สรุปทิศทาง เศรษฐกิจปี 2021 ฉบับสมบูรณ์
ลงทุนแมน X KRUNGSRI EXCLUSIVE
2021 อีกปีที่ท้าทายกับสถานการณ์เศรษฐกิจภายใต้วิกฤติโควิด 19 ไม่แพ้ตอนวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 1997 และ วิกฤติซับไพรม์ในปี 2008 ที่ทำให้นักธุรกิจ และนักลงทุนหลายๆ คนเจ็บหนัก
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีบางคน ที่เห็นโอกาสในวิกฤติ จนสร้างการเติบโต หรือ ผลกำไรได้อย่างงดงาม
KRUNGSRI EXCLUSIVE บริการการให้คำปรึกษาทางเงิน สำหรับผู้ที่มีเงินฝากเงินลงทุน 5 ล้านบาทขึ้นไปกับธนาคารกรุงศรี จึงจัดสัมมนาพิเศษแบบ new normal ให้ลูกค้าคนสำคัญเข้าร่วมงานผ่านทางออนไลน์ “KRUNGSRI EXCLUSIVE Economic and Investment Outlook 2021” โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในและต่างประเทศมาวิเคราะห์ข้อมูลและให้มุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนทางการเงินในหลากหลายมิติ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจและวางกลยุทธ์ในปี 2021 นี้ได้
งานสัมมนาในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1) Global Economic Outlook 2021
เป็นการบรรยายภาพรวมเศรษฐกิจโลก และธีมการลงทุน
โดยคุณ Ben Powell ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนภาคเอเชียแปซิฟิก ของ BlackRock บริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่สุดในโลก
2) Thailand Economic Outlook 2021
บรรยายถึงภาพรวมและทิศทางเศรษฐกิจไทย โดย
ดร. ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย
และ ดร. สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัย และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
-Global Economic Outlook 2021
คุณ Ben Powell มองว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จากวิกฤติโควิด 19 จะเหมือนภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมรุนแรง มากกว่าจะเป็นวิกฤติทางการเงิน
เพราะในภาพรวมเศรษฐกิจ จะฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว ต่างจาก วิกฤติทางการเงิน ที่สถาบันการเงินเจ็บหนัก และเศรษฐกิจอาศัยเวลาฟื้นตัวนานกว่า
ซึ่งการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง จะเป็นตัวกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
และคาดว่าเศรษฐกิจโลก จะกลับมาใกล้เคียง หรือระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด ในช่วงกลางปีนี้
โดยธีมการลงทุนในมุมมองของ BlackRock ในปีนี้ จะมีหลักๆ 3 อย่าง
1) The New Nominal
ตอนนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกันทั่วโลก
และในบางประเทศมีอัตราดอกเบี้ยที่ติดลบด้วยซ้ำ
ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางในประเทศต่างๆ จะยังคงกดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ต่ำอยู่ไปสักระยะ
เพื่อรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เต็มที่ก่อน
ในขณะเดียวกัน การดำเนินนโยบายการคลัง คือ รัฐบาลอัดฉีดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่าง สหรัฐฯ ที่เพิ่งประกาศงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่กว่า 57 ล้านล้านบาท
ควบคู่ไปกับการดำเนินนโยบายการเงิน จากธนาคารกลาง ที่กดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำ และเพิ่มสภาพคล่องเข้าไปในระบบ
ตามมาด้วยสัญญาณการเพิ่มขึ้น ของอัตราเงินเฟ้อ
ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real yield) ที่คำนวณจาก อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตร หักด้วย อัตราเงินเฟ้อ
ยิ่งน้อยลงไปอีก หรืออาจถึงขั้นติดลบได้
BlackRock จึงปรับนโยบายการลงทุน โดยลดสัดส่วนของตราสารหนี้ลง เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
และเพิ่มสัดส่วนในหุ้น และ ตราสารหนี้ที่ชดเชยเงินเฟ้อ (TIPS) เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนของพอร์ตโดยรวม
โดยในตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ BlackRock มองว่าน่าลงทุนและให้สัดส่วนในพอร์ตเยอะ คือ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และ สุขภาพ (Health care)
เพราะยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตได้ดี และอนาคตสดใสอยู่
อีกทั้งยังมองว่า ใน 6-12 เดือนนี้ นักลงทุนเต็มใจที่จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เพื่อแสดงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น
2) Globalization Rewired
บรรยากาศการค้าโลก มีแนวโน้มกลับมาคึกคักอีกครั้ง
หลังจากที่ โจ ไบเดน เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้เกิดการเจรจา และค้าขายระหว่างประเทศราบรื่นมากขึ้น
ในขณะที่ปี 2020 ที่ผ่านมา กิจกรรมการค้าโลก ก็ฟื้นตัวเร็วกว่าที่ BlackRock คาดการณ์ไว้มาก
โดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นประเทศที่น่าจับตามองมากที่สุด
เพราะควบคุมสถานการณ์โรคระบาดได้ดี และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น และคาดว่าจะกลายเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจโลกในอีกไม่นาน
ซึ่ง World Bank คาดว่าในปีนี้ GDP ของจีน จะโตถึง 7.9%
ด้วยมุมมองที่สดใสของเศรษฐกิจจีน ทำให้ช่วงที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบการลงทุนโดยตรง (FDI) และตลาดหุ้น
การเข้าลงทุนในสินทรัพย์จีน จึงเป็นอีกหัวใจหลัก ของการลงทุนทั่วโลกตอนนี้
ที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
รวมถึงเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงการลงทุน ในประเทศอื่นนอกเหนือจากสหรัฐฯ
นอกจากจีนแล้ว กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets)
ก็กลายเป็นอีกเป้าหมายการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก
แต่ต้องดูเป็นรายประเทศไป ไม่ใช่ทุกประเทศจะน่าลงทุน
โดยนักลงทุนจะชอบประเทศที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และค่าเงินมีเสถียรภาพ
เช่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ไทย และมาเลเซีย
สรุปแล้ว ทั้งสหรัฐฯ และเอเชีย จะเป็นกลุ่มประเทศที่ขับเคลื่อนตลาดทุนโลกต่อไป
3) Turbocharged Transformations
ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ และความเท่าเทียม ยิ่งรุนแรงขึ้นจากสถานการณ์โควิด
เศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวในรูปแบบ K Shape
คือ คนรวย จะฟื้นตัวเร็ว และยิ่งรวยขึ้น
ในขณะที่คนจน นอกจากจะจนลงแล้ว ยังฟื้นตัวช้ากว่า
ซึ่งแต่ละประเทศต้องรีบเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนจริงๆ
เช่น ปรับปรุงกฎหมายการจัดเก็บภาษีที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ในขณะเดียวกันโควิด ก็เร่งทำให้พฤติกรรมของผู้คนเข้าหาโลกออนไลน์กันมากขึ้น
เห็นได้จากการเติบโตของธุรกิจวิดีโอสตรีมมิง และชอปปิ้งออนไลน์ เป็นต้น
แต่ธุรกิจรูปแบบเดิมๆ เช่น ร้านค้าปลีก และศูนย์การค้า ที่มีหน้าร้านจริง กลับยิ่งซบเซา
ทั้งนี้ ต่อไปเทรนด์ของการลงทุน จะไหลเข้าธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน หรือ ESG เพิ่มขึ้น อาทิ ธุรกิจที่ช่วยลดการปล่อยของเสีย และคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานสะอาด เป็นต้น
-Thailand Economic Outlook 2021
ในปี 2020 ที่ผ่านมา แบงก์ชาติประเมินว่า GDP ของประเทศไทย จะหดตัว -6.6% ซึ่งใกล้เคียงตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง
โดยได้รับปัจจัยลบมาจาก ภาคการท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ หายไปจาก 40 ล้านคน ในปี 2019 เหลือเพียง 6.7 ล้านคน ในปี 2020
การส่งออก ที่สะดุดลง เพราะซัพพลายเชนโลกหยุดชะงัก
การบริโภค และลงทุนภาคเอกชน ที่หดตัวในช่วงการล็อกดาวน์
แต่ประเทศไทยได้รับปัจจัยบวกจาก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งนโยบายการคลังและการเงิน ที่เข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจเอาไว้ไม่ให้บาดแผลลึกเกินไป
