【穿著涼鞋與長裙跑步的塔拉烏馬拉人】
前陣子碰到友人提到,說我寫的東西都太難懂了,難道就不能再簡單點嗎?(會嗎?應該沒人比我更白話了說!)
接著週末意外看到這部Netflix去年推出的自製紀錄片《跑出新世界:部落女孩羅雷娜》,如果你在多年前看過一本書叫《天生就會跑》,裡頭提及的塔拉烏瑪拉人,這個神出鬼沒卻很會跑的神秘民族,根據wiki資料,這民族只有10萬6千人,居住在墨西哥山區裡的原住民。
這部紀錄片就是紀錄其中一位名為 María Lorena Ramírez的女子,她主攻50-100km的越野超馬,拿過不少第1或第2名。
片長只有20幾分鐘,本人也不多話,其實挺悶的,但除了她特殊的造型(長裙+涼鞋),也能看到她的日常,每天就是勞務農作,沒有交通與大眾運輸,雙腳就是他們的悠遊卡,她的比賽服也不特別,就是日常所穿的衣服,更沒有什麼特別的課表或新穎裝備等等,因為生活的考驗就是最好的訓練,所有體能與意志都是被大自然磨鍊出來的。
紀錄片裡有一段是她拿到的廠商贊助的跑鞋,但她就是不喜歡,還是選擇回去穿她們的涼鞋。我看到她最大喜悅應該是在比賽後,會有路人跟她合照吧!
不過這幾天我感興趣的查了她的一些資料,她後來也有不少穿跑鞋參賽的照片,像以下連結的內容,是她穿著ASICS參加Oklahoma City Half Marathon的照片與賽後訪談,她還是提到了她不愛跑鞋,太重又讓她隨時會跌倒的感覺,我另外查了她該場成績是1h50m,其實也沒有想像的快,或許她們這民族還是得回歸山林與重拾老祖宗的智慧產物,她們才發揮得出這民族的潛能吧。
https://www.rei.com/blog/run/runner-lorena-ramirez-is-going-the-distance
以上,有興趣再上Netflix找來看看,或google《健跑女孩》也有機會找到,話就至此了.....
https://www.netflix.com/tw/title/80244683
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過10萬的網紅ayokoi,也在其Youtube影片中提到,実家の近くで、箱根駅伝の撮影をしてみました。 3区のランナー、全20名が登場します。 この時点では、往路優勝の東洋大学は10位でした。 タイトル画面は、沿道で配布される旗ですが、今年から紙製から布製へ変わりました。 The Tokyo-Hakone collegiate ekiden (re...
marathon wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
อุตสาหกรรมท่องเที่ยว กำลังเป็นตัวช่วยของเกาหลีเหนือ / โดย ลงทุนแมน
พอพูดถึงเกาหลีเหนือเรานึกถึงอะไร
คิม จ็อง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน
หรือประเทศที่ชอบทดลองอาวุธนิวเคลียร์
แต่มาตอนนี้เราอาจต้องมาคิดใหม่
เพราะตอนนี้เกาหลีเหนือกำลังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศมากขึ้น
ทำไมเกาหลีเหนือต้องทำแบบนั้น ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
เกาหลีเหนือนับเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ภายใต้ระบบเศรษฐกิจแบบนี้ รัฐบาลจะเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตเป็นส่วนใหญ่
ที่ผ่านมานั้น เกาหลีเหนือมักมีปัญหาเรื่องการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ทำให้มักโดนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากประเทศฝั่งตะวันตกหลายประเทศ
นอกจากนี้ ในปี 1991 การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ทำให้ประเทศที่ปกครองระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ได้รับผลกระทบไปด้วยโดยเฉพาะเกาหลีเหนือ ที่สหภาพโซเวียตให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
เมื่อเป็นแบบนี้ ทำให้เกาหลีเหนือต้องเปิดประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจด้านต่างประเทศ
ถ้าย้อนกลับไปในช่วงสงครามเกาหลีในช่วงระหว่างปี 1950-1953 มูลค่าเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นั้นใกล้เคียงกันมาก
แต่เมื่อเทียบกับวันนี้แล้ว ต้องบอกว่าต่างกันคนละเรื่อง
มูลค่า GDP ในปี 2018
เกาหลีเหนือ 970,000 ล้านบาท
เกาหลีใต้ 49,000,000 ล้านบาท
ต่างกัน 50 เท่า
GDP เฉลี่ยต่อหัวในปี 2018
เกาหลีเหนือ 38,800 บาท
เกาหลีใต้ 1,000,000 บาท
ต่างกัน 25 เท่า
ปัจจุบัน ส่วนประกอบใน GDP ของเกาหลีเหนือมาจาก 3 ภาคหลักคือ
อุตสาหกรรม 48%
บริการ 30%
เกษตรกรรม 22%
โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนับเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลเกาหลีเหนือพยายามนำมาใช้
