดไปตรงไหนก็มีแต่โพสต์ขายที่เหมือนพนักงานเดินตามต้อยๆ
.
2. คิดว่าการยิงโฆษณา คือ สูตรสำเร็จของธุรกิจออนไลน์
.
นี่คือ สิ่งที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดอย่างมหันต์ เพราะคิดว่าสูตรสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ คือ การยิงโฆษณา เก่งๆ แม่นๆ ก็เลยพากันไปเรียนยิงโฆษณากันมากมายจนเสียเงินเสียทองกับ ค่าคอร์ส และ ค่าโฆษณา กันไม่รู้เท่าไหร่ แต่ก็ต้องพบกับความจริงที่โหดร้ายว่ามัน “ไม่ได้ผล”
.
ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่าการยิงโฆษณาไม่ดี แต่ผมกำลังจะบอกว่าคุณกำลังเข้าใจจุดประสงค์ของการยิงโฆษณาผิด เพราะความจริงแล้วการยิงโฆษณานั้นแค่ทำให้คน “เห็น” ไม่ได้ทำให้คน ”ซื้อ”
.
การซื้อโฆษณา ก็เหมือนกับการจ้างคนแจกใบปลิว ยิ่งซื้อโฆษณามากเท่าไหร่ ก็เหมือนกับการจ้างคนแจกใบปลิวในจำนวนที่มากเท่านั้น
.
แต่คำถาม คือ การมีคนแจกเยอะ ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงๆ เหรอ ?
.
คำตอบ คือ “ไม่”
.
เพราะตัวตัดสินว่าลูกค้าจะซื้อหรือไม่ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “คนแจก” แต่ขึ้นอยู่กับ “ใบปลิว” ต่างหาก
.
ถ้าใบปลิว หรือ คอนเทนต์ ของคุณดึงดูดมากพอ ลูกค้าก็จะตามข้อมูลจากใบปลิวมาที่หน้าร้านเพื่อซื้อของๆ คุณ หรือ ไม่ก็เอาไปส่งต่อให้เพื่อนๆ ด้วย
.
แต่ถ้าคอนเทนต์ที่คุณทำ ไม่สามารถทำให้ลูกค้าอยากซื้อได้ ต่อให้จ้างคนแจกสัก 1,000 คน หรือแจกใบปลิวสัก 10,000 ใบ ลูกค้าก็เอาไปทิ้งถังขยะอยู่ดี
.
3. คิดว่าทำออนไลน์ตอนนี้ แล้วจะโดนจำกัดการมองเห็น
.
นี่คือสิ่งที่ทั้งคนที่เพิ่งเข้ามาทำออนไลน์ หรือ ทำออนไลน์อยู่แล้วบ่นกันมากที่สุดในช่วง 1-2 ปี หลัง ว่าโดนพี่มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก รังแก ถูกจำกัดการมองเห็น โดนขึ้นค่าโฆษณา และ อื่นๆ อีกต่างๆ นาๆ จึงทำให้การทำออนไลน์นั้นยากกว่าแต่ก่อนมาก
.
สิ่งที่ผมอยากจะบอก คือ ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ทำไมผมไม่เคยโดนจำกัดการมองเห็น หรือ ขึ้นโฆษณา เลยตั้งแต่ทำออนไลน์มา 2 ปี ล่ะ ?
.
ทั้งที่ผมเองก็เพิ่งมาเริ่มทำออนไลน์ตอนที่หลายคนบ่นเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ทำไมผมไม่ได้รับผลกระทบเลย แสดงมันต้องมีบางอย่างผิดปกติสิ
.
ก่อนอื่นอยากให้คุณจินตนาการตามผมนะครับ ว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เขาสร้างเฟซบุ๊กขึ้นมา เปรียบเหมือนการสร้างห้างสยาม พารากอน
.
แน่นอนช่วงแรกถ้าอยากให้คนมาเดินห้าง ก็ต้องมีคนเอาของมาขาย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในฐานะเจ้าของห้างจึงเปิดให้ทุกคนเข้ามาจับจองพื้นที่ และ พร้อมสนับสนุนทุกร้านค้า
.
