還記得前陣子,Q老師去做眼睛雷射嗎?👀
對!超多人敲碗的眼睛雷射經驗分享文來了~🤗
今天要來跟大家分享我的眼睛雷射過程與術後感想
隨著科技的進步,其實眼睛雷射現在也分很多種
👉而這次我做的是「SMILE全飛秒近視雷射」
選擇的院所是諾貝爾眼科近視老花雷射中心由經驗豐富的張朝凱醫師親手操刀👨🏻⚕️
🌟為什麼選擇SMILE全飛秒近視雷射?
SMILE全飛秒全名為SMall Incision Lenticule Extraction「微創角膜透鏡萃取」,利用全飛秒雷射在角膜表面下方掃瞄出如隱形眼鏡般的超薄角膜,稱之「角膜透鏡」,醫師將依個人狀況客製化角膜透鏡的大小與厚度,透過微小切口取出角膜透鏡,改變角膜弧度,改善近視的突出角膜或散光的不規則角膜,使光線正確聚焦於視網膜,近視/散光都可以矯正,並保持護角膜表面完整性,縮短角膜與視力的恢復期,同時維持角膜與視力的穩定度。
聽不懂沒關係….重點就是SMILE的傷口是所有近視雷射手術中最小的!大約2 ~ 4mm,減少角膜神經受損,降低感染率,減少乾眼的問題,且術後恢復快,隔天立刻可回復正常作息,大大降低手術的各項併發症,安全性很高。
🐸回憶手術當天,其實真的蠻緊張,手術室採開放式,完完全全可以從外面玻璃外看到裡面的治療狀況,看到覺得很可怕,但實際上…手術真的沒有想像中的那麼可怕!?
手術時間超級短,單眼雷射不到30秒就完成,兩眼一下子就做完,而且因為有滴麻藥,所以完全不會痛,大概躺上去不到10分鐘就結束了,非常快速!做完之後眼睛感覺不會痛,但就是微微脹感&滿滿水霧感,看東西霧霧的樣子。
術後建議早點回家休息,接著也是大家很關心的術後修復期
以下是診所建議📝
🔖術後建議外出應配戴護目鏡(透明或墨鏡) >>防塵、防碰撞、防曬
🔖醫師會開眼藥水,請一定要乖乖照時點,防止感染、幫助恢復
🔖術後須至少回診3次:隔天、1週後、數月後配合回診檢查
🔖術後1週內避免眼睛碰水
🔖術後1週內避免游泳、桑拿、眼妝
🔖術後2週內避免長時間近距離用眼
🔖前3天睡覺要帶硬式眼罩,以免睡著時不自覺揉眼睛
基本上,術後的照顧沒有想像的麻煩,最痛苦的應該是眼睛避免碰水這件事,就是不能很豪邁的洗臉跟洗頭……😅
◆術後隔天👉其實視力已恢復約8成!遠處都看得蠻清楚的,但近看就還是有點水霧感~不舒服的感覺也幾乎消退了,眼睛部分,前三天眼睛覺得比較乾,而且有微微的異物感,尤其是看太久3C會特別酸&乾……所以真的要盡量避免長時間看3C產品…
💡至於,術後到底能不能運動? 🏃🏻♀️
其實也不是不能,就是要避免運動過程可能撞擊到眼睛,還有就是風沙跟陽光,最後就是避免汗流到眼睛!所以我術後第2天我就開始在家裡踩訓練台,第5天就去跑步了!🤣
◆第一次回診(術後3天)👉此時,兩眼的視力目前已經恢復到1.0,但水霧感說會持續較久,因此,眼睛還是要好好休息不要長時間看3C產品(這其實也是我覺得很難的一點)
◆術後一周👉夜間視力、看近看遠都OK,眼睛的異物不適感也幾乎消失,但就是稍微較乾,近看的部分,還是會有點水霧感,尤其看近距離的電腦螢幕會比較模糊,所以看久很不舒服,因此建議還是要盡量減少使用3C產品,然後定時點人工淚液跟藥水。 👁
◆大概術後2-3周後👉其實乾眼的症狀也改善很多,現在整體視力狀況都很正常,最棘手的水霧感也差不多消散 (醫師說一般眼睛的水霧感要完全消散,大概要3週~3個月,因人而異)
基本上現在就是乖乖配合醫師指示使用階段性眼藥水,然後平時不要用眼過度,讓眼睛慢慢修復!
