𝗡𝗲𝘁𝗳𝗹𝗶𝘅 𝗮𝗻𝗱 𝘀𝘁𝘂𝗱𝘆 - Vừa xem phim vừa học nha 😗
Mình hay xem phim trên Netflix vì nó đa dạng các thể loại. Trong khi xem phim thì mình cũng thường xuyên chuyển đi chuyển lại giữa 2 ngôn ngữ (𝑺𝒘𝒊𝒕𝒄𝒉 𝒕𝒉𝒆 𝒍𝒂𝒏𝒈𝒖𝒂𝒈𝒆𝒔) để xem họ dịch cái từ này sang Tiếng Việt thế nào và ngược lại 🤔
Để không ngắt mạch của bộ phim thì mình sẽ chụp màn hình (𝑺𝒄𝒓𝒆𝒆𝒏𝒔𝒉𝒐𝒕) lại rùi sau khi xem xong sẽ note lại những từ, cụm từ, những câu hay ho mà mình có thể học được 👍🏻
👉🏻 Nếu đam mê những Series dài tập thì đây sẽ là một số gợi ý của mình dành cho mọi người:
- Star Trek: Discovery
- Emily in Paris
- Chilling Adventures of Sabrina
- Bridgerton
- Stranger things
- Snowpiercers
- The Witcher
- The Haunting Of Hill House
👉🏻 Dành cho những ai chỉ thích xem phim thì đây nha:
- Johnny English
- Catch me if you can
- 12 Strong
- The Intern
- Finding Ohana
- To All The Boys I Loved
- The Martian
✅ Nếu muốn học thêm, thì có thể lên YouTube xem những bản cắt ngắn, những cảnh hay. "tên phim + scenes/ best scenes". Xem Behind the scene và Interview dàn cast cũng zui áaa 💓
✅ Đọc comment của khán giả và review phim trên các trang phim quốc tế nhá ❤️
Góp vui với cả nhà list những bộ phim iu thích của mình để tranh thủ mùa dịch vừa giải trí vừa học được thêm chút gì đó Tiếng Anh nha🥰
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過113萬的網紅คอเป็นหนัง,也在其Youtube影片中提到,***โดเนทเป็นกำลังใจในการทำคลิปให้ผมได้นะครับขอบคุณมากคับ *True Wallet (ขึ้นชื่อ) - 0881558463 *พร้อมเพย์ (แจ้งทางเพจด้วย) - 0826694927 *True Money (แจ...
the martian netflix 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳貼文
The Martian (8.5/10)
ชอบ The Martian ตรงที่มันเป็นไซไฟที่สมจริงมากจนจับต้องได้ว่าสามารถทำได้จริง ด้วยความที่เทคโนโลยีในหนังทั้งหมดมันมีอยู่จริง แถมทฤษฎีและภาคปฏิบัติต่าง ๆ ยังน่าเชื่อถือในความเป็นไปได้ และคนเขียนบทยังเก่งในการทำให้เรื่องฟิสิกส์วิทยาศาสตร์ฟังดูยุ่งยากให้เข้าใจง่าย ทั้งหมดนี้มาในรูปแบบหนังมนุษย์ติดดาวอังคารต้องเอาตัวรอดหาทางกลับโลกที่สนุกในความสมจริงคู่ควรกับการยกย่องให้เป็นไซไฟชั้นเลิศ
-------------------------------
หนังเล่าถึงภารกิจสำรวจดาวอังคารของ NASA ซึ่งได้เกิดอุบัติเหตุทำให้ 'มาร์ค วัทนี่ย์' (Matt Damon) นักพฤกษศาสตร์ติดค้างอยู่บนดาวอังคารโดยที่เพื่อนร่วมทีมเข้าใจว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว เนื้อเรื่องต่อจากนั้นทั้งหมดจึงเล่าถึงการพยายามยื้อเวลาชีวิตบนดาวอังคารจาก 1 เดือนเป็นมากกว่า 1 ปี พร้อมกับหาทางติดต่อขอความช่วยเหลือจาก NASA เพื่อหาความเป็นไปได้ในการเดินทางกลับโลกมนุษย์
.
คู่ชกที่ใกล้เคียง The Martian ที่สุดคงหนีไม่พ้น Gravity ซึ่งเป็นหนังไซไฟอวกาศที่พูดถึงการเอาตัวรอดเหมือนกัน เพียงแต่ Gravity ใช้ลักษณะกึ่งสมจริงทางวิทยาศาสตร์มาทำเป็นแนวทริลเลอร์ระทึกขวัญ และโฟกัสอยู่ที่ตัวละครเดียวไร้การช่วยเหลือจากส่วนอื่น ๆ ส่วน The Martian ใช้ความสมจริงทางวิทยาศาสตร์ในขั้นที่จริงยิ่งกว่ามาทำเป็นแนวเอาตัวรอดที่ต้องตั้งต้นตั้งแต่การปลูกมันฝรั่งประทังชีวิตตลอดจนต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากทีมงานที่มีความชำนาญแตกต่างกันเพื่อหาทางกลับโลกให้ได้ ซึ่งทั้งสองเรื่องก็ต่างมีดีในแบบของตัวเองคือ Gravity = sci-fi/thriller ส่วน The Martian = hard sci-fi/adventure
.
