🌞ผิวสวยอย่างเดียวแต่ไม่รักษ์โลก ไม่เก๋ไม่ให้ผ่าน!
แต่!!! มันสามารถ เราไปหาวิธีมาให้ แค่เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของ Oxybenzone, Octinoxate, 4MBC, Butylparaben ถ้ามีสารพวกนี้ให้พวกเธอหนีไปให้ไกล
เพราะถ้ายังดื้อใช้ สารเหล่านี้ทำร้ายปะการังและสัตว์น้ำ และตอนนี้กรมอุทยานฯ ออกประกาศเรื่องนี้แล้ว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 4 ส.ค. 64 ฝ่าฝืนจับปรับไม่เกิน 100,000 เลยนะ! ไม่ใช่แต่ที่ไทยที่ห้ามนะ ต่างประเทศที่แนนซี่เคยไปเช่น ฟิลิปปินส์ ปาเลา อินโดนีเซีย เขาก็ห้ามและมันก็มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีชัดเจนมากๆ
⚡️แล้วเราจะต้องทำยังไงเมื่อต้องเจอแดด?
1. น้ำมันมะพร้าว Pakarang.oil น้ำมันมะพร้าวมันคูลมาก บำรุงผม บำรุงผิว เคลือบผิว organic อะไรที่มาจากธรรมชาติมักดีเสมอแหละ มีspf15 ด้วยนะ
2. ครีมกันแดด (Sisley) แนนซี่จะเลือกใช้ครีมที่ไม่ทำร้ายปะการัง กันแดดที่หน้าดีมาก (ใช้แบบ everyday use)
3. Zinc ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นัก Surf มันคือกันแดดแบบขั้นเทพ หนา ทาบริเวณที่นูนบนใบหน้าเช่น สันจมูก หน้าผาก คาง ริมฝีปาก ล้างออกยาก ทนทาน ไม่เป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อม
แนนซี่จะบอกว่าครีมกันแดดไม่เพียงทำร้ายปะการัง แต่พวกสัตว์ทะเลก็โดนด้วยเช่นกัน
🦈แนนซี่ดวงดีเจอฉลามวาฬบ่อยมากๆ เวลาที่ไปเจอน้องเราต้องมั่นใจว่าไม่ได้ทาสารเคมีลงไป เพราะพวกพี่ใหญ่ sensitive มากๆ ทุกครั้งที่ไปดำน้ำที่ชุมพร แนนซี่จะต้องมั่นใจว่าไม่มีสารเคมี เพราะพี่ใหญ่อยู่ประจำ ไม่ไปไหนเลย ไปกี่ครั้งก็เกือบเจอทุกครั้ง ชุมพรมี divesite มากมาย เช่น กองสามเหลี่ยม หรือไปถึงเกาะเต่า กองหินชุมพร หรือจุดเรือจมก็มีโอกาสเจอบ่อยๆ เพราะฉะนั้นเปลี่ยนมาใช้น้ำมันมะพร้าว หรือกันแดดที่ไม่ทำร้ายปะการังกันนะคะ organic เนี่ยเจ๋งสุดแล้วเชื่อเราสิ!
ใครที่กำลังงง ทำตัวไม่ถูกว่าประกาศห้ามใช้ครีมกันแดดแล้วเราจะใช้อะไร แนนซี่มาแนะนำแล้วเอาไปใช้ตามได้นะเราไม่หวง
แนนซี่ 🙂
#ชุมพร #ท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ #ลดโลกเลอะ #ResponsibleTourism
同時也有98部Youtube影片,追蹤數超過25萬的網紅สาระดี byมล,也在其Youtube影片中提到,สูตร ผิวขาวหน้าใส ไร้สิวเร่งด่วน-สูตรแก้รักแร้ดำ ผิวหนังไก่ ผิวดำคล้ำขาวใสเร่งด่วนทันใจข้ามคืนถาวร วัตถุดิบ 1.)ผงทนาคา 1 ชช. 2.)มะขามเปียก 1-2 ชช. 3.)...