現在我只想說…..不用戴眼鏡真的超方便!運動也不用戴隱形眼鏡!🤩
唯一的小煩惱就是……我還有大概10盒的隱形眼鏡已經用不到了😂
真心覺得做完SMILE近視雷射讓我的眼睛重生了!真的很棒!也分享我的喜悅&經驗給大家~🤗🤗🤗
(更多相關內容IG我有整理精選可以去那邊看看喔!)
⚠️小提醒:因每個人的狀況不同,因此進行任何雷射手術前,都須先做精密檢查與評估,也建議可以直接詢問諾貝爾眼科的同仁們,他們都會很熱心的回答喔!
■了解更多smile全飛秒》https://pse.is/3lc4yp
■立即預約》https://reurl.cc/Q9ZmaZ
#跟眼鏡說掰掰
#重生的眼睛
#眼睛雷射日記
#諾貝爾眼科
#張朝凱院長
#全方位術式近視雷射矯正
#SMILE全飛秒近視雷射
#1做2好3OK
#星和醫美
「small incision lenticule extraction」的推薦目錄:
small incision lenticule extraction 在 Joe Chonlawit : Eat • Talk • Travel Facebook 的最佳貼文
เมื่อ 90% ของคนที่ถามคือ "ทำตาสองชั้นมาเท่าไหร่? เจ็บไม๊?" จึงต้องเกิดโพสต์นี้ 55...รีวิวผ่าตัดแก้ไขสายตา #ReLExSMILE กับ Lasik by Dr Chayata - เลสิคหมอชญาตา แบบจริงใจ ไม่ PC 90,000฿ ที่จ่ายไปคุ้มไม๊ เริ่ม!
จริงๆ นานๆ ที คนจะเห็นโจ้ใส่แว่น เพราะปกติใส่คอนแท็คเลนส์ตลอดเวลา ใส่มานานมาตั้งแต่ช่วง ม.4 เวลาใส่แบบรายเดือนนี่คือรักษาความสะอาดยากมาก ถอดเสร็จต้องถู ต้องล้าง ต้องเก็บดีๆ ไปต่างจังหวัดห้ามลืม น้ำยาคอนแทคก็ห้ามลืม บางทีตาแห้งคอนแทคหล่นปลิวออกจากตา ถ้าไม่มีสำรองชีวิตพังมาก พอเริ่มทำงานนักข่าวไม่ต้องพูดถึง วันไหนลืมคอนแท็คจะกังวลมาก ต้องขอให้คนช่วยหาซื้อให้ทันเวลา (เคยลืมครั้งนึงตอนเช้า ต้องเข้ารายการสด 08.00 พัง ไม่มีร้านไหนเปิด สรุปเข้ารายการแบบมองไม่เห็นตัวหนังสือ เพราะสั้น 350 และเอียงอีกเป็น 100) สุดท้ายเลยเปลี่ยนใช้เลนส์แบบรายวัน สะดวกขึ้นมาก แต่แพงกว่ามากหลายเท่าอยู่
ความคิดเรื่องการทำ #เลสิค ก็เริ่มตั้งแต่นั่นมา...