หนังสามารถผสมความเป็นไซไฟเนื้อหาสมจริงเข้ากับแนว survival ได้ดีมาก ๆ การหยอดอุปสรรคต่าง ๆ มาเพิ่มความยากและเปลี่ยนทางเลือกในการกลับสู่โลกมันทำให้หนังดูสนุกขึ้นและยิ่งต้องเอาใจช่วยตัวละคร อันทำให้เราได้เห็นศักยภาพของการทำงานเป็นทีมที่ต้องพึ่งพาความชำนาญของแผนกต่าง ๆ
.
ค่อนข้างชื่นชมการออกแบบคาแรคเตอร์ 'มาร์ค วัทนี่ย์' ให้มีอารมณ์ขันในการพูดถึงสถานการณ์ยากลำบากที่ต้องเผชิญบนดาวอังคาร จุดนี้เองได้ลดทอนอารมณ์หนังเอาตัวรอดที่ฟังดูเคร่งเครียดให้ดูสดใสขึ้นจากการมองโลกแง่ดีที่ตั้งอยู่บนความหวังและความเชื่อในความสามารถของตัวเองและทีมงาน NASA ในการพาตัวเขากลับสู่โลก (บางทีก็แอบคิดว่าวัทนี่ย์น่าจะเกรียนพอสมควร)
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Netflix: https://www.netflix.com/watch/80058399
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์ได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb
#หนังโปรดของข้าพเจ้า
the martian netflix 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳解答
Daredevil ซีซั่น 1 (สามารถดูได้ใน Netflix)
• โชคดีที่ดูหลัง Jessica Jones (เกรด A-) ไม่งั้นเราคงไม่ดู JJ แน่นอน คือ Daredevil มันธรรมดามากทั้งธีมพระเอก vs. ตัวร้าย และการดำเนินเรื่องที่ธรรมดาค่อนไปทางลบ จริง ๆ JJ ก็ดำเนินเรื่องประมาณนี้แต่อย่างน้อยธีมเรื่องผู้หญิงที่ยังหวาดระแวงจากเพศชายที่คอยบงการชีวิตเธอ เหมือน The Invisible Man ที่มาเป็นธีมมนุษย์ล่องหนก็ยังเจ๋งพอให้เชียร์ดู
• ถ้าเมืองไทยมีงานแฟนซีหรือฮาโลวีน คิดว่าจะแต่งเป็น Daredevil ก่อนมีชุดแดง พอใส่ชุดดำทั้งตัวมีหน้ากากปิดตาง่าย ๆ แต่ยังมีเอกลักษณ์แล้วคูลมาก
• อย่างฝั่งจักรวาลหนังมาร์เวลยังมีความซับซ้อนเรื่อง privacy vs. security ซึ่งดูอัพเดทตามยุคสมัย แต่ Daredevil ยังพูดเรื่องความดีความชั่วที่มองไปตอนปี 2015 ก็ตกยุคไปแล้ว ทั้งที่ประเด็นแข็งแรงกว่าอย่าง in-laws vs. outlaws ยังน่าขยี้จริงจังมากกว่า
• วิลสัน ฟิสก์ เป็นตัวร้ายที่ขาดมิติอย่างสิ้นเชิง ในยุคที่ใคร ๆ ก็บอกตัวเองเจตนาดี แต่กระบวนการไปสู่เป้าหมายนั่นแหละคือตัวบ่งชี้ความน่าเชื่อถือ ทั้งฟิสก์และเมอร์ด็อค คือศาลเตี้ยที่ดึงกระบวนการยุติธรรมมาให้ตัวเองตัดสิน แต่อย่างน้อยเมอร์ด็อคยังมีเส้นแบ่งที่จะไม่ล้ำข้ามไป และยอมรับกระบวนการตามกฎหมายมากกว่าให้ตัวเองเป็นคนพิพากษา
• อยากให้ฝั่งมาร์เวลจริงจังกับการออกแบบฉากแอ็คชั่นระยะประชิดมากกว่านี้แฮะ ดูมาหลายเรื่องยังไม่เจอแอ็คชั่นระดับน่ายกนิ้วชมเลย
• ฉากลองเทค e.p.2 จริง ๆ ดูมาหลายรอบแล้ว แต่พอมาดูของจริงในซีรีส์ก็ยังรู้สึกเจ๋งดี