「น้ำมันมะพร้าว」的推薦目錄:
- 關於น้ำมันมะพร้าว 在 HappyNancy Facebook 的最讚貼文
- 關於น้ำมันมะพร้าว 在 Fit & Flexible Eating Diary Facebook 的精選貼文
- 關於น้ำมันมะพร้าว 在 หมอๆ ตะลุยโลก Facebook 的精選貼文
- 關於น้ำมันมะพร้าว 在 สาระดี byมล Youtube 的最佳貼文
- 關於น้ำมันมะพร้าว 在 Chats Share Youtube 的最佳解答
- 關於น้ำมันมะพร้าว 在 Rabbit mashare Youtube 的精選貼文
- 關於น้ำมันมะพร้าว 在 YuriecocoThailand น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น-เพจหลัก - Facebook 的評價
น้ำมันมะพร้าว 在 Fit & Flexible Eating Diary Facebook 的精選貼文
#plantbased 🍀
กินอาหารอร่อยเพื่อเพิ่มความสุขให้ตนเองแล้ว
แต่ขอเพิ่มอีกนิด ให้กินอย่างมีสติเพื่อเพิ่มพูนปัญญาให้ตนเองด้วย
Cr. คุณ พศิน อินทรวงค์
ผัดต้นอ่อนเขียวหวาน(ไม่)เนื้อ
✔️ ต้นอ่อนทานตะวัน
✔️ Plant-Based Omni Meat 1/2 แพค OmniFoods Green Monday #omnilicious
✔️ เต้าหู้ขาว 1 ก้อน
✔️ น้ำมันมะพร้าว Coconutoil by Mannature หลังๆเริ่มชอบการทำอาหารโดยผัดด้วยน้ำมันเล็กน้อย พอให้มีความมันนัวๆ สิ่งที่รู้สึก คือ อาหารอร่อยขึ้น และ อิ่มดีกว่าตอนที่ไม่ใช้น้ำมัน หรือ ใช้น้ำมันสเปรย์ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอิงสัดส่วนปริมาณไขมันที่จะทานต่อวันให้ดีด้วยเป็นสำคัญ จะไขมันดีหรือไม่ดี ถ้าทานเยอะเกินร่างกายต้องการ ผลก็ไม่ดีทั้งนั้น
✔️ พริกแกงเขียวหวาน
✔️ ซอสหอยนางรม & ซอสถั่วเหลือง LS 101plus
✔️ พริกไทย & พริกป่น 1 ซองเล็ก (แบบตามร้านขายอาหารให้มา)
✔️ น้ำตาลหล่อฮังก๊วย Raiwan ไร่หวาน น้ำตาลหล่อฮังก๊วย ออร์แกนิค ไม่กระตุ้นระดับน้ำตาล
มื้อนี้ทานกับข้าวขาว และ อะโวคาโดสดครึ่งลูก พร้อม น้ำดื่มสุขภาพ เป็น อะโวคาโด ผสม เสาวรส ปั่นรวมกัน ไม่ต้องเติมรสชาติใดๆ ได้ความ เปรี้ยว หวาน มัน นัว ดีงาม ทำใส่ขวดแช่เย็น ดื่มวันละแก้ว 😉
🥑 อะโวคาโด จาก New Zealand Avocado - Thailand นำเข้าจาก New Zealand 🇳🇿 #nzavocadothailand
.
.
.
.
.
.
.
