คีย์บอร์ด RK860/RK100 Mechanical Bluetooth Keyboard ปุ่มครบ ๆ ที่เชื่อมต่อ BT ได้ 3 อุปกรณ์, มี USB C และ ต่อแบบ Wireless แถมปุ่มแบบ Hot Swap เปลี่ยนปุ่มเมื่อเสียเป็นบางปุ่ม หรือเปลี่ยนลักษณะปุ่มได้ ที่ลองซื้อมาแบบ Red Switch แล้วใช้งานชินแล้วทำให้เข้าใจว่าเป็นคีย์บอร์ดสายซิ่งพิมพ์เร็วนี่เอง (เนื้อหานี้ก็พิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดตัวนี้เช่นกัน)...
ช่วง 9.9 ผมสั่งคีย์บอร์ดตัวนี้ส่งมาจากจีน สาเหตุก็คือ เดือนก่อนซื้อแบบ Mechanical Blue Switch มาใช้แล้วชอบ ตอบโจทย์ความพิมพ์สนุกมาก ๆ ก็เลยอยากลองแบบ Red Switch บ้างว่าเป็นอย่างไร แต่ก่อนจะไปเรื่องนั้นมาลองดูประสบการณ์หลังจากใช้งานมา 5 วันจนชิน แบบยังไม่ปรับแต่งก่อนครับ...
ตัว RK100 เป็นคีย์บอร์ดแบบ สายปุ่มเยอะ มีทั้งแถวบนที่เป็น Esc F1 - F12 และ ปุ่มฝั่ง Numpad ที่มีปุ่มตัวเลขไว้คีย์ได้สะดวก เรียกว่าถ้าคนที่ชอบปุ่มเยอะ แต่อยากให้มันมีขนาดเล็กกว่าแบบ Full Size หน่อย ก็คงมาเป็นแบบนี้แหละครับ...
สัมผัสแรกของการแกะกล่องมาใช้พบว่า ตัวคีย์บอร์ดมันมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก ส่วนนึงน่าจะเพราะแบตเตอรี่ที่ใส่มา 3,750 mAh ซึ่งถึอว่าเยอะพอใช้งานเป็นอาทิตย์ได้แม้จะเปิดไฟบนคีย์บอร์ดด้วยก็ตาม และส่วนที่ดีคือน้ำหนักที่มากคือการเกาะโต๊ะไม่เคลื่อนเมื่อโดนชนโดยบังเอิญ นอกจากนี้ในกล่องยังมีสาย USB C to A สำหรับต่อกับคอมฯ และคีมหนีบที่หนีบได้ทั้ง Keycaps และตัวสวิตซ์คีย์บอร์ด...
ระบบไฟของคีย์บอร์ดตัวนี้ เป็นไฟสีขาว ปรับรูปแบบอนิเมชั่นของไฟได้หลายแบบ และปรับความเร็วของอนิเมชั่นได้ รวมถึงปิดไฟได้ด้วยถ้าไม่ได้ต้องการใช้งาน จากบนคีย์บอร์ดเลย ซึ่งเท่าที่ลองดูในห้องที่เปิดไฟก็รู้สึกว่าต้องปิดไฟ หรือเอามือบังนิดนึงแสงถึงจะออกมาให้เห็นชัดขึ้น...
ตัวปุ่มลองแกะออกมาดู สามารถใช้คีมที่ให้มาหนีบได้เลยทั้ง Keycaps ที่เป็นฝาปุ่มกด และตัวสวิตซ์คีย์บอร์ด เพื่อเปลี่ยนสวิตซ์แบบที่ต้องการได้ หรือเปลี่ยนแทนปุ่มที่เสียก็ได้เช่นกัน...