• ฉากประเภท นางเอกโดนจับแต่กดโทรศัพท์โทรออกทำให้พระเอกไหวตัวทันนี่ยังพอเข้าใจได้นะ แต่พอคนร้ายได้ตัวไปแล้วไม่ทำร้ายนางเอกทั้งที่วางท่าโหดเชียวนี่ก็ลูกเกรงใจไปแหม่
• ชาร์ลีย์ ค็อกซ์ เป็นแคสต์ที่เหมาะกับบทมาก ทั้งในยามเป็นคนตาบอดธรรมดาและสวมหน้ากากปราบคนร้ายยามค่ำคืน
-------------------------------------
เกิดคดีฆาตกรรมในบ้าน 'แคเรน' (Deborah Ann Woll) โดยสภาพแวดล้อมบ่งชี้ชัดเจนว่าเธอเป็นฆาตกร แต่ 'แมตต์ เมอร์ด็อค' (Charlie Cox) ไม่เชื่อเช่นนั้น เขาจึงกล่อม 'ฟ็อกกี้' (Elden Henson) หุ้นส่วนทนายของตัวเองให้รับว่าความให้เธอ แล้วความจริงก็ปรากฎชัดเจนว่าเธอถูกป้ายสี ไม่นานนักคนที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมดก็ตายอย่างเป็นปริศนาและคดีก็ถูกลืมไป แต่เมอร์ด็อคยังคงให้ความสนใจกับความผิดปกติที่เกิดขึ้น จึงเริ่มสวมหน้ากากออกตามสืบคดีจากการไล่ซ้อมแก๊งรัสเซีย เช่นเดียวกับแคเรนที่ยังคงขุดคุ้ยหาทางเอาผิดบริษัทใหญ่ให้จงได้ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองเส้นทางย่อมมาบรรจบกันในที่สุด
.
เซ็ตติ้งของซีรีส์มันคือเหตุการณ์ต่อเนื่องจากหนัง The Avengers ในขณะที่จักรวาลหนังเล่นสเกลใหญ่เอเลี่ยมถล่มโลก ในจักรวาลซีรีส์ก็ย่อส่วนลงมาเล่าพื้นที่เล็ก ๆ คือเมืองที่ได้รับผลกระทบ และเป็นช่องทางให้แก๊งใต้ดินสร้างเครือข่ายอิทธิพลร่วมกัน คือ 'วิลสัน ฟิสก์' (Vincent D'Onofrio) ที่ชักนำให้แก๊งยาเสพติดจีน, นินจาญี่ปุ่น, และมาเฟียรัสเซีย มาทำงานโดยมีคนดูแลบัญชีร่วมกัน ซึ่งซีรีส์ก็เล่าแบบสืบสวนพื้นฐาน ให้เมอร์ด็อคเริ่มต้นจากศูนย์ เริ่มไล่ซ้อมจับโกหกแก๊งรัสเซีย แล้วขยายไปถึงตัวบงการใหญ่ขึ้น มีฉากบู๊นู่นนี่ เป็นการตามล่าแบบนอกกฎหมาย เพื่อจะส่งตัวร้ายไปรับโทษตามกฎหมาย
.
ประเด็นของ Daredevil ที่เราคิดว่าน่าสนใจจึงเป็นเรื่อง in-laws vs. outlaws ในยุคที่หนังศาลเตี้ยรุ่งเรือง จริง ๆ มันต้องย้อนไปถึงสมัยหนังคาวบอยนู่นเลย จนช่วงหลัง ๆ ก็เริ่มเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ คือกระบวนการทางกฎหมายมันไม่มีประสิทธิภาพในชีวิตจริง คนชั่วลอยนวลจากความผิด สะท้อนกลับมายังโลกสื่อต่าง ๆ ทั้งคอมมิค/หนัง/ซีรีส์ เกิดเป็นงานประเภทศาลเตี้ยตั้งตัวเป็นฮีโร่ผดุงความยุติธรรม ซึ่งในยุคแรก ๆ มันไม่มีความซับซ้อนมาก วางขาวกับดำชัดเจนโดยไม่เคยไปสำรวจด้านขาวว่ามีความดำปนเปื้อนหรือเปล่า แต่งานในยุคหลังเริ่มจะพูดถึงศาลเตี้ยไม่ต่างจากอาชญากร มันมีความขัดแย้งที่ชวนสำรวจ ชวนตั้งคำถามและฉุกคิดมากกว่า ซึ่ง Daredevil ไม่ได้วางตัวเองลึกซึ้งขนาดนั้น
.
