各位週六好,新一集的c+talk show應聽眾要求,終於來聊攝影了!
原諒我對於熱血的東西總是要拖半天才能整理好,希望你們喜歡這次的節目,歡迎在底下留言分享心得,或是直接發問也可以喔!c+talkshow非常渴望聽眾在內容上的回饋與互動~
本集內容:
最喜歡的攝影師?
森山大道、奧山由之、川內倫子、瀧本幹也
Ansel Adams / Vivian Meier / Sebastião Salgado
關於公開喜歡的大師的危險性。
聊聊怎麼會愛上照相?
底片還是數位?
喜歡黑白還是彩色?
如何快狠準的攝影?
如何構圖?
按快門是直覺式還是思考式?
底片去哪買?
Spotify, apple podcast, google podcast, kkbox…等
各大平台都可以收聽唷~
Spotify這邊聽
https://reurl.cc/43a3VV
Apple podcast這邊聽
https://reurl.cc/oxgxG3
#c家talkshow
同時也有10部Youtube影片,追蹤數超過1萬的網紅The Adams,也在其Youtube影片中提到,PERHATIAN! Video ini mengandung kilatan cahaya terang yang dapat mempengaruhi mereka yang memiliki sensitivitas terhadap cahaya. Video Musik "Esok" m...
「adams apple」的推薦目錄:
- 關於adams apple 在 林予晞 Allison Lin Facebook 的最佳貼文
- 關於adams apple 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於adams apple 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於adams apple 在 The Adams Youtube 的最佳解答
- 關於adams apple 在 Joseph Prince Youtube 的最讚貼文
- 關於adams apple 在 咖喱張 Curry Cheung Youtube 的最佳貼文
- 關於adams apple 在 Adams Apple - Home | Facebook 的評價
adams apple 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
รัฐฟลอริดา ดินแดนท่องเที่ยว การเกษตร ศูนย์ปล่อยจรวดอวกาศ /โดย ลงทุนแมน
ประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรกรรมอันดับ 1 ของโลก คือ สหรัฐอเมริกา
และรัฐที่มีความสำคัญมาก ต่อภาคการเกษตรกรรมของสหรัฐอเมริกา ก็คือรัฐ “ฟลอริดา”
และไม่เพียงแต่ภาคเกษตรกรรมเท่านั้น ฟลอริดา ยังมีความสำคัญต่อสหรัฐอเมริกาในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
มีอะไรที่น่าสนใจในรัฐแห่งนี้บ้าง
แล้วสหรัฐอเมริกา ไปซื้อรัฐนี้มาจากสเปน ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ฟลอริดา เป็นรัฐที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน
ที่น่าสนใจคือในอดีต ฟลอริดา ยังเป็นดินแดนแห่งแรกในทวีปอเมริกา ที่ประเทศผู้ล่าอาณานิคมจากยุโรปเดินทางมาถึง
ทหารนักสำรวจชาวสเปนที่ชื่อว่า Juan Ponce de León เดินทางมาถึงที่นี่ตั้งแต่ปี 1515 พร้อมทั้งตั้งชื่อดินแดนแห่งนี้ว่า “La Pascua de las Flores” ซึ่งในภาษาสเปนนั้นมีความหมายประมาณว่า “เทศกาลแห่งดอกไม้”
ซึ่งประวัติศาสตร์จากหลายสำนักเชื่อกันว่า ที่มาของชื่อ ฟลอริดา มาจากการที่ Juan Ponce de León และกลุ่มนักสำรวจเดินทางมาพบกับดอกไม้ป่าจำนวนมากในพื้นที่แห่งนี้
และต่อมาชื่อ La Pascua de las Flores ก็ได้แผลงคำเรื่อย ๆ จนกลายเป็น Florida
ฟลอริดายังเป็นที่รู้จักกันในนาม “Sunshine State” เนื่องจากเป็นรัฐที่มีสภาพภูมิอากาศกึ่งเขตร้อนและอบอุ่นเมื่อเทียบกับรัฐอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกา
ในปี 2020 ฟลอริดา มีประชากรอยู่อาศัยทั้งหมดประมาณ 21.6 ล้านคน ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 เมื่อเทียบกับ รัฐทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา รองจากรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐเท็กซัส
ประชากรที่อาศัยอยู่ในฟลอริดานั้น จำนวนกว่า 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด เป็นชาว “ฮิสแปนิก” (Hispanic) หรือก็คือ คนที่มีเชื้อสายสเปน ทำให้ภาษาสเปนจึงเป็นอีกหนึ่งภาษาที่ถูกใช้ในการสื่อสารกันมากในรัฐแห่งนี้