ผมเลือกสวิตซ์ปุ่มมาแบบ Red Switch ซึ่ง สาเหตุที่เลือกก็คือตอนใช้ Blue Switch มีเสียงดัง ก็เลยลอง Red Switch บ้าง เพราะมันเป็นแบบเสียงเบา ซึ่งพอลองเอามาพิมพ์ก็พบว่า เสียงต่างกันมาก จากที่เคยพิมพ์ดังต๊อกแต๊ก ๆ กลายเป็น แกร่ก ๆ เบา ๆ เท่านั้นเอง (เบาหูไปเยอะเลย) และขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าแรงที่ใช้กดมันน้อยลง ทำให้ช่วงที่ใช้งานแรก ๆ รู้สึกว่ากดง่ายจนลั่นปุ่มไปหน่อยเวลาลงนิ้ว (ความรู้สึกคือไม่เฟิร์มต้องลงจังหวะแน่น ๆ เหมือนฝั่ง Blue Switch) แรก ๆ พิมพ์ไปก็รู้สึกว่ามันเร็วไปไหม...
แต่หลังจากใช้มา 5 วันต่อเนื่อง จนชินพบว่า ถ้าสายที่ชอบพิมพ์เร็ว พิมพ์สัมผัสแม่นยำ กดคำเรียงตัวอักษรเป็นคอมโบ มันตอบโจทย์มาก ๆ หลาย ๆ คำที่พิมพ์คล่อง ๆ พิมพ์เร็วกว่าแบบ Blue Switch มากมาย คือจังหวะลงนิ้วมันจะต่อเนื่องกันได้เร็วมากกว่า เพราะต้องรับแรงกดที่น้อยกว่า ทำเวลาพิมพ์ได้เร็ว แต่ถ้าพิมพ์สำผัสไม่แม่น มือไปก่อนก็จะเผลอกดตัวอักษรที่พลาดได้ไวเช่นกัน (พอพิมพ์เร็ว ๆ เป็นประโยคยาว ๆ ต่อเนื่องได้จะสนุกกับปุ่มลักษณะนี้)...
จุดเด่นอีกอย่างนึงที่ชอบมากของคีย์บอร์ดฝั่ง RK ที่พัฒนาจากรุ่นก่อน ๆ ในตัวนี้ก็คือ มันสามารถสลับการใช้งานระหว่าง Windows และ Mac ได้ แต่ต้องกดสลับเอง ข้อดีคือตรงปุ่ม Command, Option และ Control มันจะกดได้ถูกตำแหน่งของมัน (ใน Mac จะตั้งค่าตรงนี้สลับได้ถ้าไม่มีตัวสลับ) ทำให้ใช้งานกับ iPad ที่ไม่สามารถตั้งค่าให้ปุ่มสลับได้ราบรื่นเหมือนกับบน Mac ได้เลย...
พูดถึงจุดที่ดีไปเยอะหลายอย่างแล้ว มาลองดูจุดสังเกตกันบ้าง...
คีย์บอร์ดตัวนี้เป็นการเอาปุ่มแบบ Full Size มาย่อรวมให้กระชับพื้นที่มากขึ้น ผลก็คือเวลาที่ผมเลือกกดตัวอักษรแล้วจะมากดลูกศรล่างขวามือเพื่อควบคุมทิศทางมันจะวืดไปโดนปุ่มตัวเลข Numpad บ่อยมากในวันแรก ๆ ที่ใช้ (เพราะมันเป็นคีย์บอร์ดสายซิ่ง เวลาพิมพ์ตัวอักษรความเร็วมือมันจะไปไวมากจนเลื่อนมากดลูกศรหรือ Numpad พลาดง่าย)...
ก็เลยแก้ปัญหาโดยการ เอาปุ่ม Keycaps ที่มีความสูงต่างกัน มาใส่ตรงตัวปุ่มลูกศรขึ้นลงซ้ายขวา, ปุ่ม Enter และปุ่มที่มักจะเผลอกดเลยให้สูงขึ้นแทน ผลทำให้เวลาเลื่อนมือไปสัมผัสปุ่มนอกเลย์เอาท์ตัวอ้กษรสามารถคลำผ่านเวลาเลื่อนมือขวาไปสัมผัสได้ง่ายขึ้นนั่นเอง...
อีกส่วนที่รู้สึกก็คือ ขนาดของมันมีความกว้างและสูงที่เยอะกว่า ตัวรุ่น 61 หรือ 68 ปุ่มพอสมควร (ก็ปุ่มมันเยอะขึ้น) ทำให้รู้สึกว่าเวลาวางบนโต๊ะแล้วมีความกินพื้นที่ ดูโต๊ะแน่นขึ้นมาหน่อยนึงเลย...
