Sahara (2005)
เป็นหนังผจญภัยดูเพลินแบบไม่ต้องคิดอะไร เพิ่งรู้ด้วยว่าตอนที่ออกฉายมันขึ้นทำเนียบหนังเจ๊งเละเทะทั้งที่ถูกวางตัวว่าจะเป็น Indiana Jones เรื่องต่อไป ถ้าให้เดาจากเสียงบอกต่อของคนดูน่าจะเป็นแนวผิดหวังที่หนังไม่ได้เน้นผจญภัยล่าขุมทรัพย์เป็นหลัก ด้วยพล็อตที่เปิดด้วยการตามหาเรือรบในตำนานแต่พอเล่าไปเล่ามาดันถูกพล็อตเปิดโปงความชั่วร้ายในแอฟริกาเข้ามาแทรกแซงจึงทำให้หนังค่อนข้างบิดไปอีกทางมากกว่า ทั้งที่ความจริงแล้วถึงพล็อตจะถูกบิดแต่โครงการเล่าเรื่องมันคือหนังผจญภัยแบบดั้งเดิมที่คุ้นเคยทั้งนั้น ทั้งการไล่ล่าหลายต่อหลายฉากที่หนังจัดให้ทั้งในน้ำและบนบก, ความเป็นแอ็คชั่นแบบการ์ตูนพอสมควร ไม่ได้สมจริงแต่ก็ไม่ได้โม้หลุดโลกมากนัก, มีนางเอกสวย ๆ ให้พระเอกได้โชว์ความเป็นฮีโร่, แล้วก็การเดินเรื่องมันคือค่อย ๆ หาเบาะแสไขปริศนาก่อนจะไปร้องอ๋อในตอนจบ ซึ่งมันก็โครงเดิม ๆ ที่ทำออกมาได้สนุกจนแปลกใจเหมือนกันที่หนังเจ๊งในยุคนั้น (ได้ดูในโรงเหมือนกันแต่จำอะไรเกี่ยวกับหนังไม่ได้เลย)
.
'เดิร์ก' (Matthew McConaughey) เป็นนักสำรวจที่หาเบาะแสเกี่ยวกับเรือที่สูญหายในสงครามกลางเมืองมายาวนาน จนกระทั่งเขาพบเบาะแสที่เชื่อว่าเรืออาจจะอับปางอยู่ที่ไหนสักแห่งในทวีปแอฟริกา ซึ่งพอเขาจะเข้าไปสำรวจก็บังเอิญต้องพา 'อีวา' (Penelope Cruz) แพทย์จากองค์การอนามัยโลกเข้าไปในพื้นที่ด้วยเพราะเธอกำลังหาเบาะแสต้นตอของโรคระบาด แต่เรื่องราวที่ควรจะราบรื่นกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเธอถูกเผด็จการจอมโหดสั่งทหารออกไล่ล่าเพื่อไม่ให้เข้ามาวุ่นวายกับต้นตอโรคระบาด
.
หนังมันเล่าสไตล์คู่หูผจญภัยในลักษณะคอมเมดี้แบบการ์ตูน ซึ่งความเป็นการ์ตูนไม่ได้อยู่แค่ในฉากแอ็คชั่น แต่ยังครอบคลุมไปถึงพล็อตเรื่องที่เล่าได้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเป็นจริงเป็นจังสักเท่าไร ถึงอย่างนั้นพอหนังเล่าได้สนุกก็ทำให้จุดที่ควรจะด้อยกลายเป็นความโดดเด่นที่ทำให้การเล่าเรื่องลื่นไหล และกลายเป็นการสร้างสรรค์ฉากแอ็คชั่นไล่ล่า/ต่อสู้กลางทะเลทรายที่ตื่นตา จนบางครั้งก็นึกไปถึงหนังเจมส์ บอนด์ เวอร์ชั่นขี้เล่นมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ที่น่าเสียดายคือหนังที่เราได้ดูกันเหมือนจะเป็นเวอร์ชั่นที่ผ่านการขัดเกลาจากนักเขียนบทหนังมืออาชีพ ซึ่งจริง ๆ เราควรจะได้ดูเวอร์ชั่นที่ 'ไคลฟ์ คัสเลอร์' ผู้แต่งนิยายมาเขียนบทหนังมากกว่า โดยก่อนสร้างหนังก็มีปัญหาระหว่างคนเขียนนิยายกับสตูดิโอ เพราะถึงสตูดิโอจะซื้อลิขสิทธิ์ไว้เรียบร้อยแต่มีข้อตกลงแยกไว้ว่าจะสร้างหนังได้ต่อเมื่อบทได้รับความยินยอมจากคัสเลอร์เท่านั้น แต่ปรากฎว่าบทหนังไม่ลงตัวในสายตาสตูดิโอสักเท่าไรจึงมีการดึงคนเขียนอาชีพเข้ามาแก้ไขแล้วสร้างเป็นหนังเลยโดยไม่รอการอนุมัติจากคัสเลอร์ นำไปสู่การฟ้องร้องในศาลโดยมีข้อมูลการฟ้องคดีที่น่าสนใจอยู่เยอะ โดยเฉพาะเรื่องทุนสร้างที่สูงเกินจริงไปมากเพราะความฟุ่มเฟือยของกองถ่าย อย่างเช่น ค่าน้ำดื่ม 1 แสนดอลล่าร์, จ้างโค้ชสำเนียงท้องถิ่นราคาแพง, ฉากระเบิดที่ใช้เงินมหาศาล, เงินสินบนเจ้าพนักงาน, ค่าจ้างนักเขียน 10 คน, จ้างสตั๊นท์มาถ่ายแต่ตัดออกจากหนัง แต่ยังมีเรื่องที่ประหยัดเงินอยู่บ้างคือแรงงานท้องถิ่นโมร็อกโกล้วนได้ค่าแรงน้อยนิด
.
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เราก็ยังมองว่า Sahara เป็นหนังที่สนุกอยู่ดี
Director: Breck Eisner (ผู้กำกับ The Crazies)
novel: Clive Cussler
screenplay: Thomas Dean Donnelly, Joshua Oppenheimer, John C. Richards, James V. Hart
Genre: action, adventure, comedy, thriller
7/10
sahara 2005 在 Kevin Lin 林義傑 Facebook 的精選貼文
印象中,2005年洛杉磯是一個充滿夢想的地方,當時參與了「RUNNING THE SAHARA」任務,與好萊塢的工作者一起工作,
見到了斑安佛列克Ben Affleck、麥特戴蒙Matt Damon。而他們公司正也是當時參與我們紀錄片的製作公司,亦為贊助者。
就這樣,當年,我住在Hermosa Beach 常常去沙灘跑步,也常去Santa Monica 吃飯,當然也和查理去泡酒吧。
這都是人生的記憶,美好的時光。
再回來洛杉磯,回憶仍在。