ในแง่ของเศรษฐกิจ ฟลอริดามีขนาดเศรษฐกิจตามมูลค่า GDP ประมาณ 30.8 ล้านล้านบาท ซึ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ ตามหลังเพียงแค่รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐเท็กซัส และรัฐนิวยอร์ก
ซึ่งถ้าสมมติให้ รัฐฟลอริดาเป็นประเทศ
จะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 17 ของโลก มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่า GDP ของประเทศใหญ่ ๆ อย่างเนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี และซาอุดีอาระเบีย เลยทีเดียว
โดยฟลอริดา มีสองอุตสาหกรรมที่เป็นส่วนขับเคลื่อนสำคัญต่อเศรษฐกิจของรัฐ
คืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมการเกษตร
ปี 2011 จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนฟลอริดามีประมาณ 87 ล้านคน
ปี 2018 จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนฟลอริดามีประมาณ 126 ล้านคน
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สร้างงานในฟลอริดากว่า 1.3 ล้านตำแหน่ง และสร้างรายได้ให้แก่ฟลอริดาปีละกว่า 2.8 ล้านล้านบาท
ด้วยที่ตั้งและสภาพภูมิประเทศ ฟลอริดาได้ขึ้นชื่อว่ามีหาดทรายที่กว้างใหญ่ น้ำทะเลใส
หาดไมอามีซึ่งตั้งอยู่ที่ฟลอริดา จึงถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ที่เป็นไฮไลต์ของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนที่ต้องการเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศ
ฟลอริดา เป็นที่ตั้งของท่าเรือขนส่งสินค้าและท่าเรือสำราญมากมาย และได้รับการขนานนามว่า “เมืองหลวงของเรือสำราญ” เพราะ 3 ท่าเรือสำราญที่มีจำนวนผู้มาใช้บริการหนาแน่นที่สุดในโลก 3 อันดับแรก อยู่ในรัฐฟลอริดาทั้งสิ้น
ท่าเรือสำราญที่คนมาใช้บริการมากสุด 3 อันดับแรกในโลก ปี 2017 สถิติจากเว็บไซต์ WorldAtlas
1. Port of Miami จำนวนผู้โดยสารเรือท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ 5.0 ล้านคน
2. Port Canaveral จำนวนผู้โดยสารเรือท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ 4.2 ล้านคน
3. Port Everglades จำนวนผู้โดยสารเรือท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ 3.8 ล้านคน
รัฐแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Walt Disney World Resort
สวนสนุกและสถานที่พักตากอากาศแนวรีสอร์ต ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีพื้นที่กว้างขวางถึง 101 ตารางกิโลเมตร และมีพนักงานทำงานที่นี่กว่า 7 หมื่นคน
อีกหนึ่งภาคอุตสาหกรรมที่ถือว่ามีความสำคัญไม่เพียงแต่ต่อรัฐฟลอริดาเอง แต่ยังรวมไปถึงสหรัฐอเมริกาด้วยคือ อุตสาหกรรมการเกษตร
นั่นก็เพราะว่า ฟลอริดามีสภาพภูมิอากาศกึ่งเขตร้อนและอบอุ่น รวมทั้งมีปริมาณฝนโดยเฉลี่ยที่สูงกว่ารัฐอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกา
กว่า 70% ของผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างส้ม มะนาว และส้มโอ ที่ขายในสหรัฐอเมริกานั้น เป็นผลผลิตที่มาจากรัฐแห่งนี้ ขณะที่ส้มจากฟลอริดานั้น เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำส้มในสหรัฐอเมริกากว่า 90%
นอกจากการท่องเที่ยวและการเกษตรที่เด่นมาก ๆ แล้ว ฟลอริดายังเป็นที่ตั้งสำคัญในเรื่องอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของสหรัฐอเมริกา
ในปี 2018 มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบินและยานอวกาศกว่า 2,300 แห่งตั้งอยู่ในฟลอริดา และมีบริเวณแหลมคะแนเวอรัล (Cape Canaveral) เป็นที่ตั้งสำคัญของศูนย์อวกาศและฐานปล่อยจรวด เนื่องจากที่ตั้งของฟลอริดาอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งเหมาะสมกับการปล่อยจรวด