โจ้ค้นข้อมูลเยอะมาก อ่านทุกรีวิว ของทุกหมอ ทุกโรงพยาบาล ทั้งแบบ PRK (ใชการลอกแทนการเปิดชั้นกระจกตาราคาประมาณ 30,000-50,000) #LASIK (เปิดชั้นกระจกตาด้วยใบมีด รอยแผลจะเกือบรอบตาดำ ราคาประมาณ 30,000-50,000) การทำแบบ #FEMTO (เปิดชั้นกระจกตาด้วยเลเซอร์ รอยแผลจะเกือบรอบตาดำ ราคาประมาณ 50,000-80,000) อันนี้คร่าวๆนะครับ
และท้ายที่สุดมาเจอวิธี ReLEx SMILE (รีเล็กซ์ สไมล์) ย่อมาจาก Refractive Lenticule Extraction - Small Incision Lenticule Extraction ผ่าตัดเล็กจิ๋ว 2-4 มม. โดย ไม่ ต้อง เปิด กระจกตา แบบเลสิค!! ผลข้างเคียงน้อย ติดเชื้อยากกว่า หายเร็วกว่า ตาแห้งน้อยกว่า ฯลฯ ราคาอยู่ที่ 100,000-140,000 ...แต่ไม่ใช่ว่าเราเลือกวิธีไหนจะได้ทำวิธีนั้น บางอาชีพบังคับทำแต่แบบ #PRK ก็มี หรือถ้าคุณภาพตาไม่พร้อม ก็อาจจะอดทำแบบที่เลือกก็ได้ครับ
ทันทีที่เลือกหมอผู้เชี่ยวชาญ #หมอชญาตา #โรงพยาบาลพระราม9 ได้ โจ้ก็โทรจองทันทีที่ 1270 โทรนัดวันเข้ามาตรวจตาแบบละเอียดถี่ยิบกับเครื่องมือแพทย์ที่ราคารวมกันเกือบ 10 ล้าน (นี่แค่ค่าอุปกรณ์ในการตรวจตานะ) ใช้เวลาตรวจตอนเช้าครับ ประมาณ 2 ชม. ช่วงนี้จะตาเบลอหนักมากกกเพราะมีการหยอดขยายม่านตาเพื่อตรวจแบบละเอียดขั้นสุด เสร็จแล้วคุณหมอจะคำนวณผลการตรวจแบบละเอียดแปดตลบ ก่อนคอนเฟิร์มว่าเราสามารถทำแบบที่เลือกได้หรือไม่ ...ซึ่งผลปรากฎว่าผ่าน!! สรุปได้ทำแบบ SMILE อย่างที่ตั้งใจ
******ต้องถอดคอนแทค ใส่แว่นเท่านั้น 5-7 วันก่อนเข้าตรวจ****
ไปจ่ายตังกัน... ตอนนี้โปรแบบเอื้อมถึงขึ้นมากๆ ไม่ทำตอนนี้ก็ไม่รู้จะทำตอนไหนแล้วครับ ค่าผ่าตัดแบบ SMILE อยู่ที่ 90,000 เท่านั้น!! ส่วน FEMTO คือ 59,000 และ LASIK คือ 39,000 ครับ เป็นลม ใครอยากผ่อนก็ผ่อนได้ไปอี้ก
12:30 ทานข้าวเรียบร้อย มานั่งรอคุณหมอตามนัด คือคุณหมอน่ารัก ใจดี เป็นกันเอง และคุยสนุกมากกกกกก ตั้งแต่เช้าเราเจอกันครั้งแรกคุยกันเหมือนรู้จักกันอยู่แล้วเลย ความรู้สึกเลยชิลล์มากครับ โนเกร็ง โนกลัว โนใดๆ คือเหมือนมาหาคุณหมอที่เราสนิทและใว้ใจคนนึง และด้วยความที่วัยไม่ต่างกันมาก ยิ่งคุยสนุกเลย คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อายุยังน้อยมากครับ เป็นจักษุแพทย์ที่เก่งมากๆ
