ความบอบช้ำ อย่างต่อเนื่อง ของเศรษฐกิจอิตาลี /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกในปี 2008 คืออะไร?
คำตอบที่นักลงทุนคิดถึงคงเป็น วิกฤติซับไพรม์ และการล่มสลายของ Lehman Brothers วาณิชธนกิจที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
แต่รู้ไหมว่าปีนั้น
ยังเป็นปีที่มูลค่า GDP ของอิตาลีขึ้นไปถึง 74 ล้านล้านบาท
ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดตลอดกาลสำหรับมูลค่า GDP ของประเทศอิตาลี
แต่แล้วหลังจากนั้น อิตาลีก็ไม่เคยกลับมาที่จุดนั้นอีกเลย
นับจากวันนั้นมา 12 ปี มูลค่า GDP ของอิตาลี เฉลี่ยแล้วลดลงปีละ 1 ล้านล้านบาท
และดูเหมือนว่าปีนี้ก็จะแย่ลงไปอีกจาก Covid-19
เกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจของอิตาลีในช่วงที่ผ่านมา?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
สั่งซื้อได้ที่ (รับส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ในปี 2019 เศรษฐกิจอิตาลีมูลค่า GDP กว่า 62 ล้านล้านบาท เป็นอันดับที่ 8 ของโลก
และใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในทวีปยุโรป
ขณะที่ประชากรของอิตาลีนั้นมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวเท่ากับ 1 ล้านบาทต่อปี อยู่อันดับที่ 26 ของโลก
เดิมทีนั้นอิตาลีเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2
ในปี 1945 เศรษฐกิจของอิตาลีเริ่มเปลี่ยนจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาเกษตรกรรม มาสู่เศรษฐกิจที่พึ่งพาอุตสาหกรรม
ปัจจุบัน สัดส่วนภาคการเกษตรมีสัดส่วนเหลือเพียง 2% ขณะที่สัดส่วนนอกภาคเกษตร เช่น ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ มีสัดส่วนมากถึง 98%
อิตาลียังเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม G7 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก โดยประกอบไปด้วยประเทศอื่นๆ อีก 6 ประเทศคือ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
รู้ไหมว่า อิตาลีนั้น ถือว่าเป็นผู้นำของโลกในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมหลายอย่าง เช่น
เป็นประเทศที่ผลิตไวน์ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของโลก
เป็นประเทศที่มีภาคอุตสาหกรรมการผลิตใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของยุโรป และใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก
เป็นประเทศที่มีแหล่งสำรองทองคำมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
เป็นประเทศผู้นำทางแฟชั่นของโลก และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสินค้าหรูหราที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก
ในช่วงระหว่างปี 2000-2008 เศรษฐกิจของอิตาลีนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้มูลค่า GDP เพิ่มขึ้นจาก 34 ล้านล้านบาท มาถึง 74 ล้านล้านบาท
แต่การเติบโตในครั้งนั้น แลกมาด้วยการใช้จ่ายเงินมหาศาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบประมาณขาดดุลของรัฐบาล ซึ่งอิตาลีนับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีงบประมาณขาดดุลยาวนานประเทศหนึ่งของโลก
ในช่วงปี 2000-2008 รัฐบาลอิตาลีใช้งบประมาณขาดดุลรวมกันสูงถึง 14 ล้านล้านบาท ทำให้เฉลี่ยแล้วหนี้สาธารณะต่อ GDP ของอิตาลีอยู่ในระดับที่สูงกว่า 100%
และแล้ว 2 เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอิตาลีหยุดชะงักลงกว่า 12 ปีก็เกิดขึ้น
ครั้งแรกในปี 2008 จากวิกฤติซับไพรม์ ซึ่งอิตาลีเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติดังกล่าว โดยในช่วงระหว่างปี 2008-2009 GDP ของอิตาลีติดลบไปทั้งหมด 7 ไตรมาส เศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย
หลังจากเจอกับผลกระทบจากวิกฤติซับไพรม์ไม่นาน อิตาลีก็ต้องมาเจอกับแรงกระแทกครั้งที่สองที่ชื่อว่า วิกฤตหนี้สาธารณะยุโรป ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2009
ปี 2011 ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสถานะทางการเงินของอิตาลีตกต่ำอย่างหนัก ความน่าเชื่อถือของประเทศถูกลดอันดับลง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีของอิตาลี ปรับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหมายถึง ต้นทุนการกู้ยืมเงินของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น