หนึ่งในนั้นคือ ศูนย์อวกาศ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ขององค์การนาซา ซึ่งเป็นฐานปล่อยยานอวกาศของนาซา เมื่อปี 1969 ที่ชื่อว่า “ยานอะพอลโล 11” ที่พามนุษย์กลุ่มแรกไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จ
ขณะที่การปล่อยจรวดครั้งสำคัญ ๆ ของ SpaceX ก็ปล่อยขึ้นจากฐานปล่อย Cape Canaveral Space Force Station ณ แหลมคะแนเวอรัล ในรัฐฟลอริดาแห่งนี้ด้วย..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
ในอดีตพื้นที่บริเวณฟลอริดา ก่อนจะเป็นรัฐของสหรัฐอเมริกา เคยอยู่ในการครอบครองของสเปนมาก่อน
โดยหลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศอิสรภาพแล้ว ก็ได้ติดต่อขอซื้อฟลอริดาจากสเปนหลายครั้ง แต่สเปนก็ปฏิเสธที่จะขายมาโดยตลอด
จนในระหว่างปี 1807-1814 เกิดสงครามที่ชื่อว่า Peninsular War
ระหว่างจักรวรรดิฝรั่งเศสที่นำโดย นโปเลียน โบนาปาร์ต กับฝ่ายพันธมิตร คือสหราชอาณาจักร สเปน และโปรตุเกส เพื่อแย่งชิงดินแดนในคาบสมุทรไอบีเรีย
สงครามครั้งนั้นทำให้สเปนสูญเสียกำลังทหารและงบประมาณจำนวนมาก ภายหลังสเปนจึงได้ตัดสินใจขายพื้นที่อาณานิคมฟลอริดา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแล
และทำให้ ฟลอริดา ได้ถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งในรัฐของสหรัฐอเมริกา ในที่สุด..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://daily.jstor.org/how-florida-got-its-name/
-https://www.statista.com/statistics/187850/gdp-of-the-us-federal-state-of-florida-since-1997/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Florida
-https://www.statista.com/statistics/220767/total-value-of-us-agricultural-exports-since-2000/
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_states_and_territories_of_the_United_States_by_GDP
-https://www.investopedia.com/articles/investing/011316/floridas-economy-6-industries-driving-gdp-growth.asp
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://en.wikipedia.org/wiki/University_of_Florida
-https://www.floridatrend.com/article/29770/floridas-hispanic-population-boom
-https://www.teaconnect.org/images/files/TEA_328_381804_190528.pdf
-https://www.arestravel.com/big-walt-disney-world-compared-disneyland/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Kennedy_Space_Center
-https://www.spacex.com/launches/
-https://theworldtravelblog.com/the-10-busiest-cruise-ports-in-the-world/
-https://www.worldatlas.com/articles/the-10-busiest-cruise-ports-in-the-world.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Adams%E2%80%93On%C3%ADs_Treaty
adams apple 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
แอนดรูว์ คาร์เนกี เจ้าของธุรกิจเหล็ก ผู้เคยรวยสุด ในสหรัฐอเมริกา /โดย ลงทุนแมน
ทุกวันนี้ “เหล็ก” ถือเป็นส่วนสำคัญ สำหรับสิ่งก่อสร้างแทบทุกชนิด
รู้หรือไม่ว่า การใช้เหล็กเป็นโครงสร้างในทุกวันนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากชายที่มีชื่อว่า “แอนดรูว์ คาร์เนกี”
ในยุคนั้น เขาเป็นเจ้าของธุรกิจเหล็กและได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา
แล้วเรื่องราวของบุรุษเหล็กคนนี้ เป็นอย่างไร ?
วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
แอนดรูว์ คาร์เนกี เกิดที่เมืองดันเฟิร์มลิน ประเทศสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร ในปี 1835
ในวัยเด็กเขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เนื่องจากครอบครัวของเขานั้นมีฐานะยากจน
ครอบครัวของเขาก็ได้อพยพไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคาร์เนกีต้องออกไปช่วยทำงานหาเงินตั้งแต่ยังเด็ก
เริ่มต้นจากการเป็นเด็กส่งเอกสารในบริษัทโทรเลขแห่งหนึ่งในเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้รับค่าจ้าง 2.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์
โดยตลอดการทำงานเขาได้ทำตามคำแนะนำของลุงของเขา คือ
- การทำงานด้วยความตั้งใจ
- จดจำสถานที่ทางธุรกิจและบุคคลสำคัญ ในเมืองพิตต์สเบิร์ก ให้ได้ทั้งหมด
ด้วยวิธีนี้ทำให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งและเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมกับได้รู้จักคนมากมาย
จนกระทั่งวันหนึ่ง ความสามารถของเขา ก็ไปเตะตาของ ทอมัส สกอตต์ ผู้กุมบังเหียน The Pennsylvania Railroad บริษัทรถรางที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ที่ได้ชวนคาร์เนกี ให้มาทำงานร่วมกัน
ซึ่งนี่ถือเป็นช่วงที่เขาได้สะสมประสบการณ์ล้ำค่า
โดยสิ่งที่ได้จากการทำงานร่วมกับ ทอมัส สกอตต์ มี 2 อย่างคือ
1. หน้าที่การงานที่เติบโต
ด้วยอุตสาหกรรมรถไฟที่กำลังโตและความสามารถในการทำงานของเขา
ทำให้ แอนดรูว์ คาร์เนกี ในวัย 24 ปี ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ควบคุมรถไฟในทิศตะวันตก
ซึ่งก็ถือเป็นอาชีพที่มั่นคงในยุคนั้น
หากปรับค่าเงินเฟ้อแล้ว เขาได้รับเงินสูงถึง 43,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 1,400,000 บาทต่อปีเลยทีเดียว
2. รู้จักการสะสมความมั่งคั่ง
แอนดรูว์ คาร์เนกี ได้รู้จักคำว่า การลงทุน โดยหุ้นตัวแรกที่เขาซื้อคือหุ้น Adams Express
ซึ่งซื้อตามคำแนะนำของ ทอมัส สกอตต์ นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสนใจเรื่องการลงทุน
ด้วยหน้าที่การงานที่ก้าวหน้าควบคู่ไปกับการลงทุน ทำให้ความมั่งคั่งของ แอนดรูว์ คาร์เนกี ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
แล้ว แอนดรูว์ คาร์เนกี เริ่มธุรกิจของตัวเองตั้งแต่เมื่อไร ?
ในช่วงปี 1860 ถึง 1865 ซึ่งเป็นช่วงสงครามกลางเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา
ทำให้มีความต้องการเหล็กเพื่อใช้ในการสร้างอุปกรณ์ และอาคารต่าง ๆ
เมื่อ แอนดรูว์ คาร์เนกี เห็นโอกาสตรงจุดนี้ ทำให้เขาตัดสินใจก่อตั้งโรงผลิตเหล็กขึ้นมา จนในปี 1865 ได้กลายมาเป็น “The Keystone Bridge Company” ซึ่งเป็นบริษัทที่รับสร้างสะพาน รางรถไฟ และโครงสร้างเหล็กสำหรับอาคาร
และภายหลังจากสงครามยุติลง เขาได้ออกจากบริษัท The Pennsylvania Railroad เพื่อมาโฟกัสกับธุรกิจเหล็กอย่างเต็มที่
ด้วยความสัมพันธ์ของเขากับ ทอมัส สกอตต์ ก็ได้ทำให้บริษัท The Keystone Bridge ของเขาได้รับการจ้างงานจากบริษัท The Pennsylvania Railroad อยู่เป็นประจำ
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญอีกครั้งของแอนดรูว์ คาร์เนกี เกิดขึ้นเมื่อปี 1867
เมื่อบริษัท Keystone Bridge ของแอนดรูว์ คาร์เนกี ได้รับมอบหมายงานจากบริษัท The Pennsylvania Railroad ให้สร้างสะพานเดินรถไฟเชื่อมระหว่างฝั่งตะวันตกกับตะวันออก
ซึ่งต้องข้ามแม่น้ำมิสซิสซิปปี ที่มีระยะทางในการข้ามคือ 1 ไมล์ หรือประมาณ 1.6 กิโลเมตร
ที่บอกว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญก็เพราะว่าที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน..