แต่พอห้างเริ่มได้รับความนิยม มีคนมาเดินห้างสยาม พารากอน จำนวนมากขึ้น เจ้าของห้างก็ต้องควบคุมคุณภาพของร้านที่ขายของในห้าง โดยเพิ่มระบบการคัดกรองเพื่อให้มีแต่ร้านที่มีคุณภาพ หน้าร้านสวย และ บริการดี
.
คุณลองนึกสภาพห้างสยาม พารากอน ที่มีแต่คนมาขายของเกลื่อนไปหมด เวลาคุณอยากจะเข้าไปเดินเที่ยว คุณก็เจอคนปูเสื่อขายของขวางประตู พอคุณเดินเข้าห้างไปได้สักพัก ก็เจออีกคนตะโกนขายของให้คุณจนแสบหู พอคุณเดินต่อไปก็เจอคนมายัดใบปลิวใส่มืออีก จนคุณพยายามเดินหนี แต่ก็ไม่พ้นเพราะดันมาเจอนักขายอีกคนที่รอดักหน้าแล้วจับมือคุณไปลองน้ำหอม จากนั้นก็พยายามยัดเยียดสินค้าให้กับคุณ
.
บอกตามตรงครับว่าขนาดผมเองเวลาเดินห้างแล้วเจอพนักงานขายลักษณะนี้ผมยังต้องเดินอ้อมหนีเลย แล้วคุณลองนึกสภาพถ้าห้างสยาม พารากอน กลายเป็นแบบนี้คุณจะยังอยากไปเดินอีกไหม
.
คำตอบคือ “ไม่” จริงไหม
.
เพราะคุณอยากไปเดินห้าง อยากไปพักผ่อน ไม่ได้อยากไปตลาดนัด แล้วคุณลองจินตนาการตามว่า ถ้าคุณเปิดเฟซบุ๊กมา แล้วมีแต่คนขายของเต็มไปหมด คุณจะยังอยากเล่นเฟซบุ๊กไหม
.
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ต้องจำกัดการมองเห็นยังไงล่ะ เพราะถ้าไม่ทำ มันก็จะเจ๊งกันหมด
.
นั่นหมายความว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ไม่ได้จำกัดการมองเห็นทุกคน เขาจำกัดเฉพาะคนไม่มีคุณภาพที่เอาแต่เปิดเพจ โพสต์ขาย ยิงโฆษณา ที่พยายามเข้ามาทำให้ห้างของเขาเป็นเหมือนตลาดนัดเท่านั้น ที่ต้องทำแบบนี้ก็เพื่อปกป้องลูกค้าที่จะเข้ามาเดินห้าง ไม่ให้รู้สึกแย่จนหนีไปเที่ยวที่อื่นกันหมด
.
แต่ถ้าคุณเป็นร้านที่มีคุณภาพเหมือน สตาร์บัค เคเอฟซี แมคโดนัล อาฟเตอร์ยู ฯลฯ เป็นร้านที่มุ่งเน้นมอบคุณค่า และ สิ่งดีๆ ให้กับลูกค้า ร้านที่ไม่ไปคอยยืนดักหน้าลูกค้า ร้านที่ไม่ตะโกนโหวกเหวก โวยวาย ร้านที่ไม่คอยแต่จ้องจะยัดเยียดขายของ
.
ลองจิตนาการดูครับว่าถ้ามีห้างดีๆ แบบนี้ คุณจะอยากไปเดินไหม เพราะคุณต้องไม่ลืมว่า เฟซบุ๊คเกิดมาเพื่อเป็นสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ใช่ตลาดนัดออนไลน์
.
และนี่แหละ คือ เหตุผลที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ต้องลดการมองเห็น เพราะผมเข้าใจในสิ่งที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ทำตั้งแต่แรก ผมจึงไม่เคยได้รับผลกระทบเรื่องนี้เลย
.
แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ ยังมีคนอีกกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ แล้วยังคิดและทำแบบ 3 ข้อนี้อยู่
.
นี่แสดงให้เห็นแล้วว่า แท้จริงแล้วตลาดออนไลน์ไม่ได้เต็ม ที่แห่งนี้ยังมีพื้นที่ว่างให้กับคนที่เข้าใจเรื่องนี้ และ พร้อมจะเข้ามาทำธุรกิจที่มีคุณภาพอีกเยอะ เพียงแต่คนส่วนใหญ่ไปมองตลาดที่คน 95 เปอร์เซ็นต์ เล่นกันต่างหาก
.
