關於 latex material ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

*Congrats to Brenda Chua for winning and thanks to all who joined! Stay tuned for more giveaways coming up!*

{Giveaway} Win a Multifunctional Baby Cot + Latex Mattress + Organic Cover (total worth $338) from RaaB Family!

The kids and I were thrilled to put together this brand new baby cot for the little brother and we did it just in time! I was amazed by how easy it was to assemble - all we needed was 20 minutes and a 20-cent coin. Swipe to see how the kids helped to set it up.

Using safe material which is BPA-free, moisture proof and washable, I like the design of the bed and how convertible it is. One side of the railing can be folded so that the cot joins directly to my bed which will make it easier for me to breastfeed and care for the baby at night. The 360-degree swivel wheels allows the cot to be pushed around the house and comes with brakes too. The wheels can also be removed and stored so that the cot becomes a cradle. Furthermore, as the baby grows, the mattress can also be lowered so that it becomes a playard or a bed for toddlers up to 3yo. How convenient and useful, right?

Oh, and the huge storage space below the bed is a lifesaver because I now don't have to worry about where to store the diapers, wet wipes, lotions, creams and other baby neccessities. The kids say that the latex matress and organic cover feel so soft and comfortable and I am thankful to have this cosy corner for the baby.

This awesome baby cot comes in three colours - blue, pink and orange. For more details, visit https://raab.com.sg/.

Good news! One of you will now get to receive a brand new set of the cot in your preferred colour, a mattress and a cover! To join,

1) Like A Happy Mum and RaaB Family.

2) Like and share this post.

3) Leave a comment on why you would like to win and tag 3 friends, one per comment.

The winner will be chosen from either FB or IG so hop over for more chances to win. This giveaway ends on 23 Mar 2359hrs and is open to readers with a valid Singapore address. It is not endorsed by or affiliated with FB in any way. Good luck, people!

#ahappymum #raabfamily #babycot #newborn #sgbabies #sggiveaway #sgmums #sgcontest #sg

ทำไม IRPC ต้องปรับตัวเป็น “องค์กรนวัตกรรม”
IRPC x ลงทุนแมน
ในโลกของการทำธุรกิจ เรามักเห็นนวัตกรรมเกิดมาจากการต่อยอดความถนัดในแต่ละธุรกิจนั้น
สำหรับ IRPC ที่มีความถนัดในธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี
ก็ได้ปรับเพื่อเปลี่ยนเป็นองค์กรนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม

โดยเน้นการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจหลัก และต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่
รวมถึงตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการพัฒนาระบบดิจิทัลเทคโนโลยี และระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย เข้ามาร่วมใช้ในขั้นตอนการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เรื่องราวของการปรับเปลี่ยนเป็น “องค์กรนวัตกรรม” เป็นอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือเรียกสั้นๆ ว่า IRPC
คือ ธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ คือ
71% มาจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียม เช่น น้ำมัน, ก๊าซ, ยางมะตอย
28% มาจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี เช่น เม็ดพลาสติก
1% มาจากกลุ่มธุรกิจสนับสนุนอื่น เช่น ท่าเรือน้ำลึก, คลังน้ำมัน

จากตัวเลขนี้ เราจะเห็นได้ว่า รายได้หลักของ IRPC มาจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียม

แต่ความน่าสนใจ อยู่ที่ธุรกิจปิโตรเคมี ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
โดยเฉพาะธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก ที่สามารถนำไปผลิตเป็นชิ้นส่วนของยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์การแพทย์ และอื่นๆ อีกมากมาย

จุดนี้เอง คือโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญของ IRPC
กลยุทธ์ของ IRPC คือ การใช้ความรู้และประสบการณ์กว่า 40 ปี ผนวกเข้ากับเทคโนโลยี เพื่อพัฒนานวัตกรรม ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ซึ่ง IRPC เลือกพัฒนาตัวเองให้เป็นองค์กรนวัตกรรมในทุกๆ ด้าน
ทั้งด้านการผลิต, การขาย, การจัดซื้อจัดจ้าง, การบริหารจัดการบุคคล และโดยเฉพาะด้านการวิจัยและพัฒนา

โดยการทำงานภายในองค์กร ได้นำระบบดิจิทัลต่างๆ เข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น

ในด้านการปฏิบัติการ มีการใช้ระบบแสดงผลตัวชี้วัดแบบ Real-time ที่แสดงค่าเป็นตัวเงิน และสามารถคาดการณ์การซ่อมบำรุงล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ

ด้านซัพพลายเชน มีระบบจัดการข้อมูลตั้งแต่ Crude Supply ไปจนถึงการจัดส่งสินค้า

ด้านการตลาด ได้นำ Big Data มาใช้วิเคราะห์ความต้องการของตลาด และติดตาม Inventory ของลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการได้อย่างรวดเร็ว

ด้านงานจัดซื้อจัดจ้าง ใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนให้กับบริษัท

ด้านการเงิน มีการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ทำให้ทุกธุรกรรมมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทั้งลูกค้าและคู่ค้า