โดยวัสดุที่เขาเลือกใช้ก็คือ “เหล็กกล้า” ซึ่งถือเป็นวัสดุที่แข็งแรงที่สุดในยุคนั้น
แต่ด้วยกระบวนการผลิตที่ยากจึงทำให้มีราคาที่แพงและการใช้งานก็ยังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายสำหรับการใช้โครงสร้างขนาดใหญ่ ส่วนมากจะเป็นเพียงใช้ในการสร้างสิ่งของชิ้นเล็ก
แต่ด้วยคุณสมบัติความแข็งแรงของเหล็กกล้า แอนดรูว์ คาร์เนกี ก็ได้ตัดสินใจที่จะใช้วัสดุดังกล่าวสร้างสะพานขึ้นมา
ในช่วงเริ่มต้น การก่อสร้างเต็มไปด้วยความทุลักทุเล ทั้งเรื่องความยากในการสร้างและต้นทุนที่บานปลาย
แม้จะใช้เวลาในการสร้างนานถึง 4 ปี
แต่ในที่สุดเขาก็สามารถสร้างสะพานสำเร็จ ซึ่งปัจจุบันก็คือสะพาน “Eads Bridge”
และด้วยความสำเร็จนี้เอง ทำให้ธุรกิจเหล็กของ แอนดรูว์ คาร์เนกี เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
ทำให้บริษัทเดินรถไฟต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยนมาใช้เหล็กในการทำรางมากขึ้น
อีกเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้อาณาจักรเหล็กของเขาเติบโต คือ
ในช่วงปี 1870 เป็นช่วงฟื้นตัวหลังจากสงครามกลางเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา
ผู้คนมากมายต่างเข้าไปหางานในเมืองใหญ่ เช่น ชิคาโกและนิวยอร์ก ทำให้เกิดการสร้างตึกระฟ้า และ อาคารต่าง ๆ มากมาย เป็นผลดีกับธุรกิจเหล็กของเขา เรียกได้ว่าตอนนั้นเป็นยุคที่รุ่งเรืองช่วงหนึ่งของเขาเลยก็ว่าได้ จนในปี 1892 เขาจึงได้มาก่อตั้ง “Carnegie Steel Company”
จนในปี 1901 เหตุการณ์ที่ทำให้เขาร่ำรวยขึ้นมากที่สุดได้เกิดขึ้น
เมื่อนายธนาคาร John Pierpont Morgan หรือผู้ก่อตั้งธนาคาร J.P. Morgan ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ต้องการที่จะครองตลาดเหล็กในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการซื้อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเหล็กให้ได้มากที่สุด
บริษัท Carnegie Steel ได้รับข้อเสนอสูงถึง 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในดีลการซื้อกิจการที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุคนั้น
หลังจากที่ John Pierpont Morgan สามารถซื้อบริษัท Carnegie Steel และรวบรวมบริษัทเหล็กอื่น ๆ ได้ตามที่ต้องการแล้ว
เขาก็ได้นำบริษัทที่รวบรวมได้ในครั้งนี้มาก่อตั้งเป็นบริษัท United States Steel Corporation หรือที่เราเรียกกันว่า U.S. Steel ซึ่งการควบรวมดังกล่าวก็ได้กลายมาเป็นการก่อตั้งบริษัทที่มีมูลค่าสูงถึง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นแท่นเป็นบริษัทพันล้านดอลลาร์สหรัฐแห่งแรกของโลก ซึ่งถ้าแปลงเป็นมูลค่าเงินปัจจุบันจะมีมูลค่าสูงถึง 43,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว
นอกจากนี้ การขายกิจการของแอนดรูว์ คาร์เนกี ก็ได้ทำให้เขากลายมาเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีรวยที่สุดของโลก ต่อจากจอห์น ดี. ร็อกกีเฟลเลอร์ เจ้าของอาณาจักรน้ำมันในยุคเดียวกัน
ในตอนนั้น แอนดรูว์ คาร์เนกี มีทรัพย์สินอยู่ที่ 380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินของเขาหลังปรับเงินเฟ้อมาถึงปัจจุบัน จะอยู่ที่ 372,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 12.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็น 2 เท่าของเจฟฟ์ เบโซส มหาเศรษฐีรวยสุดในยุคนี้..
ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อเดินทางมาถึงจุดสูงสุดของชีวิต แอนดรูว์ คาร์เนกี ไม่ได้เก็บความร่ำรวยไว้กับตัว
ในทางกลับกัน เขาก็ได้บริจาคทรัพย์สินเกือบทั้งหมดของตัวเองไปกับการทำการกุศลและบริจาค
โดยเงินบริจาคมหาศาลของเขาก็ได้กลายไปเป็นโครงการต่าง ๆ มากมาย เช่น
- ให้เงินสนับสนุนห้องสมุดในประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรือแม้แต่ในแอฟริกาใต้
รวมแล้วมากถึง 3,000 แห่ง
- ตั้งกองทรัสต์เพื่อให้เงินสนับสนุนมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง เช่น Carnegie Trust for the Universities of Scotland
- นอกจากนั้นยังสร้าง Carnegie Institute of Technology และ Mellon Institute of Industrial Research ซึ่งภายหลังได้รวมกันเป็น Carnegie Mellon University
เขาได้ทำการกุศลและบริจาครวมกันเป็นมูลค่าประมาณ 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 90% ของมูลค่าสินทรัพย์ของเขาในตอนนั้นเลยทีเดียว จนในปี 1919 แอนดรูว์ คาร์เนกี ได้เสียชีวิตลงในวัย 83 ปี
เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็ได้สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าเราจะมีต้นทุนชีวิตมาแบบไหน
เราก็สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน
อย่างแอนดรูว์ คาร์เนกี ที่แม้จะเริ่มจากการเป็นผู้อพยพและต้องเริ่มทำงานหาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาได้
นอกจากเรื่องของต้นทุนชีวิตแล้ว ก็ยังมีเรื่องของการแบ่งปันต่อเพื่อนมนุษย์
ซึ่งแอนดรูว์ คาร์เนกี ก็ถือเป็นหนึ่งในเศรษฐีที่ถูกยกย่องว่าเป็นผู้ใจบุญ
จากการที่เขาได้บริจาคทรัพย์สินส่วนตัวให้กับผู้อื่นอย่างมหาศาล
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้เอง
ก็ได้ทำให้เขาไม่ได้เพียงถูกจดจำแค่ว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศ
แต่เขายังถูกจดจำในฐานะ มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ
ที่ชื่อของเขายังคงถูกพูดถึง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Andrew_Carnegie
-https://www.investopedia.com/ask/answers/09/1-billion-market-cap.asp
-https://en.wikipedia.org/wiki/Eads_Bridge
-https://en.wikipedia.org/wiki/Carnegie_Mellon_University
-https://waymagazine.org/andrew-carnegie/
-https://www.stlouis-mo.gov/government/departments/planning/cultural-resources/city-landmarks/eads-bridge.cfm
-https://en.wikipedia.org/wiki/Keystone_Bridge_Company
-https://en.wikipedia.org/wiki/Carnegie_Steel_Company
-https://en.wikipedia.org/wiki/U.S._Steel
-https://www.entrepreneur.com/article/317827
-https://en.wikipedia.org/wiki/John_D._Rockefeller
-https://www.therichest.com/rich-powerful/wealthiest-people-all-time-adjusted-inflation/
-https://en.wikipedia.org/wiki/J._P._Morgan
-https://www.blockdit.com/posts/5c5b37970e48bf1d8358b520
adams apple 在 The Adams Youtube 的最佳解答
PERHATIAN!
Video ini mengandung kilatan cahaya terang yang dapat mempengaruhi mereka yang memiliki sensitivitas terhadap cahaya.
Video Musik "Esok" menyajikan banyak eksperimentasi warna dan cahaya yang direkam dengan cara tidak biasa.
Lewat "Esok", The Adams hendak bertutur tentang hidup, Pengambilan gambar yang berputar searah jarum jam serupa simbol dari dunia yang berputar. Gelap, dirasa cocok dengan kondisi pandemi saat ini.
Tapi disetiap gelap, ada pendar cahaya yang selalu menyala. Dia adalah kabar suka cita yang sudah saatnya diserukan pada dunia. (irfanpopish)
TIM PRODUKSI VIDEO
Sutradara : Gigih Suryo Prayogo
Produser : The Adams
Produser Pelaksana : Mohamad Awaludin Syafri
Pengawas Produksi : Saleh Husein
Penata Kamera :
- Unggul Mahadi Setiadi
- Gigih Suryo Prayogo
- Erlangga
Pengawal Kamera : Ryan Hardian Rusli
Penata Cahaya : Gigih Suryo Prayogo
Penata Artistik :
- Al Kautsar Eddy Jakoeb
- Jacobus Dimas
- Silvia Diah Cipi
Pembangun Properti :
- Subiyantoro
- Duriani
- Iman Setiawan
Desainer : Kemal Reza Gibran
Penata Cahaya Visual : Yudhistira D. P. S.