#tipsyisahealthygirl #ครัวเฮลตี้มั่วๆสไตล์ฑิปซี่ #tipsyhealthycooking #cookingbytipsy #cooking #homecooking #healthycooking #plantbaseddiet #plantbasedfood #plantbasedmeals #vegan #veganfood #veganlife #veganfoodshare #อาหารคลีน #eatclean #อาหารคลีนทำเอง #อาหารคลีนเพื่อสุขภาพ #มังสวิรัติ #อาหารเพื่อสุขภาพ #ทำอาหาร #ทำอาหารกินเอง #วิถีคนจะผอม #แท็กเพื่อนมาดู #แท็กแฟน #food #foodie
น้ำมันมะพร้าว 在 หมอๆ ตะลุยโลก Facebook 的精選貼文
เรื่องน่ารู้ ที่หลายคนอาจไม่รู้ กับ วิธีการอ่านฉลากอาหาร
ผมเป็นคนหนึ่งที่ก่อนจะเอาอะไรผ่านเข้าปากไปลงกระเพาะอาหาร ถ้าอาหารนั้นมีฉลากโภชนาการอยู่ อย่างน้อยต้องชายตามองสักเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจซื้อมันมาครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการอ่านฉลากอาหารแบบเข้าใจง่ายๆกันว่ามันมีประโยชน์ขนาดไหนครับ ยกตัวอย่างจากฉลากอาหารในภาพคือตัวอย่างอาหารชนิดหนึ่งที่ผมคิดว่าเห็นภาพเลย
ส่วนแรก คือ จำนวนหน่วยบริโภคต่อครั้ง และ ขนาดหนึ่งหน่วยบริโภคคือเท่าใด
อย่างในภาพคือ 1 หน่วยบริโภคเท่ากับ 310 ซีซี และ จำนวนหน่วยบริโภคต่อขวด = 1
นั่นแปลว่าฉลากอาหารที่เราจะเห็นในส่วนที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนั้น สามารถใช้อ้างอิงในการกิน 1 ครั้งจนหมดได้เลย
แต่ถ้าสมมติตัวเลขใหม่ จำนวนหน่วยบริโภคต่อขวด = 2 นั่นแปลว่า ฉลากโภชนาการในส่วนถัดไป ทุกอย่างต้องเอาไป "คูณสอง"ทั้งหมด อันนี้ระวัง tricky นิดนึง เพราะของกินหลายๆอย่างทำเป็นเหมือนจำนวนหน่วยบริโภคนั้นเยอะๆ เพื่อที่จะทำให้ตัวโภชนาการในส่วนต่อไปดูเหมือนเป็นขนมที่ healthy ไป (ทั้งๆที่อาจจะไม่ใช่)
ส่วนที่ 2 คือ พลังงานทั้งหมด ต่อ 1 หน่วยบริโภค
อันนี้ตรงไปตรงมาครับ คือ คำนวณจากสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และ ไขมัน เอามารวมกันว่ากี่แคลอรี่ โดยจะแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ พลังงานรวม และ พลังงานจากไขมัน
พลังงานรวม = คาร์โบไฮเดรต + โปรตีน + ไขมัน
ตัวอย่างในภาพ พลังงานรวม = 240 kcal แต่มีพลังงานจากไขมัน 120 kcal เท่ากับว่า เราจะได้พลังงานจากโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตอีก 120 kcal โดยมีที่มาจากคำนวณ ดังนี้
โดยคาร์โบไฮเดรต 1 กรัมจะให้พลังงาน 4 kcal
โปรตีน 1 กรัมจะให้พลังงาน 4 kcal
ไขมัน 1 กรัมจะให้พลังงาน 9 kcal
แล้วเราก็เอาตัวเลขของสารอาหารต่างๆไป คูณตามจำนวนกรัมที่มีนั่นเอง
ต่อมา ถามว่าทำไมต้องแยกพลังงานจากไขมันออกมาต่างหาก คำตอบก็คือ ค่าตัวเลขในส่วนนี้จะมีความจำเป็นมากสำหรับคนที่ทานอาหารเช่นกลุ่มคีโตจีนิค (ketogenic diet) ที่เน้นพลังงานจากไขมันมากกว่า 80% ของแหล่งอาหารทั้งที่ทานเข้าไป ถ้าเราไม่ได้สายคีโตก็ดูไว้ผ่านๆได้ครับ