รวมถึงด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ก็มีเว็บไซต์ “PLASTKET.COM” สำหรับให้ผู้ซื้อและผู้ขายในอุตสาหกรรมพลาสติกทำธุรกรรมได้อย่างสะดวกรวดเร็วทุกที่ทุกเวลา

นอกจากนี้ IRPC ยังมีศูนย์นวัตกรรม ซึ่งภายในมีห้องวิจัยแบบยืดหยุ่น หรือที่เรียกว่า Flexi Lab ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ และมีระบบสนับสนุนการทำงาน พร้อมพื้นที่อำนวยความสะดวกให้เกิดการทำงานร่วมกัน

ทำให้ห้องวิจัยนี้ กลายเป็นศูนย์กลางให้กับนักวิจัย ลูกค้า ฝ่ายขาย และส่วนผลิต ได้เข้ามาพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และช่วยกันคิดค้นนวัตกรรมที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งรูปแบบ B2B ไปจนถึงลูกค้าแบบ B2C

โดยตัวอย่างนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ที่ประสบความสำเร็จของ IPRC ก็มีตั้งแต่ เม็ดพลาสติก HDPE สีเทา สำหรับทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ,เม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ สำหรับรถ EV, เม็ดพลาสติก สำหรับชุด PPE และอุปกรณ์ทางการแพทย์ และหน้ากาก Graphene ที่ป้องกันแบคทีเรียและ PM2.5 เป็นต้น

ซึ่งหากในอนาคต ยิ่งมีความต้องการของนวัตกรรมเชิงพาณิชย์เหล่านี้มากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ของ IRPC ด้วย

คำถามต่อมาก็คือ นอกจากเรื่อง โอกาสทางธุรกิจแล้ว IRPC ยังให้ความสำคัญกับเรื่องใดอีกบ้าง?

เพื่อให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน IRPC จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรม ที่สามารถสร้างสมดุลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

เช่น นวัตกรรมพลาสติกเพื่อคนพิการ ที่ได้รับรางวัล นวัตกรรมแห่งชาติ ปี 2563
ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง IRPC และ มูลนิธิขาเทียม เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการ

รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังปิโตรเคมีปลายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Smart Material กลุ่มอุปกรณ์การแพทย์ จึงมุ่งพัฒนาและผลิตผ้า Melt Blown แห่งแรกของไทย ซึ่งใช้ผลิตชั้นกรองในหน้ากากอนามัย, หน้ากาก N95, หน้ากากทางการแพทย์, ชุดกาวน์ ฯลฯ รวมถึง Nitrile Butadiene Latex (NBL) ที่ใช้ทำถุงมือทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มเสถียรภาพด้านสาธารณสุขของประเทศ

แม้ IRPC จะเป็นองค์กรที่มีความถนัดด้านปิโตรเลียม และปิโตรเคมีภัณฑ์ แต่เมื่อมองไปยังความต้องการของผู้บริโภค และสังคม IRPC ก็สามารถต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมในด้านอื่นๆ ได้เหมือนกัน

ทั้งหมดนี้ คงทำให้เห็นแล้วว่า IRPC ได้ปรับตัวเป็น “องค์กรนวัตกรรม”
โดยมีเจตนารมย์ในการเป็น “องค์กรนวัตกรรมยั่งยืน”
เพื่อให้องค์กรและสังคมไทยสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน ไปพร้อมๆ กัน..

References
-รายงานประจำปี 2562 ของ IRPC
-เอกสารประชาสัมพันธ์ของ IRPC

It has been difficult, if not impossible, finding a mask with the right fit for my 3yo and 6yo. Even the smallest sized mask I could find in stores - which is the S sized AIR+ Family Range mask designed for kids and adults 7yo and up - is still too big for their little faces, which made me wonder if there is any protection at all from the airbone pollutants if the mask is of the wrong size.

If the haze is not too bad, we still wish to keep up with our outdoor play time on weekends, not to mention that we still have to go to and fro school and run errands on weekdays too.

Thanks to Innosparks, the new AIR+ Kid Range suitable for children aged 3 to 6 years is now launched! Woohoo! It offers the same N95-class protection as the previous range but is engineered to fit securely on small faces for effective protection.

We tried them out today when we were out and the masks definitely fit snugly on these two as they were playing and running around. The latex-free fabric makes it soft and gentle to wear and the filtration material increases breathability too. I like how the ear loops are wide and stretchable to minimise pressure on their ears and there is this unique tear-to-adjust feature that allows you to fit different facial profiles and find the precise fit for every kid.

For extra comfort, the reusable Nano Fan is strongly recommended, especially if you have active kids like mine. It allows fresh air to circulate better while removing the trapped heat, moisture and carbon dioxide in the mask. It is rechargeable using a micro-USB cable and weighs a mere 13grams so you can't really feel or even hear it at all as it does its job.

The AIR+ Kids Pack, which contains 1 Nano Fan and 1 N95 Kids Mask, retails at $31.90. You also get the masks at $7.90 for a box of 3. They are available at selected Watsons stores currently, and can be ordered via Lazada from early October.

#ahappymum #AIRplus #AIRplusKids #staysafe #haze #innosparks #mediadrop #kidsmask #outdoorplay