ในเรื่องของ Keycaps ที่เปลี่ยน สาเหตุก็คือ ผมถนัดปุ่มคีย์บอร์ดแบบ ปุ่มต่ำมาก่อน ทำให้เวลาพิมพ์ก้าวนิ้วไม่ชอบยกนิ้วสูงมาก และคีย์บอร์ดแบบ Mechanical มันเปลี่ยนตัว Keycaps ได้ ซึ่ง Keycaps แบบที่ลดความสูงไปได้ นั่นก็คือ Keycaps แบบ XDA Profile (มีรูปประกอบเท่ียบความสูงอยู่) ซึ่งปุ่มทุกปุ่มจะมีความสูงเสมอกันและต่ำกว่าแบบปกติที่มากับตัวคีย์บอร์ด ทำให้พิมพ์ถนัดขึ้น และการวางมือและความคุ้นเคยเหมือนกับการใช้คีย์บอร์ดฝั่ง Blue Switch ที่เปลี่ยน Keycaps แบบเดียวกันไปก่อนหน้า...
ถ้าให้สรุปสำหรับคีย์บอร์ดตัวนี้ ก็คงเป็นเรื่องการที่มีปุ่มที่เพิ่มมากขึ้น เหมาะกับคนที่ยังต้องกดสลับภาษาด้วยปุ่ม Grave Accent ( ` ) , ยังคงต้องใช้ปุ่ม F1 - F12 อยู่ และยังต้องใช้ปุ่มตัวเลขฝั่ง Numpad ก็ยังสามารถใช้ได้เหมือนเดิม โดยขนาดเล็กลงกว่าแบบ Full Size 104 Keys แบบมาตรฐาน...
ถ้าพูดถึงเรื่องความคล่องหลังจากที่ลองมา 3 วันก่อน อาจจะรู้สึกว่าแบบ Blue Switch จะพิมพ์ได้เฟิร์มกว่า แต่หลังจากที่ลองจนพิมพ์ได้คล่องก็พบว่า แบบ Red Switch ก็พิมพ์ข้อความรวบคำได้่รวดเร็วและลื่นไหลกว่าเช่นกัน ดังนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนแล้วล่ะครับ ว่าชอบแบบไหน แต่ที่แน่ ๆ เรื่องความเงียบของการพิมพ์สัมผัสแบบเร็ว ๆ นั้นตอบโจทย์แน่ ๆ และยังคงความเด้งของปุ่มที่ทำให้พิมพ์สนุกด้วย...
Mechanical Gaming Keyboard Royal Kludge RK860/RK100 แบบ Hotswap เปลี่ยนปุ่มได้ ผมสั่งมาจาก Shopee ร้าน sxztech > https://shp.ee/uifkfe7
คีย์บอร์ดเลือกสีขาวและดำได้ รวมถึงสวิตซ์ก็เลือกได้ทั้งแบบ Blue Switch, Brown Switch และ Red Switch เช่นกัน...
> https://shp.ee/gax7hn7 (1,733.- เท่ากันทุกแบบ)...
ส่วน Keycaps แบบ XDA Profile ครั้งนี้ ผมลองเปลี่ยนร้านให้ถูกลงกว่าร้านเดิม > https://shp.ee/z9s37st (572.-) มาเป็นอีกร้าน ก็ส่งจากจีนมาถึงไทยไวพอ ๆ กับคีย์บอร์ดครับ...
> https://shp.ee/sjm9n2j (499.-)
*Disclosure: เนื้อหานี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใด ๆ ...
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「royal kludge rk100」的推薦目錄:
royal kludge rk100 在 Facebook 的最佳解答
9.9 ได้อะไรกันมาบ้างครับ??? มีอะไรเจ๋ง ๆ บ้างไหมครับ??? มาอวดกันหน่อย...
ผมเองถ้าฝั่ง Lazada ก็คือโซดา ที่โพสต์ ก่อน ส่วน Shopee นั้นเอาจริง ๆ ก็นึกไม่ออก เพราะซื้อทุกอาทิตย์ ก็เลยกดของที่อยู่ในตะกร้าที่ค้าง ๆ ไว้ออกมา เพราะกดคูปองส่งฟรี กับบางร้านมีส่วนลดเพิ่มอีกนิดหน่อยครับ...