ทำให้ประเทศเกาหลีเหนือมีการลงทุน พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990
เมื่อเร็วๆ นี้ ทาง คิม จ็อง-อึน มีการทำพิธีเปิด Hot Spring Cultural Recreation Centre ที่ให้บริการร้านสปาและสกีรีสอร์ต ให้แก่นักท่องเที่ยว
โดยโครงการดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของคิม จ็อง-อึน ที่สร้างขึ้นมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
ทั้งนี้ GDP ของเกาหลีเหนือติดลบไป 4.1% ในปี 2018 ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 21 ปี จากมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ทำให้ไม่สามารถค้าขายกับต่างประเทศได้ รวมไปถึง ปัญหาภัยแล้งจนกระทบกับภาคเกษตรกรรมของประเทศ
แล้วใครมาเที่ยวเกาหลีเหนือบ้าง?
ถ้าเราคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวจากตะวันตก เราจะคิดผิด
เพราะนักท่องเที่ยวจากประเทศฝั่งตะวันตกมาที่เกาหลีเหนือมีเพียงปีละ 5,000 คน
แต่ที่น่าสนใจคือ นักท่องเที่ยวกลุ่มที่ใหญ่สุดเป็น นักท่องเที่ยวชาวจีน ที่มีจำนวนมากถึง 350,000 คน
ดูเหมือนว่า ตอนนี้หลายประเทศต้องหันมาใช้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อช่วยสร้างรายได้ในยามที่อุตสาหกรรมส่วนอื่นๆ กำลังได้รับผลกระทบ
ซึ่งแน่นอนว่า สำหรับเกาหลีเหนือนั้นถือว่าได้เปรียบตรงที่ประเทศนั้นตั้งอยู่ใกล้กับจีน ซึ่งการที่คนจีนมีฐานะที่ดีขึ้น ในอนาคตก็น่าจะส่งผลให้คนจีนไปเที่ยวเกาหลีเหนือกันมากขึ้น..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่านักท่องเที่ยวจีนนั้นเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
ปี 2000 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ 10.5 ล้านคน
แต่ในปี 2018 จำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 150 ล้านคน
แค่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนก็มากกว่าประชากรทั้งประเทศไทยอยู่หลายเท่า..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.bloomberg.com/…/north-korea-opens-new-mountain-…
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_North_Korea
-https://en.wikipedia.org/wiki/Eastern_Bloc
-https://en.wikipedia.org/wiki/Korean_War
-https://en.wikipedia.org/…/List_of_countries_by_GDP_(nomina…
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_South_Korea
-https://en.wikipedia.org/wiki/Tourism_in_North_Korea
-https://www.foxnews.com/travel/north-korea-tourism-promotion
-https://www.travelwires.com/tourism-industry-in-north-korea…
-https://www.itv.com/…/north-korea-marathon-pyongyang-touri…/
-https://www.nknews.org/…/as-chinese-tourism-to-north-korea…/
-https://www.statista.com/topics/962/global-tourism/
-https://www.telegraph.co.uk/…/…/rise-of-the-chinese-tourist/
-https://tradingeconomics.com/north-k…/gdp-annual-growth-rate
-https://www.reuters.com/…/north-koreas-economy-shrinks-most…
marathon wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
บริษัทรองเท้าแตะ ที่รายได้หมื่นล้าน / โดย ลงทุนแมน
รองเท้าแตะ สินค้าธรรมดา ดูบ้านๆ
จนเหมือนไม่สามารถสร้างแบรนด์ หรือมูลค่าเพิ่มได้
ถ้าเราคิดว่าทุกคนจะซื้อรองเท้าแตะไปใช้งาน แบบไม่เน้นแบรนด์
เหมือนกับ น้ำดื่ม ถุงพลาสติก กระดาษ
เราจะคิดผิด..