และ ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ เพราะคุณกำลังจะกลายเป็นคนอีก 5 เปอร์เซ็นต์ ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ ถ้าคุณรู้ และ ทำ 9 ข้อ นี้ได้ คือ
.
1. ขายเก่ง
.
เพราะสิ่งแรกที่คนทำธุรกิจต้องมี คือ คุณต้องขายเป็น เพราะถ้าคุณขายไม่เป็น ก็อย่าหวังเลยครับว่าจะทำธุรกิจออนไลน์หรือเขียนคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อได้ เพราะขนาดขายต่อหน้าที่ลูกค้ายังมีความเกรงใจยังทำไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับการขายผ่านตัวอักษร
.
2. Content Marketing
.
ถ้าคุณขายเป็นแล้ว สิ่งนี้จะทำให้ยอดขายของคุณทวีคูณ เพราะมันเหมือนคุณเอาวิชาการขายไปสร้าง Content แล้วให้ Content ไปช่วยขายแทนคุณ ไม่ต่างกับการมีพนักงานขายนับพัน คุณคิดดูว่าถ้าคุณขายลูกค้า 1 คนได้ แล้ว Content ของคุณที่สามารถเข้าถึงคนเป็นล้าน จะช่วยทำเงินให้คุณได้มากขนาดไหน
3. การเขียนโพสต์ขายแบบไม่ได้ขาย หรือ เรียกง่ายๆ ว่า ป้ายยา
.
เพราะคนในเฟซบุ๊กไม่ชอบโพสต์ขายครับ คุณต้องทำให้โพสต์ขายของคุณ คือ ความบันเทิงของเขา แล้วป้ายยาแบบเนียนๆ จนเขาเกิดอารมณ์อยากซื้อเองโดยที่เราไม่ต้องร้องขอ
4. เขียน Copy writing
.
Copy writing ต่างจากการเขียนขายแบบป้ายยา คือ มันคือ โพสต์ขาย แต่มัน คือ โพสต์ขายที่มีศิลปะ ซึ่งการจะทำโพสต์แบบนี้ได้จะต้องผ่านการทดลอง และ ทดสอบมาก่อน แน่นอน โพสต์อาจไม่สวยงามเหมือนการป้ายยา แต่มันสามารถสร้างยอดขายได้จริง ที่สำคัญสามารถทำเงินให้คุณแบบยาวๆ ได้อีกด้วย ถ้าคุณสามารถเขียนโพสต์ขายแค่ครั้งเดียว แต่ใช้ได้ 5 ปี ลองคิดดูครับว่า มันฟินขนาดไหน
.
5. ทำภาพให้ดึงดูด
ภาพที่สะดุดตา คือ ส่วนสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ เพราะมัน คือ ตัวตัดสิน ว่าลูกค้าจะหยุดนิ้วดูคุณไหม แต่การจะทำภาพให้สวยแบบดีไซน์เนอร์ที่ใช้โปรแกรม Adobe ก็ดูจะไกลตัวใครหลายคน แต่ข่าวดีคือ ยุคนี้เรามีแอพพลิเคชั่น Canvas ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทำรูปออกมาได้พรีเมี่ยมด้วยมือถือเครื่องเดียว ถ้าคุณสามารถทำเพจให้พรีเที่ยมได้ มันจะยกระดับเป็นธุรกิจให้พรีเมี่ยมขึ้นได้เช่นกัน
6. การตลาด
.
การตลาดที่ดีจะทำให้ธุรกิจดีๆ โตแบบก้าวกระโดด บทนี้จะทำให้คุณสามารถขายดีได้ตลอดทั้งปี ไม่มีตก อะไรที่คุณเคยพลาด เงินตราที่คุณเคยทำหล่นหาย บทนี้จะเก็บกลับมาให้หมด หรือ ถ้าคุณเคยขายของได้ 1 ชิ้นต่อลูกค้า 1 คน บทนี้จะช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินซื้อของจากคุณเพิ่มอีก 2 ชิ้น จนยอดขายของคุณเติบโตได้ 2-10 เท่า แบบไม่ต้องเหนื่อยหาลูกค้าใหม่เลย
.
7. Data driven
.
การใช้ Data ธุรกิจจะช่วยให้การทำธุรกิจของคุณประหยัด แม่นยำ และ ได้ผลลัพธ์มากขึ้น
.