13:30 เตรียมใส่ชุดคลุม ล้างหน้าแปดรอบ (เพราะเด๋วห้ามล้างอีก 7 วัน) เก็บของเข้าตู้ อ่านรายละเอียดการผ่าตัด เซ็นเอกสาร หยอดยาชา เรียนรู้วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัด และดื่มน้ำแร่อุณหภูมิห้อง ฯลฯ คือทั้งหมดนี้เจ้าหน้าที่ดูแลโจ้ดีมากทุกขั้นตอนด้วยคำพูดสุภาพเป็นกันเองและโทนเสียงต่ำ เป็นมู้ดแอนด์โทนฟีลลิ่งเดียวกันกับการเข้าพักที่โรงแรมระดับ 6 ดาวริมน้ำเจ้าพระยา ไม่มากไป ไม่น้อยไป บริการเหนือระดับ เหนือความคาดหมายใดๆทั้งปวง (ชอบมาก รอบหน้าจะมาเข้าคอร์สเวลเนสสุขภาพความงามต่างๆ)
14:00 ได้เวลาอันเป็นมงคล ขอเรียนเชิญคุณชลวิศว์เข้าห้อง OR (ไม่เกี่ยวกับหุ้นแต่อย่างใด มันคือห้องผ่าตัด) ห้องมีลักษณะกว้างใหญ่ไพศาลสีขาวฟ้าสะอาดตา และมีเครื่องซึ่งคล้ายยานอวกาศวางอยู่ตรงกลาง ได้ฟีลกำลังจะขึ้นยาน Space-X พี่ผู้ช่วยพาโจ้เข้ามาด้วยความตาเบลอๆ จากการหยอดยาชาและยาฆ่าเชื้อสลับกับประมาณ 4-6 ครั้งครับ พี่เค้าพูดอย่างใจเย็นว่า "เดี๋ยวเราเข้าไปดูบรรยากาศข้างในกันครับ" เกร๋ๆ ฟีลไม่เหมือนมาผ่าตัด คือมัน Calm หนักมาก เหมือนจะเริ่มสปาแบบซิกเนเจอร์ของทางโรงแรม โจ้สบายใจมาก (แต่หนาวมากแม่ ขอผ้าห่มแบบขนเป็ดที่ตายอย่างไม่ถูกทารุณกรรมด้วยครับ)
"ฝั่งนี้คือหัวนะครับ เราจะนอนลงตรงนี้ จะมีจุดวางคอพอดี คุณโจ้ลองนอนและขยับท่าให้สบายที่สุด" ตอนแรกก็งงบอกทำไมทางไหนคือหัว พอมองลงดู เออมันนึกไม่ออกจริงว่าไหนทางหัวไม่หัว555 หลังนอนได้ที่เตียงจะหมุนตีวงเข้าไปใต้เครื่องยานอวกาศนั่นที่ใหญ่มาก โดยจุดโฟกันของมันคือที่ลูกตาของเรา เมื่อเข้าที่จะมีการติดสติ๊กเกอร์เก็บขนตา บล็อคตาเข้าใต้เครื่อง ซึ่งตรงนี้เริ่มติ่นเกร็จเล็กน้อย แต่.... เสียงของพี่ผู้ชายคนนั้นเป็นเสียงแห่งความชโลมจิตใจอันว้าวุ่นว่า "ฉันมาทำอะไรที่นี่"
พี่เค้าจะค่อยๆ อธิบายไปเรื่อยๆ ครับว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น จะเห็นเป็นแสงไฟสี่เหลี่ยมนะครับ จ้องตรงนี้ไว้ ต่อไปไฟจะเปลี่ยนสีนะคับ มีสมาธิกับไฟสีเขียวกลมๆ พร้อมกับคอนเฟิร์มว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันถูกหรือยังและการตบที่ไหล่เบาๆเป็นสัญญาณ เพราะสิ่งเดียวที่เราต้องทำคือโฟกัสที่เสียง และตั้งสติทำตาม
จุดนี้มันสำคัญมากถึงมากที่สุดนะ ขอบคุณพี่เค้ามากจริงๆ เมื่อแนวทางที่บอกชัดเจน โจ้สบายใจ รวบรวมสติได้ มันส่งผลให้คุณหมอทำงานที่ยากตรงนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ (อันนี้คือเดาจากความรับรู้ที่เกิดขึ้นนะ คือหมออาจจะเฉยๆก็ได้ หมอทำทุกวันอยู่แล้ว 555 แต่เรากังวลมาก เรากลัวเรากลอกตา หรือกลัวที่สุดคือกลัวจาม!!! นึกออกมั้ย ถ้าจะจามต้องทำยังไงก่อน?!555)