ในโลกธุรกิจ ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้..
เมื่อมีคนเห็นช่องว่างของสินค้าบ้านๆ นี้ แล้วเข้าไปเติมเต็ม และปั้นรองเท้าแตะจนเป็นแบรนด์รองเท้าแตะระดับโลกได้
เมื่อทำสำเร็จ ตลาดที่ได้จะใหญ่มาก เพราะ มนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องใส่รองเท้า..
วันนี้ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟังถึงแบรนด์ระดับโลกอย่าง
Havaianas
Crocs
FitFlop
และแบรนด์ของไทย คือ ช้างดาว
เริ่มต้นกันที่รองเท้าแตะไฮโซ Havaianas
อ่านว่า ฮาวายานัส เป็นภาษาโปรตุเกส แปลว่า ชาวฮาวาย
รองเท้าแบรนด์นี้มาจากประเทศบราซิล ไม่ใช่โปรตุเกส
ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก รองเท้าแตะฟางข้าวที่ใส่กับชุดกิโมโนของญี่ปุ่น
แต่ได้ดัดแปลงมาใช้ ยาง ในการทำรองเท้าแทน
ในช่วงแรก Havaianas ได้รับความนิยมในกลุ่มแรงงานของบราซิล
แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ขยายมาสู่กลุ่มวัยรุ่น
จนสุดท้าย ก็ได้รับความนิยมในทุกชนชั้นของบราซิล
และจุดพีกของแบรนด์ เกิดขึ้นเมื่องานฟุตบอลโลกปี 1998
ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยน ที่ทำให้ทั่วโลกรู้จัก Havaianas
เพราะได้ผลิตรองเท้าแตะ รุ่นที่มีธงชาติบราซิลติดที่สายรองเท้า
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการเชียร์ฟุตบอล
ทำให้ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนบอลทั่วโลก และขายได้ถึง 100 ล้านคู่
ความโด่งดังของ Havaianas ขยายไปทั่วโลก ซึ่งประเทศไทย ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
Havaianas ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับรองเท้า โดยการออกแบบ และสร้างจุดเด่นให้กับรองเท้า
เช่น รองเท้าแตะเรืองแสง รองเท้าแตะประดับด้วยคริสตัล ทอง และเพชร
รวมถึงการสร้างคอลเล็กชันร่วมกับแบรนด์อื่น เช่น Marvel, Disney
ราคาของรองเท้าแตะ Havaianas ราคาเริ่มต้นประมาณ 750 บาท ไปจนถึง 4,000 บาท
ผลประกอบการบริษัท Alpargatas เจ้าของแบรนด์ Havaianas
ปี 2016 มีรายได้ 30,396 ล้านบาท กำไร 2,714 ล้านบาท
ปี 2017 มีรายได้ 27,906 ล้านบาท กำไร 2,716 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 29,279 ล้านบาท กำไร 2,489 ล้านบาท
บริษัทนี้มีรองเท้าแตะ เป็นสัดส่วนรายได้ถึง 69% ของรายได้ปี 2018
ซึ่ง Havaianas ได้ขายรองเท้าแตะไปกว่า 240 ล้านคู่ต่อปี ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
แบรนด์ต่อมาคือ รองเท้าแตะรูปร่างแปลกตา ไม่เหมือนใคร
Crocs รองเท้าจระเข้ในตำนาน
ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องการสวมใส่สบาย และทนทานสูง
สามารถใส่ลุยน้ำ ลุยทราย ลุยโคลน ลุยได้ทุกกิจกรรม โดยไม่มีปัญหา
ถึงขนาดเคยมีข่าว เด็กหนุ่ม Benjamin Pachev สวมรองเท้าแตะ Crocs
เข้าร่วมการแข่งขัน วิ่งฮาล์ฟมาราธอนในงาน OneAmerica 500 Festival Mini-Marathon จนคว้าอันดับที่ 16..