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าวันนี้คุณขายรองเท้าผ้าใบ เพียงแค่คุณใช้ระบบ (ซึ่งผมจะสอน และ มันง่ายมาก) เก็บข้อมูลว่าลูกค้าคนนี้ ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ซื้อของวันไหน อยู่จังหวัดอะไร และ ใช้งานรองเท้าลักษณะใด
.
สมมติว่าลูกค้าคนนี้ เป็นคนทำงานอายุ 25-30 ปี ในกรุงเทพฯ มันเป็นไปได้ว่าเขาจะใช้วิ่งในลู่ที่ฟิตเนส นั่นหมายความว่าเมื่อเขาใช้รองเท้าไป 1 เดือน มันอาจจะเริ่มมีกลิ่น มันก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะต้องการมองหาสเปรย์ดับกลิ่น แล้วถ้าคุณยิงโฆษณาขายสเปรย์ดับกลิ่นตรงไปที่ลูกค้าคนนี้ มันก็มีโอกาสที่เขาจะซื้อของจากคุณเพิ่ม
.
แต่ถ้าเขาอยู่ต่างจังหวัด สมมติว่าเป็นภาคใต้ที่ฝนตก และ ส่วนใหญ่เขาใส่วิ่งในสวนสาธารณะ ซึ่งอาจจะมีน้ำขังตามพื้นถนน ถ้าคุณยิงโฆษณาสเปรย์กันน้ำไปหาเขาล่ะ คุณก็จะมีโอกาสได้เงินจากลูกค้าคนนี้เพิ่มจริงไหม ?
.
ทุกวันนี้มีแต่คนบ่นว่าค่าแอดแพง คุณลองคิดดูครับ ว่าถ้าคุณยิงแอดด้วย Data แบบนี้ แอดมันยังจะแพงอยู่ไหม เพราะสาเหตุที่แอดแพง เกิดจากการยิงแบบหว่านเงินทิ้งไปเรื่อยต่างหาก
.
8. การยิงโฆษณาขั้นสูง
.
หรือ พูดง่ายๆ คือ การยิงแอดนั่นแหละ แต่ไม่ใช่การยิงแอดแบบที่มีกันตามยูทูบทั่วไป แต่เป็นการยิงเชิงกลยุทธ์ เช่น อันดับแรกคุณต้องยิงหาลูกค้าใหม่ยังไง แล้วเมื่อได้กลุ่มเป้าหมายแล้ว จะทำยังไงให้เขาอยากซื้อของจากเรา แล้วถ้าเขายังไม่ซื้อล่ะต้องทำยังไง หรือ ถ้าการแอดส่งโปรโมชั่นเจาะจงไปยังลูกค้าเก่าที่ห่างหายไปให้กลับมาซื้อของ เทคนิคเหล่านี้จะช่วยคุณประหยัดทั้งค่าแอดและโปรโมชั่นได้เยอะมาก เพราะคุณจะยิงแอดนำส่งโปรโมชั่น ไปหาลูกค้าแค่บางกลุ่ม ไม่ได้ยิงไปหาทุกคน ซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าที่ห่างหายไป หรือ ลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ที่คุณต้องการ เท่านั้น ซึ่งทุกอย่างมีสูตรที่สามารถนำไปใช้ได้เลย
.
9. สร้างโมเดลธุรกิจให้แตกต่างยั่งยืน
.
สิ่งที่คนทำธุรกิจทุกคนต้องการมากที่สุด คือ “ความยั่งยืน” เพราะต่อให้คุณทำ 8 ข้อก่อนหน้านี้ดีแค่ไหน แต่สิ่งที่วัดว่าคุณจะยืนระยะได้นานเท่าไหร่ คือ โมเดลธุรกิจ ที่แตกต่าง แม้ว่าจะขายสินค้าเหมือนๆ กับคู่แข่ง เพราะเราจะไม่ได้ทำธุรกิจแบบฉาบฉวยแค่วันนี้ พรุ่งนี้ แต่เราจะต้องทำให้มันยั่งยืนจนสามารถส่งต่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ ซึ่งนี่แหละ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม
.
อย่างคำกล่าวที่ว่า...