Muralis : Fajri Nikola Rialdi
Penyunting Gambar: 0
Penata Musik :
- Ario Hendarwan
- Arief Rinaldi
Penata Suara Produksi : Pandu Fathoni
Pembantu Umum :
- Bagus Abimanyu
- Nunu Nugraha
Terima kasih kepada:
- Oscart Firdaus
- Iqbal Mawardi
- Nala Satmowi
- Fandi Wirahadi Setiadi
- Reo Rengga
Didukung oleh:
- Belakang Teras Records
- Studio Teras Belakang
- Mampanginc
Lagu ini bisa di dengar di :
Spotify: https://open.spotify.com/track/0iupnnNgQ5oymuJmtOBnPZ
Apple Music: https://music.apple.com/id/album/esok/1455877692?i=1455877948
Deezer: https://deezer.page.link/QAifzkGKJ3xcPAd87
Follow The Adams :
Instagram: https://www.instagram.com/theadamsband/
Twitter: https://twitter.com/theadamsband
Facebook: https://www.facebook.com/theadams
adams apple 在 Joseph Prince Youtube 的最讚貼文
“Jesus Christ fully met all the claims of righteousness and holiness of a thrice holy God upon our lives. He met it all. He paid it all!” – Pastor Joseph Prince
Check out the teaching that inspired our latest single in this special video. Jesus’ finished work at the cross, His one sacrifice has paid the ultimate price for our sins—past, present, and future. And this is a promise that stands forevermore. Amen? ?
Available everywhere now:
Apple Music - https://apple.co/33yn4wJ
Spotify - https://spoti.fi/3iHanWD
Google Play - https://bit.ly/35KZNKK
Amazon - https://amzn.to/2Rws2ED
Connect with Decibel Worship:
https://facebook.com/decibelworship
https://instagram.com/decibelworship
https://twitter.com/decibelworship
Don’t forget to subscribe: https://bit.ly/35fVBid
Find chord charts, lyrics, and more at: http://bit.ly/decibelworship
Words & Music by Michael Davis and Steven Adams
CCLI: # 7159083
Verse 1
Blessed Savior,
Prince of Peace
The One who bore our sin
and shame on a tree
Bled and died at Calvary
Now we reign in life forever,
we are free
Chorus
And we sing Holy,
Holy are You Lord
All the glory to the King
we’re longing for
We cry worthy, worthy
and bow before
All the glory to the Lamb
forevermore
Verse 2
There is Hope
and there is Life
When we look upon
the cross of Jesus Christ
Where all our guilt
on Him was laid
He received our punishment
our debt He paidBridge
You paid it all,
death on the cross
Life from the grave,
and forever You will reign
Verse 3
As we look
to His return
Let His praise be on our lips
His Name alone
For this life
is just the start
Oh His Grace will
lead us straight into His arms
Final Chorus
And we’ll sing Holy,
Holy are You Lord
All the glory to the King
adams apple 在 咖喱張 Curry Cheung Youtube 的最佳貼文
⭐️ 訂閱我 - http://bit.ly/SubscribeCurry
另一位男生的頻道:@Adams Ho
✔ 個 人 I N S T A G R A M : http://bit.ly/NpHeQl
✔ 插 畫 I N S T A G R A M : http://bit.ly/currycheungig
✔ F A C E B O O K : http://bit.ly/currycheungblog
《咖喱張の關鍵字》
日本|插畫|香港|潮流|穿搭|化妝|旅行|日文|廣東話
裸辭|創業|畫家|garycheung|手作|原創
試食|勵志|藝術|設計|跳舞|唱歌|惡搞|購物|開箱
KPOP|韓國|Vlog|Pepe蛙|iPhone|Apple|Uniqlo|壽司|太陽花田
adams apple 在 Adams Apple - Home | Facebook 的美食出口停車場
Message. Eunice Christian Academy. Private School. 761 people like this. Like. Liked. Message. Adams Apple, profile picture ... ... <看更多>