Crocs เป็นบริษัทรองเท้าสัญชาติอเมริกัน
ก่อตั้งโดย Scott Seamans, Lyndon "Duke" Hanson และ George Boedecker, Jr.
เริ่มแรกพวกเขามีความคิดที่จะสร้างรองเท้าสำหรับนักแข่งเรือ และสำหรับใช้งานทางน้ำ
ดังนั้น รองเท้าที่พวกเขาต้องการ ต้องมีคุณสมบัติกันลื่น และไม่ทิ้งร่องรอยขีดข่วนไว้บนเรือ
โดย Crocs ทุกรุ่นจะผลิตด้วยวัสดุที่เรียกว่า Croslite ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Crocs
มันมีคุณสมบัติช่วยให้รองเท้ามีน้ำหนักเบา ยึดเกาะดี และไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนพื้น
รองเท้าแตะ Crocs รุ่นแรก เปิดตัวในปี 2002 เป็นรุ่น The Beach
แต่ด้วยเอกลักษณ์ของรองเท้า Crocs จึงไปเตะตาผู้คนจากหลายกลุ่ม
ไม่ว่าจะเป็น เซเลบฯ, นักกีฬา, บุคลากรทางการแพทย์, กลุ่มผู้นิยมกิจกรรม outdoor ไปจนถึงกลุ่มคนทั่วไป
รองเท้าแตะ Crocs ราคาเริ่มต้นประมาณ 550 บาท ไปจนถึง 3,300 บาท
ผลประกอบการบริษัท Crocs
ปี 2016 มีรายได้ 31,579 ล้านบาท ขาดทุน 967 ล้านบาท
ปี 2017 มีรายได้ 31,191 ล้านบาท ขาดทุน 161 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 33,162 ล้านบาท ขาดทุน 2,109 ล้านบาท
ตั้งแต่เริ่มกิจการ ถึงตอนนี้ Crocs ขายรองเท้าไปแล้วมากกว่า 630 ล้านคู่
และครอบคลุมกว่า 90 ประเทศทั่วโลก
ด้วยคุณภาพของสินค้าทั้ง เบา สวมสบาย ทนทาน และยึดเกาะได้ดี
ทำให้ได้รับความชื่นชอบจากลูกค้าบางกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคของ Crocs คงเป็นเรื่องรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์จนเกินไป
ทำให้คนบางกลุ่มอาจมองว่า รูปทรงไม่ค่อยสวย ใส่แล้วไม่เท่
อีกแบรนด์รองเท้าแตะที่หลายคนต้องร้องอ๋อ นั่นคือ FitFlop
รองเท้าเพื่อสุขภาพแบรนด์ดังจากอังกฤษ
จนได้รับฉายาว่า “รองเท้าเพื่อขาเรียวสวย”
FitFlop คิดค้นโดยคุณ Marcia Kilgore อดีตเจ้าของธุรกิจ Bliss Spa และเจ้าของ Soap & Glory ผลิตภัณฑ์สบู่อาบน้ำและครีมบำรุงผิว
จุดเริ่มต้นมาจาก Marcia ต้องการลดหุ่นหลังจากคลอดลูกคนแรก
เธอจึงไปปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อหาวิธีสลายไขมัน
โดยการลดเซลลูไลต์ หรือ ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง
เซลลูไลต์ทำให้ผิวมีลักษณะเป็นรอยบุ๋ม ขรุขระ หรือเกิดรอยย่น ซึ่งมักเกิดขึ้นที่บริเวณต้นขา สะโพก ก้น และท้อง
อย่างไรก็ตาม เธอยังมีโจทย์อีกว่า การแก้ปัญหานี้ต้องไม่ยุ่งยาก เสียเวลา และเจ็บตัว
เธอจึงตัดเรื่องการออกกำลังกายออกไป เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่มักไม่มีเวลาออกกำลังกาย
ดังนั้น เธอจึงมีไอเดียที่จะสร้างรองเท้าแตะเพื่อสุขภาพ
ที่ช่วยให้ออกกำลังกายได้ระหว่างเดิน เพื่อลด และกระชับเรียวขา
เพราะ การเดิน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วในชีวิตประจำวัน
รองเท้า FitFlop ผลิตขึ้นจากเทคโนโลยีที่เรียกว่า Microwobbleboard
คือ พื้นรองเท้าส่วนกลางที่มีความหนาแน่นหลายระดับ คล้ายกับกระดานขนาดเล็กที่โยกได้