และหลัก ๆ ก็ของที่โดนป้ายยาต่อจากคอมเมนต์ในเพจ ทั้งช่วงที่รีวิว Mechanical Keyboard โพสต์ก่อน (https://www.facebook.com/SquidManExE/posts/396639625160729) และรีวิวเครื่องทำกาแฟ (https://www.facebook.com/SquidManExE/posts/397706385054053) และเครื่องกรองน้ำ (https://www.facebook.com/SquidManExE/posts/395178181973540) นั่นเองครับ หลาย ๆ อย่างผมก็มองว่าถ้าทำให้ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่พอจะจับได้บ้าง ก็เป็นอะไรที่น่าสนุกพอสมควรเลย...
ไล่ตั้งแต่คีย์บอร์ด Mechanical ก่อนละกัน เนื่องจากใช้งานแล้วชอบมาก ทำให้ระยะมองจากจอคอมพิวเตอร์ไกลขึ้นกว่าเดิม ตั้งระดับจอให้สูงขึ้นได้ และวางในตำแหน่งที่พิมพ์ได้สะดวกบนโต๊ะค่อนข้างดี และที่สำคัญพิมพ์มันมาก ๆ ...
ผลก็คือ ลองคีย์บอร์ดแบบเสียงดังอย่าง Blue Switch ไปแล้ว ก็อยากลองฝั่ง Red Switch กันบ้าง และด้วยมีคนป้ายยา คีย์บอร์ดฝั่งทางค่าย RK Royal Kludge ที่มีตัวใหม่ RK860/RK100 ที่รองรับทั้งการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ได้ 3 เครื่อง, USB C, USB A และแบบ Wireless 2.4G รวมถึง ตัวสวิตซ์คีย์บอร์ดเองสามารถถอดเปลี่ยนแบบ Hot swap ภายหลังได้กรณีที่ต้องการเปลี่ยนชนิดสวิตซ์ หรือสวิตซ์เสีย ซึ่งมีคนถามหาแบบแป้นพิมพ์เต็ม ๆ รวมถึงมี Numpad รวมถึงผมเองก็อยากลองใช้งานด้วย ก็เลยจัดมาครับ...
> https://shp.ee/qf9nexj (1,733.-) แต่ใช้โค้ดลดด้วยเลยเหลือ (1,675.-)
ส่วนพอซื้อคีย์บอร์ดมาแล้ว ด้วยความที่ใช้งาน Key Caps ปุ่มคีย์บอร์ดแบบแป้นเตี้ยกว่าถนัดกว่า ก็เลยทำให้ต้องสั่ง Key Caps แบบ XDA Pro File มาเปลี่ยนด้วย เพื่อให้ใช้งานถนัดขึ้น ด้วยความที่ครั้งก่อนลองเปลี่ยนแบบ XDA แล้วแป้นคีย์บอร์ดเตี้ยลงใช้ง่าย ก็เลยสั่งมาเพิ่มอีกชุดครับ...
> https://shp.ee/sjm9n2j (499.-)
ส่วนฝั่งกาแฟ เพราะโดนป้ายยาแนะนำในคอมเมนต์โพสต์เครื่องทำกาแฟล้วน ๆ รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็เลยอยากสั่งมาลองใช้งานเหมือนกันครับ...
เป็นเครื่องทำกาแฟ Staresso SP-300 ที่ทำกาแฟ Espresso ได้ดีใกล้เคียงกับใช้เครื่องชงกาแฟ และมีขนาดพกพาไปใช้งานที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีน้ำร้อน และมีกาแฟบดละเอียดที่ดี ก็เพียงพอแล้ว...
> https://shp.ee/q8826z3 (1,769.-)
แท่นวางเครื่องทำกาแฟ Staresso SP-300 ด้วยความที่คิดว่ากดสั่งซื้อ ก้านชงกาแฟอุปกรณ์เสริม แต่พอไปดู เป็นแค่แท่นไม้สำหรับวางเครื่องทำกาแฟที่เว้นช่องสำหรับก้านชงด้วยแต่น่าจะทำให้ใช้งานได้สะดวก และตั้งใช้งานได้ดูดีขึ้นก็เลยซื้อมา สรุปเดี๋ยวต้องหาซื้อก้านชงด้วยจริง ๆ อีกทีนึง...
