[新聞] 訓練小牛定點上廁所 科學家新招救地球 https://disp.cc/b/163-e6lo 『只要能成功在「廁所」中蒐集到 80%的牛隻尿液,就可以減少 56%的氨排放量』『雖然氨和氣候變遷並沒有直接的關係,但當氨進入土壤後,土壤內的微生物卻會將其轉化為「一氧化二氮」(nitrous oxide,N2O),也就是僅次於甲烷和二氧化碳的第三大溫室氣體。而且除了溫室氣體以外,牛的排泄物還會造成土壤和當地水道的汙染...』
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「timesofindia」的推薦目錄:
- 關於timesofindia 在 PTT Gossiping 批踢踢八卦板 Facebook 的精選貼文
- 關於timesofindia 在 The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก Facebook 的最讚貼文
- 關於timesofindia 在 The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก Facebook 的最讚貼文
- 關於timesofindia 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳貼文
- 關於timesofindia 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於timesofindia 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
timesofindia 在 The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก Facebook 的最讚貼文
*** จับตาจีนในอัฟกานิสถาน ***
การล่มสลายของรัฐบาลอัฟกันที่โปรตะวันตก ณ กรุงคาบูลเมื่อกลางเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสงามของจีนที่จะแผ่อิทธิพลไปในเอเชียกลาง แต่ขณะเดียวกันก็เสี่ยงต่อความไม่มั่นคง โดยเฉพาะในภูมิภาคซินเจียงและภัยคุกคามการก่อการร้ายแก่อัฟกานิสถานและปากีสถาน
อย่างไรก็ตาม การขึ้นสู่อำนาจของตาลีบันจะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะการพัฒนาการขุดเจาะทรัพยากรแร่ธาตุในอัฟกานิสถาน ก่อนหน้านี้กลุ่มบริษัทเหมืองแร่ของจีนประมูลได้สัมปทานมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในแหล่งทองแดงใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกที่เมสไอนัก (Mes Aynek)
จีนสัญญาจะสร้างโรงไฟฟ้า, ทางรถไฟและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ทว่ายังเริ่มต้นไม่ได้ทันทีเพราะการสู้รบระหว่างรัฐบาลอัฟกันกับตาลีบัน ทั้งนี้จีนยังหมายตาแหล่งธาตุหายาก (rare earth) มูลค่า 1-2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย ซึ่งนับเป็นวัตถุดิบยุทธศาสตร์ในสงครามชิงเจ้าเทคโนโลยีในอนาคต
อีกด้านหนึ่งจีนมีแผนเชื่อมโยงอัฟกานิสถานกับเส้นทางสายไหมใหม่ที่พัฒนาเส้นทางการค้าทางบกไปยังทิศตะวันตก ...แม้ปัจจุบันอัฟกานิสถานยังอยู่ไกลจากคำว่าพร้อม
นักวิเคราะห์มองว่าการแผ่อิทธิพลนี้จีนอาจเป็นเหมือนกับโซมาเลีย ซึ่งจีนเข้าไปลงทุนในพื้นที่ที่ยังมีความไม่สงบด้วยคติ “ความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง” จนปัจจุบันถือได้ว่าโซมาเลียเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมใหม่ทางทะเลในทวีปแอฟริกาไปเรียบร้อยแล้ว
ความสำเร็จของจีนจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่ออัฟกานิสถานมีความมั่นคงเสียก่อน นอกจากนี้จีนยังต้องคำนึงถึงภัยจากการก่อการร้ายที่อาจลุกลามเข้าสู่ปากีสถานและเอเชียกลางซึ่งเป็นพื้นที่ที่จีนเข้าไปลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะในแถบระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถานซึ่งก่อนหน้านี้ลงทุนไปแล้วมูลค่า 63,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนหน้านี้ นายหวังอี้ รมว. ต่างประเทศจีน ได้ต้อนรับนายอับดุล กานี บาราดาร์ ผู้นำการเมืองของตาลีบัน และได้แจ้งข้อเรียกร้องของจีนให้รักษาเสถียรภาพและยุติภัยคุกคามการก่อการร้าย โดยหวังว่าตาลีบันจะใช้ “นโยบายอิสลามสายกลาง” ด้านตาลีบันเองก็ตอบรับจีนด้วยความกระตือรือร้น
จีนไม่มีเจตนาที่จะส่งทหารเข้าไปในอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตามจีนก็ยังไม่เชื่อใจมากนักคำสัญญาของตาลีบันที่ว่าจะไม่ร่วมมือกับกลุ่มก่อการร้าย และยังมีการระวังสถานการณ์ในซินเจียงอยู่