ในปี 2015 หนี้สาธารณะต่อ GDP ของประเทศพุ่งขึ้นถึง 131% ต่อ GDP มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของยุโรป แม้จะเป็นรองกรีซที่ขณะนั้นมีหนี้สาธารณะต่อ GDP เท่ากับ 180% แต่เนื่องจากเศรษฐกิจของอิตาลีนั้นใหญ่กว่ากรีซเกือบ 10 เท่า แน่นอนว่าผลกระทบจะรุนแรงกว่ากรณีของกรีซอย่างไม่ต้องสงสัย
ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ จึงทำให้มูลค่า GDP ของอิตาลีจากที่เคยขึ้นไปถึง 74 ล้านล้านบาท ในปี 2008 ปัจจุบัน ลดลงมาเหลือเพียง 62 ล้านล้านบาท หรือลดลงเฉลี่ยปีละประมาณ 1 ล้านล้านบาท ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา
และมาวันนี้ผลกระทบจาก Covid-19
กำลังจะทำให้เศรษฐกิจของอิตาลีที่ยังบอบช้ำอยู่แล้ว ย่ำแย่ลงไปอีก
ซึ่งก่อนที่ Covid-19 จะระบาดนั้น อิตาลีมีอัตราการว่างงานประมาณ 10% ทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการว่างงานมากที่สุดในกลุ่มยูโรโซน
มีการคาดกันว่า นับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ปี 2020 ที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ประเทศ มีแรงงานของอิตาลีกว่า 11.5 ล้านคนต้องตกงาน คิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนแรงงานทั้งประเทศ
ขณะที่การท่องเที่ยวซึ่งปัจจุบัน มีสัดส่วน 13% ของ GDP หรือกว่า 8 ล้านล้านบาท ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศที่หดหายไปในช่วงที่ผ่านมา
จึงทำให้คาดกันว่า ในปี 2020 GDP ของอิตาลีจะติดลบกว่า 9.5% ซึ่งนับเป็นความตกต่ำทางเศรษฐกิจของอิตาลีครั้งรุนแรงอีกครั้งในประวัติศาสตร์ของประเทศ
เรื่องนี้ทำให้รัฐบาลอิตาลีต้องประกาศใช้งบประมาณขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวงเงินกว่า 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อลดผลกระทบจากโรคระบาดดังกล่าว
แต่เมื่อทำแบบนี้ก็มีราคาที่ต้องจ่าย มีการคาดกันว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้จะทำให้หนี้สาธารณะต่อ GDP ของอิตาลีพุ่งขึ้นไปถึง 160% ต่อ GDP ในปี 2020
และตัวเลขหนี้สาธารณะที่สูงขึ้นนี้ ก็จะวนกลับไปเป็นปัญหาของอิตาลีในอนาคต โดยที่ไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไร..
╔═══════════╗
อยากรู้ความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก ต้องเข้าใจอดีต
เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี พิมพ์ครั้งที่ 6
สั่งซื้อได้ที่ (รับส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท)
Lazada : https://www.lazada.co.th/products/1000-i714570154-s1368712682.html
Shopee : https://shopee.co.th/product/116732911/6716121161
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://data.worldbank.org/country/italy
-https://en.wikipedia.org/wiki/Lehman_Brothers
-https://www.forbes.com/sites/rebeccahughes/2020/05/26/after-the-health-crisis-comes-poverty-italy-warns-the-world/#79514a302d31
-https://www.statista.com/statistics/268830/unemployment-rate-in-eu-countries/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_Italy
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)_per_capita
-https://en.wikipedia.org/wiki/European_debt_crisis
-https://countryeconomy.com/deficit/Italy
-https://www.republicworld.com/world-news/rest-of-the-world-news/italy-faces-worst-recession-since-world-war-ii-economy-shrinks.html
-https://news.cgtn.com/news/2020-05-14/Italy-approves-55-billion-euro-stimulus-package-in-coronavirus-fight-QtOOkvBBss/index.html
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「poverty of the stimulus」的推薦目錄:
- 關於poverty of the stimulus 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於poverty of the stimulus 在 浩爾譯世界 Facebook 的最佳貼文
- 關於poverty of the stimulus 在 多益達人 林立英文 Facebook 的最讚貼文
- 關於poverty of the stimulus 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
- 關於poverty of the stimulus 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於poverty of the stimulus 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
poverty of the stimulus 在 浩爾譯世界 Facebook 的最佳貼文
【每日國際選讀】
#文末挑戰多益選擇題📝
中國經濟成長大幅放緩
將對各國產生劇烈衝擊?