ถ้าคุณอยากเหนื่อยตลอดชีวิต ให้เน้นที่ การขาย
ถ้าคุณอยากเหนื่อยน้อยหน่อย ให้เน้นที่ Marketing
แต่ถ้าอยากยืนระยะยาวๆ และ ส่งต่อเป็นมรดกได้ จงสร้างแบรนด์
.
ดังนั้น ถ้าคุณอยากจะทำให้ได้ทั้ง 9 ข้อนี้ ก็สามารถเข้ามาลุยกับผมและพี่น้องอีกกว่า 60 ชีวิต ได้ในคลาส Online Signature 2021 ที่กำลังจะเริ่มเรียนกันแบบออนไลน์ในกลุ่มเฟซบุ๊ก ในวันที่ 19 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ 🔥🔥🔥
.
โดยคลาสนี้ผมเปิด 2 แบบ คือ
.
1. Private Consult โดยผมจะเข้าไปเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้เลยตลอด 4 เดือน
.
- ราคาเต็มอยู่ที่ 75,000 บาท
- ช่วงโปรโมชั่น 45,000 บาท
.
❌ แต่ผมต้องขออภัยทุกคนจริงๆ ครับ เพราะตอนนี้คลาสนี้ถูกจองเต็มแล้ว ตั้งแต่ 2 วันแรกที่ผมเปิดรับสมัคร แต่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะยังมี
.
2. Online Signature คลาสเรียนแบบออนไลน์ ผ่านไลฟ์สด เรียนที่ไหน เวลาไหนก็ได้ ดูย้อนหลังได้ตลอดชีวิต พร้อม Section ถาม/ตอบ ซึ่งผมจะเป็นคนตอบคำถามทุกคนเอง 🔥
.
- ราคาเต็มอยู่ที่ 46,000 บาท
- ช่วงโปรโมชั่น 24,000 บาท
.
แต่สำหรับคนที่ทักมา 10 คนแรก
.
- ✅ รับไปเลยราคาพิเศษเพียง 9,600 บาท เท่านั้น
.
สำหรับใครที่มีหนังสือ งานประจำสอนทำธุรกิจ พร้อมลายเซ็นของผม สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดได้อีก 500 บาท นะครับ
.
🔴 **ย้ำอีกที ถ้าทักมาเป็นคนที่ 11 จะไม่ใช่ราคานี้แล้วนะครับ เพราะเมื่อเต็มโค้วต้าแล้ว ราคาจะปรับขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งราคาที่ทุกคนเห็นตอนนี้ ปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้ว จากราคาตอนเริ่มต้น 8,240 บาท
.
รีบทักมาได้เลยครับที่ Line : @samounglai
.
แล้วเจอกันในคลาสนะครับ ^^
งานนี้หาทำมาก!!!! เมื่อนัทอยากลองกินแต่โกโก้ตลอด 24 ชม. แต่อะไรสนุกๆแบบนี้ นัทไม่ทำคนเดียวแน่ ขอพาสาวๆพลอย เฟิร์นแห่ง Eataround มาร่วมแคมเปญนี้ด้วย งานนี้อดข้าวอดน้ำทุ่มเทในแคมเปญนี้สุด จะเจ้มจ้นโดนใจขนาดไหน ไปดูพร้อมๆกันเลยค้าบบบ
? : Cocoa 50฿
? : Black Jack Coffee ทาวน์อินทาวน์
? : Chocolate Lava Bingsu 215฿
? : Cheevit Cheeva ทุกสาขา
? : Ferrero Premium To Go 90฿
? : Gram Pancake ทุกสาขา
? : ปังโอวันติน 295฿
? : Pang Cha ลูกไก่ทอง ทุกสาขา
? : คุกกี้ดาร์กช็อกโกแลตลาวา 199฿
? : Creamery Boutique Ice Creams สามย่าน
? : Chocolate Croissant 140฿
? : James Boulangerie พุทธมณฑลสาย 4
? : Milo Magma Lava 100฿
? : Kamu ทุกสาขา
? : Queen B Fudge Cake 175฿, Jo’s Banoffee 250฿
? : After You ทุกสาขา
———————————————
#eatguide
เพราะชีวิตขาดหวานไม่ได้
เราต้องการพลังงานจากขนมหวานนนนน
เข้าครัวกันเล๊ย ลงมือทำ
"บิงซูเมล่อนนมสด"
แค่ชื่อก็สดชื่นแล้ว วิธีทำก็ง๊ายง่าย
หวานๆ เย็นๆ รสชาติก็ตัดกับนมได้ดี
กินไม่เบื่อแน่ๆ จ้าาาาาาา
#บิงซู #เมล่อน #นมสด
------------------------------------------------------
?อย่าลืมกด subscribe เพื่อติดตามเรื่องราวสนุกๆ
ของ 4 พี่น้อง 'ณัชชา พุฒ พร้อม เภา' ได้ก่อนใคร ที่นี่!