Daredevil ยังคงพูดเรื่องความดีความชั่ว ตัวร้ายถูกนำเสนอมิติเดียวคือร้ายชัดเจน แต่ก็เป็นกระจกส่องกลับหาเมอร์ด็อคในอีกทาง เพราะเมอร์ด็อคต้องสำรวจตัวเองอยู่ตลอดว่าเขาจะยังคงศรัทธาในกระบวนการทางกฎหมายได้หรือไม่ ขาข้างหนึ่งเขาเป็นทนายความคือ in-laws ส่วนอีกขาก็สวมหน้ากากปกปิดตัวตนไล่กระทืบคนร้ายแบบ outlaws เขาต้องตั้งคำถามถึงวิธีเอาชนะวิลสัน ฟิสก์ ว่าจะล้ำเส้นที่ตัวเองขีดไว้เพื่อลงมือฆ่าได้เลยจบ ๆ ไป หรือจะทำได้แค่จับตัวส่งตำรวจไปขึ้นศาลเอาผิด การที่ซีรีส์วางน้ำหนักเล่าทั้งการขุดคุ้ยของแคเรนกับนักข่าว สลับไปกับการสวมหน้ากากยามค่ำคืนของเมอร์ด็อค จึงมีความสำคัญทั้งสองทางที่นำไปสู่บทสรุปของซีรีส์
.
ส่วนที่ชอบเป็นพิเศษคือซีรีส์มันเน้นย้ำเรื่องหลักฐานเอาผิดมาก ทั้งบทของ 'เบ็น อูริก' (Vondie Curtis-Hall) นักข่าวที่ย้ำเสมอว่าจะเขียนอะไรจากคำกล่าวลอย ๆ โดยปราศจากหลักฐานหรือแหล่งอ้างอิงยืนยันไม่ได้ หรือตัวเมอร์ด็อคเองที่จะแม้ตอนใส่หน้ากากจะสามารถยืนยันความผิดได้จากการฟังเสียงเต้นของหัวใจ หรือรู้ตัวว่าใครมันเลวมันชั่ว แต่สุดท้ายเขาก็ยังต้องหาทางพิสูจน์ หาหลักฐานมาเอาผิดเพื่อไปดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่ดี
.
โดยรวมแล้วคาดหวังว่ามันจะมีอะไรแตกต่างจากซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไปแบบ Jessica Jones ที่ดึงความสนใจเราได้ พอไม่มีแล้วลงเอยเป็นแค่ซูเปอร์ฮีโร่ธรรมดาทั่วไปเลยเฉย ๆ
Creator: Drew Goddard (เขียนบท The Martian, Cloverfield) (กำกับ The Cabin in the Woods)
13 Episodes (เฉลี่ยตอนละ 50 นาที)
B
#หนังโปรดxซีรีส์Netflix
the martian netflix 在 คอเป็นหนัง Youtube 的最佳解答
***โดเนทเป็นกำลังใจในการทำคลิปให้ผมได้นะครับขอบคุณมากคับ
*True Wallet (ขึ้นชื่อ) - 0881558463
*พร้อมเพย์ (แจ้งทางเพจด้วย) - 0826694927
*True Money (แจ้งทางเพจด้วย) - http://bit.ly/2mVhm5z
--------------------------------------------------------------------------------------
พร้อมเพย์,ทรูมันนี่จะชื่อไม่ขึ้นชื่อต้องแจ้งทางเพจคอเป็นหนังด้วยน้า
--------------------------------------------------------------------------------------
เป็นการรีวิวสไตล์บ้านๆของคนชอบดูหนังคนนึงนะครับ ถ้ามีข้อมูลผิดพลาดหรือพูดอะไรไม่ถูกต้องไม่ถูกใจต้องขออภัยด้วยกันไวด้วยนะจ๊ะ. . ....
ติดต่องานรีแอ็คชั่น+โฆษณษณาอื่นๆต่อติดต่อได้ทางเพจ https://www.facebook.com/KorPenNang/
#คอเป็นหนัง #คอเป็นหนังรีวิว
the martian netflix 在 จดอ - JUSTดูIT. Youtube 的最讚貼文
หากคุณคิดว่า เป็น “คนรวย” นั้นมีแต่เรื่องดีๆ เราอยากให้คุณคิดใหม่อีกหน! เพราะวันนี้ #จดอ #JUSTดูIT จะพาคุณมาพบกับเรื่องจริงของตระกูลอภิมหาเศรษฐีล้วนล้นฟ้า ที่ต้องพบกับชะตากรรมระทึก!
[ ALL THE MONEY IN THE WORLD ฆ่า-ไถ่-อำมหิต 22 กุมภาพันธ์ ในโรงภาพยนตร์ ]
ชมรายการ Live คุยหนังแบบสดๆ ของพวกเราได้บนแอพฯ VOOV ดาวน์โหลดเลย! http://m.onelink.me/dfd4a7bc
สนับสนุนรายการ JUSTดูIT. https://www.patreon.com/JUSTDOOIT