開啟「接收通知」和「搶先看」每天吸收雙語時事新知
來讀華爾街日報獨家
🔥 Beijing Scraps GDP Target, a Bad Sign for World Reliant on China Growth
北京未設定GDP成長目標:對於仰賴中國的世界經濟,這是個不祥之兆
-scrap 取消、作廢,同discard
-reliant 有賴於、仰賴…的,搭配介系詞為 on
🧐 China broke with more than a quarter-century of tradition by not issuing an economic growth target for 2020, a stark acknowledgment of the challenges facing the world’s second-largest economy as it grapples with uncertainties around.
中國打破持續了近30年的傳統,沒有制定2020年的經濟成長目標,這明顯承認了這個全球第二大經濟體面臨的挑戰,眼下中國仍在努力應對新冠病毒大流行引發的不確定性。
-stark 荒涼的、嚴峻的、完全的、極端的、徹底的
✍常見用法: to be in stark contrast to sth 與某事形成鮮明對比
-acknowledgement 承認
-grapple with sth 努力應對、設法解決,意近struggle with
🚨The unusual move—it’s the first time a formal target has been omitted since the practice began in 1994—suggests Beijing’s leaders aren’t eager to unleash a large-scale stimulus after China’s sharpest contraction in four decades. It foreshadows more economic pain for a world that has become increasingly reliant on China as an engine of growth.
這是中國自1994年開始設定官方經濟成長目標以來,首次沒有提出一個數值目標。這一非同尋常的舉動表明,在中國經歷了40年來最嚴重的經濟萎縮之後,中國政府領導人並不急於推出大規模刺激措施。這預示著越發依賴中國作為成長引擎的全球經濟將面臨更多痛苦。
-omit 省略、刪除
-unleash 發動、展開
-stimulus 刺激(措施、因素),同 incentive
-foreshadow 預示
🔨China reported a 6.1% gain in gross domestic product last year—its slowest pace in nearly three decades, though within the targeted range of between 6.0% and 6.5%. The implicit acknowledgment of sharply slower growth for 2020 marks a climbdown for leader Xi Jinping during a year when he was set to proclaim the end of absolute poverty in the country and double the economy’s size from a decade earlier—political goals meant to burnish his standing ahead of next year’s centennial of the Chinese Communist Party’s founding.
去年中國國內生產總值(GDP)成長6.1%,為近30年來最低水平,但位於政府設定的成長6.0%-6.5%的目標區間內。對2020年經濟增速大幅放緩的含蓄承認,對中國國家主席習近平來說是一種退讓,他原本計畫宣佈中國在2020年消除絕對貧困,經濟規模較10年前成長一倍。這些政治目標的實現有助於在明年中國共產黨成立100週年之前提升他的地位。
gross domestic product (GDP) 國內生產總值
implicit 含蓄的、暗示的
climbdown 退讓、屈服、妥協
burnish 作動詞時有「將…擦亮」之意,同polish、brighten;作名詞時為「光亮、光澤」
centennial 一百週年
未完待續...
疲弱不振的中國經濟
中國政府將如何應對?
加入文末每日國際選讀計畫,解鎖完整語音導讀版
——
原文連結請看留言
——
❓❓多益模擬題❓:
Economists say the ____ urban jobless rate _____ many rural migrant workers who had flooded into the country’s biggest cities seeking employment but who have since returned to their home villages and thus aren’t counted in the official tally.
經濟學家稱,官方城鎮調查失業率未包括湧入中國大城市找工作而後來返鄉的大量農民工。
🙋🏻♀️🙋🏼♀️
A. official / excludes
B. private / including
C. non-profit / included
-
【每日商業英文計畫,熱烈招生中!】
華爾街日報訂閱超值方案 📰
專屬 #臉書社團,浩爾 #每日語音導讀
「留言+1」,就送你 #優惠碼 及 #導讀試聽!
poverty of the stimulus 在 多益達人 林立英文 Facebook 的最讚貼文
Taxing the rich to fund welfare is Nobel winner’s growth mantra
How do you spur ( ) demand in an economy? By raising direct taxes and distributing the money among the poor, says this year’s winner of the Nobel prize for economics.
Reducing taxes to boost ( ) investments is a myth ( ) spread by businesses, says Abhijit Banerjee, who won the prize along with Esther Duflo of the Massachusetts Institute of Technology (MIT) and Michael Kremer of Harvard University for their approach to alleviating ( ) global poverty. “You are giving incentives ( ) to the rich who are already sitting on tons of cash.”