เพื่อช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อตลอดเวลาสวมใส่
ในปี 2007 ได้เปิดตัวสินค้าตัวแรก คือ FitFlop Phenomenon
เจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย และต้องการวิธีที่ทันสมัย
แต่แบรนด์เริ่มโด่งดังขึ้นหลังจากที่ พิธีกรหญิงชื่อดัง Oprah Winfrey
กล่าวชื่นชมคุณภาพของรองเท้า FitFlop
ทำให้แฟนๆ รายการ ต่างพากันไปหาซื้อมาครอบครอง
FitFlop มีจำหน่ายกว่า 52 ประเทศทั่วโลก และขายได้มากกว่า 22 ล้านคู่ต่อปี
ซึ่งมีฟิลิปปินส์และไทย เป็นตลาดใหญ่ในเอเชีย
ถึงแม้รองเท้าแตะ FitFlop จะราคาค่อนข้างสูง เริ่มต้นประมาณ 1,200 บาทถึง 6,000 บาท
แต่ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู สวมใส่สบาย พร้อมคุณสมบัติด้านสุขภาพ เช่น ช่วยขาเรียว ลดอาการปวดขา เท้าบวม ลดแรงกระแทกต่อข้อเท้าและข้อเข่า
ทำให้คุณผู้หญิงต่างชื่นชอบ และพากันบอกปากต่อปาก
จนแบรนด์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ซึ่งต่อมา เมื่อรองเท้าแตะสำหรับผู้หญิงติดตลาดแล้ว
FitFlop ก็เริ่มผลิตรองเท้าเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ชายในปี 2008 ออกสู่ตลาด
ตอนนี้เรามาพูดถึงรองเท้าฝั่งประเทศไทยกันบ้าง
ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ทุกคนรู้จักกันดี
รองเท้าแตะตรา “ช้างดาว”
รองเท้าแตะยางในตำนานของเมืองไทย
ช้างดาว กับ รองเท้าผ้าใบนันยาง ต่างมีเจ้าของเดียวกัน
ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจาก คุณวิชัย ซอโสตถิกุล ได้ก่อตั้ง บริษัท วัฒนสินพาณิชย์ จำกัด
ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด
บริษัททำธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าหลายชนิด เช่น รองเท้าผ้าใบยี่ห้อ “หนำเอี๊ย” จากประเทศสิงคโปร์
จากเดิมรองเท้าผ้าใบนี้ชื่อว่า หนำเอี๊ย ที่เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว
แต่สามารถออกเสียงตามภาษาจีนกลาง ได้ว่า “หนันยาง”
และปรับให้คนไทยจำง่ายขึ้นเลยได้ชื่อว่า “นันยาง”
ในปี 1953 บริษัท นันยาง ก็ได้เป็นฐานการผลิตรองเท้าผ้าใบ ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
จนกระทั่งในปี 1956 บริษัทได้เริ่มการผลิตรองเท้าแตะ ตราช้างดาว
โดยทำมาจากยางพารา 100%
ในช่วงแรกนั้นมี 2 สีคือ สีน้ำตาล และ สีน้ำเงิน
ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น
รองเท้าแตะตราช้างดาวขายในราคาเพียงคู่ละ 99 บาท
ผลประกอบการของ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด
ปี 2016 มีรายได้ 928 ล้านบาท กำไร 229 ล้านบาท
ปี 2017 มีรายได้ 851 ล้านบาท กำไร 159 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 1,006 ล้านบาท กำไร 262 ล้านบาท
ผลประกอบการของ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด
ปี 2016 มีรายได้ 1,017 ล้านบาท กำไร 15 ล้านบาท
ปี 2017 มีรายได้ 913 ล้านบาท กำไร 9 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 1,107 ล้านบาท กำไร 27 ล้านบาท