ส่วนที่ 3 คือ คุณค่าทางโภชนาการ ส่วนนี้สำคัญที่สุด
จะมีตัวเลขแยก 2 ฝั่ง คือ ฝั่งที่อยู่ติดกับชื่อ สารอาหาร (ฝั่งซ้าย) และ ตัวเลข % ทางฝั่งขวา
ตัวเลขฝั่งซ้าย หน่วยจะเป็น กรัม ที่ได้ ถ้าเราทานสิ่งนั้นเข้าไป 1 หน่วยบริโภค
ตัวเลขฝั่งขวา หน่วยจะเป็น % เพราะเขาจะเอาไปอิงกับสารอาหารนั้นๆที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน โดยเทียบกับมาตรฐาน Thai RDI ที่คำนวณว่าคนไทยควรได้รับพลังงาน 2000 kcal ต่อวัน (โดยมาจาก คาร์โบไฮเดรต ทั้งหมด 300 กรัม / โปรตีน 50 กรัม /ไขมัน 65 กรัม)
แล้วคนไทยแต่ละคนต้องการพลังงาน 2000 kcal เท่ากันหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ใช่แน่ๆครับ ดังนั้นการดู % ในส่วนนี้ก็พอดูเป็นแนวทางได้ แต่ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ครับ คิดให้เห็นภาพง่ายๆ ผู้หญิงตัวเล็กๆ หนัก 45 กก. กับ ผู้ชายหนัก 90 กก. สัดส่วน % ไม่มีทางเท่ากันแน่นอน เพราะความต้องการพลังงานของสองคนนี้อาจจะอยู่ที่ 1800 กับ 2200 kcal ต่อวัน ตามลำดับ ประมาณนี้)
ดังนั้นแล้ว ให้สังเกตที่ตัวเลขทางฝั่งซ้ายนี้เป็นหลักครับ แต่ถ้าอยากรู้ว่าร่างกายเราต้องการพลังงานกี่ kcal ต่อวัน สามารถคำนวณได้จากสูตรที่ผมจะให้ไว้อีกทีครับ (สูตรนี้บอกก่อนว่ามีความไม่นิ่งพอสมควร แต่พอใช้เป็นแนวทางได้)
ต่อเนื่องกับส่วนที่ 3 คราวนี้เราต้องมาไล่ดูกันไปทีละตัวเลยครับ
ตัวแรก : ไขมัน
ไขมัน จะแสดงผลรวม ไขมันทั้งหมด และจะแยกย่อยอีกออกเป็น ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat) ไขมันทรานส์ (Trans fat) และ คอเรสเตอรอล (Cholesterol) ผมมีทริคง่ายๆเลยเวลาดูฉลากไขมัน
• ไขมันทรานส์ (Trans fat) ไขมันทรานส์คือพวกของกลุ่มไขมันกลายร่างที่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่ากินแล้วจะทำให้ตายด้วยโรคหัวใจเร็วขึ้น อันนี้ควรต้องเป็น 0 g ศูนย์กรัม เท่านั้น ห้ามมีหลงมาอย่างเด็ดขาด
• คอเรสเตอรอล (Cholesterol) อันนี้ทุกคนคงรู้จักกันดีแล้ว ไม่มีไว้ก่อนดีที่สุดครับ คือ ศูนย์
• ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) คือ ไขมันที่แข็งตัวในอุณหภูมิห้อง จะพบได้เยอะในเช่น น้ำมันจากสัตว์ หนังสัตว์ น้ำมันหมู และไขมันอิ่มตัวมักจะมากับอาหารที่คอเลสเตอรอลสูง ดูเผินๆเหมือนจะไม่ดี แต่จริงๆก็ต้องมีข้อยกเว้นไว้บางเช่น ในคนที่ทานน้ำมันมะพร้าวที่มีกรดไขมันอิ่มตัวบางชนิด เช่น กลุ่มของ MCT oil กลุ่มนี้จะเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีมากๆสำหรับสายคีโตจีนิก เพราะสมองจะนำไขมันอิ่มตัวชนิดนี้ไปใช้พลังงานได้อย่างรวดเร็ว