Countries from China to India to Indonesia are slashing ( ) taxes for businesses to spur growth amid a gloomy ( ) outlook ( ) for global economic expansion. The International Monetary Fund last month made a fifth-straight cut to its 2019 global growth forecast, pegging ( ) it at 3 percent.
“You don’t boost growth by cutting taxes, you do that by giving money to people,” Banerjee said in an interview on Oct. 21, suggesting that cash in the hands of the poor will drive consumption ( ). “Investment will respond to demand.”
China earlier this year rolled out ( ) tax cuts worth US$280 billion on personal income and corporate ( ) profits, while India surprised with a US$20 billion stimulus ( ), taking its corporate tax rate to among the lowest in Asia. Indonesia also plans to lower tax on companies to 20 percent from 25 percent.
MIT Professor Banerjee spoke in New Delhi where he was promoting ( ) his book Good Economics for Hard Times.
Last year, US President Donald Trump unveiled ( ) a US$1.5 trillion tax package, and has promised “very substantial ( )” tax cuts in 2020 for “middle-income” Americans.
It’s the widening inequality ( ) in developed countries such as the US that has angered people and is pushing the world into a trade war, Banerjee said. “It is unbelievable that in the name of growth you have allowed inequality to explode to this point.”
India Slowdown
Growth in India, Asia’s third-largest economy, has slumped ( ) to a six-year low as consumption is weak, prompting the central bank to cut interest rates to the lowest in almost a decade.
The government complemented ( ) the monetary policy easing with a series of measures to reverse ( ) the demand slowdown. Those steps — including scrapping ( ) a tax on foreign funds to allowing tax concessions ( ) on vehicle purchases — have raised concerns of a fiscal ( ) slippage ( ).
“Given the demand slump it’s not a bad thing for the government to be expansionary,” Banerjee said. “If we want to stimulate demand and corporate tax cut doesn’t do that, which is my prediction, then what do we do.”
諾貝爾經濟學獎得主:「劫富濟貧」是良方
在經濟結構中要如何刺激需求?今年的諾貝爾經濟學獎得主認為,應提高直接稅,並將錢分配給窮人。
Abhijit Banerjee與麻省理工學院的Esther Duflo及哈佛大學的Michael Kremer,以其對緩解全球貧窮問題的研究,共同獲得了今年的諾貝爾經濟學獎。Banerjee表示,用減稅來鼓勵投資,是企業所散播的迷思,減稅「是在獎勵富人,而這些有錢人已是坐擁金山銀山」。
全球經濟前景黯淡,從中國到印度再到印尼都在大幅削減企業稅,以刺激經濟成長。國際貨幣基金上個月將二○一九年全球成長率連續第五次下修,將其定為百分之三。
Banerjee十月二十一日在接受採訪時表示:「促進經濟成長不是透過減稅來達成,而是要給人錢」。這表示,窮人手中的現金才會推動消費,「有需求才會有投資」。
今年稍早,中國對個人所得和企業利潤實施減稅,所減之稅額達兩千八百億美元。而印度則出乎意料地祭出兩百億美元的經濟刺激措施,將印度的公司稅稅率降至亞洲最低。印尼還計劃將公司稅由百分之二十五降至百分之二十。
麻省理工學院的Banerjee教授在印度新德里宣傳其著作《艱困時期的好經濟學》時,做出以上表示。
美國總統Donald Trump去年公佈了一項一點五兆美元的稅務方案,並承諾在二○二○年對「中等收入」的美國人實施「很實質性的」減稅。
Banerjee說,激怒人們,並讓世界陷入貿易戰的,是美國等已開發國家日益擴大的不平等。「令人難以置信的是,你打著經濟成長的名號,卻讓不平等迅速擴大到這個地步。」
印度經濟成長下滑
由於消費疲弱,印度這亞洲第三大經濟體,其經濟成長已跌至六年來最低,使得印度央行將利率調降至近十年來最低。
為了避免因貨幣政策寬鬆所造成的需求放緩,印度政府以一系列措施來做配套。這些措施─包括取消對外資課稅,以及購車稅率優惠─引起了人們對政府財政惡化的擔憂。
Banerjee表示:「由於需求下滑,因此增加政府支出並不是件壞事」。「如果我們要刺激需求,而削減公司稅又如我所料達不到這目標,那我們也別無他法。」
#高雄人 #學習英文 請找 #多益達人林立英文
#高中英文 #成人英文
#多益家教班 #商用英文
#國立大學外國語文學系講師