------------------------------------------------------
ติดตามรายการ "ณัชชาแอนด์เดอะแก๊ง" ???
ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 8.25 - 8.55 น.
ทาง Workpoint ช่อง 23
-----------------------------------------------------
?ร่วมสนุกกับกิจกรรมท้ายรายการ?
ติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมสุดคูล ได้ที่...
Facebook : ณัชชา พุฒ พร้อม เภา
https://www.facebook.com/natchaputprompao/
และติดตามเทคนิคการเลี้ยง"ลูก" แบบสบายๆ
สไตล์พ่อแม่ Gen Y ลูกดก ได้ที่..
Facebook : พ่อม้าน้ำและแม่หมีกรีซลี่
http://bit.ly/SeahorseDad_GrizzlyBearMom
Youtube : พ่อม้าน้ำและแม่หมีกรีซลี่
https://www.youtube.com/channel/UCbo84OzzH57k6BFvl-L0Y-g
------------------------------------------------------
ติดตามเทคนิคดีๆ จากพี่บ๊อบ และคอร์สติวอื่นๆ ได้ที่
http://www.clickforclever.com
คิดถึง After you ก็จะคิดถึงขนมหวาน อร่อยๆ ที่ต้องรอคิวนานมากกว่าจะได้กินแต่ละครั้ง และเมื่อเค้าออกแพนเค้กกระป๋องมา มันต้องอร่อยอย่างแน่นอน เเล้วเราจะพลาดความอร่อยเเบบนี้ได้ได้ยัง เพราะเเค่เอาส่วนผสมใส่ในกระปุกเค้าเเล้วขนๆให้เค้ากัน เทลงกระทะ ก็อร่อยเเล้ว จะไม่อร่อยก็ตอนเราทำมันไหมเนี่ยแหล่ะ
Ingredient :
1. Pancake After You 1 กระปุก
2. นมจืด 1/2 ถ้วย
3. ไข่ 1 ฟอง
4. เนยละลาย 40 กรัม
? แป้งแพนเค้กสำเร็จรูป จาก after you อร่อยและทำง่ายจริงๆนะ ถึงแม้ระหว่างการทำจะปังปินาศไปหน่อย แต่สุดท้ายก็ออกมาสวยน่ากิน อิอิ ไหนๆใครกินมาแล้วหรือเคยทำแป้งแพนเค้กสำเร็จรูป จาก after you มาคุยมาเล่าให้เบลล์ฟังหน่อยหร็ว ? ? ?
ใครดูคลิปแล้วชอบ อย่าลืมกด like กด share และกดติดตามช่องนี้ให้ด้วยนะค๊า ♥
พูดคุยกันได้ที่แฟนเพจ
Facebook : Belle Girly Berry
https://www.facebook.com/BakekaBelle/
IG :@bellegb
https://www.instagram.com/bellegb
Twitter : @bellegb
https://twitter.com/bellegb
@Line : @allareeggs
ลูกตาล ชลธิชา
IG : luktarn_chonticha
https://www.instagram.com/luktarn_chonticha
FB : ลูกตาล ชลธิชา Luktarn Chonticha
https://www.facebook.com/Luktarntheliveshow/
#BakeกับBelle #BelleGirlyBerry #แพนเค้กafteryou
AfterYou #afteryoudessertcafe # อาฟเตอร์ยู กลยุทธ์ "After You" ฝ่าโควิด รุกเปิดสาขาต่างประเทศ l การตลาดเงินล้าน l ... ... <看更多>
อาฟเตอร์ยู 在 After You - Facebook 的美食出口停車場
After You, กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย. ถูกใจ 309573 คน · 2738 คนกำลังพูดถึงสิ่งนี้. : AFTER YOU app android: https://bit.ly/3ae9wem ios:... ... <看更多>