เมื่อทุกอย่างได้ที่ เสียงเครื่องจะพูดว่า (Something something) READY แล้วจากนั้นคุณหมอจะบอกว่าเลเซอร์จะเริ่มทำงาน 3... 2... 1... (--------------------------------------------) จ้องแบบนิ่งที่สุดในโลก 23 วินาทีเท่านั้น!!! มันคือ 23 วินาทีของทุกอย่างที่เราเตรียมตัวมา
"เครื่องทำงานเรียบร้อยครับ" พี่คนเดิมทำงานประสานกับคุณหมอและสื่อสารกับเรา "ทำดีมากครับ ต่อไปจ้องที่ไฟนะครับ ดวงไฟกลิ้งไปที่ไหนมองตาม ถ้าไปหายไปให้มองที่เดิม ทำได้ดีแล้ว งดงามมาก ดีมากครับ บลาๆๆๆ" ตรงนี้คือจังหวะที่คุณหมอเปิดแผลเล็กจิ๋ว 2-4 มม. เพื่อเคลียร์เอาสิ่งที่ยิงเลเซอร์แล้วมันเกิดฟองอากาศที่เรียกว่า 'ชั้นแพนเค้ก' ออกมา (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) จังหวะนี้คือจ้องอย่างเดียว ดวงไฟดวงนี้คือแสงนำทางชีวิต ฉันจะจ้องเธอ Till The World Ends (จังหวะโยกเพลง Britney) พอเอาออกมาเสร็จ คุณหมอหยดน้ำเย็นล้างตา จอบอ เสร็จ อ้าวเสร็จแล้ว ไม่มีความเจ็บแม้แต่เสี้ยวเดียว (แต่ต้องฝึกสมาธิสติขั้นสูงสุด555) จากนั้นก็ทำตาอีกข้างนึงครับ
(ภาพที่เข้ามาในหัวแปลกมาก ด้วยความที่มันเขียวๆ โจ้นึกภาพของ #Kirkjufell ที่ #Iceland คือมันเขียวชอุ่มไปหมด เหมือนไปวาร์ปกลับไปไอซ์แลนด์ชั่วขณะ... นี่ขนาดไม่มียาสลบ)
หลังทำเสร็จสิ่งที่เห็นหลังลุกจากเตียงคือทุกคนไปหมดแล้ว เหลือพี่พยาบาล ส่วนคุณหมอนั่งอยู่ข้างเตียงและชูสองนิ้วให้อยู่ 555 เป็นสัญญาณว่าทุกอย่างผ่านไปด้วยดีมากๆ
เราจะได้รับยาฆ่าเชื้อ น้ำตาเทียม สำลี น้ำเกลือล้างแผล ยานอนหลับมา กลับบ้านมากินข้าวเสร็จก็นอนพักยาวๆ 16 ชม. เพื่อตื่นตอนเช้าไปเช็คแผล ซึ่งทุกอย่างก็ปกติดีครับ ห้ามล้างหน้า ใช้สำลีเช็ดเท่านั้น ห้ามแต่งหน้าด้วย (สัปดาห์นี้ถ่ายรายการแบบหน้าสดทั้งอาทิตย์)
สำหรับคนที่ทำแบบ SMILE วันรุ่งขึ้นภาพจะชัดแค่ 80% นะ รอหนึ่งอาทิตย์จะชัดแบบมากๆ ครบหนึ่งเดือนจะว้าวซ่าขั้นสุด ใส่แว่นดำใช้ชีวิตตามปกติได้เลย ส่วนคนที่ทำแบบ LASIK และ FEMTO ตื่นมาวันที่สองภาพจะชัด Full HD เลย คุณหมอเรียกว่า #WOWOperation คือผ่าตัดแบบว้าวทันที เพราะการเปิดกระจกตา มันจะเคลียร์บับเบิ้ลฟองอากาศออกหมด แต่ของโจ้แผลจิ๋ว ฟองอากาศจะค่อยๆหายไป มันเลยจะเบลอๆ ฟุ้งๆ อยู่ 7 วันแรก คือจะยังไม่ iPhone 12 จะเป็นภาพผ่านแอปบิวตี้อยู่ประมาณนั้น
ความดีงามคือ ไม่เจ็บ ไม่เคือง ไม่ตาแห้ง ไม่เห็นแสงไฟแตกตอนกลางคืน ไม่อะไรเลยทั้งสิ้น!
ใครอยากทำ หวังว่าโพสต์นี้จะพอให้ข้อมูลให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับ ติดต่อไปจองคิวเลยที่เบอร์ 1270 ติดต่อศูนย์เลสิค รพ.พระราม 9 สุดปัง!!