แต่ขอย้ำอีกครั้ง ถ้าอาหารนั้นไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะไปด้านคีโต ไขมันอิ่มตัวเยอะๆในฉลาก เราควรต้องให้ความระมัดระวังครับว่าอาหารนั้นมันคืออะไร แล้วก็สุดท้าย ไขมันอิ่มตัวจะบอกว่าแย่อีกก็ไม่ได้ เนื่องจากการที่มันทนความร้อนได้สูงมากพวกน้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำมันปาล์มจึงเป็นน้ำมันทีเหมาะกับมาทำอาหารผัดๆทอดๆแบบร้อนๆน้ำมันท่วมแบบอาหารไทยแบบนี้ครับ ดังนั้นเวลาดูต้องแยกกันว่า อาหารชนิดนั้นคืออะไร
• ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat) คือ ไขมันที่ไม่แข็งตัวในอุณหภูมิห้อง ตรงกันข้ามกับอันเมื่อกี้ เรื่องของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นเรื่องใหญ่มาก ขอเล่าสั้นไว้ตรงนี้ก่อนครับ อันนี้ดูเผินๆ ก็เหมือนว่าถ้ามีเยอะก็จะดี เช่น การทานมะกอกจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ เพราะมะกอกมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงมาก แต่ในขณะเดียวอาหารบางอย่างมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงมาก เช่น กลุ่มของ industrial seed oil กลับอาจจะไม่ดีมากเท่ากับในกรณีแรก เพราะว่ามีความแตกต่างของมันอยู่นั่นเอง เราน่าจะเคยได้ยินคำว่า omega-3 หรือ omega-6 มานานแล้ว นั่นละครับ มันคืออันเดียวกันและมันก็อยู่ในกลุ่มของกรดไขมันไม่อิ่มตัว และในฉลากอาหารส่วนมากจะไม่ได้บอกว่า ไขมันไม่อิ่มตัวในนั้นเป็นชนิดไหน วิธีการที่จะรู้ได้อย่างเดียวคือ ต้องดูว่าอาหารนั้นเป็นอาหารอะไรประกอบด้วยครับ เรื่องนี้ผมขออธิบายละเอียดในคราวหน้า
• ถามว่าสัดส่วนไขมันควรทานวันละกี่กรัม ถ้ายึดตาม Thai RDI คือ ไขมันทั้งหมดต่อวันไม่เกิน 65 กรัม โดยต้องเป็นไขมันไม่อิ่มตัวอย่างน้อย 45 กรัม และ สัดส่วนนี้จะเปลี่ยนไปในกลุ่มของคนที่ทานคีโตครับ แต่คนทั่วไปอาจจะยึดตามแนวทางของ Thai RDI ไว้ก่อน บวกลบ เล็กน้อยตามพลังงานขั้นต่ำของร่างกายครับ ถ้าจะเอาให้เป๊ะขึ้น พลังงานจากไขมันควรเป็น 20 - 35% ของพลังงานรวมทั้งหมด และมีสัดส่วนของ กรดไขมันไม่อิ่มตัว : กรดไขมันอิ่มตัวคือ เท่ากับ 2.2 : 1 โดยคร่าวๆ (เริ่มเครียดเลย ทำไมยากจัง 55)
• ในฉลากส่วนใหญ่จะระบุเฉพาะปริมาณไขมันอิ่มตัว เราก็ต้องเอา ไขมันทั้งหมด - ไขมันอิ่มตัว จะได้เท่ากับปริมาณไขมันไม่อิ่มตัวนั่นเองครับ (อย่าพึ่งงงนะครับ)
ตัวที่สอง : คาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรต สารอาหารหลักที่พวกเราชอบกัน ไม่ว่าจะเป็น แป้ง น้ำตาล เส้นพาสต้า ล้วนมีพลังงานหลักมาจากส่วนนี้ ในฉลากมักจะแยกออกไว้ 2 อย่าง
• ใยอาหาร หรือ Fiber ขั้นต่ำประมาณ 25 กรัมต่อวัน อาหารที่ไฟเบอร์สูง จะช่วยเรื่องระบบการย่อยอาหารขับถ่าย และ ยังช่วยทำให้เราอิ่มได้นาน