ส่วนในปี 2021 นี้ แบงค์ชาติประเมินว่า GDP ไทยจะโต 3.2%
ในขณะที่กรุงศรี คาดว่าจะเติบโต 2.5% หลังหักผลกระทบจากการระบาดของโควิดระลอกใหม่
ซึ่งที่เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะ ไม่เลวร้ายเหมือนปีก่อน และมีการขยายตัว เป็นเพราะ
ไทยไม่ได้มีการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ มีเฉพาะมาตรการควบคุมเฉพาะพื้นที่
และภาครัฐ มีการออกมาตรการควบคุมและช่วยเหลือต่างๆ ได้ตรงจุด อย่างรวดเร็ว กว่าที่ผ่านมา
เพราะมีข้อมูล และประสบการณ์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดในระลอกแรก
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ จึงไม่เป็นวงกว้างเหมือนในปีก่อน
นอกจากนี้ การส่งออกไทย ซึ่งมีมูลค่าคิดเป็น 45% ของ GDP (ของปี 2019)
ยังมีแนวโน้มขยายตัว จากอานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว
และสินค้าส่งออก ที่คิดเป็นสัดส่วนมากสุดของไทย คือ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์
ยังเป็นที่ต้องการอย่างมาก ของผู้บริโภคในตลาดโลก
โดยผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในต่างประเทศ ต้องการรถยนต์ส่วนตัว เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้รถสาธารณะ
รวมถึงผู้บริโภคในหลายประเทศ ที่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อทำงานที่บ้าน
ดังนั้น การส่งออก จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้
ซึ่งในระยะยาว สำหรับผู้ประกอบการไทยแล้ว
ตลาดเอเชีย อาจมีความน่าสนใจกว่า ตลาดในแถบตะวันตก
ถึงแม้รายได้เฉลี่ยต่อหัวจะต่ำกว่า แต่ชาวเอเชีย มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงกว่า ชาวตะวันตก
ทำให้มีอัตราการบริโภคที่เติบโตเร็วกว่า ซึ่งเป็นอีกโอกาสของผู้ประกอบการไทย
ส่วนความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ในปีนี้ ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
คือ เรื่องของการกลายพันธุ์ของเชื้อ และความยืดเยื้อของการแพร่ระบาด
รวมถึงการแจกจ่ายวัคซีน จะทั่วถึงครบทุกคนเมื่อไร
เพราะสิ่งเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อนโยบายด้านการท่องเที่ยวและเปิดประเทศโดยตรง ว่าจะกลับมาเร็วแค่ไหน ซึ่งการท่องเที่ยว ก็เป็นอีกแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ
โดย รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดเป็น 12% ของ GDP (ของปี 2019)
ทั้งนี้ ในภาพรวมเศรษฐกิจไทย ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และกำลังฟื้นตัว
แต่การฟื้นในแต่ละอุตสาหกรรม จะไม่เท่ากัน
อย่างภาคการผลิต ก็เห็นตัวเลขสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน
ในขณะที่ภาคบริการ โดยเฉพาะ ธุรกิจโรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร ยังไม่ฟื้นตัว และเจอความท้าทายอยู่
ที่สำคัญธุรกิจเหล่านี้ เป็นธุรกิจที่มีการจ้างงานค่อนข้างเยอะ
ซึ่งแรงงานจำนวนมากนี้ ก็อาจถูก Layoff และขาดรายได้
จนส่งผลกระทบต่อ การบริโภคภายในประเทศ ในที่สุด
ดังนั้น คาดว่า การบริโภคในปีนี้ จะยังอยู่ในระดับต่ำกว่า ช่วงก่อนโควิด
และภาพรวมเศรษฐกิจไทย จะฟื้นคืนสู่จุดเดิมได้ ในปีหน้า
ปิดท้าย ทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ แบงก์ชาติ ได้ย้ำว่า
ประเทศไทย และ ภาคธุรกิจ ต้อง Transform ตัวเองครั้งใหญ่ ณ ตอนนี้
เพราะหลังจากเหตุการณ์โควิด กิจกรรมทางเศรษฐกิจ จะเปลี่ยนไปตลอดกาลถึงระดับโครงสร้าง
ไม่ว่าจะเป็น การนำระบบ Automation หรือ AI มาใช้งานกันมากขึ้น
รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่เริ่มจะมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย
การค้าออนไลน์ และกิจกรรมบนโลกดิจิทัล ที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นต้น
ประเทศไทย และ ภาคธุรกิจ ต้องให้ความสำคัญกับ นวัตกรรม และการรีสกิลของแรงงาน
เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และก้าวไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง..
