關於 half life alyx workshop ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

หลังจากที่รอคอยกันมานาน ในที่สุด Half-Life Alyx เกม VR ที่ขยายจักรวาลของเกม Half-Life ก็รองรับระบบ Steam Workshop แล้วเป็ฯที่เรียบร้อย ซึ่งหมายความว่าตัวเกมจะรองรับการ Mod อย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันนี้
.
โดย Valve ได้ทำการอัปเดตตัวเกม Half-Life Alyx ให้รองรับกับระบบ Steam Workshop เพื่อให้ผู้เล่นสามารถติดตั้ง Mod ที่ต้องการได้ พร้อมกับปล่อยอุปกรณ์สำหรับการ Mod มาอย่างครบครัน เช่น Hammer สำหรับสร้างฉากใหม่, Material Editor, Mocdel Doc เพื่อใช้ในการสร้างโมเดลและ Texture แบบใหม่ AnimeGraph สร้างอนิเมชั่นของตัวละครแบบใหม่ และอุปกรณ์อีกมากเพื่อการสร้างของใหม่ในเกมมากมาย
.
โดยอุปกรณ์ Mod นี้สามารถใช้ได้กับ Linux และ Valkan API อีกด้วย แม้ในตอนนี้อุปกรณ์ทั้งหลายจะเป็นเพียงแค่เวอร์ชั่น Beta เท่านั้น แต่ก็เป็นข่าวดีที่ชาว Mod ทั้งหลายสามารถปรับแก้ไขตัวเกมได้ตามที่พวกเขาต้องการ เชื่อว่าในอนาคตน่าจะมี Mod เจ๋ง ๆ จากเกมมาให้เราได้เล่นกันแน่นอนครับ
.
ที่มา: https://www.pcgamer.com/half-life-alyx-now-has-steam-works…/
#ข่าวเกม #gamingdose #HalfLifeAlyx

[News] Valve เผยเหตุผลว่า ทำไม Half-Life ถึงไม่เคยนับ 3
.
ฉากจบของ Half-Life 2: Episode 2 ถือว่าเป็น 1 ในการฉากจบที่ค้างคาที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการเกม เพราะมันจบแบบทิ้งเรื่องราวเอาไว้ รอการสานต่ออย่างเต็มที่ แต่กลับไม่มีการออก Episode 3 ต่อ จวบจนเวลาล่วงเลยมา 13 ปี และทำให้เกิดมีม "Half-Life 3 Confirmed!" ล้อเลียนกันจนทุกวันนี้ แต่หลังจากเวลาผ่านไปกว่า 1 ทศวรรษ ตอนนี้เราก็ได้มีเกม Half-Life ภาคใหม่ออกมาสักทีในชื่อ Half-Life: Alyx รวมถึงคำตอบของบางคำถามที่หลายคนสงสัยมานานด้วย
.
ทาง IGN ได้พูดคุยกับคุณ Dario Casali นักออกแบบเลเวลที่ร่วมงานกับ Valve มาตั้งแต่ปี 1996 และได้พูดคุยเกี่ยวกับ Half-Life 2, การพัฒนาเกม และอิทธิพลที่ทำให้พัฒนาเกมภาค 1.5 เป็นเกม VR และรวมถึงเหตุผลว่า ทำไม Half-Life 2: Episode 3 (รวมถึง Half-Life 3) จึงไม่เคยเกิดขึ้นเลยในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา
.
คำตอบของคำถามนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากทาง Valve เกิดการ "งานงอก" ส่วนหนึ่งมาจากการที่ทางสตูดิโอเริ่มพัฒนา Source Engine และส่วนหนึ่งก็มาจากการขาดการจุดประกายด้านความคิดสร้างสรรค์ (และการทดลองภายในที่ไม่น่าพึงพอใจ) ที่ควรค่าแก่การแบกชื่อของ Half-Life
.
Casali กล่าวว่า 1 ในสิ่งที่ Valve ได้เรียนรู้จากการพัฒนาและวางจำหน่าย Half-Life 2 คือการพยายามสร้างเกมขึ้นมาใหม่ทั้งหมดจากรากฐานไปพร้อมกับพัฒนาเอนจิ้นใหม่ เพื่อให้เกมที่ว่าไปรันบนเอนจิ้นดังกล่าว เป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเอามากๆ
.
"ในตอนที่เราออก Half-Life 2 แน่นอนว่ามันเป็นเวลาที่ยาวนานจริงๆ มันเป็นเวลาถึง 6 ปี และพวกเราก็พัฒนา Source Engine ไปพร้อมๆ กับการออกแบบเกม"
.