> https://shp.ee/u7rjj3j (620.-)
ถังเคาะกากกาแฟ แบบที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นตามร้านกาแฟ เวลาทำกาแฟเสร็จแล้วเคาะจากด้ามถ้วยกรองออกนั่นแหละครับ ด้วยความที่มันไม่ได้ราคาแพง ก็เลยสั่งมาไว้เผื่อเคาะกากกาแฟบด และนำไปตากแห้ง ก่อนนำไปผสมปูนขาวปรับสภาพเพื่อนำไปโรยต้นไม้ด้วยนั่นเอง...
> https://shp.ee/qi3cmw3 (164.-)
กระดาษดริปสำหรับ กาต้มกาแฟแบบ Moka เพราะ ก่อนหน้านี้ผมต้มกาแฟแล้วมีเศษกาแฟขึ้นมาในกาต้มแบบ Moka เลยมีคนมาแนะนำว่า ควรใช้กระดาษกรองเพื่อแก้ปัญหา รวมถึงสามารถทำให้ใช้กาแฟบดแบบละเอียดได้ ก็เลยสั่งตามมาครับ 100 แผ่น 17.- หน้ากว้าง 60mm ...
> https://shp.ee/zdg49f3 (17.-)
อันนี้อยากได้เอง Dosing Ring เพราะกดช็อปอุปกรณ์ทำกาแฟ แล้วไปเห็นวงแหวนรองตอนเทกาแฟ ทำให้กาแฟไม่หกออกจากถ้วยกรอง ซื้อเพราะเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์และความอยากได้ล้วน ๆ ...
> https://shp.ee/nxacfz3 (96.-)
ส่วนที่เหลือ ก็มาจากโพสต์ตอนซื้อเครื่องกรองน้ำมาใช้แล้ว เห็นเพื่อนใช้ตัววัดคุณภาพน้ำแบบ TDS ก็เลยสั่งมาบ้าง แต่สั่งชุดใหญ่มาเลย มีทั้งเครื่องวัด TSD, เครื่องวัดค่า pH ความเป็นกรดด่างของน้ำ และเครื่องวัด TDS + อุณหภูมิน้ำ ซื้อเพราะอยากลองด้วยแหละ ราคามันไม่แพง ไหน ๆ ก็เอามาวัดน้ำดื่มแต่ละบ้านด้วยเลย...
> https://shp.ee/5q2u4fj (ทั้งชุด 3 เครื่อง 260.-)
และเคสมือถือ Flourescent Case Black Shark 4 ที่สั่งมาเพราะเห็นว่าเพิ่งออกใหม่ เป็นแบบสะท้อนแสงสวยดี มี 3 สี เป็นเคสจาก Black Shark Official ด้วย จบเลย...
> https://shp.ee/3eigmaj (199.-)
ก็หมดไปประมาณเท่านี้แหละครับ สำหรับช่วง 9.9 และคิดว่าอย่างน้อย ๆ น่าจะพักกิเลสได้อีกระยะนึง...
ถ้าใครได้อะไรดี ๆ ช่วง 9.9 ก็เอามาแลกเปลี่ยนอวดกันบ้างก็ดีครับ เพราะหลาย ๆ อย่างผมก็ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการป้ายยาจากในคอมเมนต์ด้วยเหมือนกัน ทำให้ได้ประสบการณ์ และแอปช็อปปิ้งไม่ต้องส่งอัลกอริทึ่มแต่ของเดิม ๆ ที่ดูขึ้นมาด้วย...
*Disclosure: เนื้อหานี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใด ๆ ...
royal kludge rk100 在 AHK Future - RK ROYAL KLUDGE New Release-RK100!... 的美食出口停車場
RK ROYAL KLUDGE New Release-RK100! -Bluetooth/2.4Ghz/Wired 3 Mode Connection -Ice Blue Backlit -Carbon/Classical Style PBT Keycaps -Hot Swappable... ... <看更多>