同時也有6部Youtube影片,追蹤數超過69萬的網紅Wongnai,也在其Youtube影片中提到,แวน เฮ้วซิ่ง พาเที่ยวแบบ New Normal อยู่บ้านก็เที่ยวได้ . เปิดประสบการณ์การเดินทางแบบยุคใหม่แบบ New Normal เที่ยวพีระมิด 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกถึงประเท...
krungsri bank 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
ความห่วงที่วนเวียนอยู่ทุกที่รอบๆ ตัวคุณ
กรุงศรี X ลงทุนแมน
“ผู้บริโภคต้องการ Banking ไม่ได้ต้องการ Bank”
คำพูดนี้เราคงได้ยินบ่อยๆ เมื่อพูดถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคกับการใช้บริการธนาคารในปัจจุบัน
และสิ่งนี้เป็นเทรนด์ที่ธนาคารต้องปรับตัว
นั่นทำให้ธนาคารพยายามเข้าไปอยู่ในทุกโมเมนต์ของชีวิต จนบางครั้งก็แทบไม่รู้ตัว
อย่างหนังโฆษณาล่าสุด “ความห่วงไม่เคยห่าง” ของกรุงศรี
ก็อยู่บนแนวคิดนี้เช่นกัน
แล้วโฆษณานี้มีเรื่องราวและแนวคิดอย่างไร
หนังโฆษณานี้เล่าง่ายๆ ผ่านความสัมพันธ์ของคนสองคน
เป็นความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้รับ และอีกฝ่ายก็พร้อมจะเป็นผู้ให้
การให้ที่ว่านั้นคือการลงมือทำ คอยดูแล แนะนำ และแม้กระทั่งเตือนให้ฉุกคิด
เค้าลงมือทำอยู่อย่างนั้น ทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
เพียงเพราะความเชื่อที่ว่า การทำสิ่งนั้นเป็นเรื่องดีและเป็นประโยชน์
แต่ในบางครั้งการลงมือโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
และสิ่งที่เพียรลงมือทำนั้น ไม่ได้เห็นผลในชั่วข้ามคืน
นั่นอาจกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญใจสำหรับผู้รับ
จนถึงวันหนึ่งสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดก็เกิดขึ้น
ช่วงเวลานี้เองที่จุดประกายให้เห็นถึง
ความสวยงามของการมีคนคอยอยู่เคียงข้างและทำทุกอย่างให้
มองเผินๆ หนังโฆษณาเรื่องนี้ก็คือ เรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคนเท่านั้น
แต่หากจับเอาเรื่อง Banking vs. Bank ในอนาคตมาเล่าแล้ว
แล้วโฆษณาชิ้นนี้ กำลังบอกนิยามของการเป็น Banking กับเรา
กรุงศรีกำลังเล่าถึงความเชื่อของตัวเองผ่านโฆษณาเรื่องนี้
เค้าเชื่อในการลงมือทำมาอย่างต่อเนื่อง มีค่ามากกว่าการมานั่งอธิบาย
เค้าอาจจะมองเห็นเทรนด์การเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่อยู่ข้างหน้า
และก็ห่วงว่าลูกค้าหรือผู้บริโภคที่ผ่านสิ่งนั้นไปได้อย่างไร
ความเชื่อนั้นได้ผลักดันให้เค้าจึงลงมือทำและทำอย่างนั้นมาอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ไม่ว่าในยามสุขหรือในยามที่เราต้องเผชิญกับความลำบากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