Casali กล่าวว่า พวกเขาจำเป็นต้องทิ้งงานจำนวนมากที่ทำเสร็จไปแล้วใน Half-Life 2 ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาทดลองทำดูว่า Source สามารถทำอะไรได้บ้าง เล่นไปกับระบบฟิสิกส์ และพยายามที่จะผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยี
.
"ผมคิดว่าหลักๆ ที่เราได้มาจากสิ่งนั้นคือ ได้เทคโนโลยีที่เสถียรสำหรับทำเกม"
.
"หลังจากใช้เวลาพัฒนา Half-Life 2 ไป 6 ปี พวกเราเลยตัดสินใจว่าไม่อยากจะหายไปนานเกินไป นั่นเป็นเหตุผลให้เราเริ่มทำเนื้อเรื่องแบบ Episode ที่ตอนนั้น พวกเราคิดว่า 'อืม เราก็มีเทคโนโลยีที่เสถียรพอแล้วในตอนนี้ เราเข้าใจตัวละคร เข้าใจเนื้อเรื่อง มีกลไกส่วนใหญ่แล้ว เรามาออกเนื้อหาสั้นๆ แต่เน้นออกบ่อยๆ กันดีกว่า เราคิดว่าชาวเกมอยากได้แบบนั้น มากกว่ารอนานๆ 6 ปี ผ่านความล่าช้าและการเลื่อนวางจำหน่ายบ่อยๆ'"
Casali กล่าว
.
แต่แผนที่วางไว้ว่าจะพัฒนาและวางจำหน่ายเนื้อหาตอนใหม่ภายใน 1 ปี ที่ออกแบบให้เป็นส่วนเสริมเนื้อเรื่องสั้นๆ ที่ทำให้ชาวเกมพึงพอใจบ่อยๆ แม้ว่า Half-Life 2: Episode 1 ประสบความสำเร็จในการใช้เวลาพัฒนาราว 1 ปี แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ Valve หวังไว้ ซึ่งการทำไปแล้ว "งานงอก" คือปัญหาหลักของเรื่องนี้
.
"พวกเราพบว่าเราเพิ่มงานให้ตัวเองเรื่อยๆ แบบ 'มาใส่อะไรให้มากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้นในเกมนี้กันเถอะ เพราะพวกเราอยากจะทำให้มันดีที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้ แล้วเราก็มารู้ตัวว่า เนื้อหา Episode นี้มันกลายเป็นภาคต่อไปแล้ว"
Casali อธิบาย
.
Half-Life: Episode 2 ที่ Valve เริ่มต้นพัฒนาพร้อมกับ Episode 1 นั้น ใช้เวลาพัฒนาไปถึง 2 ปีด้วยกัน แล้วแผนที่จะพัฒนาเนื้อหาที่มีขนาดเล็กลงแต่เร็วขึ้น ก็ล่มไปด้วยความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาผลงานที่ดีกว่าของทางสตูดิโอ และขอบเขตเนื้อหาของ Episode 2 ก็ใหญ่กว่าที่วางเอาไว้ หลังจากที่วางจำหน่าย Episode 1 ทีมงานบางส่วนเข้าไปร่วมช่วยทำงานใน Episode 2 ด้วย
.
"ผมคิดว่าในตอนนั้นเราก็รู้สึกว่า 'โอเค บางที Episode นี้ มันอาจจะมีคอนเซปท์ที่ดี แต่เราทำมันได้ไม่ดีพอในด้านการปั่นให้มันออกมาเร็วๆ'" ทำให้ทีมงานจึงเริ่มกลับคิดใหม่หลังจาก Episode 2 และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Episode 3 ถึงไม่เกิดสักที
.
แล้วทำไม Valve จึงปล่อยให้ตัวเกมค้างคา (และเกิดมีมล้อเลียนจำนวนนับไม่ถ้วน) แทนที่จะสร้างภาคต่อจริงๆ สักที? Casali กล่าวถึง 2 อย่าง คือ การเริ่มต้นพัฒนา Source 2 Engine และเป้าหมายของ Valve ในการทำให้เกม Half-Life เป็นมากกว่าการแค่ออกภาคต่อ
.