โดยแบ่งสัดส่วนเป็นกลุ่มรองเท้าผ้าใบ 50% และกลุ่มรองเท้าแตะ 50%
ตั้งแต่เริ่มวางขาย รองเท้าแตะช้างดาว ขายได้มากกว่า 100 ล้านคู่แล้ว
และปีหนึ่งส่งออกได้ถึง 300,000 คู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชีย เช่น พม่า อินเดีย บังกลาเทศ ลาว อินโดนีเซีย
ในอดีต ช้างดาวถูกมองว่าเป็นรองเท้าสำหรับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน
คนเลือกซื้อมาใส่ เพราะมองถึงความทนทานและคุ้มค่า
แต่ปัจจุบัน ช้างดาว ก็พยายามปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย และเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น
อย่างเช่น การออกแคมเปญ ‘ช้างดาวสไตล์’
การตลาดที่จะสื่อว่า คนรุ่นใหม่ และคนดัง แม้จะสวมรองเท้าช้างดาวก็เท่ได้
และออก ‘ช้างดาวเบสิก’ รองเท้าแตะสีขาวล้วน และดำล้วน เจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่
จากเรื่องราวของแบรนด์รองเท้าแตะทั้งหมดที่เล่ามา
จะเห็นได้ว่า แต่ละแบรนด์ก็มีจุดเริ่มต้น และจุดขายที่แตกต่างกันไป
แต่จุดร่วมเดียวกัน ที่ทำให้แบรนด์เหล่านั้นประสบความสำเร็จได้
ก็คือ มีความตั้งใจที่ชัดเจน ว่าจะผลิตรองเท้าเพื่อใคร
อย่างเช่น Crocs อยากทำรองเท้าสำหรับนักแข่งเรือ หรือ FitFlop ที่อยากทำรองเท้าเพื่อสุขภาพสำหรับผู้หญิง
เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจน หรือรู้ว่าเราอยากส่งมอบคุณค่าให้ใคร
และตั้งใจทำมันอย่างจริงใจ พร้อมกับพัฒนาสินค้าอย่างสม่ำเสมอ
ถึงแม้ช่วงแรกๆ ผลตอบรับจะไม่ดีอย่างที่หวัง
แต่กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ความจริงใจของเรา
ซึ่งสุดท้ายแล้ว มันก็จะส่งไปถึงผู้คนได้ในที่สุด..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ รองเท้า Crocs ได้รับอีกฉายาว่า รองเท้าติดบันไดเลื่อน
เพราะวัสดุของรองเท้า ที่มีความยืดหยุ่นและยึดเกาะสูง
ทำให้เวลาใส่ขึ้นบันไดเลื่อน รองเท้ามักจะถูกดูดเข้าไป นั่นเอง..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://moneyhub.in.th/article/%E0%B8%B4business-success/
-http://fitflop-thailand.blogspot.com/2009/07/fitflop.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Havaianas
-https://board.postjung.com/990514
-https://thestandard.co/news-business-havaianas/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Crocs
-https://www.facebook.com/notes/crocs/ต้นกำเนิดรองเท้า-crocs/122494014467657/
-https://www.catdumb.com/when-croc-want-to-invest-running-m…/
-https://says.com/…/12-things-you-should-know-about-fitflops…
-Financial Report_2018
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
marathon wiki 在 ayokoi Youtube 的精選貼文
実家の近くで、箱根駅伝の撮影をしてみました。
3区のランナー、全20名が登場します。
この時点では、往路優勝の東洋大学は10位でした。
タイトル画面は、沿道で配布される旗ですが、今年から紙製から布製へ変わりました。
The Tokyo-Hakone collegiate ekiden (relay marathon) .
http://en.wikipedia.org/wiki/Hakone_Ekiden