กรุงศรี ก็ยังห่วงใยอยู่ข้างๆ เป็นความห่วงที่อยู่รอบๆ ตัว แทรกอยู่ในทุกโมเมนต์ของชีวิต
ซึ่งแนวคิดนี้ก็สะท้อนมาเป็นเรื่องจริง
เพราะรู้หรือไม่ว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่าทั่วโลก
ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมาจนถึงทุกวันนี้ กรุงศรีได้ช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบกว่า 1.7 ล้านราย และลูกค้าธุรกิจราว 37,000 ราย
จนถึงการจับมือพาร์ตเนอร์อย่าง Grab เร่งออกสินเชื่อส่วนบุคคล
ช่วยเหลือร้านอาหารที่เป็นพาร์ตเนอร์ Grab
และ..ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือเรื่องการเงินอย่างเดียว แต่ยังมีอะไรมากกว่านั้น
เมื่อกรุงศรี เชื่อว่าหากลูกค้ามีความรู้ด้านการเงิน ก็จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ก็เลยเป็นที่มาของ Plearn เพลิน by Krungsri GURU ออนไลน์คอนเทนต์ฮับที่มีอายุกว่า 6 ปี
ที่จะรวบรวมสาระด้านการเงินและการใช้ชีวิต ธุรกิจ ไลฟ์สไตล์ และนวัตกรรม
หรือต้องการเปลี่ยนพฤติกรรมและลงมือจัดการวางแผนการเงินของตัวเองให้เป็นระเบียบ
ก็สามารถต่อยอดไปบริการ Plan Your Money
เครื่องมือวางแผนทางการเงิน ที่จะคอยให้คำปรึกษาและบริการต่างๆ ของธนาคาร
และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การช่วยเหลือผู้ประกอบการ
ผ่านงาน Krungsri-MUFG Business Matching Fair ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ซึ่งจะมีตัวแทนจากกว่า 200 บริษัทที่เดินทางจากญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ เข้าร่วมงาน
ที่แต่ละปีจะมีการจับคู่ธุรกิจได้กว่า 400 คู่
ก็ต้องบอกว่าที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงแค่การยกตัวอย่างบางส่วนมาเท่านั้น
เพราะอย่างที่บอกในเมื่อผู้บริโภคอยากได้ Banking มากกว่า Bank
ธนาคารจึงต้องเข้าไปใกล้ๆ และอยู่ในชีวิตของคุณให้ได้
จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าหากวันนี้ เราเห็นกรุงศรีลงมือทำสิ่งต่างๆ มากมาย
เพราะเค้าอยากเข้าไปอยู่ในชีวิตคุณ เค้าอยากดูแล
เหมือนอย่างสโลแกนของแคมเปญโฆษณานี้ “ความห่วงไม่เคยห่าง กรุงศรีอยู่นี่นะ”
#กรุงศรีอยู่นี่นะ #ความห่วงไม่เคยห่าง
krungsri bank 在 บันทึกของตุ๊ด Facebook 的精選貼文
แม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินในชีวิตป้ะ?
ไม่ได้มาขายตรงนะคะ 555