Gabe Newell ผู้ร่วมก่อตั้ง Valve เคยได้อธิบายกับ IGN ว่า Valve ใช้เกม Half-Life ในการผลักดันเทคโนโลยีไปข้างหน้า และควรที่จะแก้ไขปัญหาบางอย่างได้อย่างน่าสนใจ ซึ่ง Valve ไม่ได้ต้องการแค่ออกเกม Half-Life มาเพื่อปั่นตัวเลขรายได้ในไตรมาสนั้น ซึ่ง Casali ก็กล่าวคล้ายๆ กันที่พวกเขามองหา "สิ่งที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อวงการครั้งใหญ่" หลังจาก Episode 2
.
แต่หลังจากนั้น Valve ก็ทำโปรเจ็กต์หลายอย่าง ทั้ง Steam, Dota 2, CS: GO และแว่นตา VR หลายตัว และอื่นๆ อีกมากมาย หลายอย่างก็เป็นสิ่งที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน และโปรเจ็กต์จำนวนหนึ่งที่อิงมาจาก Half-Life ที่ Valve เคยกล่าวถึงก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง เพราะพวกเขาไม่ปลื้มกับสิ่งที่พวกเขาคิดขึ้นมาได้ และ Valve ก็ไม่ได้ผลักดันโปรเจ็กต์ต่อ ถ้ามันดูไม่มีวี่แววว่าจะปัง หรือดูเวิร์ค
.
"ตัวแปรชี้วัดของเราคือ การเล่นทดสอบ มันไม่ได้มาจากเรา มันมาจากคนอื่นภายนอก พวกเราได้รับการตรวจสอบ โดยกระบวนการการเล่นทดสอบ และเราก็ยึดตรงนั้นอย่างแน่วแน่"
Casali อธิบาย
.
และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การกลับมาของ Half-Life ใช้เวลายาวนานมากๆ นั่นคือการสร้าง Source 2 Engine หลังจากที่ใช้ Source Engine ตัวแรกในเกม Half-Life 2, Team Fortress 2, CS: GO และเกมอื่นๆ มากมาย ซึ่งหลังจากจบ Episode 2 ทาง Valve ได้เริ่มมองหาเอนจิ้นตัวใหม่ และมีบทเรียนแล้วว่า จะไม่พัฒนาเกม Half-Life และเอนจิ้นใหม่ไปพร้อมกัน
.
"พวกเราไม่อยากจะทำผิดพลาดซ้ำเดิมจากตอน Half-Life 2 ด้วยการทำ Source 2 กับเกม Half-Life ภาคใหม่ไปพร้อมกัน เพราะเรารู้จากครั้งแรกพยายามทำแบบนั้นแล้วว่า มันเจ็บปวดมากขนาดไหน"
Casali อธิบาย
.
ซึ่ง Valve รู้ว่าอยากจะทำ Source 2 และไม่อยากจะทำเกม Half-Life จนกว่าเอนจิ้นจะพร้อม และต้องการให้มันเป็นเกมที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อวงการเกม อย่างที่เกม Half-Life เคยทำได้มาก่อน
.
7 ปีหลังจากนั้น Source 2 ก็ได้เปิดให้ใช้งานใน Workshop Tools ของ Dota 2 ในปี 2014 ก่อนที่จะพอร์ตเกมทั้งหมดลงในเอนจิ้นดังกล่าว ในปี 2015 ซึ่ง Valve กล่าวกับ IGN ว่า Half-Life: Alyx ใช้เวลาพัฒนาราวๆ 4 ปี นั่นแปลว่าสตูดิโอเริ่มงานในปี 2016 ด้วย Source 2 ที่ตอนนั้นใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว
.
Casali ยังกล่าวต่อว่าพวกเขา "มองว่า VR เป็นคำตอบที่มีศักยภาพ สำหรับสิ่งที่ Half-Life ภาคถัดไปควรจะเป็น" ซึ่งความรู้สึกนี้ก็สะท้อนความคิดเดียวกับ Newell ที่กล่าวว่า Valve มุ่งมั่นที่จะทำให้แต่ละภาคของเกมในแฟรนไชส์ Half-Life ออกมาแล้วมีผลกระทบต่อวงการ
.
แม้ว่าในตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เห็นเลข 3 จาก Half-Life แต่ก็ฟังดูเหมือนว่า มันได้เริ่มต้นยุคใหม่ของ Valve แล้วในตอนนี้ และ Casali หวังว่าการวางจำหน่าย Alyx คือการได้ผ่านจุดวิกฤตในแง่ของการรอคอยอันยาวนานแล้ว ในขณะที่ Newell เองก็อธิบายว่าการวางจำหน่าย Alyx เป็นช่วงเวลาอันทรงพลังสำหรับพวกเขา เพราะนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาได้มา
.