แม้ว่าสื่อจีนจะรีบหยิบประเด็นที่สหรัฐถอนทหารออกไปอย่างทุลักทุเลมาตีข่าวความพ่ายแพ้ของสหรัฐ แต่ตัวจีนเองก็ไม่แน่ใจว่าจะคุมอัฟกานิสถานอยู่หรือไม่ สังเกตจากการที่นายหวังอี้ได้หารือกับนายแอนโทนี บลิงเคน รมว. ต่างประเทศสหรัฐ ว่าจีนเต็มใจร่วมมือกับสหรัฐในประเด็นอัฟกานิสถานต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายหวังอี้เตือนว่า หากสหรัฐต้องการร่วมมือกับจีนจะต้อง “ไม่เหนี่ยวรั้งและสร้างความเสียหายต่อสิทธิและผลประโยชน์โดยชอบธรรมของจีน”
::: อ้างอิง :::
- apnews (ดอต) com/article/joe-biden-business-china-afghanistan-2079e85db59e3242ce6e869fe0a9d4e3
- scmp (ดอต) com/week-asia/opinion/article/3145651/understand-chinas-plans-afghanistan-take-look-somalia
- thediplomat (ดอต) com/2021/08/chinas-political-calculations-and-potential-options-in-afghanistan/
- timesofindia (ดอต) indiatimes (ดอต) com/world/south-asia/china-positioning-itself-as-international-partner-to-taliban-in-temptation-of-rare-earth-materials-in-afghanistan-nato-commander/articleshow/85535924.cms
timesofindia 在 The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก Facebook 的最讚貼文
*** ซวยซ้ำซวยซ้อน! แพทย์อินเดียพบผู้ป่วยโควิด-19 ติดเชื้อราเหลือง ขาว ดำในคนเดียว ***
อินเดียยังวิกฤติหนัก! หลังเผชิญการระบาดของโควิด-19 แล้วยังเผชิญโรคแทรกซ้อนร้ายแรง คือ ราดำ ราขาว ซึ่งมีอัตราการตายสูงถึง 50% และล่าสุดพบราเหลือง ซึ่งอันตรายกว่าราดำและราขาวอีก!
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2021 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดร. บีพี เตียจี แพทย์ด้านโสตศอนาสิกวิทยาของโรงพยาบาลฮาร์ช ในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย ระบุว่าพบผู้ติดเชื้อราเหลืองรายแรกนี้เป็นชายวัย 45 ปี สังเกตพบว่ามีอาการหน้าบวมข้างหนึ่ง จนไม่สามารถลืมตาได้ และมีเลือดไหลออกจากจมูกในช่วงกำลังพักฟื้นจากการติดเชื้อโควิด-19
แพทย์ได้ตรวจพบว่านอกจากเขาจะติดเชื้อราสีเหลืองแล้ว เขายังติดเชื้อราดำและราขาวอีกด้วย โดยเชื้อราเหล่านี้ล้วนเป็นโรคแทรกซ้อนรุนแรงที่พบในผู้ป่วยหรือผู้ที่พึ่งหายจากโควิด-19 ซึ่งโดยปกติแล้วจะพบเชื้อราเหลืองได้ในสัตว์เลื้อยคลาน และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมพบเชื้อราเหลืองในร่างกายมนุษย์
นอกจากอาการที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว แพทย์ยังเสริมอีกว่าผู้ป่วยรายนี้ยังมีอาการ ภาวะโลหิตเป็นพิษ จึงส่งผลให้อาการป่วยฟื้นฟูช้า
::: อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อรา? :::
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้คนติดเชื้อรา ได้แก่ มีออกซิเจนต่ำ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดสุขอนามัย ไม่สะอาด กินอาหารที่มีสารปนเปื้อน ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย และยากดภูมิเป็นระยะเวลาติดต่อกันนาน ในภาวะโรคระบาดโควิด 19 ในอินเดียนั้น ได้ปรากฏผู้มีอาการป่วยแทรกซ้อนจากเชื้อรา เพราะใช้ยาที่มีส่วนผสมเสตียรอยด์และยากดภูมิ ทำให้ถึงแก่ชีวิตเป็นจำนวนมาก
::: เชื้อรา ดำ ขาว เหลือง เป็นอย่างไร? :::
1. เชื้อราดำ
เชื้อราดำมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “มิวคอร์ไมโคซิส” เป็นเชื้อราที่กำลังระบาดหนักที่สุดในอินเดียตอนนี้ พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 10,000 ราย มีอัตราการตายสูงถึง 50%
ดร. แรนดีป กูเลเรีย ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ออลล์อินเดีย (AIIMS) ซึ่งเป็นสถาบันสุขภาพชั้นนำของอินเดียระบุว่า สาเหตุหลักของการติดเชื้อ “มิวคอร์ไมโคซิส” ในผู้ป่วยโควิด-19 มาจากการใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ เช่นยาเด็กซาเมทาโซน (Dexamethasone) ซึ่งมีฤทธิ์ในการลดอักเสบและกดภูมิคุ้มกัน
มักใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการหนัก และโรคเบาหวาน ดังนั้นผู้ป่วยโควิด-19 ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ป่วยโรคเอดส์ ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยากลุ่มสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อรานี้ ซึ่งส่งผลต่อใบหน้า จมูก ตา ปาก ปอด และสมอง อาการคือ มีไข้ อาเจียน เจ็บหน้าอก ใบหน้าชาข้างใดข้างหนึ่ง ปวดศีรษะ ปวดฟัน ตาบวมแดง จมูกและลิ้นเปลี่ยนสี มีแผลสีดำในปาก หายใจลำบาก ไอเป็นเลือด มองภาพเบลอ ควรได้รับการรักษาทันที ถ้าผู้ป่วยได้รับการรักษาช้าจะส่งผลให้สูญเสียการมองเห็น และเสียชีวิตได้
2. เชื้อราขาว
เชื้อราขาวนี้ ถ้าเทียบกับเชื้อราดำแล้วจะพบเคสติดเชื้อน้อยกว่า แต่รุนแรงกว่าเชื้อราดำ สาเหตุหลักของการติดเชื้อราขาวคือมีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดสุขอนามัย ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคมะเร็ง หรือผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยากลุ่มสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อรานี้ ซึ่งส่งผลต่อเลือด หัวใจ ปอด สมอง ตา กระดูก และส่วนอื่นๆภายในร่างกาย อาการคือไอ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ปวดศีรษะ มีไข้ ระดับออกซิเจนต่ำ ท้องเสีย มีจุดดำบริเวณปอด มีเชื้อราขาวในช่องปาก มีบาดแผลบริเวณผิวหนัง ควรได้รับการรักษาทันที ถ้าผู้ป่วยได้รับการรักษาช้าจะส่งผลให้เสียชีวิตได้
3. เชื้อราเหลือง
ถ้าเทียบกับเชื้อราดำและเชื้อราขาวแล้ว เชื้อราเหลืองอันตรายมากที่สุด สาเหตุหลักของการติดเชื้อราเหลืองคือ สถานที่และสภาพแวดล้อมไม่สะอาด มีความชื้นสูง อากาศถ่ายเทไม่สะดวก การกินอาหารค้างคืน ท้องผูก และการกินยากลุ่มสเตียรอยด์ติดต่อกันนาน
เชื้อราเหลืองส่งผลต่อร่างกายรุนแรงกว่าเชื้อราดำและเชื้อราขาว เนื่องจากเมื่อติดเชื้อราดำและขาวสามารถสังเกตอาการได้ง่ายจากการมองเห็น แต่เชื้อราเหลืองมีลักษณะที่ซับซ้อนและส่งผลร้ายแรงต่อระบบภายในร่างกายเร็วกว่า จึงอาจทำให้วินิจฉัยล่าช้า จำเป็นต้องรีบตรวจแต่เนิ่นๆเพื่อป้องกันไม่ให้อวัยวะภายในล้มเหลวจนเซลล์ตาย
อาการคือเบื่ออาหาร เฉื่อยชาเซื่องซึม น้ำหนักลด เบ้าตาลึก เนื่องจากร่างกายขาดสารอาหาร และอวัยวะล้มเหลว แผลหายช้ากว่าปกติ แผลเป็นหนอง และมีเนื้อตายเฉพาะส่วน
::: สรุป :::
ดร.บีพี เตียจี แพทย์ด้านโสตศอนาสิกวิทยาของโรงพยาบาลฮาร์ช ในเมืองกาเซียบัด รัฐอุตตรประเทศของอินเดียกล่าวว่า เชื้อราแทรกซ้อนที่กำลังระบาดหนักเหล่านี้รุนแรงทำให้อันตรายถึงตายได้ก็จริง แต่สามารถรักษาหายได้ มันไม่ใช่โรคติดต่อเหมือนเชื้อโควิด-19 มันจึงไม่สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้
วิธีการรักษาเชื้อราเหล่านี้คือแพทย์จะให้ฉีดยา แอมโฟเทอริซิน บี ก่อนในเบื้องต้น เป็นยาต้านเชื้อรา ถ้าเคสหนักจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดด่วน ในบรรดาเชื้อราทั้งสามที่กล่าวมาข้างต้นนี้เชื้อราเหลืองใช้ระยะเวลาในการสมานแผลนานสุดและมีอาการร้ายแรงมากที่สุด
ภาพแนบ: ผู้ป่วยด้วยเชื้อรา ได้รับการตรวจวินิจฉัย
::: อ้างอิง :::
timesofindia indiatimes ดอต com/life-style/health-fitness/health-news/yellow-fungus-cases-reported-in-up-know-why-it-can-prove-more-dangerous-than-black-fungus-white-fungus/photostory/82905030.cms
ndtv ดอต com/india-news/yellow-fungus-amid-report-of-yellow-fungus-case-aiims-chief-warns-of-confusion-2448423
indianexpress ดอต com/article/cities/delhi/three-fungal-infections-in-one-patient-in-ghaziabad-officials-7328715/