คือวัยอย่างเราอะสามสิบกว่าปัญหามันมีไม่กี่เรื่องหรอกแม่ หนึ่งในอันดับต้น(หรืออาจจะเป็นอันดับแรก)ก็คือเรื่องผู้ชาย ผิด!! เรื่องเงิน!! คือมันไม่มีใครฉลาดเรื่องเงินแต่เกิดหรอกเนอะแม่ ผิดบ้างถูกบ้าง ซึ่งก็เป็นที่ประจักษ์ว่าการเงินมันเป็นเรื่องน่าเบื่อจะหาอ่านก็คือสองบรรทัดหลับ แต่เรื่องเงิน ต้องฉลาดไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวจน
ล่าสุดเพื่อนชื่ออีเปิ้ลก็มาแนะนำสิ่งนี้ให้ไปดู พื้นดวงอีเปิ้ลเค้าเป็นคนทำมาหากินเก่ง หาเงินเก่ง เวลาเพื่อนไปหารือเรื่องลงทุนเรื่องเงินออมเปิ้ลจะถามไรตอบได้หมด ซึ่งในใจก็นึกว่านางเอ็กซ์เพิร์ทเลยจะโทรไปถามเรื่องบัญชี ไม่รู้จะทะเลาะกับผัวหรืออะไรนางบอกขี้เกียจตอบ อยากหาความรู้ใส่สมองก็ลองเอาอันนี้ไปฟังเอง
และนี่คือ Krungsri Plearn เพลิน Podcast
จะบอกว่าตอนแรกก็คิดว่ายังไงก็น่าเบื่อ เรื่องเงินพูดไงให้สนุกวะ แต่พอลองไปฟังอีแม่ มันดีอยู่นะ คือเค้าจะเอาเรื่องเงินมาเล่าให้สนุกแบบดูไม่น่าเบื่อ แถมอีข้อมูลตรงนั้นสาแนเอามาใช้จริงได้หมด ซึ่งคนที่มาย่อยให้แม่ฟังก็คือตำแหน่งมงผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นึกว่าจะเปิดตำรามาเล่า ฟังไป เฮ้ย…เพลินดีอยู่นะแม่
คือข้อมูลที่เค้าเอามาเล่าให้เราฟังถ้าฟังแค่หัวข้อมันจะดูหนักหนาสาหัสชิบหาย แบบประมาณว่า เศรษฐศาสตร์กับการใช้ชีวิต วางแผนการเงิน การปรับตัวในช่วง New normal แต่เค้าเอามาเล่าแบบชิลๆ สวยๆ ฟังไปตลกไประหว่างทางกลับบ้านเปิดฟังในรถผู้ชายก็จะ Prove ว่าเราเป็นคนฉลาดน่าเอาทำเมียใช้ได้อยู่
แนะนำให้ไปฟังนะคะ นอกจากเรื่องเงินนางก็ยังมีอีกรายการ “เรื่องชีวิต คิดให้ง่าย” ที่ขนบรรดานักคิดนักเขียน กูรู บลอคเกอร์ต่างๆมานั่งพูดๆให้แม่ฟัง ล่าสุดนี่เพิ่งฟังนิ้วกลม มาจุดประกายเรื่องความสุขของชีวิตให้แม่ได้ดีเลยทีเดียว แม่คนไหนที่สนใจ หูว่างๆระหว่างวัน เบื่อการฟังเพลงอกหักรักคุดระหว่างรถติดในประเทศกรุงเทพที่จราจรวันศุกร์เหมือนลานจอดรถ
เชิญฟังค่ะแม่
รัก
ช่า บทขต
Ps.ฟังได้หลายช่องทางเวอร์ๆ เช่น Youtube : Krungsri Simple , Spotify , SoundCloud , Apple podcast หรือง่ายสุดก็ http://www.krungsri.com/bank/th/plearn-plearn/home.html
#KrungsriPodcast #เรื่องเงินเรื่องง่ายฟังได้เพลินเพลิน #KrungsriPlearnPlearn #กรุงศรีอยู่นี่นะ #ความห่วงไม่เคยห่าง #KrungsriSimple
krungsri bank 在 Wongnai Youtube 的最佳貼文
แวน เฮ้วซิ่ง พาเที่ยวแบบ New Normal อยู่บ้านก็เที่ยวได้
.
เปิดประสบการณ์การเดินทางแบบยุคใหม่แบบ New Normal เที่ยวพีระมิด 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกถึงประเทศอียิปต์! ผ่าน Virtual Tour กับ แวน เฮ้วซิ่ง ตามมาดูความสนุกกันเลย
.