• น้ำตาล (sugar) ต้องดูว่าน้ำตาลอันนั้นคือน้ำตาลตามธรรมชาติที่อยู่ในอาหาร (natural sugar) เช่น น้ำตาลฟลุกโตสในผลไม้ หรือเป็น น้ำตาลที่ใส่เพิ่มเข้าไป (added sugar) เช่น น้ำอัดลม โดยเราจะสนใจหลักๆคือ น้ำตาล added sugar ไม่ควรมีหรือมีให้น้อยที่สุดจะเยี่ยมครับ คนเราไม่ควรได้น้ำตาลเกิน 24 กรัมต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ อาหารในธรรมชาติที่มี natural sugar อยู่ ถ้าไม่นับผลไม้แล้วก็น่าจะหาได้ยากมาก
• ส่วนที่เหลือก็คือ แป้งที่เราเข้าใจกันนั่นเอง แต่เขาจะไม่ได้บอกตรงๆก็ต้องเอามาบวกลบกันออกมา
• พลังงานจากคารโบไฮเดรตต่อวัน ค่าเฉลี่ยโดยประมาณคือ 300 กรัมต่อวัน แล้วก็บวกลบเอาตามขนาดตัวครับ ถ้าไม่เคร่งก็ให้เน้นที่พลังงานมาจากแป้ง ที่ไม่ใช่น้ำตาล โดยมีไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้จริงๆแล้ว แป้งยังแยกเป็น คารโบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวหอมมะลิที่สีมาแล้วอย่างสวยงาม กับ ข้าวกล้องที่ยังไม่ผ่านการขัดสี (Complex carbohydrate) สองอย่างนี้ แคลอรีต่อกรัมเท่ากัน แต่ผลต่อร่างกายไม่เหมือนกัน ดังนั้นต้องดูชนิดของคาร์โบไฮเดรตที่ทานด้วยครับ
ตัวที่สาม : โปรตีน
• ถ้าไม่ได้กินนมชนิดต่างๆแล้ว หรือกลุ่มของเวย์โปรตีน ผมว่าส่วนนี้เราน่าจะไม่เคยสังเกตมันบนฉลากแน่ๆครับ
• คนทั่วไปๆก็ทานโปรตีนประมาณ 0.8 – 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว ถ้าหัก 60 กก. ก็ทาน 60 กรัมโปรตีนนั่นเอง
• ไขขาว 1 ฟอง มีโปรตีนประมาณ 5 กรัม ลองกะดูครับ
• ถ้าคนเล่นกล้ามก็ต้องการมากกว่านี้อีกมาก เช่น 2-3 กรัมต่อน้ำหนักตัว
จากจุดนี้ก็น่าจะพอเข้าใจภาพได้เลยว่า ตัวเลข % อาจจะไม่มีผลอะไรกับการวางแผนอาหารในกลุ่มคนเฉพาะที่ต้องการผลลัพธ์ที่พิเศษ แต่สำหรับคนทั่วไปก็ใช้ตาม % อ้างอิงก็ไม่เสียหายครับ
ส่วนที่ 4 : โซเดียม
ไม่ควรเกิน 2300 มิลลิกรัมต่อวัน เรามักจะเจออาหารที่โซเดียมสูงๆในบรรดาจำพวกซอสและขนมขบเคี้ยวทั้งหมด
เป็นอย่างไรกันบ้างครับเอาแค่ 4 ส่วนนี้ก็ลายตามากแล้วครับ 555+ อันนี้ยังไม่นับถึงพวก วิตามิน เกลือแร่ หรือ ส่วนประกอบของอาหารที่เราต้องมาเพ่งพิจารณากันจริงๆเลยครับ
เอาตรงๆ มันดูเหมือนจะยากมากครับในครั้งแรก ทำไมต้องซีเรียสขนาดนี้ แต่เชื่อผม มันยากแค่ครั้งแรกตอนที่เราหยิบมันขึ้นมา เพราะส่วนใหญ่เราก็กินอะไรไม่ได้ต่างจากเดิมมาหรอกครับในแต่ละวัน อ่านสักครั้งสองครั้งพอจำได้แล้ว เราก็จะหยิบมากินโดยที่ไม่ต้องดู เพราะว่าเราจำคุณค่าทางโภชนาการได้หมดแล้วนั่นเอง และการดูสัดส่วนโภชนาการผมคิดว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญมากชนิดหนึ่งในการดูแลสุขภาพร่างกายของเราเอง
ถ้ามีคำถามใดๆก็ฝากไว้ได้นะครับ ผมจะพยายามมาตอบให้ถ้าสามารถทำได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งที่อ่านมาจนจบครับ 😊
น้ำมันมะพร้าว 在 สาระดี byมล Youtube 的最佳貼文
สูตร ผิวขาวหน้าใส ไร้สิวเร่งด่วน-สูตรแก้รักแร้ดำ ผิวหนังไก่ ผิวดำคล้ำขาวใสเร่งด่วนทันใจข้ามคืนถาวร
วัตถุดิบ
1.)ผงทนาคา 1 ชช.