Source : https://www.ign.com/articles/valve-explains-why-half-life-2-episode-3-was-never-made
-------------------------------
เล่นเกมออนไลน์ให้คิดถึงเรา PingBooster แก้แลค แก้ปิงเกม
Promotion ซื้อ 1 แถม 1 ให้เพื่อนฟรีทันที
พิเศษส่วนลด 15% เมื่อกรอก Code : Sheapgamer
สมัครทดสอบฟรี => http://bit.ly/2GBcM3G
-------------------------------
HUMBLE CAPCOM MEGA BUNDLE จ่าย $20 รับสตีมคีย์ Resident Evil 0 - 1 - Revelations 1 - 2, Mega Man 11, Devil May Cry 4 Special Edition, Dragon's Dogma Dark Arisen และอื่นๆ ดูที่นี่ - http://bit.ly/2IXNZYE

[News] Black Mesa อัปเดต Beta สุดท้ายเพิ่ม Interloper C - D และการปะทะบอส Nihilath พร้อมมุ่งเป้าออกจาก Early Access ในช่วงต้นปี 2020
.
Crowbar Collective ได้ประกาศอัปเดต Complete Beta หรือ Beta ตัวสุดท้ายของ Black Mesa แล้ว โดยใน Beta นี้ จะเป็นการเพิ่มเนื้อหา Interloper C, Interloper C1, Interloper D, การปะทะบอส Nihilath และเนื้อหาช่วง Endgame รวมถึงแก้บั๊กต่างๆจำนวนมาก
.
นอกจากนี้ในอัปเดตดังกล่าว ทางทีมงานได้ระบุเกี่ยวกับปัญหาที่รับทราบแล้วและกำลังแก้ไขอยู่ อาทิ ปัญหาความยากของเกมโดยภาพรวม และปัญหาด้านประสิทธิภาพของตัวเกมที่ยังไม่คงที่
.
Black Mesa คือ เกมรีเมคของ Half-Life ที่เดิมทีเป็นเพียงม็อดของ Half-Life 2 ที่ออกมาในช่วงปี 2012 แต่ในภายหลังทาง Crowbar Collective ได้รับไฟเขียวจาก Valve ให้พัฒนาเป็นเกมเต็มเพื่อวางจำหน่ายแยกออกมาในรูปแบบ Early Access เมื่อเดือน พ.ค. ปี 2015 และได้รับการอัปเดตมาเป็นระยะๆ ซึ่งในตอนนี้ทางผู้พัฒนามุ่งเป้าว่าจะออกจาก Early Access และก้าวสู่การเป็นเกมเต็มในช่วงต้นปี 2020 ในขณะที่ Half-Life: Alyx ซึ่งเป็นภาคล่าสุดของ Half-Life และเป็นเกม VR จะวางจำหน่ายช่วงเดือน มี.ค. ปี 2020
.
ซึ่ง Black Mesa จะเป็น Half-Life ภาคแรก ที่ยกเครื่องใหม่ทั้งหมดทั้งกราฟิก เสียงพากย์ เกมเพลย์ที่ได้รับการอัปเดต รวมทั้งฉาก Xen ที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งฉาก Xen ได้อัปเดตให้กับตัวเกมเมื่อ 5 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ Black Mesa ยังมีโหมดผู้เล่นหลายคน 2 โหมดและแผนที่ 10 แบบ รวมถึงมีตัว Level Editor และรองรับม็อดผ่านทาง Steam Workshop
.
สำหรับผู้ที่มีตัวเกม Black Mesa อยู่แล้วสนใจเข้าร่วมทดสอบ Beta ตัวสุดท้าย ก็ให้คลิกขวาที่เกม Black Mesa บน Steam แล้วเลือก Properties จากนั้นเลือก BETAS แล้วเลือกไปที่ public-beta
.
Source : https://wccftech.com/black-mesa-complete-beta-available-no…/
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-
Steam Wallet, Battle.net Code, PSN ซื้อง่าย ได้โค๊ดทันที >> GGKeyStore.com
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-
Humble Choice ประจำเดือน ธ.ค. จ่าย $15 เลือกรับสตีมคีย์ Shadow of the Tomb Raider, Blasphemous, Ancestor Lagacy, Phantom Doctrine และอื่นๆ ดูที่นี่ - http://bit.ly/2KA2c0c