อ่านรีวิวเพิ่มเติม https://www.wongnai.com/trips/virtual-tour-new-normal
krungsri bank 在 20TV : ยี่สิบทีวี Youtube 的精選貼文
ยืน1 ด้านความสวย สวยแบบมี Cultures
เป็นเมืองที่ ใครใส่ยูกาตะและกิโมโน ได้อย่างปรกติ
หรือเดินไปเจอ เกอิชา อยู่ในเมือง ขึ้นภูเขาไปเจอลิง
ล่องเรือในแม่น้ำแบบโบราณ ทั้งหมดว่ามามีอยู่ใน
เกียวโต 1 ในเมืองที่เรารักที่สุดเลย
และเพื่อให้การเดินทางยิ่งสบายใจ ขึ้นไปอีก
ทริปนี้เราเลยไปกับกรุงศรีประกันเดินทาง Simple Sure และซื้อง่ายผ่าน KMA - Krungsri Mobile App เลือกตัดผ่านบัญชี หรือตัดผ่านบัตรเครดิตก็ได้ สะดวก ง่าย ไม่กี่ขั้นตอน คุ้มครองทันทีที่ออกนอกประเทศ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเดินทาง เกิดเหตุอะไรที่ญี่ปุ่นรับรองเลยว่าสบายใจหายห่วง #ทีมแพลนก่อนเที่ยว ดีสุดละ ซื้อไว้ อุ่นใจ เซฟชัวร์
#กรุงศรีประกันเดินทางSimpleSure
#KMAอยู่นี่นะ #ทุกเรื่องยากง่ายได้ #กรุงศรีอยู่นี่นะ #KrungsriSimple
โหลดแอพ KMA แล้วซื้อเลย http://bit.ly/2vpaYGc
รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.krungsri.com/bank/th/PersonalBanking/BancassuranceProducts/travel-insurance-simple-sure.html
[ GoWentGo ย้ายมาลงวีดีโอ ไปลงที่ช่องใหม่แล้วนะครับ
: https://www.youtube.com/c/gowentgo ฝาก sub ช่องใหม่ด้วยนะครับ ]
----------------------------------------------
.
Credit
Meng : Edit
Bas : Camera
----------------------------------------------
.
Camera
- Sony A7r3
- RX100M7
- DJI
krungsri bank 在 10kcalmuscle Youtube 的精選貼文
องอาหาร เฟลเวอร์ส บนชั้น M ของโรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ 518/8 ถ.เพลินจิต กรุงเทพฯ 10330
ให้บริการ บุฟเฟต์ ที่รวบรวมอาหารหลากหลายรสชาติจากทั่วโลกมาไว้ในทีเดียว โดยจะมีเมนูอาหารให้เลือกตั้งแต่อาหารไทย อิตาเลี่ยน ญี่ปุ่น อินเดีย ไปจนถึงสลัด บุฟเฟต์นานาชาติ ประกอบไปด้วย หอยนางรมย์สด ปูอะลาสก้า ล็อบเตอร์ ซูชิ ซาซิมิ เนื้อแกะนิวซีแลนด์ ตับห่าน เนื้อออสเตรเลีย และไอศกรีมโฮมเมด
รายละเอียดเพิ่มเติม??
https://m.facebook.com/RenaissanceBangkokRatchaprasongHotel/
การเดินทาง : รถส่วนตัวสามารถนำรถมาจอดได้ที่ลานจอดรถของโรงแรมชั้น P1 - P4 หรือเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ออกที่สถานีชิดลม
เวลาให้บริการสำหรับ Sunday Brunch : เปิดบริการทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.00-15.00 ราคา : 1,990 ++ บาท (2,342.23 บาทสุทธิ)
โปรโมชั่น :
- กดแอดไลน์ @EatDrinkRenBKK มี@นำหน้าด้วยนะครับรับฟรี Cocktaik หรือ Mocktail ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ต.ค. 2561
- ชำระเงินด้วยบัตร KTC รับส่วนลด 30% สำหรับ Sunday Brunch ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธ.ค. 2561
- ชำระเงินด้วยบัตร K Bank รับส่วนลด 15% สำหรับ Sunday Brunch ตั้งแต่วันนี้จนถึง 23 ธ.ค. 2561
- ชำระเงินด้วยบัตร Krungsri Exclusive Signature , All of Platinum and Central Credit Card (The 1 The Black, Central The Luxe) and Non Platinum รับส่วนลด 15% สำหรับ Sunday Brunch ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึง 23 ธ.ค. 2561
การจอง : โทร. 02-125-5010 แนะนำให้จองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน
ช่องทางอื่นสำหรับติดตามนักกล้ามหมื่นแคล ติดต่องาน/ สปอร์นเซอร์/ โฆษณาสินค้า
Fanpage: https://m.facebook.com/10kcalmuscle/
IG: https://www.instagram.com/10kcalmuscle/
Email: [email protected]
#นักกล้ามหมื่นแคล