2.)มะขามเปียก 1-2 ชช.
3.)เจลว่านหางจระเข้ 2 ชช.
4.)นมจืด 2 ชต.
5.) เกลือขัดผิว
6.)วิตชีเชรั่เข้มข้น / น้ำมันมะพร้าว /น้ำมันมะกอก
วัตถุดิบพร้อม ฟังจบ ทำสูตร....หน้าขาว ผิวใสกันเลย
น้ำมันมะพร้าว 在 Chats Share Youtube 的最佳解答
คลิปนี้แชทแชร์ทดลองนวดหน้าด้วยน้ำมันมะพร้าวให้ดูค่ะ นวดหน้าด้วยน้ำมันมะพร้าวติดกัน 7 วันจะเป็นยังไง
เกิดอะไรขึ้นกับผิวเราบ้าง
บอกเลยว่า พลาดไม่ได้
เพราะในน้ำมันมะพร้าวมีสารที่มีประโยชน์กับผิวเราเยอะมากกกกกกกกก
วิตามินอีเยอะมาก ช่วยเรื่องริ้วรอยและความชุ่มชื่น ฟื้นฟูผิวหน้าได้ดีมากๆเลยค่า
หาซื้อได้ง่ายมากๆด้วย
จะใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้นะคะ ขอแค่เป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นก็พอ เอามานวดหน้ารัวๆๆๆๆ 7 วันติดกัน รับรองรู้เรื่อง ผิวนุ่มมาก ผื่นหาย เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ชั้นดีเลยค๊าบ
0:00 - Intro
0:12 - day1
2:33 - day2
3:57 - day3
4:42 - day4
5:02 - day5
5:55 - day6
7:17 - day7
8:16 - Conclusion
❥ฝาก subscribe กดกระดิ่งเป็นกำลังให้กันด้วยนะคะ
ติดตามแชทช่องทางอื่นๆได้ที่
Fb : www.facebook.com/chatsshare
Ig : @chatsshare
Twitter : @chatsshare
#chatsshare #แชทแชร์ #สูตรมาร์คหน้า
น้ำมันมะพร้าว 在 Rabbit mashare Youtube 的精選貼文
สวัสดีสาวๆของแรบบิท วันนี้พี่ต่ายนำเอาสูตรหมักผมมาฝากสาวๆกันค่ะ
วัตถุดิบ ไข่แดง2 ฟอง วิตามินบำรุงผม 2 เม็ด น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอก
ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วนำมาหมักผม 1-2 ช.ม. จากนั้นสระผมตามปกติ
ทำอาทิตย์ละ2 ครั้ง สภาพเส้นผมดีขึ้นมากค่ะ ผมแห้ง ผมเสีย พี่ต่ายแนะนำสูตรนี้เลย
น้ำมันมะพร้าว 在 YuriecocoThailand น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น-เพจหลัก - Facebook 的美食出口停車場
เคล็ดลับหุ่นสวย ผิวดีแบบธรรมชาติ ตัวช่วยคุมหิว อิ่มนานขึ้น ลดการทานจุกจิกและยังช่วยเรื่องระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น เร่งการเผาผลาญ ไขมันดีดูดซึมได้100%... ... <看更多>